BlogGang.com : : สุริยาอัสดง : ฤาจะ..กลียุค?

ฤาจะ..กลียุค?

น่าสนใจติดตาม สถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ห้วงที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย(28ก.พ.51)กระทั่งขออนุญาตศาล เดินทางออกไปต่างประเทศ (14มี.ค.51)

น่าสนใจ ในปรากฏการณ์ และ "สัญญาณ" มากมาย ที่ถูกส่งผ่าน "ตัวละคร" หลายตัว ที่ล้วนแล้วแต่เคยร่วมต่อสู้ และ สัประยุทธ์กันในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองห้วงปี 2548(ซึ่งต่อมาภายหลังมีการสังเคราะห์ออกมาว่า "คู่ความขัดแย้ง" ของสถานการณ์ ณ เวลานั้น คือ "ทุนใหม่" (ทักษิณ) กับ "ทุนเก่า" )ที่จบลงที่การ "รัฐประหาร" ยึดอำนาจ "รัฐบาลทักษิณ" และดำเนินผ่าน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) สู่รัฐบาล "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" กระทั่งมาบรรจบ ที่ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 การเลือกตั้งทั่วไป และรัฐบาล "สมัคร สุนทรเวช" ...

เป็น "รัฐบาลสมัคร 1" ที่มีความพิเศษทั้งเชิงสัญลักษณ์หลายประการ ที่ทำให้สถานการณ์ในห้วงการก่อเกิด(ประสาน 5 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล)เป็นไปอย่างทุลักทุเล..

เป็นความทุลักทุเล ที่บ่งชัดในหลายปรากฏการณ์ว่าเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับความเป็นมาและการเป็นอยู่เป็นไปของกลุ่มของ "ผู้คน" ทั้งฝ่ายการเมือง องค์กรรัฐ เอกชน และข้าราชการ ที่อยู่ในคณะ คมช.-รัฐบาลสุรยุทธ์

ดังนั้นอย่าได้แปลกใจกับอาการกระเพื่อม ที่มากกว่าระดับพื้นผิวน้ำธรรมดาจะเกิดขึ้นทันที หลังการเข้าบริหารจัดการกับ "กองกำลัง" สำคัญของ "อำนาจรัฐ" นั่นคือ" ข้าราชการ" ของ "รัฐบาลสมัคร 1" ที่แม้หลายฝ่ายจะคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะ "แปลงสัญญาณ" เหล่านี้ของ "รัฐบาล" ว่าเป็นการ "โครมคราม-ดุดัน" อย่างจงใจเกินไปหรือไม่..

เฉพาะยิ่งคำสั่งย้ายระลอกแรก ไล่ตั้งแต่รายของ "นายสุนัย มโนมัยอุดม" อธิบดี ดีเอสไอ ติดตามมาด้วย "ปราโมช" อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ "เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส" ผบ.ตร.ที่บังเอิญไปสอดรับเข้ากับห้วงเวลาที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" เดินทางกลับประเทศไทยพอดิบพอดี ที่ยังไม่นับรวมถึงกระทรวงสาธารณสุข แม้กระทั่งฝ่ายทหารในกองทัพ

ทำให้ไม่แปลกว่าฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ หรือฝั่งที่ "ไม่เอาทักษิณ" และไม่พิสมัยในพรรคพลังประชาชน และรัฐบาล "สมัคร 1" จะส่งสัญญาณต้านอย่างถ้วนทั่ว..

ว่าปรากฏการณ์ทั้งหลายเหล่านี้มีเงาทมิฬของ "ทักษิณ" เป็นผู้สั่งการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ในการให้พลพรรคจัดเครื่องเซ่นไหว้การกลับมายังแผ่นดินเกิดของเขาด้วยการ "เชือด" บรรดาผู้คนที่เคยอยู่ "ฝ่ายตรงข้าม" หรือเป็น "เครื่องไม้เครื่องมือ" ในการเล่นงานเขาและครอบครัวญาติมิตร ทั้งทางตรงทางอ้อมในขณะที่ต้องระเห็จอยู่ต่างแดนนานนับปี

