|
เหตุเกิดในใจ
หลายวันที่ผ่านมา ยุ่งขิงเสียจนหาเวลาทำอะไรๆได้ยากมาก ขวัญจึงถามตัวเองเสียใหม่ ว่าในห้วงยามที่ไม่ต้องอยู่กับงานนั้น ขวัญมักจะทำอะไร...... นึกถึงตอนชวนเพื่อนสังสรรค์ หรืออ่านหนังสือดีๆที่ได้แต่ซื้อเก็บ (แต่ไม่มีเวลาอ่าน)ไปร้องคาราโอเกะแบบสุดเหวี่ยง อาบน้ำสุนัข .............. ทั้งหมดก็ยังไม่ใช่อยู่ดี..... ถามใจตัวเองอีกครั้ง......ถอยหลังมองอีกก้าว.... คราวนี้ได้คำตอบ...ว่ามักนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ........
อยู่คนเดียวเงียบๆมันมีดีอะไรเหรอ? ................. ขวัญไม่ได้หมายถึงการถูกทอดทิ้งให้อยู่เดียวดาย อ้างว้าง และยิ่งไม่ได้หมายถึงการนั่งกลัดกลุ้มร้อนรุ่มอยู่ลำพัง ................... อยู่คนเดียวเงียบๆของขวัญ หมายถึงห้วงยามที่ขวัญถอนตัวออกจากพันธะทั้งหลายประดามี เพื่อใช้เวลาไปในการสะสางความรู้สึกที่คั่งค้างอยู่ในใจ ........................... บางครั้งอาจเป็นการนั่งรับลมนิ่งๆอยู่บนระเบียงบ้านกลางแสงจันทร์ หรือบางทีก็เดินย่ำไปตามถนนเปล่าเปลี่ยวในซอยกลางดึกสงัด .......................... และหลายๆครั้งของขวัญ อาจหมายถึงการเร่ร่อนอยู่กลางทะเลกว้าง นอนมองดาวอยู่บนหาดทรายขาวละเอียด ปั่นจักรยานเย็นใจที่สวนรถไฟตอนเช้าๆ ................. ก็จริง....ที่อิสรภาพเป็นสิ่งที่เดียวดาย ................ แต่คนเรายามปลดเปลื้องตัวตนออกจากพันธะทั้งปวง แม้เพียงเวลาชั่วครู่ยาม.... ใช่ไหม...ว่าจิตใจย่อมปลอดโปร่งผ่องแผ้ว...... ............................ ความปลอดโปร่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของปัญญา ......................... ในยามที่ต้องอยู่กับตัวเองลำพัง ขวัญพินิจเห็นสิ่งต่างๆได้ถี่ถ้วนขึ้น..... ไม่ว่าสิ่งนั้นจะหมายถึงงาน....เพื่อนฝูง...ครอบครัว.... และคนหลายๆคนที่อยู่รอบข้าง ...................... ทว่าสิ่งสำคัญที่สุด...ขวัญมองเห็นการกระทำของตัวเอง... ที่มีทั้งดีและไม่ดีในอารมณ์ของความเป็นมนุษย์ .............
ด้วยเหตุนี้ขวัญจึงต้องถอนตัวออกจากโลกบ้าง... เพื่อจะใกล้ชิดมันยิ่งขึ้น....... ..................... ชีวิตที่พัวพันกับสรรพสิ่งอย่างต่อเนื่องทำให้เราไม่มีเวลาหยุดครุ่นคิด และห้วงนึกที่มิได้ถูกขัดเกลาด้วยการคิด บางทีก็ชี้นำการกระทำไปอย่างไร้ทิศทาง ........................... เรื่องร้ายๆของมนุษย์ หรือการมาเสียใจภายหลัง ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น... ขอเพียงผู้คนรู้จักฉุกใจยั้งคิด..... ................. และเพราะขวัญกระทำเรื่องผิดพลาดมามากมาย เมื่อครั้งไม่รู้จักสะสางความรู้สึกภายใน....................
ในวัยเยาว์... ของเล่นหายสักชิ้นน้ำตาไหลเป็นวรรคเป็นเวร ใครมาล้อชื่อพ่อชื่อแม่ เหมือนโลกจะถล่มทลาย และหัวใจแทบสลาย..ถ้าพ่อแม่จะไปเที่ยวกันสองคน แล้วปล่อยให้ขวัญอยู่กับพี่เลี้ยง แม้แค่1-2 ชั่วโมงก็เถอะ........ ....................... จิตใจที่ยังไม่เติบโต....ย่อมมีพื้นที่สำหรับผู้อื่นเพียงน้อยนิด. ................ แต่พอเราเป็นผู้ใหญ่ เราก็ถือผูกทุกสิ่งทุกอย่างสำคัญไปหมด อะไรที่เห็นว่าไม่สำคัญ เรากลับเห็นว่ามันสำคัญ ...เช่นนี้แล้ว....เรามักมีเรื่องหลั่งน้ำตา...ทะเลาะวิวาทไม่แพ้เด็กๆ ต่างกันที่ ...พอโตขึ้น...น้ำตาเหือดแห้งยาก.... ความเคียดแค้น...กังวลเกาะกุมไม่ยอมหน่าย ทุกอย่างประกอบขึ้นอยู่ข้างในใจเรา....ข้างในที่สร้างความเดือดร้อนยิ่ง ................. ครั้งหนึ่งยังไม่นานนัก........... คนใกล้ชิดต้องผงะออกไปด้วยความประหลาดกึ่งตกใจ เพราะปฎิกิริยาของขวัญที่มีต่อพนักงาน ว่าทำไม....ทำไมไม่มาที่โต๊ะเราสักที ไม่เห็นเราเลยหรือไง ......................... หรือการที่ขวัญเห็นขันกับการที่ใครสักคนทำอะไรเด๋อๆด๋าๆ โดยที่ไม่รู้เบื้องหลังที่แท้จริงของเขาว่าทำไมต้องทำเยี่ยงนี้ .................... เรื่องไม่รับโทรศัพท์นี่ทุกคนเบื่อกันหมดแล้ว และไม่มีใครถามซ้ำอีกต่อไปแล้ว...ว่าทำไมไม่รับ... (ส่วนมากจะบอกว่าขวัญติ๊ส...ติส(แตก)) .........................
