..."ความจริง"...กับ..."ความรัก"....
ค่ำๆ วันเสาร์...ไม่มีไรทำนั่งมองหิ่งห้อยหน้าบ้าน ที่บินโฉบไปมา มือซ้ายลูบหัวเจ้าเสือที่นอนหมดลายอยู่ข้างๆ เจ้าเสือ แมวน้อยอายุ 3 เดือน เท้าบวมที่นิ้วมีเลือดออกเนื่องจากรถที่จอดหน้าบ้านถอยมาทับเท้า ไม่มีเสียงร้องคราง และไม่แสดงอาการฉุนเฉียว ไม่แว้งกัดมือของเรา ก็แสดงว่าเจ้าเสือไม่ได้เป็นอะไรมาก...แค่อาจต้องการกำลังใจเท่านั้นท้องฟ้าที่ดูโล่งโจ้ง แบบนี้ท่าทางฝนคงจะไม่ตก แต่อากาศบวมๆ แบบนี้ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ผมเอื้อมมือไปดึงราวตากผ้าที่อยู่ริมชายคาให้เลื่อนเข้ามาในร่มอีกนิด เพื่อความปลอดภัยว่าฝนจะไม่สาด เจ้าเสือตกใจเสียงล้อครูดกับพื้นทรายล้างโรงรถ ลืมตามองหน้าผมก่อนส่งเสียงแง๊วในลำคอเบาๆพักใหญ่ๆ เสียงเม็ดฝนกระทบกับหลังคาก็ดังขึ้น แม้จะเปาะแปะ แต่สัญญานบอกว่าน่าจะตกหนัก ผมอุ้มเจ้าเสือที่นอนอุตุอยู่ไปวางไว้ในกรง เท้าใช้การไม่ได้ 1 ข้างแบบนี้ ไม่ปลอดภัยนักที่จะให้นอนข้างนอกแมวตัวโตระแวกบ้าน ยังคงแอบมาฉี่เพื่อสร้างเขตแดนในบ้านผมทุกคืน ไม้เว้นแม่แต่หลังคารถผมเดินเข้าบ้าน ปิดประตูลงกลอน ทรุดลงนั่งบนโซฟาราคา 1700 เบาๆ เหลือบตามองไปที่กองทัพรีโมทที่กองอยู่ข้างๆ ใครเลยจะนึกว่าบ้านหนุ่มโสดแบบนี้จะมีรีโมทกองรวมกันกว่า 6 อันทีวี ทรูวิชั่น avr dvd1 dvd2 และ amp...ทั้งหมด 6 ยังไม่รวมถึงรีโมทของ ทีวี มินิคอมโบ dvd3 และ แอร์ ที่อยู่ในห้องนอนอีก รวมแล้วบ้านผมมีรีโมททั้งหมด 10 อันพอดิบพอดี หยิบผิดหยิบถูกเลยทีเดียวเชียวบางทีอาจถึงเวลาที่เราต้องสร้างรีโมทสารพัดนึกแบบในหนังเรื่อง click กันได้เสียที ....ระหว่างที่นึกเล่นๆ อยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นแผ่น DVD วางอยู่บนพื้น บนปก DVD เขียนชื่อหนังว่า CLOSER เป็นหนังเรื่องที่พยายามจะเปิดดูหลายครั้ง แต่ก้มีเหตุให้แคล้วคลาดกันทุกทีวันนี้คงไม่พลาดอีกแล้ว ว่าแล้วก็เดินไปหยิบแผ่นหนัง เอื้อมไปเปิดเครื่องเล่น DVD วันนี้ขอไม่เปิด 5.1 เนื่องจากเข้าใจว่าหนังแบบนี้คงไม่เน้นเสียงรอบทิศทาง อ่านบนปกบอกว่าหนังดราม่า คงไม่มีใครเถียงหรือทะเลาะกันแบบเซอราวด์หรอกกระมัง?แค่เสียงทีวีก็น่าจะพอ.....หยิบแผ่นใส่ ดันถาดเลื่อนเข้าไป เครื่องเล่นเริ่มต้นอ่านแผ่น ผมเดินกลับไปนั่งที่โซฟาอีกครั้ง หยิบรีโมทขึ้นมากด...ทีวีเงียบ แต่ทรูวิชั่นเด้งไฟสัญญาน บ่งบอกว่ากำลังเปิดจ้า.. อ่า.....หยิบผิดก้มลงไปหยิบรีโมทอีกครั้ง คราวนี้ไม่พลาด จากนั้นล้มตัวลงนอน ข้อศอกดันไปโดนรีโมท AV 5.1 ทำงาน เสียงดังสนั่น....