เพราะไม่เพียงแต่ "สัญญาณ" แรงชัดใน "บทบาท" ของ "ทักษิณ" ต่อผู้คนแวดวงต่างๆโดยเฉพาะภาคการเมืองที่คล้ายถูก "แม่เหล็ก" ดูดเข้าไปหา "แกนขั้ว" ..ที่นำมาซึ่งวาทกรรม "1 ประเทศ 2 นายกฯ" ในห้วง 1-2 วันแรกหลังเหยียบแผ่นดินไทย แต่ในการ "ดำดิน" หายตัวของเขาด้วยเหตุผล "ความปลอดภัย" ก่อนจะโผล่ไปยังที่ต่างๆให้เป็น "ข่าว" (ประชุมสมาคมกอล์ฟ,พาครอบครัวทำบุญวัดสระเกศ (9มี.ค.),การเป็นประธานมูลนิธิไทยคม(10มี.ค.),การเตรียมไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือมหาวิทยาลัยต่างประเทศ)..ยังปรากฏการณ์ไปให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศอย่าง นิตยสาร ไฟแนนเชียลไทม์(4มี.ค.51) โจมตี คณะรัฐประหาร ภายใต้ พาดหัว ที่ว่า "Thai image harmed by coup" ซึ่งระบุว่า การปฏิวัติรัฐประหารของกองทัพเมื่อปีที่แล้วทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาของนักลงทุนชาวต่างประเทศจากทั่วโลก

นี่เองจึงนับว่าเข้าสู่ "เงื่อนไข" ที่ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" หลังการฟื้นคืนชีพเคยประกาศไว้ ก่อนวันที่ "ทักษิณ" จะกลับมา..ว่าจะเคลื่อนไหว หากมีสถานการณ์ถัดไปในท่วงทำนองที่จะกระทบต่อบ้านเมือง(ที่ก็บังเอิญเช่นกันกับการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์รถถังในห้วงก่อน(26ก.พ.)และในวัน(28ก.พ.)ที่ "ทักษิณ" กลับมาประเทศไทย)

นี่เองจึงทำให้ "พันธมิตร" พอจะมีเงื่อนไข ในการออกมาประกาศการเตรียมการเคลื่อนไหวใหญ่ โดยการส่งสัญญาณ แปลงค่าสถานการณ์บ้านเมืองหลัง "ทักษิณ" กลับ ผ่านวาทกรรม "กลียุค" ก่อนจะมีการสังเคราะห์และฟันธงกำหนดวันเคลื่อนไหวให้ความรู้กับประชาชน "นัดแรก" ภายใต้ภารกิจ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ที่ หอประชุม มธ.(28มี.ค.51)โดย "ธง" ที่ตั้งคือ "ทักษิณ" ยังคงเป็นปัญหากับประเทศไทย.. ที่ดูจะสอดรับกับการกระเพื่อมของเครือข่ายพันธมิตรทางภาคใต้..และการเคลื่อนขยับของแม่ทัพนายกองของกองพลต่างๆที่ปราจีนบุรี(5มี.ค.) ในลักษณะ "ตีคู่" ไปกับการเตรียม "โผ" แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปี ที่ "สมัคร" ในฐานะ "รมว.กลาโหม" 1ใน 7 อรหันต์ ตาม พ.ร.บ.การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ขีดเส้นไว้ในการสรุปจากกองทัพ (15มี.ค.)ที่ปรากฏเสียงแว่วถึงการกลับมาของนายทหารใน ตท.10 หลายคน รวมไปถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ "ทักษิณ" ที่จะกลับเข้ามาในไลน์อำนาจ คุมกำลังของ 4 เหล่า 3 ทัพ

ที่ก็บังเอิญอีกเช่นกันกับการเคลื่อนตัวของ "หมอชนบท" เพื่อแสดงความไม่พอใจกับการย้ายข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขโดยเจ้ากระทรวง "ไชยา สะสมทรัพย์" ..รวมไปถึงการเคลื่อนตัวของกลุ่มNGO (ภายใต้การหนุนหลังของ "ทุนอนุรักษ์" )ที่คัดค้านกรณีนโยบาย CL ยา ของ รมว.สาธารณสุข รวมไปถึง การขยับตัวของ "กลุ่มเพือนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" และการเคลื่อนตัวของบรรดาแม่ทัพนายกอง ขุนทหาร ที่อยู่ในวง "อำนาจ" เดิมของ คมช. ที่ก่อนหน้านั้นก็มีการออกมา "รับลูก" การ "ไฟเขียว" อย่างมี "นัย" ของ "นายกสมัคร" ในการให้ "ข้าราชการ" ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโยกย้ายในห้วงรัฐบาล "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" ที่อยู่และมาจากอำนาจของ "คมช."

