"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
ยิว:ศาสนา สงคราม การเมืองและการดำรงเผ่าพันธุ์ของชาวยิวจากวรรณกรรมชุด ปวศ.ของ มรว.คึกฤทธิ์ 1

อภินันท์ สิริรัตนจิตต์
คณะศิลปศาสตร์และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ 

ชีวิตคนอ่านหนังสือและคนเขียนหนังสือ เหมือนผู้ถูกต้องคำสาป คือว่า ถ้าไม่ได้อ่าน ไม่ได้เขียน จะรู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป ถึงแม้ว่า ผู้เขียนจะมีภาระหน้าที่การงานยุ่งอยู่พอควร แต่ด้วยอุปนิสัยแห่งนักอ่าน ที่ปนเปไปด้วยอารมณ์แห่งความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวจากตัวอักษรในหนังสือที่อยากอ่าน ก็ทำให้ผู้เขียนต้องสนองความอยากอ่าน ด้วยการอ่านให้เต็มประดาเสียเลย

       ก่อนจะสวมบทบาทนักเล่าเรื่องราวของยิว จากเรื่องยิว หนึ่งในวรรณกรรมชุดประวัติศาสตร์ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มีความยาวกว่า 350 หน้า ตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2510 เพื่อแบ่งปันสาระความรู้ ความบันเทิงสู่กัน ผู้เขียนมีคำถามในใจอยู่ 2 ประเด็น ในฐานะผู้สนใจจะศึกษาประวัติศาสตร์ของยิว คือ

ประเด็นแรก เหตุใดผู้คนต่างยกย่องและยอมรับว่า ชนชาติยิว เป็นมนุษย์ที่เฉลียวฉลาด ชนิดหาตัวจับยาก และประเด็นที่สอง เหตุใด ยิวถึงได้ดำรงเผ่าพันธุ์มาได้ จวบจนถึงปัจจุบัน แม้จะถูกระทำทารุณกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะบาดแผลจาก ฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี ผู้เขียนขอแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ตอน ตามประเด็นที่ตั้งคำถามไว้ข้างต้น



ยิว : ศาสนา สงคราม การเมืองและการดำรงเผ่าพันธุ์ของชาวยิว จากวรรณกรรมชุดประวัติศาสตร์ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช (ตอน 1)
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 (2545)
ที่มา : ดอกหญ้า 2000

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วรรณกรรมเรื่องยิวนี้ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ออกตัวว่า หลังจากที่สงครามระหว่างอาหรับกับอิสราเอล ซึ่งกินเวลาเพียงไม่กี่วันผ่านไป คนไทยออกจะเริ่มสนใจในประเทศอิสราเอล และชนชาติยิวขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ผมจึงได้ตกลงใจเขียน เรื่อง “ยิว” นี้ขึ้นเท่าที่รู้เห็น

ด้วยความหวังว่า จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านบ้างไม่มาก ก็น้อย ตามสติปัญญาของผมจะอำนวยให้ เมื่อผู้เขียน ได้อ่านข้อความข้างต้นที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวไว้ ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ต่อมแห่งความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับยิวที่มี คงจะได้เวลาสะสางให้คลายความคั่งค้างออกไปเสียที

ความเป็นมาของยิว: คนที่พระเจ้าเลือก

       บุคคลที่มีเชื้อสายยิว ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก เช่น คาร์ล มาร์กซ์ ผู้เริ่มลัทธิคอมมิวนิสต์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ซิกมันต์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาคนสำคัญของโลก สปิโนซ่า นักปรัชญาคนสำคัญ เป็นต้น บุคคลเหล่านี้ ล้วนมีเชื้อสายแห่งชนชาติยิวทั้งสิ้น เมื่อชนชาติยิว เป็นคนพิเศษ ที่มีความรู้ความสามารถในประวัติศาสตร์ของโลก ก็น่าจะลองศึกษาว่า พวกเขาเกิดขึ้นมาและ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร รวมทั้งเหตุใด ยิวจึงกล้าบอกกับชาวโลกว่า เขา คือคนที่พระเจ้าเลือก

       ในทัศนะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวว่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองแล้วเกิดประเทศเอกราชขึ้นใหม่อีกหนึ่งประเทศ คืออิสราเอล ซึ่งมียิวเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ จึงเรียกได้ว่า เป็นประเทศของยิวโดยเฉพาะ แต่ก่อนแต่ไร คนไทยมักจะรู้จักยิว ในสายตาของฝรั่งที่ไม่ชอบยิว คือ เมื่อได้ยินคำว่ายิว ก็จะนึกไปถึงคนที่ตระหนี่ถี่เหนียว คดโกง เอารัดเอาเปรียบ และเห็นแก่ตัว ดังนั้นก่อนจะรู้จักยิวให้ดีขึ้นกว่าที่รู้จัก ผู้เขียนขอนำย้อนเวลาไปสู่อดีตกาลเพื่อรู้จักตัวตนของยิว

       เมื่อราว 6,500 ปีมาแล้ว ได้มีอารยธรรมเกิดขึ้นสองแห่งในประวัติศาสตร์ของโลก กล่าวคือ แห่งแรกเกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิสราเอล ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอารยธรรมของแคว้นเมโสโปเตเมีย และอีกแห่งหนึ่ง คือ เกิดขึ้นขึ้นทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอารยธรรมของอียิปต์สมัยโบราณ โดยอารยธรรมทั้งสองแห่งนี้เกิดขึ้นโดยลำพังและเป็นไปโดยลำพัง

       ถึงแม้ว่า อารยธรรมทั้งสองแห่งนี้จะตั้งอยู่ไม่ห่างไกลกันมาก แต่ก็ใช้เวลาร่วม 2,500 ปี เพื่อรู้จักกัน และหลังจากนั้น ก็ก่อสงครามต่อกันทันที โดยศูนย์กลางของอารยธรรมของเมโสโปเตเมียนั้น อยู่ที่มหานครใหญ่ ชื่อ กรุงอุร โดยในประวัติศาสตร์ของอารยธรรมนี้ร่วม 4,000 ปีเศษ

มีชายผู้หนึ่ง ชื่อว่า เตราห์ ได้พาบุตรชายของเขา ชื่อ อะบราฮาม พร้อมกับภรรยาและบุตร ชื่อ ซาราห์ รวมทั้งหลานชื่อ โลต ออกเดินทางไปในป่า เดินทางข้ามแม่น้ำยูเฟรตีส ขึ้นไปทางทิศเหนือ ซึ่งผู้ที่ได้ข้ามแม่น้ำสายนี้ไป จะได้ชื่อว่า อิวรึม ซึ่งแปลว่า ผู้ได้ข้ามฟากข้างโน้นไปแล้ว ต่อมาคำว่าอิวรึมนี้ ได้เพี้ยนมาเป็นคำว่า ฮิบรูว์ (Hebrew) ในภาษาอังกฤษ

       เมื่อเตราห์ พาครอบครัวขึ้นไปทางทิศเหนือจนถึงภาคใต้ของตุรกีในปัจจุบัน เขาก็เสียชีวิต คงเหลือแต่อะบราฮาม ซึ่งต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว จนกระทั่งบนภูเขาแห่งนี้เอง อะบราฮาม ได้มีประสบการณ์แปลกประหลาด คือ เขาได้พบกับพระผู้เป็นเจ้า พระนามว่า พระยะโฮวา ได้เจรจากันอยู่พักใหญ่ จนในที่สุด ได้ทำสัญญาว่า จะปฏิบัติตามบัญญัติข้อบังคับของพระเจ้า และฝ่ายพระผู้เป็นเจ้านั้น สัญญาว่า จะดูแลอะบราฮามและลูกหลานต่อไป เพราะพวกเขาคือชนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ในอุปการะ

