หลุยส์ วิตตอง เปิดตัว คอลเล็คชั่นซิตี้ไกด์เพื่อนคู่ใจนักเดินทางชาวเมืองที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบเจาะลึก โดยครั้งนี้ได้เพิ่มเมืองเบอร์ลิน อิสตันบูล มิลาน ริโอเดอจาเนโร สิงคโปร์ และ เซี่ยงไฮ้ อีกทั้งยังเผยโฉมใหม่ของกรุงปารีส ผ่านมุมมองของสถาปนิกชื่อดัง แฟร้งค์ เกห์รี่ (Frank Gehry)

สำหรับ หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ คอลเล็คชั่นนี้ยังคงความมีระดับและพรั่งพร้อมไปด้วยเนื้อหาที่ปรับให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบัน หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ ได้ตีพิมพ์เนื้อหาครอบคลุมเมืองสำคัญของโลกรวมทั้งสิ้น 21 เมือง

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 หลุยส์ วิตตอง ได้เปิดมุมมองที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวผ่าน หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนังสือที่บรรดาผู้หลงใหลในการเดินทางตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อทุกปี เนื่องจากเผยถึงแก่นแท้ในบุคลิกภาพของเมืองแต่ละเมือง ผ่านการบรรจงคัดสรรสถานที่มานำเสนออย่างพิถีพิถัน อันแสดงให้เห็นถึงความมีรสนิยมและความเชื่อมั่น

โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ได้มีการตีพิมพ์หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ ฉบับครบรอบ 15 ปี ด้วยการเดินทางครั้งใหม่ที่สะท้อนผ่านบทความแบบใหม่ ผู้เขียนหน้าใหม่ ตลอดจนการจัดวางเลย์เอาท์ที่ดูมีชีวิตชีวาและมีความสัมพันธ์กันมากขึ้น เช่นเดียวกันกับหลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ ฉบับประจำปีนี้

ที่ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตเพื่อให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสราวกับว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแต่ละเมืองในซิตี้ไกด์ชุดนี้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังสามารถหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่ต่างๆ ได้โดยง่าย ไม่ว่าจะกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่มุมไหนของเมืองก็ตาม

สำหรับเมืองใหม่ทั้ง 6 เมือง ที่รวมอยู่ในคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วย เบอร์ลิน อิสตันบูล มิลาน ริโอ-เดอจาเนโร เซี่ยงไฮ้ และ สิงคโปร์ และพิเศษสำหรับฉบับกรุงปารีสที่กลับมาในโฉมใหม่ โดยมีการเลือกสรรสถานที่ใหม่ๆ มาแนะนำให้รู้จัก พร้อมเดินชมเมืองไปด้วยกันกับ แฟร้งค์ เกห์รี่ สถาปนิกชื่อดังผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบพิพิธภัณฑ์ Foundation หลุยส์ วิตตอง

ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ในแต่ละปี หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ จะนำพาผู้อ่านเดินทางไปสำรวจที่จุดหมายปลายทางใหม่ๆ พร้อมทั้งเผยภาพของเมืองโปรดที่ตรึงตราอยู่ในใจของนักเดินทางมายาวนาน โดยแต่ละเมืองจะถูกนำเสนอเป็นชุดหนังสือแยกกัน

ซึ่งประกอบไปด้วยบรรดาภาพถ่ายที่สวยงามและสะท้อนลักษณะโดดเด่นเป็นพิเศษ ผู้อ่านจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ค้นพบการผสมผสานอย่างน่าอัศจรรย์ใจของสถานที่ต่างๆ อีกครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ก็คือส่วนผสมของความมีแบบแผนประเพณี กับ ความแปลกใหม่ หรือ ความคลาสสิก กับ ความล้ำยุค โดยสิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ คอลเล็คชั่นนี้ก็ว่าได้

หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ ได้ช่วยไขปริศนาของเมืองแต่ละเมือง เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ที่หลงใหลในการเดินทางที่ต่างสนใจในความเปลี่ยนแปลงของเมืองเป็นหลัก ตลอดจนมีความสนใจที่แปลกใหม่ในเรื่องแฟชั่น ดีไซน์ ศิลปะร่วมสมัย อาหาร และ วัฒนธรรม หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ อาศัยประโยชน์จากการมีทีมงานที่ประกอบด้วยนักหนังสือพิมพ์และผู้เขียนที่มีความหลากหลาย

ทั้งในเรื่องของภูมิหลัง และ ประเทศที่อาศัยอยู่ บรรดาผู้เขียนเหล่านี้ต่างแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน ผ่านการนำเสนอสถานที่ที่ผู้อ่านคาดไม่ถึง และ มักไม่มีนักท่องเที่ยวไปกัน ตลอดจนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับทุกแง่ทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโรงแรมที่หรูที่สุด ไปจนถึง ร้านชอคโกแลตรสเลิศที่สุด

หรือจากเรื่องร้านอาหารตามทาง ไปจนถึง บูติคสุดหรู หรือจากเรื่องคลับเทคโนแดนซ์ ไปจนถึง พิพิธภัณฑ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ในการเลือกนำเสนอสถานที่ต่างๆ หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นหลัก โดยมองข้ามเรื่องราคาหรือสถานที่ที่กำลังเป็นที่นิยม และด้วยการชี้นำเทรนด์พร้อมให้คำแนะนำที่ผู้อ่านไม่มีวันพบจากที่อื่นๆ

ทำให้หลุยส์ วิตตอง ซิตี้ไกด์ เหมาะสำหรับทั้งนักเดินทางที่มีเวลาท่องเที่ยว พอๆ กับนักธุรกิจที่เร่งรีบ หรือแม้กระทั่งสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นเลยด้วยซ้ำ