อย่าลืมว่า ก่อนหน้าที่ "ทักษิณ" จะกลับมา..ภายใต้ "สัญญาณ" ที่แรงชัดจากการเดินทางไปยังประเทศจีนของใครต่อใครก่อนหน้านั้น รวมถึง "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ประธานรัฐสภาฯ ที่อยู่ในห้วงคดีที่ กกต.เตรียมแจก "ใบแดง" จากผลของการเคลื่อนไหวในห้วงการเลือกตั้ง ที่ผ่านมา..ก็มีปรากฏการณ์ที่สร้างให้เกิดการ "แกว่ง" ความมั่นใจในการเดินทางกลับมาสู้คดี ของ "ทักษิณ" มาแล้ว กับการที่ถึงที่สุด กกต.ก็มีมติ 3 : 1 : 1 ให้ "ใบแดง" กับ "ยงยุทธ" จนเจ้าตัวต้องแสดงสปิริต "ยุติบทบาท" การเป็น "ประธานสภา" ชั่วคราว พร้อมๆกับการ "ทิ้งทุ่น" ไปถึง "ผู้คน" ที่เกี่ยวข้องในขบวนการ "กล่าวหา" โดยการ "จัดฉาก" ที่มีชื่อของ นายทหารและนายตำรวจ 2 พี่น้องที่ชื่อ "ส.เสือ" เหมือนกัน(ที่มีบทบาทในพื้นที่บุรีรัมย์ด้วย) เข้ามาเกี่ยวข้อง (ซึ่งทั้ง 2 คน ก็อยู่ในข่ายที่คาดหมายว่าจะถูกโยกย้ายด้วย)

ถัดเนื่องมาไม่นับ "สัญญาณแปร่งๆ" กรณีการสั่งให้ มีการรื้อ "คดีเพชรซาอุฯ" ..และไม่รวม การปลุกประเด็น "กาสิโน" (จะด้วยเหตุผลเพื่อกลบกระแสร้อนแรงการโยกย้ายข้าราชการหรือกระแสต้านทักษิณหรือไม่ก็ตาม)..กลับมีความน่าสนใจในปรากฏการณ์ "ส่งสัญญาณ" ที่สอดรับกัน จากผู้คนใน พรรคประชาธิปัตย์และ "พันธมิตร" กับพอยท์ของคำว่า "กลียุค" ที่แถลงผ่าน แกนนำพันธมิตร (ที่ระยะต่อมามีการระบุว่าเป็นสัญญาณกร้าวจากพันธมิตรหลังหลายคดีในชั้นศาลของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" มีอันต้องทำให้เขาผิดหวัง)

เฉพาะยิ่ง "สัญญาณ" ดักคอ "สมัคร" ทำนองเตือนว่า "อย่าแทรกแซงศาล" ก่อนที่ คตส.จะมีการยื่นฟ้องคดี "หวยบนดิน" (10มี.ค.)ที่มีผู้คนในรัฐบาลทักษิณเดิมเกี่ยวข้อง(น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลังปัจจุบัน)โยงใยไปถึงบรรดาข้าราชการ ที่ปัจจุบันก็ยังมี "บทบาท" ในกระทรวงการคลัง..พร้อมๆกับ "สัญญาณ" จาก "น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ" ต่อการขออนุญาตศาลเดินทางไปต่างประเทศของ "ทักษิณ" ในวันที่ 13มี.ค.ว่า "ทักษิณจะหนีไปลี้ภัยการเมือง" ในต่างประเทศ

ไม่แปลกที่ "ผล" แห่งการยื่นฟ้องเองของ คตส.โดยไม่ผ่าน "อัยการ" จะถูกตีความไปต่างๆนานา ทั้งทางด้านกฎหมาย และทางด้านผลกระทบทางการเมือง โดยเฉพาะกับ "บทบาท" ของบรรดา รัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน และรวมถึงบรรดาข้าราชการในกระทรวงการคลัง ที่ถูกระบุว่า "เกี่ยวข้อง" ที่จะต้อง "ยุติลง" เลยหรือไม่ ...ขณะเดียวกันก็โทษไม่ได้ที่จะมีอีกฝ่ายวิเคราะห์ว่า "ผลกระทบ" หรือปัจจัยเหตุที่นำมาซึ่งการนี้ นอกเหนือไปจากการ "เร่งเร้าสถานการณ์" ไปสู่ "เงื่อนไข" บางอย่างแล้ว ยังมี "นัย" ความหมาย ในการ "ปกป้อง" และ "ป้องกัน" ที่เกี่ยวพันไปถึง "นายทหาร" กลุ่มหนึ่งที่เคยเข้าไปเป็นบอร์ดการท่าอากาศยาน(ทอท.)จากการที่ กลุ่มคน ที่อยู่ในข่ายคดี ไล่ตั้งแต่นักการเมืองไปถึงข้าราชการประจำ กำลังจะเข้าไปเป็น "บอร์ด" และเตรียมที่จะ "รื้อฟื้น" บางเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้นในห้วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา หรือไม่ ?