       ในขั้นแรกของการปฏิบัติตามข้อตกลงกับพระผู้เป็นเจ้า คือผู้ชายทุกคนซึ่งอยู่ในอุปการะของพระผู้เป็นเจ้า จะต้องเข้าพิธีสุหนัต คือตัดหนังที่หุ้มปลายองคชาตเมื่อมีอายุได้ 8 วัน หรือมิฉะนั้นก็ต้องตัดเมื่อได้เข้ารีตมานับถือศาสนาเดียวกับชนที่พระผู้เป็นเจ้าได้รับอุปการะไว้ ส่วนสัญญาที่พระผู้เป็นเจ้า จะประทานไว้ให้เป็นเครื่องตอบแทน คือแดนคะนาอัน หรือประเทศอิสราเอลในปัจจุบันนี้เอง

       ความในเบื้องต้นนี้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ตั้งข้อสังเกตว่า พระผู้เป็นเจ้าที่อะบราฮาม พบบนภูเขานั้น เป็นพระเจ้าองค์เดียว ซึ่งชาวยิวเชื่อว่า ได้ทรงสร้างโลกมนุษย์ ตลอดจนสุริยจักรวาลนี้ขึ้น พร้อมกับสรรพสิ่งบนโลกนี้ ความจริงพระนามของพระผู้เป็นเจ้านั้นคือ พระยะโฮวา แต่ชาวยิวแท้ไม่เคยออกชื่อเรียกพระนามของพระเจ้าเลย แต่จะเรียกด้วยภาษาตนเองด้วยอักษรสี่ตัว คือ ยฮวฮ

ประวัติของชาติยิว

       ประวัติศาสตร์ของชาติยิว ได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่อะบราฮาม ได้พบกับพระผู้เป็นเจ้า เมื่อ 4,000 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่วันนั้น การติดต่อระหว่างพระเจ้ากับยิวก็เริ่มขึ้น จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลา 400 ปี หลังจากที่ตระกูลอะบราฮาม ได้พบกับพระผู้เป็นเจ้า ก็ทำให้ตระกูลของเขางอกเงยขึ้น มีจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้นกลายเป็นชนชาติหนึ่ง

และชนชาติยิวได้ท่องเที่ยวไปในดินแดนที่พระเจ้าสัญญาว่าจะให้แก่พวกยิว ซึ่งขณะนั้นมีชนชาติอื่นมาตั้งรกรากทำมาหากินอยู่ ถึงกระนั้นชาวยิวก็ยังไม่มีดินแดนเป็นของตนเอง แต่สิ่งที่ทำให้ชาวยิวใกล้ชิดกับพระเจ้า คือ การทำสุหนัตของผู้ชายทุกคน ซึ่งสัญญาไว้กับพระเจ้า และการนับถือพระเจ้าเพียงองค์เดียว ซึ่งไม่มีรูปกายให้เห็นได้

       แม้ว่า ในสมัยนั้นมีชนเผ่าต่างๆ มากมายรายล้อมชาวยิวด้วยการนับถือพระเจ้าหลายองค์ แต่ชาวยิวยังนับถือพระเจ้าองค์เดียว จึงทำให้ชาวยิวแยกอยู่ต่างหากจากชนชาติอื่นด้วยเหตุผลทางศาสนาที่ไม่มีทางรวมกันได้ ถ้าเปรียบเทียบศาสนาของชาวยิวกับศาสนาต่างๆ ของชาวกรีกโบราณแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า เทวดาต่างๆ ของชาวกรีกเต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา มีโลภ โกรธ หลง แต่พระเจ้าของชาวยิวนั้น เป็นพระเจ้าที่ไม่มีกิเลส ตัณหา และชาวยิวก็สั่งสอนลูกหลานให้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนอย่างเคร่งครัด

