กว่าจะเติบโตเป็น "Khan Academy" อย่างที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้
สื่อการสอนออนไลน์ระดับโลกเจ้านี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากคลิปวิดีโอง่ายๆ และแนวคิดอันทรงพลังของชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่นักการศึกษาหรือนักวิชาการใหญ่มาจากไหนเลย
Salman Khan รู้สึกว่าการศึกษาที่เราไว้วางใจกำลังพ่นพิษใส่ผู้เรียนโดยไม่รู้ตัว การศึกษาในระบบที่มุ่งให้ผู้เรียนทุกคนข้ามผ่านระดับความรู้หนึ่งไปพร้อมๆ กันคือการละเลยคุณสมบัติธรรมชาติของมนุษย์ไปอย่างใหญ่หลวง
เพราะผู้เรียนแต่ละคนต่างมีพื้นเพต่างกัน มีความสามารถในการรับรู้หรือเข้าใจข้อมูลต่างกัน ทว่าการศึกษากลับตีกรอบผู้เรียนที่มีความหลากหลายให้กลายเป็นนักเรียนสำเร็จรูปเหมือนๆ กัน ที่ไร้ซึ่งความโดดเด่นเฉพาะตัว
ฉะนั้นแล้ว จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าห้องเรียนจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการค้นคว้าบทเรียนที่ผู้เรียนและผู้สอนมีปฏิสัมพันธ์กัน บทบาทระหว่างผู้เรียนด้วยกันอยู่ที่การถกเถียงและอภิปราย อุดช่องโหว่ปัญหาการเรียนช้าเรียนเร็ว ด้วยการใช้โปรแกรมช่วยสอนและแบบฝึกหัดออนไลน์ ให้แต่ละคนได้ทบทวนความเข้าใจในระดับความช้าเร็วของตัวเอง
เน้นทำกิจกรรมประยุกต์ใช้ความรู้วิชาการเพื่อให้ผู้เรียนรับมือกับสถานการณ์ในชีวิตจริงได้ และช่วยต่อยอดความสามารถพิเศษในตัวของแต่ละคน ผู้เรียนที่ "แตกต่าง" จะไม่โดนตั้งแง่อีกต่อไป และ "การศึกษา" จะไม่ถูกจำกัดอยู่แค่วัยนักเรียน แต่ต่อเนื่องเป็นการศึกษาทุกช่วงวัยตลอดชีวิต
"บทเรียนสำคัญอีกอย่างที่คุณจะได้รับจากหนังสือเล่มนี้ คือพลังบวกที่จะพัฒนาตนเอง ยิ้มรับบทเรียนจากความล้มเหลว และซึมซับแรงกายแรงใจจากคนรอบข้าง หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่เรื่องของภาพวาดที่สวยงามเสร็จสมบูรณ์
แต่เป็นเรื่องของต้นไม้ที่ยังเติบโตสู้แดดสู้ฝน และแตกใบอ่อนให้เราได้ชื่นชมบ้าง..." อำนวย พลสุขเจริญ ผู้แปล
(ที่มา:มติชนรายวัน 11 เมษายน 2558)
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ - มติชนรายวัน
คอลัมน์ คนกับหนังสือ
สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