บันทึกชีวิต จากบอมเบย์ บีบี 2 .. ตอนที่ 3 ..
บันทึกนี้ เป็นแค่เพียงกล่องความทรงจำขนาดเล็กของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ บอมเบย์ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยรู้จัก แต่หลายคนอาจจะไม่เคยสัมผัสชีวิตและความรู้สึกของคนๆนี้ ทุกเรื่องราวที่ร้อยเรียงออกมาเป็นตัวอักษรนั้น
กลั่นออกมาจากความรู้สึกและเป็นสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตจริง
ช่วงชีวิตหนึ่งของคนนั้นสุดแสนจะสั้น แต่มีหลากหลายเรื่องราวที่เข้ามา
เพียงเวลาหนึ่งวันอาจจะเจอกับเหตุการณ์หลายสิ่งหลายอย่าง จนไม่อาจบันทึกได้ด้วยสมอง
การเขียนไดอารี่เป็นวิธีหนึ่งที่จะบันทึกความทรงจำได้เป็นอย่างดี หากวันใดย้อนกลับมาอ่าน คุณอาจจะมีรอยยิ้ม
หรืออาจมีน้ำตาเพื่อรำลึกถึงรอยอดีตเหล่านั้นก็เป็นได้
ตอนที่ 3 วันที่บันทึก 14 พฤศจิกายน 2550
กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งจากปล่องเผาศพ
เปรียบเสมือนจะปลดปล่อยความทุกข์ทั้งสิ้นทั้งปวงให้ผู้เป็นพ่อ
ท้องฟ้าเปิดสดใส บรรยากาศภายในวัดร่มเย็น
แดดทอแสงอ่อน ๆ มายังกลุ่มดินที่ผู้คนนับร้อยเหยียบย่าง
กลุ่มก้อนเมฆต่างเป็นใจเลื่อนถอย ไม่ให้ความมืดปกคลุม
ทุกอย่างต่างอวยพรให้ผู้จากลาไปสู่สุคติภพ
ดวงตาของฉันแห้งผาก เพราะความหมองหม่นได้ถูกชำระล้างด้วยน้ำตามานานหลายวัน
หากจิตใจยังไม่สามารถกลบความคิดถึงที่มีต่อพ่อได้อย่างสิ้นซาก
อาจหลงเหลือความอาลัยซ่อนในจิตใจลึกๆ
ซึ่งฉันหวังว่าสักวันสิ่งเหล่านี้จะเจือจางหายไป
ฉันไม่อาจอธิบายหรือบอกกล่าวอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่
วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2550
ร่างกายของพ่อได้ถูกนำส่งไปยังวัดในหมู่บ้าน
ฉันเดินนำโลงศพพ่อด้วยจิตใจที่สับสน เหมือนไม่อยากให้พ่อจากไปไหน
แต่ในมือคือเชือกสีขาวที่ฉันจูงลากขบวนศพพ่ออย่างไม่ยอมหันหลังกลับ
การก้าวย่างไม่มีเดินถอยหลังหรือหยุดชะงัก ขบวนพาเหรดที่นำทางบรรเลงเพลงช้า
แต่หาใช่ธรณีกรรแสงไม่ เพราะพ่อได้บอกไว้ล่วงหน้า
ดนตรีบรรเลงไปอย่างไม่มีเนื้อร้อง แต่มันกลับบรรยายภาพของพ่อได้เป็นอย่างดี
ทุกโน้ตดนตรีที่บรรเลง มีความสุขุม เหมือนนิสัยพ่อไม่มีผิด
แต่ถึงอย่างไรฉันก็ต้องลืมตาดูโลกแห่งความเป็นจริงอยู่ดี
ขณะนี้ร่างกายพ่ออาศัยอยู่ในหีบห่อศพ ฉันกำลังจะนำพ่อไปเผา
ต่อจากนี้ฉันจะไม่เห็นท่านอีกต่อไป....นี่คือความจริง
ฉันต้องยอมปราชัยในทุกสิ่งทุกอย่างที่หมุนเวียนเข้ามา
วันนี้ฉันใส่ชุดสีขาวก็จริง แต่ในใจกลับดำหม่น
และเพียงหวังว่าการไปของพ่อครานี้
จะนำพาจิตใจที่ใสสว่างของฉันกลับมา เมื่อเวลาล่วงผ่านไป
พิธีการดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ฉันตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อสบายใจและไม่ต้องเป็นห่วง
พี่น้องทุกคนร่วมมือกันเป็นอย่างดี หากแต่ผู้เป็นแม่กลับถูกห้ามมาร่วมพิธีเผาศพนี้
เพราะเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมานาน
ฉันกลับมองว่า การถูกห้ามในวาระสุดท้าย
คงเป็นสิ่งที่แสนเจ็บปวดสำหรับแม่มากกว่าการมาร่วมพิธี
พวกเราพร้อมใจกันส่งวิญญาณพ่อให้ดีที่สุด
ถึงแม้ว่าเราทุกคนจะได้ตกลงกันแล้วว่า จะส่งพ่อด้วยความเบิกบาน
หากฉันยังแลเห็นหยดน้ำตาที่หลั่งไหลจากดวงตาของพี่ชาย ซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ฉันหวังว่าต่อจากนี้พ่อจะสุขสบาย ส่วนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็คงต้องดูแลกันต่อไปให้ดีที่สุด
รอยยิ้มเศร้า ๆ ระบายบนใบหน้าฉันอีกครั้ง
ฉันเศร้าโศกกับพ่อจนลืมไปว่าฉันยังมีแม่ที่ฉันรักที่สุด
ฉันรีบเดินกลับบ้าน เพื่อไปหากล่องความรักอีกใบ
ฉันเอื้อมมือโอบกอดแม่เพื่อรับไออุ่นจากท่าน
พร้อมกับคำสัญญาที่เงียบกริบ ว่าต่อจากนี้ฉันจะดูแลท่านให้ดีที่สุด
......ฉันสัญญากับพ่อด้วยคำพูดที่เงียบงัน......
cursor
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550 |
|
19 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 7:56:06 น. |
Counter : 786 Pageviews. |
|
 |
|
มารายงานตัวจ้ะ คิดถึงยุ้ยที่ซู๊ด ไปดูแลบ้านให้พี่ตลอดเลย ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ตอนนี้ป๋าเป็นไงบ้าง หายเศร้าหรือยัง ยังไงคนเราก็ต้องมีวันนี้ทุกคนนะ