ตกใจๆแต่ไหนๆ ก็เปิดมาละ ฟังเสียง 5.1 ก็ได้ครับ บางทีหนังเรื่องนี้เพลงอาจจะไพเราะก็ได้...ใครจะไปรู้.........หยิบรีโมท dvd ขึ้นมาเพื่อกด play....แล้ว CLOSER ก็เริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่ผมไม่เคยนึกถึง.....เรื่องราว...ที่เกี่ยวกับความรัก..........ในความคิดผม.....คำถามของหนังเรื่องนี้ทั้งหมด คือ เราใช้ความรักบนพื้นฐานของชีวิตแบบไหน?รัก โกหก หลอก ความจริง ปิดบัง แอบ ซ่อน ลอบ หยาบ กระด้าง อ่อนหวาน......ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกดึงส่วนไหนของคนออกมาใช้และหนังเรื่องนี้ยังบอกอีกว่า "ความจริง" จำเป็นอย่างไรสำหรับ "ความรัก"เรื่องราวทั้งหมดถ่ายทอดผ่านตัวละคร 4 คน ซึ่งต่างก็เป็นคนแปลกหน้า แต่ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ต่างก็มีความรู้สึกไวต่อสิ่งที่เรียกว่ารักเป็นอย่างยิ่งความมั่นคงต่อความรักของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่สามารถช่วยประคับประคองให้ไปตลอดรอดฝั่งได้หรืออีกนัยยะหนึ่งคือไม่สามารถตอบสนองในความต้องการความรักของอีกฝ่ายหนึ่งได้ถ้าเขาหรือเธอคนนนั้นยังไม่รู้จักคำว่า "พอ""แดน" นักเขียนธรรมดาคนหนึ่ง ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของหญิงสาวคนรัก "อลิส" ออกมาเป็นหนังสือ ซึ่งดูเหมือนการเขียนหนังสือเล่าเรื่องชีวิตจริงของใครสักคน อาจทำให้เข้าใจได้ว่าคนเขียน คือ "แดน" ซึ่งอยู่ในฐานะคนรักรู้เรื่องราวทุกอย่างของ "อลิส" เป็นอย่างดีและลึกซึ้ง"เรื่องที่อยู่ในหนังสือ เป็นเรื่องจริงของคุณทั้งหมดหรือ" ...เป็นคำถามของ "แอนนา" ช่างภาพอาชีพและเป็นหม้าย ได้ถามอลิสในวันที่เขาสองคนเจอกันในวันที่แอนนารับจ้างถ่ายรูปแดนเพื่อลงในหนังสือเขาของ"จริง แต่ไม่ทั้งหมด.." คือคำตอบ....แสดงให้เห็นว่าการที่ "อลิส" ผู้ที่มอบความรักมากมายให้กับ "แดน" ยังมีมุมหนึ่งที่ไม่สามารถให้คนอื่นก้าวล่วงเข้ามาได้ อาจเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เรื่องหนึ่งเรื่องใดที่ขื่นขมหากต้องใครได้รับรู้วันที่แอนนาถามอลิสเป็นวันที่แดนกับแอนนาได้พบกัน และแดนก็ตกหลุมรักแอนนาในทันที ถามว่าทำไงต่อ? ในความเป็นจริง แดนต้องรู้จักการยับยั้งชั่งใจเพื่อปกป้องความรักของอลิสที่มีต่อตน แต่เขากลับปล่อยใจ.....โดยมีอลิสซึ่งแอบมองอยู่เงียบๆ....ต่อมา "แอนนา" ได้พบกับ "ลาร์รี่" ด้วยความบังเอิญ และทั้งสองรักกัน และแต่งงานกัน...ภายใต้ความรู้สึกแอบแฝงหลายอย่าง การแต่งงานไม่ใช่คำตอบของความรัก หากจิตใจของเรายังคล้องเกี่ยวกับความรักที่นอกเหนือจากนั้น...ในทางตรงกันข้าม มันกลับยิ่งสร้างปัญหาใหญ่ตามมาสุดท้ายความรักแปรเปลี่ยนเป็นโกรธ โทสะเกิด เป็นแรงขับดันให้มนุษย์คนหนึ่งแสดงความหยาบซึ่งเป็นจุดต่ำจุดหนึ่งของมนุษย์ แต่เราอาจทำความเข้าใจกับมันได้เป็นกรณีๆ ไป...เรื่องของเรื่องคือ..เมื่อ "ลาร์รี่" จับได้ว่า "แอนนา" แอบลอบคบกับ "แดน" สิ่งที่ลาร์รี่ทำคือการซักถามในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ใครก็ตามไม่อยากแม้แต่จะพูดออกมา เพื่อตอกย้ำให้อีกฝั่งนึงมองเห็นความน่าชังที่ตัวเองได้ทำลงไปและเพื่อตอกย้ำให้ตัวเขาเองสามารถที่จะขับไล่แอนนา คนที่เขามอบความรัก ให้ออกไปจากชีวิตเขาได้.....โดยที่ไม่ลังเลและนี่เองว่าทำไม "ความจริง" มันถึงเกี่ยวกับ "ความรัก"เพราะ "ความจริง" เป็นตัวช่วยทำให้คนคนหนึ่ง "หมดรัก" .....การรับรู้ความจริงของใครสักคน ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยทำให้เรื่องราวต่างๆ มันดำเนินไปได้โดยปรกติ ในเมื่อความจริงที่รับรู้ มันได้สร้างความเจ็บปวด สร้างความผิดหวัง และเป็นบ่อเกิดแห่งความไม่ไว้วางใจ...บางคนจึงเลี่ยงที่จะไม่พูดความจริงในบางเรื่อง เพื่อต้องการให้ความรักราบรื่นแต่บางคนที่ศรัทธากับความจริง เขาเชื่อว่าความจริงแม้จะโหดร้าย แต่ถ้าเป็นความจริงแล้วเขาจำเป็นต้องรู้ให้ได้ โดยหารู้ไม่ว่าความจริงเหล่านั้นกำลังจะสร้างความสูญเสียให้กับเขาแบบไม่มีวันกลับ.....สำหรับแดน... ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการรู้ความจริง เขาคงไม่สูญเสียแอนนาไปและถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการรู้ความจริง เขาคงไม่สูญเสียอลิสไปเช่นกันสุดท้ายเขาก็ไม่เหลือใคร แล้วเขาก็นอนกอด "ความจริง" ที่เขาต้องการ ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ อะไรๆ ที่เขารู้จากอลิสตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมันอาจไม่ใช่ความจริงเลยก็ได้.........บางครั้ง บางที...สิ่งที่เราต้องการรู้ กับสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้รู้..มันก็เป็นสิ่งเดียวกัน อยู่ที่ว่าเราจะใจแข็งมากพอที่จะไม่ซักถาม หรือใจแข็งมากพอที่จะไม่พูดถึงมันถ้ารู้แล้ว..ดีอย่างไร?...ถ้าพูดแล้ว..ดีอย่างไร?คงไม่มีใครบอกได้...นอกจากคนถามและคนตอบ...เท่านั้น............
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น