สัญญาณเร้า เหล่านี้ น่าสนใจที่เกิดขึ้นในระยะการ "เปลี่ยนผ่าน" ของบรรดาองค์กร "ตรวจสอบ" อำนาจรัฐ อย่าง วุฒิสภา(ที่มีส่วนผสมครึ่งๆระหว่างเลือกตั้งกับสรรหา),หรือแม้กระทั่ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ..ขณะเดียวกันภายใต้ความพยายาม "บล็อค" กลุ่มอำนาจเก่า(ทักษิณ)ในทุกด้าน ก็ต้องเผชิญกับ "สัญญาณต้าน" จากทั้งภายใน(อำนาจรัฐ)และ "ภายนอก" (มวลชน)..

ภายใต้ความสับสน เหล่านี้ กับ "สัญญาณ" ความวุ่นวาย หากสถานการณ์ที่อยู่นอกการ "ควบคุม" ของอำนาจรัฐปัจจุบัน จาก "อำนาจ" และ "กองกำลังแฝง" ที่แปลงสภาพมาจาก "กองกำลังอำนาจรัฐ" เดิมของ คมช.นี้เองที่ หากสภาพที่ฝ่ายปฏิบัติการเชื่อว่า "สุกงอม" แล้ว ทำการเคลื่อนตัวเพื่อเกิด "เงื่อนไข" ..และติดตามมาด้วยการขยับของกองทัพ... แต่ในขณะที่ผู้กุมสภาพ "อำนาจรัฐ" และ "มวลชน" (ที่ยังภักดีกับ"ทักษิณ"และไทยรักไทยผ่าน พลังประชาชน) อย่าง "สมัคร" ทำให้ผู้คนเห็นได้ว่า สถานการณ์ที่ต้องฟื้นสภาพประเทศ(เศรษฐกิจ,สังคม,การเมือง)หลังหยุดชะงักจากรัฐประหาร ควรปฏิเสธ ต่อทุกปรากฏการณ์ทางทหารที่ทำต่อการเมือง (ดังที่ พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.มักนำมาเป็นเหตุผลเสมอให้ทหารกลับเข้ากรมกอง)...และหากว่า "ผู้คน" (มวลชน)เหล่านี้ จะเกิดการ "ต่อต้าน" กับใครก็ตามที่ทำให้ บ้านเมืองกลับไปสู่ สถานการณ์เดิม(19ก.ย.49)..โดยพร้อมเผชิญกับ "ผู้คน" (มวลชน)อีกฟากข้าง(ฝ่ายไม่เอาทักษิณ)..และหากว่าสถานการณ์เหล่านี้บานปลายไปสู่ความรุนแรง(โดยกองกำลังทหารหรือกองกำลังใดก็ตาม) และการแตกร้าวอีกครั้ง(กว่าเดิม-เพราะจะผสมไปด้วยความโกรธแค้นในระดับของการแบ่งชนชั้น)ของสังคมในภาวะถดถอยซ้ำของประเทศ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่ประชาชนจะยึดถือทั้ง "อำนาจรัฐ" ที่ประกอบไปด้วย 3 อำนาจอธิปไตย บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ

...อะไรจะเกิดขึ้นถัดต่อไป ถ้าไม่ใช่.. "กลียุค" ดังที่ "พันธมิตร" ทำนายไว้แล้วล่วงหน้า.

จาก คอลัมน์:ดอกไม้หลายสี โดย ศักดา จิวัธยากูล 12 มีนาคม 2551

Create Date : 23 เมษายน 2551

Last Update : 23 เมษายน 2551 22:13:14 น.

0 comments

Counter : 421 Pageviews.