บันทึกชีวิต จากบอมเบย์ บีบี 2 .. ตอนที่ 4 ..
บันทึกนี้ เป็นแค่เพียงกล่องความทรงจำขนาดเล็กของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ บอมเบย์ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยรู้จัก แต่หลายคนอาจจะไม่เคยสัมผัสชีวิตและความรู้สึกของคนๆนี้ ทุกเรื่องราวที่ร้อยเรียงออกมาเป็นตัวอักษรนั้น
กลั่นออกมาจากความรู้สึกและเป็นสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตจริง
ช่วงชีวิตหนึ่งของคนนั้นสุดแสนจะสั้น แต่มีหลากหลายเรื่องราวที่เข้ามา
เพียงเวลาหนึ่งวันอาจจะเจอกับเหตุการณ์หลายสิ่งหลายอย่าง จนไม่อาจบันทึกได้ด้วยสมอง
การเขียนไดอารี่เป็นวิธีหนึ่งที่จะบันทึกความทรงจำได้เป็นอย่างดี หากวันใดย้อนกลับมาอ่าน คุณอาจจะมีรอยยิ้ม
หรืออาจมีน้ำตาเพื่อรำลึกถึงรอยอดีตเหล่านั้นก็เป็นได้
ตอนที่ 4 บันทึกเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2550
"น้อย...." พ่อเรียก
"ครับ" ผมรีบตอบด้วยอาการลุกลี้ลุกลน เพราะนานๆ ทีพ่อจะพูดสักครั้ง
พ่อมองตาฉันก่อนจะพูดต่อ
"ตอนเช้าปลุกพ่อหน่อยนะ พ่อเห็นพ่อนอนอยู่คนเดียว"
"ครับ.... แต่พ่อไม่ได้นอนอยู่คนเดียวนะ พวกเราอยู่กับพ่อตั้งหลายคน "
ฉันบอกผู้เป็นพ่ออย่างปลอบประโลม
ฉันไม่เคยนึกมาก่อนว่านี่จะเป็นประโยคสุดท้ายที่ฉันได้พูดกับพ่อ
พอพ่อพูดเสร็จพ่อก็นอนหลับโดยมีฉันหลับไหลอยู่ข้างกายท่าน
คืนนั้นฉันไม่น่าสะดุ้งตื่น เพราะหากฉันนอนหลับไปทั้งคืน
อย่างน้อยฉันก็จะได้อยู่กับพ่อนานที่สุด
23.45 น. ของคืนนั้นฉันสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกว่าจะมีไข้
ไม่อยากให้ร่างกายทรุดหนัก จึงขอตัวไปนอนอย่างเงียบๆ
ซึ่งตอนนั้นฉันได้ปล่อยให้พ่อนอนอยู่อย่างเดียวดายเหมือนที่พ่อบอกจริงๆ
แม้ว่าพี่สาวฉันจะเฝ้าพ่ออีกหลายคน
แต่ความเห็นแก่ตัวของฉันมันก็นำพาฉันไปพักผ่อนอย่างสบาย จนกระทั่งรุ่งเช้า ฉันสังเกตเห็นพ่อนอนหลับท่าเดิมไม่ยอมเปลี่ยนหลายชั่วโมง
แม่ได้บอกว่าพ่อหยุดพูดและนอนอย่างนี้ตั้งแต่ตอนตี 4
ถึงแม้ฉันเพียรพยายามปลุกพ่อตามคำขอ แต่ทุกอย่างก็ว่างเปล่า
จนพ่อจากไปเมื่อเวลา 19.17 น.ในค่ำของวันนั้น
ฉันเฝ้าสะท้อนนึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผ่านไปอย่างครุ่นคิด
และตรึกตรองถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างช้าๆ เพื่อที่จะจดบันทึกไว้ให้ได้เยอะที่สุด ในขณะที่ร่างกายฉันยังอ่อนแอ ฉันเฝ้านึกถึงพ่อและเพียรถามท่าน
จนได้คำตอบในค่ำคืนหนึ่ง
คืนนั้นฉันฝันเห็นพ่อมานั่งข้าง ๆ พ่อไม่ได้ผอมเหมือนครั้งสุดท้ายที่เห็น
กลับดูร่างกายแข็งแรงและมีความสุข พ่อจับแขนแล้วบอกฉันอย่างปลอบประโลมว่า
"อีกไม่นาน ลูกก็จะตายแล้วนะ"
ในฝัน ฉันมองพ่ออย่างเข้าใจและน้อมรับอย่างเข้มแข็ง
เพียงแต่ฉันยังมีคำถามว่าเวลาของฉันจะสิ้นลงอย่างที่พ่อบอกจริงหรือ
และถ้าหากเป็นจริง ฉันจะทำอย่างไรเพื่อให้ผู้เป็นแม่รับสภาพในการจากลาได้
ทั้งที่ในใจนั้นยินดี ที่ความทุกข์ในโลกมนุษย์จะสิ้นสุดลง

ฉันอดทนกับอาการเจ็บปวด
ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการเกิดอุบัติเหตุรถชนเมื่อ 3 - 4 ปีก่อน และการออกกำลังกาย
เมื่อพบแพทย์ฉันเพียงได้ทานยาแก้อักเสบเพื่อทุเลาอาการเท่านั้น
เช่นวันนี้ ฉันไม่สามารถลุกขึ้นมาช่วยงานพี่สาวได้
เพียงแต่นอนซมบนบ้านเพียงคนเดียว
ท่ามกลางเสียงอึกทึกของผู้คนที่มาช่วยงานและเตรียมการเก็บเถ้าอัฐิพ่อในวันรุ่งขึ้น
ฉันเฝ้ามองแม่เมื่อท่านถามว่าเป็นอะไร ฉันยิ้มและพูดจาตลกอย่างเคย
ผู้เป็นแม่ได้แต่อมยิ้มและกลับไป ด้วยท่านรู้ว่าฉันคงสบายดี
คืนนี้ฉันจะนอน เพื่อเฝ้ารอที่จะเห็นพ่ออีกครั้งในวันใหม่
แม้ว่าจะไม่ได้เห็นร่างกายพ่อเหมือนเคย
แต่เถ้ากระดูกพ่อคงจะโอบกอดฉัน เมื่อฉันได้สัมผัส
ฉันจะได้รับความห่วงใยอีกครั้ง
ฉันเพียรรอที่จะเห็นท่านเป็นครั้งสุดท้ายในวันพรุ่ง
cursor
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550 |
|
31 comments |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 7:48:07 น. |
Counter : 762 Pageviews. |
|
 |
|
ยังไงก็ยังเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอนะคะ