สดจากเยาวชน

เพื่อเสริมไอคิว ปลูกจินตนาการเด็กไทย และจุดประกายพ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยหนังสือ

มูลนิธิเอสซีจี เนรมิตสวนสาธารณะกลางเมืองให้เป็นโลกแห่งการอ่านที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แต่งแต้มความฝันของเด็กๆ ในยามเย็น ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนร่มรื่นใต้ต้นไม้ใหญ่ ปลุกจินตนาการให้โลดแล่น

 เพลินตาเพลินใจไปกับคาราวานหนังสือภาพชั้นดี และตัวละครจากโลกนิทานที่ออกมาสร้างความสนุก มอบความสุขให้คุณหนูๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ในงานเทศกาลนิทานในสวนระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม

ณ สวนสาธารณะในกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง คือ สวนลุมพินี สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวถึงการส่งเสริมให้ครอบครัวไทยใช้หนังสือภาพในการเลี้ยงลูกมากว่า 1 ทศวรรษว่า การเล่านิทาน อ่านหนังสือให้ลูกฟังสม่ำเสมอเป็นกระบวนการที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่ง ในการพัฒนาสมองและเตรียมความพร้อมของลูกน้อย

ในหนังสือภาพแทบทุกเล่มยังแฝงเรื่องคุณธรรมจริยธรรมซึ่งเป็นกลวิธีในการสอนให้เด็กๆ รู้จักถูก ผิด ดี ไม่ดี เด็กๆ จะค่อยๆ เรียนรู้ ซึมซับ และจดจำจากการฟังหรืออ่าน ช่วยกระตุ้นส่งเสริมให้เติบโตขึ้นเป็นคนเก่งและดี เป็นกำลังหลักของสังคม

"การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัยจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่เนื่องจากเด็กๆ ในวัยนี้ยังไม่สามารถอ่านหนังสือได้เอง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเด็กๆ กับหนังสือภาพเข้าไปด้วยกัน" สุวิมลกล่าว

ภายในงานมีคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองจูงลูกอุ้มหลานมานั่งฟังนิทาน อ่านหนังสือกันอย่างอบอุ่น พร้อมรับฟังคำแนะนำประสบการณ์การเล่านิทานจากผู้เชี่ยวชาญ และพูดคุยไขข้อข้องใจเรื่องการเลี้ยงลูกกับนักจิตวิทยาเด็ก

ร่วมด้วยกิจกรรมแสนสนุกสำหรับเด็กๆ อีกมากมาย อาทิ การแสดงละครนิทานที่คัดสรรมาสร้างความสุข กิจกรรมการเพนต์หน้าแต่งเติมให้คุณหนูๆ เป็นเจ้าหญิงหรือเหล่าฮีโร่ยอดมนุษย์ตามโลกแห่งจินตนาการ และกิจกรรมงานประดิษฐ์ที่ให้น้องๆ อวดฝีมือ

ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นักแปลหนังสือเด็กเจ้าของนามปากกาวินนี่ เดอะ ปุ๊ กล่าวถึงพลังการใช้หนังสือภาพเลี้ยงดูลูกน้อยว่า

การเล่านิทาน อ่านหนังสือให้เด็กฟัง จะทำให้เด็กๆ สนุกสนาน เพลิดเพลิน ทั้งยังเกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาตามมา เรื่องราวที่เล่าให้เด็กๆ ฟังควรจะช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจ กระตุ้นต่อมความคิด ความอยากรู้อยากเห็นของเขา

"วิธีง่ายๆ ในการเล่านิทาน อ่านหนังสือ คืออุ้มเด็กมานั่งตัก แล้วอ่านหนังสือให้เขาฟัง ทำให้เกิดการสัมผัส การเล่น เมื่อทำเป็นประจำจะทำให้ครอบครัวมีความใกล้ชิดอบอุ่นมากยิ่งขึ้น"

สำหรับครอบครัวพรเกษมสุข คุณแม่ณัฐวีณ์กล่าวถึงความประทับใจในการมาร่วมงานเป็นครั้งแรกว่า ตนเองเป็นคนรักการอ่าน อยากปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านด้วย พยายามไม่เลี้ยงลูกด้วยเทคโนโลยี ไม่ให้เขาอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไป

จึงเริ่มเล่านิทานอ่านหนังสือกับลูก โดยมากจะเลือกเป็นนิทานเพลง เพราะสามารถร้องด้วยกันได้ และนิทานผ้าเพราะน้องสามารถสัมผัสได้ และไม่ขาดง่าย โดยเลือกภาษาที่คล้องจองกัน

หลังจากเลี้ยงลูกด้วยหนังสือมาได้สักระยะก็พบว่าน้องมีพัฒนาการที่ดี ทั้งยังเริ่มหยิบหนังสือมาดูเอง คุณแม่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ทำให้เขาคุ้นเคยกับหนังสือ แม้ว่าเขายังอ่านหนังสือไม่ได้ก็ตาม

"วันนี้พาเขามางานเทศกาลนิทานในสวน สนุกมากค่ะ เพราะเป็นงานที่รวบรวมสิ่งดีๆ ไว้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ กิจกรรมประดิษฐ์ ละครนิทาน และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก เป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้รู้จักอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะใช้พัฒนาลูก

คือ หนังสือภาพที่ไม่เน้นตัวหนังสือเยอะๆ มีคำน้อย สัดส่วนของภาพมากกว่าตัวหนังสือ เพื่อที่เด็กจะได้ใช้จินตนาการของเขาเองคิดเรื่องราวตามภาพที่เห็น ทำให้สมองมีการพัฒนา ฝึกทักษะการจดจำ และการสังเกต เพราะเมื่อก่อนจะคิดว่าหนังสือต้องมีตัวหนังสือ มีภาษาเขียนเยอะ" คุณแม่ณัฐวีณ์บอกเล่า

การเล่านิทาน อ่านหนังสือให้ลูกฟังถือเป็นเครื่องมือที่ง่าย ถูกและดี เพียงวันละ 10-15 นาทีเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างให้เด็กๆ มีพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ จริยธรรมและคุณธรรม รวมถึงเป็นตัวเชื่อมความรัก ความผูกพัน ความอบอุ่นของครอบครัว

หน้า 24


ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

สดจากเยาวชน

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ  

Create Date : 26 มกราคม 2558
Last Update : 26 มกราคม 2558 10:55:46 น.		0 comments
Counter : 515 Pageviews.
Share Tweet