ดังนั้นในระยะหลังๆ...ขวัญจึงมีการเคยชินอย่างหนึ่ง คือความเคยชินที่จะต้องหาโอกาสถอนตัวออกมา จากเหตุการณ์ภายนอกเป็นครั้งคราว แม้เพียงชั่วครู่ชั่วยามก็ยังดี.......
มันทำให้ขวัญ...ได้พินิจสำรวจสิ่งต่างๆที่ตัวเองทำลงไป รวมทั้งสะสางสมรภูมิภายในใจ...ก่อนที่มันจะลุกลามไปที่ผู้อื่น .................. จึงเห็นว่าแต่ละสิ่งที่ขวัญทำ.....มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร ไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าใครอื่น...และเมื่อตัวขวัญไม่สำคัญ .คนอื่น..สิ่งอื่น ย่อมสำคัญมากขึ้น.... ย่อมมีที่อยู่ในใจขวัญมากขึ้น..... ...............
บางครั้งเราควรถอยห่างจากโลกบ้าง... เพื่อจะได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น......
เอนกายเถิดยอดรัก
ดวงกมล....เมื่อชีวิต เสร็จสิ้นภารกิจแห่งความเศร้า ขอเธอคืนจากฝันวันก่อนเก่า กลับหอห้องที่เงียบเหงาใต้แสงจันทร์
หากความปวดร้าวยังคงดำรง ส่งภารกิจแห่งความเศร้ามาให้ฉัน จะแบกไว้บนไหล่ทำไมกัน เหนื่อยมากแล้วควรหลับฝันพันราตรี
จะนั่งเฝ้าอยู่ข้างข้าง จนรุ่งรางหน้าต่างฟ้า ทาสี หากยังหวงความทุกข์ไว้ในชีวี จะดูแลให้อย่างดี ปานดวงใจ
จะเปลี่ยนดอกไม้หิ้งพระ ให้ใหม่ ร้อยมะลิเป็นมาลัยพิสุทธิ์สง่า ดอกโรยร่วงหากหวงไว้ในวิญญาณ์ จะคอยปกปักรักษาปานดวงใจ
จะมิคืนภารกิจที่ปวดปร่า เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันใหม่ หากหวนหาให้เห็นมิเป็นไร ถึงต้องเจ็บจะเก็บไว้แทนให้เธอ
เพราะเธอมีภารกิจอีกดาษดื่น มีเรื่องราวอื่นๆอีกหมื่นแสน เพราะฉันคือความอ่อนไหวในดินแดน ที่ผูกพันแนบแน่นกับใจเธอ ขวัญค่ะ
Create Date : 19 มีนาคม 2552 |
|
6 comments |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 11:05:27 น. |
Counter : 1129 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พี่กาย IP: 58.137.10.34 20 มีนาคม 2552 9:56:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: meku 20 มีนาคม 2552 15:04:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมย์ IP: 124.120.170.213 20 มีนาคม 2552 21:49:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภูสูง 23 มีนาคม 2552 17:03:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: จันทร์เอย... IP: 115.87.71.98 22 มิถุนายน 2555 13:04:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ดวงฤดี...เมื่อชีวิต-
เสร็จสิ้นภารกิจแห่งความเศร้า
ขอเธอคืนจากฝันเพื่อบรรเทา-
ความเงียบเหงารุมแรงใต้แสงจันทร์
หากความปวดร้าวยังผ่าวร้อน
ก็ส่งคืนกลับย้อนมาให้ฉัน
จะแบกคอนบนไหล่ทำไมกัน
ปลดลงแล้วหลับฝันในราตรี
จะนั่งเฝ้าอยู่เคียงข้าง
จนรุ่งรางสูรย์ปลั่งทอดรังสี
หากยังหวงความทุกข์ไว้คลุกคลี
จะดูแลให้อย่างดีปานดวงตา
จะเปลี่ยนดอกไม้บนหิ้งพระ
ร้อยด้วยมะลิหอมพรั่งพร้อมค่า
เมื่อร่วงโรยออมกลิ่นในวิญญาณ์
คอยปกป้องรักษาปานดวงใจ
จะไม่คืนภารกิจที่ปวดปร่า
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันใหม่
หากหวนหาให้เห็นมิเป็นไร
ถึงต้องเจ็บจะเก็บใจ..รับไว้แทน
เพราะเธอมีภารกิจอีกดาษดื่น
มีเรื่องราวอื่นอื่นเป็นหมื่นแสน
เพราะฉันคือความอ่อนไหวในดินแดน
ที่ผูกพันแนบแน่นกับใจเธอ