ผู้นำที่ไม่เต็มใจเล่น

       หลังจากที่ชาวยิวได้เร่ร่อนไม่เป็นหลักแหล่งอยู่ 400 กว่าปี ไม่ว่าชาวยิวจะเดินทางไปไหน จะหอบหิ้วเอาพระผู้เป็นเจ้าของตนไปด้วย สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของการหอบหิ้ว คือหีบไม้ใบใหญ่ซึ่งภาษาอังกฤษ เรียกว่า Ark โดยบนหีบนั้นสลักเป็นรูปเทวดามีปีก ซึ่งเป็นรูปของเทวดาที่ปฏิบัติบูชาพระผู้เป็นเจ้าอยู่บนสวรรค์

       จนกระทั่งผ่านมาวงศ์ตระกูลของอะบราฮาม มีอายุมากขึ้นคนละ 100 ปีกว่า เมื่ออะบราฮามได้บุตรชื่ออิศฮาด และอิศฮาด มีบุตรชื่อยาขอบ และยาขอบมีบุตรอีกสิบสองคน โดยอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า โยเซฟ พวกยิวก็ได้เดินทางเข้าสู่ลุ่มแม่น้ำไนล์ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์

       ชาวยิว ซึ่งมีโยเซฟเป็นผู้นำ ได้เดินทางจากดินแดนคะนาอันไปสู่อียิปต์ ในพระคัมภีร์ไบเบิล กล่าวว่า โยเซฟได้ถูกพี่น้องของตนเองขายไปเป็นทาสในอียิปต์ และเริ่มชีวิตจากการเป็นทาส จนได้เป็นคนโปรดของกษัตริย์ฟาโรห์ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุปราช จึงทำให้พี่น้องชาวยิวได้มีโอกาสตั้งรกรากทำมาหากินในอียิปต์ เรื่องเล่าข้างต้นนั้น เป็นความจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะได้มีการขุดค้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี มาเป็นเครื่องยืนยันและสนับสนุน

       หลังจากที่ยิวตั้งรกรากในอียิปต์ได้ระยะหนึ่ง ได้มีชาวเอเชียเชื้อชาติหนึ่ง เรียกกันว่า พวกฮิคโซส ได้เข้ามายึดครองอียิปต์ไว้ และตั้งตนเป็นผู้ปกครองอียิปต์ ได้ดูแลปกครองอียิปต์ด้วยความผาสุก แต่ต่อมาอีกราว 150 ชาวอียิปต์แท้ ได้ปราบพวกฮิคโซสลงแล้วจับไปเป็นทาส พร้อมกับประกาศให้ชนชาติอื่นๆ ซึ่งอยู่ในอียิปต์ไปเป็นทาสด้วย พระเจ้ารามเสสที่ 2 ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งในราชวงศ์ใหม่นี้ได้สร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า เมืองรามเสส โดยมีแรงงานทาส ซึ่งรวมชาวยิวอยู่ในนั้นด้วย

       ในการก่อสร้างเมืองใหม่นั้น ชาวยิวก็ตกอยู่ในฐานะทาสร่วม 400 ปี จนได้คนดีมาเป็นผู้นำชาวยิวให้พ้นจากความเป็นทาสและหนีออกจากประเทศอียิปต์ได้

       โมเช หรือโมเซ (ผู้เขียน คิดว่า คือ โมเสส) คือคนดีที่เป็นยิวเกิดขึ้นในตระกูลลีไว ในขณะนั้นอยู่ในภาวะที่พระเจ้ากรุงอียิปต์ มีนโยบายคุมกำเนิดอย่างประหลาดกับพวกยิว เพื่อป้องกันมิให้ยิวมีจำนวนมากอย่างรวดเร็วเกินไป จึงมีคำสั่งให้จับเด็กผู้ชายที่เกิดใหม่ไปฆ่าทิ้งเสีย ดังนั้น เพื่อช่วยชีวิตของ โมเซ บิดาและมารดาของ โมเซ จึงได้ซุกซ่อนตัวของโมเซไว้นานสามเดือน

