แผนปฐพี149

เหตุที่ระยะจากนี้ คือตั้งแต่ 23 มี.ค.2550 ไปจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แต่เฉพาะกลุ่ม"สมาพันธ์ต้านรัฐประหาร"ที่เป็นการรวมตัวกันของ 1.เครือข่าย 19 กันยาฯ ต้านรัฐประหารนำโดย "นายอุเชนทร์ เชียงแสน" "น.ส.ชนกาญจน์ พันธุ์เดิมวงศ์" 2.กลุ่มสมาพันธ์ระชาธิปไตย นำโดย นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ และ นพ.เหวง โตจิราการ 3.กลุ่มคนจนเมือง เพื่อประชาธิปไตย 4.กลุ่มพลเมืองวิวัฒน์ 5.มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย 6.กลุ่มกรรมกรเพื่อประชาธิปไตย 7.กลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 2540 และ 8.กลุ่มพิราบขาว 2006 ที่เคลื่อนไหวมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว(17-18มี.ค.)โดยพยายามบุกไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ของ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อทำพิธีตัดไม้ข่มนาม แต่ไม่สำเร็จโดยถูกเจ้าหน้าที่ขวางไม่ให้เข้าใกล้บ้านสี่เสาฯ ทำให้กลุ่มนี้ทำได้เพียงการหล่อเลี้ยงกระแสอยู่ตลอดเวลา


กระทั่งจนถึงวันศุกร์(23มี.ค.50)ที่ท้องสนามหลวง การเคลื่อนไหวของ พีทีวี สื่อทีวี นอกห้องส่ง ภายใต้การนำของ "วีระ มุสิกพงศ์" และพลพรรคไทยรักไทยบางส่วน ในฐานะผู้บริหาร พีทีวี.จัดตั้งเวทีใหญ่อลังการ จนดูหมือนเมื่อครั้ง "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย " ที่มีการรวมตัวกันของ "องค์กรภาคประชาชน " มาผนวกกับ "สื่อ" อย่าง "เครือผู้จัดการ" ของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ไม่ได้

ทั้งนี้ฝ่ายทหาร มีการระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีไม่ต่ำกว่า 14-15 กลุ่ม ทั้งที่สนับสนุน "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร", กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับนัยทางการเมือง, กลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตย และอาจมีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำเจ้าพระยา จ.อ่างทอง นำโดย"นายสุเทพ กาแก้ว" นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางเสด็จ มาเรียกร้องให้รัฐจ่ายค่าชดเชยปลาตายมากกว่าเดิม โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงคาดว่าค่ำวันศุกร์(23มี.ค.50)จะมีคนมาชุมนุมประมาณ 2,000-2,500 คน


ขณะที่ท่าทีของฝ่ายทหารก็มีความน่าสนใจติดตาม ไม่ว่าจะเป็น "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" ผบ.ทบ.ประธาน คมช.ที่มีการพูดถึงการใช้ "แผนปฐพี149" ที่เคยเตรียมใช้ในครั้งม็อบพันธมิตร ที่เป็นการสนธิกำลังของทหาร - ตำรวจ ในการจัดการกับฝูงชน ซึ่งอาจนำมาใช้ในครั้งนี้ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 1 "พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา" ก็พูดชัดว่าจะไม่ยอมให้ม็อบมีการเคลื่อนตัวบุกไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ เช่นเดียวกันกับกระทรวงมหาดไทยได้มีการสั่งสกัดไม่ให้ม็อบจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ

อย่าลืมว่า ประกาศ คปค.ฉบับที่ 17 และ 24 ที่ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมทางการเมืองนั้นยังคงอยู่และใช้การได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางฝ่าย คมช.ก็เคยออกมาระบุว่าจะบังคับใช้ประกาศดังกล่าวเพื่อไม่ให้มีการชุมนุมที่สนามหลวง แต่ก็ยังมีการมาชุมนุม แม้ว่า จะมี "เทศกิจ" ของ "กทม." ภายใต้ "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" พยายามจะเข้ามาช่วย "ขัดขวาง" การตั้ง "เวที" ของม็อบ แต่ก็ไม่เป็นผล

น่าสังเกตว่าม็อบของกลุ่มต่างๆที่มีการผสมผสานกันเวลานี้โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือต่อต้านคณะรัฐประหาร นั่นคือ คมช.และองค์ประกอบทั้งหมด นั้น ไม่ใช่เพิ่งจะมีการรวมตัว และคงไม่สามารถรวมตัวกันได้ติดแน่หากไม่มี "ปัจจัย" ที่ทำให้เกิดการรวมตัวกันได้ นั่นคือ "ภาวะความอึดอัด" กับสภาพที่เกิดขึ้นของบ้านเมืองหลังการรัฐประหาร โดยเฉพาะที่มี//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sunnews&group=7และการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆของ คณะรัฐมนตรี ที่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน และ "ล่าช้า" ทำให้เกิดผลเสียหาย ตั้งแต่ปัญหาน้ำท่วม-หมอกควันภาคเหนือ-น้ำเสียปลาตาย จนมาถึง มาตรการทางเศรษฐกิจกรณี 30 % ของ "หม่อมอุ๋ย" "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล" อดีตรมว.คลัง ที่ปรากฏผลแล้วว่า "เสีย" มากกว่า "ได้"

ทุกประการความเคลื่อนไหวของ "ม็อบ" กลุ่มต่างๆมีความน่าสนใจใน "จุดบรรจบ" นั่นคือการที่ "ทุกคน" "อึดอัด" กับ "ปัญหา" ที่กลุ่มตัวเองประสบอันส่งผลกระทบกับ "ปากท้องความเป็นอยู่" หลายกลุ่มมากขึ้นๆ ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจในระดับ "มหภาค" ก็ยังไม่มีอะไรบ่งชัดว่าจะไปอย่างไรข้างหน้า..กับรัฐบาล นอกจากการเฝ้าระวังกลัวโน่นกลัวนี่ว่าจะไปเกี่ยวข้องกับ "กลุ่มอำนาจเก่า" ฯลฯ

แต่ไม่มีใครอยากจะอะไรนอกจากพูดวิจารณ์กันเอง จนเมื่อมี "การนำ" เกิดขึ้น ทุกคนจึงพร้อมใจกันไหลมารวมตัวกันใน "จุดเดียวกัน" นั่นคือ ที่สนามหลวง นั่นคือการต่อต้านการรัฐประหาร "คมช." "รัฐบาล" ...ซึ่งก็คงเหมือนกับครั้งม็อบ ขับไล่ "ท้ า ก ....สิน ออกไป" ที่มี "ทักษิณ" เป็นโฟกัส มี "เผด็จการทุนนิยม-ประชานิยม" เป็น "ตัวตั้ง" ผิดแต่ครั้งนี้ มี "ขุนทหาร" ใน คมช. เป็น "โฟกัส" และมี "การขับไล่เผด็จการ" เป็น "ตัวตั้ง"

ผิดแต่ว่าครั้งก่อน เหตุผลในการ "รัฐประหาร" มาจากการที่ม็อบพันธมิตรไล่ "ทักษิณ" โดย "สนธิ ลิ้มทองกุล" เดินจากสนามหลวงไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ "ป๋าเปรม" (โดยไม่ถูกห้าม) และ ในห้วงก่อนวันที่ 19 ก.ย.49 มีรายงานว่า จะมีการก่อการจราจล "กลุ่มมวลชน" ของ "ทักษิณ" จน "พล.อ.สนธิ" นำมาอ้างในการทำปฏิวัติเพราะไม่ต้องการที่จะใช้แผน "ปฐพี149" กับประชาชนพันธมิตร หากแต่ใช้เป็น "รหัส" ในการปฏิวัติโค่น "ทักษิณ" แทน

ผิดตรงที่หนนี้ 6 เดือนต่อมา (มี.ค .พ.ศ.2550)คือ "แผนปฐพี 149" ในการรับมือ "ม็อบ" ได้ถูกเตรียมนำมาใช้หากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย โดยเฉพาะมี "ความเชื่อ" จาก คมช. ว่า "กลุ่มอำนาจเก่า" ได้ร่วมเดินเกม "มวลชน" ในครั้งนี้ เพื่อกดดัน คมช.-รัฐบาล ผ่านความพยายามพาดพิงโจมตี "พล.อ.เปรม" และจะเดินไปบ้านสี่เสาเทเวศร์(แต่ถูกขัดขวางจากทหาร)

เป็น "แผนปฐพี149" ที่น่าจะมีลักษณะวิธีการปฏิบัติตามยุทธการไม่ต่างไปจากเนื้อหาของ "แผนปฐพี149" ที่ครั้งนั้น(พ.ศ.2549) "พล.อ.สนธิ" เคยสั่งการให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกติดตามสถานการณ์การชุมนุมของ "กลุ่มพันธมิตร" อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยที่อยู่ใน กทม.ดูแลที่ตั้งของหน่วยตัวเอง โดยกองทัพบกยังคงใช้แผน "ปฐพี 149" 2 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ให้กำลังพลอยู่ประจำฐานที่ตั้งตามปกติ และขั้นที่ 2 ให้กำลังพลออกไปปฏิบัติภารกิจภายนอกที่ตั้งของหน่วย กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์หรือกลุ่มผู้ชุมนุมมีการพัฒนาใช้กำลังรุนแรงด้วยการทำลายอาคารสถานที่ต่างๆ

ผิดกันก็ตรงที่ ครั้งนี้ แม้ประธาน คมช.ที่ยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งรัฐบาลและจะไม่ปลด "นายกฯสุรยุทธ์" (ตอนนี้)และจะไม่เป็น "นายกฯ" (ขณะนี้)(ในการให้สัมภาษณ์ ช่อง3(23มี.ค.50))จะมองว่าเป็น "ม็อบจัดตั้ง" ไม่ใช่ประชาชนแท้ๆทั้งหมด สามารถจัดการให้เรียบร้อยโดยไม่มีปัญหาได้ไม่มีทางทำอะไรกับ คมช.-รัฐบาล ที่กำลัง "ทำงาน" ไปอย่างราบรื่นได้ แต่ก็ไม่ประมาทที่จะสกัดกั้นความเคลื่อนไหวที่พยายาม "ผสมโรง" ของกลุ่มต่างๆทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา

ทุกอย่างจากการสื่อสารจาก "พล.อ.สนธิ" ที่ดูเป็นภาพของความเรียบร้อยราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร..แม้จะมีม็อบจรดจ่อรอบด้าน..

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากังวล และฝ่ายเกี่ยวข้องควรช่วยกันระวังและรับมือคือ ข่าวความพยายามแทรกแซงของ "มือที่สาม-สี่" ที่มักเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งหากเป็น "เล็กๆน้อยๆ" ก็ไม่เป็นไร แต่หากว่า "ผู้กระทำ" ไม่ว่ากลุ่มใดก็ตามต้องการให้ประเด็นบานปลาย ไปสู่การปะทะกันของ "มวลชน" กับทหาร

แน่นอน "ผล" ของมัน โดยความรุนแรง ย่อมออกมาไม่สวยงามในความรู้สึกแน่ โดยเฉพาะ "ความรุนแรง" ที่ย่อมต้องมีระดับตั้งแต่ "บาดเจ็บ" ไปจนถึง "ล้มตาย" ..นี่คือสิ่งที่ทุกคนห่วงเหลือเกิน

จะอย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดแม้สถานการณ์จะดำเนินไปจนไปสิ้นสุดที่ลักษณะใดก็ตาม "ดอกไม้หลายสี" เพียงขอให้ทุกฝ่ายที่คิดหรือกำลังจะทำอะไรที่ "รุนแรง" ตั้งสติคิดถึงประโยชน์ชาติ-ประชาชน ลูก-หลาน เราในอนาคตเป็นที่ตั้ง อย่าทำให้บ้านเมืองต้อง ได้รับ "บาดแผล" มากมายไปกว่านี้อีกเลย..

Create Date : 23 มีนาคม 2550		4 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2550 0:46:12 น.
Counter : 779 Pageviews.
Share Tweet