ต่อมาเกรงว่าถูกจับได้ จึงใส่เด็ก 3 เดือนในกระจาดสานด้วยกกลอยน้ำได้ ปล่อยไปตามกระแสแม่น้ำไนล์ จนบังเอิญให้พระราชธิดาของพระเจ้ากรุงอียิปต์ที่เสด็จมาสรงน้ำในแม่น้ำไนล์พบเข้า จึงเกิดความเมตตาและเลี้ยงดูไว้ในฐานะพระราชบุตรบุญธรรมและให้ชื่อว่า โมเซ

       คำว่า โมเซ ในภาษาอียิปต์โบราณ แปลว่า ลูก เมื่อโมเซเติบโตขึ้น ก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นยิว เพราะหลักฐานในพระคัมภีร์ไบเบิล ระบุว่า โมเซ ไม่ได้ทำสุหนัตแบบชาวยิว แต่เมื่อโตขึ้น ก็ได้มากระทำเอง และได้เข้ามาเป็นผู้นำชาวยิวจากการช่วยเหลือของนางซิปโปราห์ ผู้เป็นภรรยา เพื่อเอาใจพระผู้เป็นเจ้า

       อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์ไบเบิล กล่าวว่า เมื่อโมเซเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่อายุราว 30 ปี เห็นผู้คุมทาสชาวอียิปต์ทำร้ายทารุณทาสชาวยิว โมเซ จึงเกิดความสงสาร เข้าไปช่วยเหลือแล้วฆ่าผู้คุมผู้นั้นตาย หลังจากนั้นโมเซก็ได้หลบหนีออกจากเมือง ไปอยู่ที่แคว้นมิเดียน และได้ลูกสาวพระชาวมิเดียน ชื่อ เยโธร เป็นภรรยาได้ช่วยเหลือพ่อตาด้วยการเลี้ยงสัตว์อยู่บนภูเขาแถวนั้น

จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่โมเซ กำลังต้อนสัตว์ไปบนภูเขาโฮเรบ โมเซไปพบกับพระผู้เป็นเจ้าของชาวยิวเข้า พระยะโฮวา ตรัสเรียกชื่อโมเซหลายครั้ง ทำให้โมเซตกใจมากเมื่อไม่เห็นผู้ใดอยู่บนภูเขา และเมื่อครั้น โมเซได้หันไปที่ซุ้มต้นไม้บนภูเขาซุ้มหนึ่ง ซึ่งลุกเป็นไฟโชติช่วงอยู่ มีเสียงพระผู้เป็นเจ้าดังออกมาจากซุ้มต้นไม้ โดยพระผู้เป็นเจ้าพระองค์นั้น คือพระยะโฮวาของอะบราฮาม

       พระผู้เป็นเจ้าของชาวยิว หรือพระยะโฮวา ตรัสสั่งให้โมเซกลับไปอียิปต์ เพื่อนำพวกยิวออกมาสู่ความเป็นไท เมื่อได้ยินคำสั่งดังกล่าว แม้โมเซไม่เต็มใจนัก แต่ในที่สุดเขาก็ได้รับหน้าที่ทำภารกิจดังกล่าว โดยมีน้องชายชื่อว่า อารอน ของโมเซ ช่วยเหลือภารกิจนั้น

       เมื่อโมเซได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากพระผู้เป็นเจ้า เขาได้เดินทางกลับไปยังอียิปต์และรวบรวมชาวยิวให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อจะเดินทางออกจากอียิปต์สู่ความเป็นไท หลังทราบข่าวว่า โมเซ ซึ่งเป็นพระราชบุตรบุญธรรมได้พยายามพาชาวยิวออกไปจากอียิปต์ พระเจ้ากรุงอียิปต์ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางโมเซ ถึงตอนนี้พระผู้เป็นเจ้าของชาวยิว ได้สำแดงเดชอำนาจให้พวกอียิปต์ได้เกรงกลัว

       ในที่สุด โมเซ ก็พาชาวยิวออกมาจากอียิปต์ได้ โดยพาข้ามผ่านทะเลแดง มายังทะเลทรายซีนาย ซึ่งโมเซ ได้พาชาวยิวอยู่ในทะเลทรายซีนายนานถึง 40 ปี จึงทำให้มีชาวยิวที่ร่วมเดินทางผ่านทะเลซีนาย มีนิสัยทรหดอดทน สามารถต่อสู้กับความยากลำบากได้มากกว่าชนเผ่าอื่นๆ

จนกระทั่ง โมเซได้พาชาวยิวไปถึงชายแดนแห่งดินแดนที่พระผู้เป็นเจ้าสัญญาว่า จะให้ชาวยิวไว้ได้ เมื่อโมเซรู้ว่าหมดภาระหน้าที่ของตนเองแล้ว ก็ไม่ได้เหยียบเข้าไปในดินแดนนั้น แต่ได้ผละออกไปจากกลุ่มของชาวยิว แล้วหายไปในทะเลทราย

       และบนภูเขาที่โมเซ ได้พบกับพระผู้เป็นเจ้านั้น เขาได้รับประทานบัญญัติ 10 ประการ เพื่อให้นำลงมาบังคับใช้แก่ชาวยิว ซึ่งบัญญัติ 10 ประการนี้ โมเซได้วางกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้ชาวยิวได้ถือปฏิบัติ ซึ่งพอจะกล่าวได้ว่า บัญญัติ 10 ประการคือกฎหมายของโมเซที่ใช้ในการปกครองชาวยิวต่อมา และเมื่อชาวยิวได้อยู่ในดินแดนที่พระผู้เป็นเจ้าสัญญาที่จะให้แล้ว จึงได้เปลี่ยนชื่อชนชาติของตนเอง จากฮิบรูว์ มาเป็นชื่อใหม่ ว่า อิสราเอล

       ความเป็นไปเกี่ยวกับโมเซนี้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ตั้งข้อสังเกตว่า ตามตำนาน โมเซ จะมีตัวตนจริงหรือไม่ มิได้อยู่ที่ว่าชาวยิวออกมาจากประเทศอียิปต์ได้อย่างไร แต่มีข้อสำคัญที่สุดอยู่อย่างเดียว คือ ในขณะที่ชาวยิวอยู่ในทะเลซีนาย ได้มีข้อกำหนดที่เป็นกฎหมายประจำชาติยิวเกิดขึ้น จึงทำให้ชนชาติยิวเป็นอันหนึ่งเดียวกัน เพราะไม่ใช่ชนชาติที่ไม่มีแผ่นดินอาศัยอีกต่อไป และการได้มีกฎหมายของชาวยิวนั้น ทำให้ชาวยิวเชื่อว่า ต้องมีพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้กำหนดขึ้นอย่างแน่นอน

       อีกประการหนึ่ง กฎหมายของโมเซนั้น กล่าวได้ว่า เป็นประมวลกฎหมายฉบับแรกของโลกก็ว่าได้ เพราะถึงแม้ว่าชนชาติอื่นจะมีกฎหมายมาก่อน แต่กฎหมายของชนโบราณต่างๆ เป็นเพียงกฎหมายปลีกย่อย ไม่ใช่ประมวลกฎหมายอย่างกฎหมายของโมเซ เพราะประมวลกฎหมายของโมเซนั้นแบ่งออกเป็น 3 ภาค ได้แก่ ภาคแรก เป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน ภาคสอง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับรัฐ และภาคสาม เป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระผู้เป็นเจ้า

       มาถึงจุดนี้ ผู้เขียนเห็นว่า พอจะสรุปตัวตนของชนชาติยิวได้ว่า ชาวยิวเป็นชนชาติพันธุ์หนึ่งซึ่งดำรงความเป็นเอกลักษณ์ของตนอย่างเข้มแข็งภายใต้ความศรัทธาต่อศาสนา เพราะกว่าชาวยิวจะได้มีแผ่นดินเป็นของตนเอง ต้องผ่านการพิสูจน์ความเข้มแข็ง อดทน ความสูญเสีย และความเสี่ยงต่อการสูญสิ้นชาติพันธุ์

เพราะชนเผ่าต่างๆ ที่มีมากมายในสมัยโบราณ แต่ถึงกระนั้น จุดเด่นที่เห็นชัดของชาวยิว คือ ความศรัทธาต่อศาสนา ศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าที่ไม่มีตัวตน รวมทั้งกระบวนการถ่ายทอดทางศาสนา วัฒนธรรมต่างๆ ของยิวที่กระทำผ่านศาสนาที่ไม่เน้นกายภาพ แต่เน้นที่จิตใจ

       ชาวยิว เมื่อโมเซได้นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ไปสู่ดินแดนที่พระเจ้ายกให้แล้ว ทุกวันนี้ ยังคงมีวันสำคัญซึ่งถือเป็นวันนักขัตฤกษ์ คือวันการผ่านมา (จากความเป็นทาส) ภาษาอังกฤษเรียกวันนักขัตฤกษ์นี้ว่า Passover และในวันสำคัญนี้ ชาวยิว จะเลี้ยงดูกันด้วยอาหารพิเศษ คือขนมปังที่ไม่ใส่แป้งเชื้อ และผักขม รวมทั้งของหวาน

เพราะสิ่งเหล่านี้ได้เป็นสัญลักษณ์ของความยากลำบากในการใช้ชีวิตท่ามกลางทะเลทรายซีนาย โดยความหมายของขนมปังที่ไม่ใส่แป้งเชื้อ คืออาหารที่กินได้ตลอดการเดินทางในทะเลทราย ส่วนผักขมนั้น แทนความหมายของความขื่นขม ความยากลำบากในขณะเดินทางเร่ร่อน และของหวานนั้น แทนความหมายของความหวานสดชื่นแห่งความสุข เมื่อได้เดินทางถึงดินแดนที่พระเจ้าประทานให้

       บทสรุปในตอนที่ 1 นี้ ผู้เขียนเห็นว่า ได้เล่าเรื่องย่อถึงความเป็นมาของชาวยิวตั้งแต่จุดเริ่มต้นโดยเตราห์ อะบราฮาม โยเซฟ และโมเซ จนทำให้เห็นได้ว่า ชาวยิวนั้น มีพัฒนาการของการสืบทอดทางชาติพันธุ์อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะหากคำนึงถึงระยะเวลาที่ยาวนานกับการดำรงเผ่าพันธุ์ของกลุ่มชนหนึ่ง

คงจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ชาวยิวจะต้องมีสิ่งพิเศษเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร สืบทอดและดำรงเผ่าพันธุ์ได้อย่างดี และสิ่งพิเศษนั้น ผู้เขียนคิดว่า ศาสนา คือยาวิเศษที่ชาวยิวใช้ศาสนายูดายเป็นสิ่งเชื่อมโยงบุคคลของยิวรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนทำให้มีชาวยิวอยู่มาได้จนถึงโลกปัจจุบันทุกวันนี้

ในตอนที่ 1 นี้ ผู้เขียนขอยุติการเล่าประวัติความเป็นมาของยิว จากวรรณกรรมชุดประวัติศาสตร์ เรื่อง ยิว ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ไว้เพียงนี้ก่อน เพราะว่า ในตอนที่ 2 ซึ่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวยิว ต้องเผชิญกับชะตากรรมทางสงคราม ความสั่นคลอนทางศาสนา

โดยการกระทำของชาวโรมัน ชาวกรีก ลัทธิต่างๆ ในยุโรป รวมทั้งชาวยิวที่เห็นต่างด้วยกันเอง ตลอดถึงอุบัติกรรมแห่งโศกนาฏกรรมที่ฮิตเลอร์ได้กระทำต่อชาวยิว และเหตุผลสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า เหตุใดชาวยิวจึงดำรงชาติพันธุ์อยู่ได้มาถึงทุกวันนี้

 

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

คุณอภินันท์ สิริรัตนจิตต์

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ




Create Date : 11 มีนาคม 2558
Last Update : 11 มีนาคม 2558 7:41:43 น. 0 comments
Counter : 823 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.