แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
27 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

Miracle at St. Anna (2008):World War II has its heroes and its miracles.

Film ไม่ได้สื่ออัศจรรย์ Miracle ตามความหมายของชื่อหนัง .................

มันคือความอ่อนแอของพันธนาการ นั้นคือระหว่าง ทหารผิวดำ และชุมชนในหมู่บ้านของอิตาลี

แต่ มันเกี่ยวกับความเป็นจริงของมนุษย์ที่อยู่บนโลก กับการไต่สวนไปสู่ความตาย มันคือ หน้าที่ มิตรภาพ และ เกียรติยศ

อะไรละที่เราต้องการจากหนังสงคราม ........กะแค่นี้งะ


Miracle at St. Anna (2008) Trailer




“Miracle at St. Anna,” กำกับโดย Spike Lee และ สร้างจากนวนิยาย เขียนโดย James McBride



Source ://img.textbookx.com/images/large/0X/006009320X.jpg

มันไม่น่าแปลกใจที่ “Miracle at St. Anna” คือศิลปะการสอนใจของFilm ที่ล้าสมัย กับการเหยียดผิว ระหว่างเชื้อชาติ ความยุติธรรม แต่ถ้าคุณชักสนใจลองเปิดตาเปิดใจ ระลึกถึงอดีต เสรีภาพ และประชาธิปไตย การคุกคามเกี่ยวกับมนุษย์ถึงอาการปางตาย ในอุดมคติของ ฮิตเลอร์ กับความไร้หัวใจ ดูถูกเหยียดหยาม ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ความทอแสงสว่างไสว ที่มีอุปสรรคและเจ็บปวด



ลีนึกยังไงกำกับหนังเรื่องนี้ กับการพัฒนาตัวตนของเค้าเหรอ มันแตกต่างจากหนังที่เค้ากำกับอย่างสิ้นเชิง

กับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่าง Train กับ Angelo มันคือพื้นฐานสำคัญที่สุดของผู้กำกับลี ที่ต้องการสื่อให้เห็น การทรยศของพวกอิตาลีหัวรุนแรง (พวก แนวมุสโสลินีอะ) กับสมรภูมิรบที่หน้าตื่นเต้น



กับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ ในหมู่บ้านของโบส์ถ St. Anna di Stazzema ใน เมือง Tuscany เดือน August ปี 1944 Sant'Anna di Stazzema จากการสังหารหมู่ ของหน่วย the Waffen-SS ของกลุ่มพวกหัวรุนแรง ในอิตาลี และมีการกล่าวถึง หัวรูปแกะสลักจากโบส์ถ Ponte Santa Trinita ในเมืองฟอร์เรนต์ มันคือกลไกของหนังที่ตีแผ่ออกมา



กับประสบการณ์การรบของทหารหน่วยอเมริกันที่ลือชื่อคือ หน่วย บัพฟาโรว์ กองที่ 92 ในอิตาลีช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

มันคือ เรื่องราวของทหารอเมริกันสี่คน ได้นำคนในหมู่บ้านอพยพ ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงของอิตาลี และ เด็กชายอิตาลีเป็นการเผชิญหน้ากันของอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น เค้าได้ช่วยชีวิตทหารอเมริกันผิวดำคนหนึ่ง เป็นไปได้ที่อัศจรรย์เหล่านี้ มันเกิดขึ้นจริง ในชีวิตประจำวันของพวกเค้าเอง


เกี่ยวกับโบส์ถ Sant'Anna di Stazzema


The tiny church at Sant'Anna di Stazzema.
Source ://www.thecielobook.com/SantChurch-W300x368.jpg

SANT'ANNA DI STAZZEMA 12 AGOSTO 1944


Source ://www.eccidi1943-44.toscana.it/stampa/gente_040401/a_02.jpg


คือโบส์ถเล็กๆๆ Sant'Anna di Stazzema and the Vergin Mary. บนเนินเขาของเมือง Tuscany สถานที่รอบๆเป็นกำแพงเมือง ประกอบไปด้วยหมู่บ้านกระจัดกระจาย บนเนินเขา ตั้งอยู่ใน the Apuan Alps near ใกล้ๆกับทางตะวันตกของชายฝั่งอิตาลี ทางตอนเหนือของ Pietrasanta

ในเดือน August 12, 1944 หมู่บ้านได้ประสบความทุข์ของการสังหารหมู่, การฆ่าคนจำนวนมากๆ อย่างทารุณ ด้วยเมือของทหารเยอรมัน ในอิตาลี ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
มันเริ่มตอนเช้ามืดหน่วยกองทัพ SS จู่โจมเข้ามาที่บ้านและเผาฆ่าอย่างทารุณแม้กระทั้งคนแก่ ผู้หญิง เด็กๆ รวมทั้งวัวควาย และมันมันถูกเผาผลาญท่ามกลางกองไฟ พวกเขานำพลเมือง 30 คน ไปที่คอกม้าและโยนระเบิดใส่เข้าไปข้างใน ผู้หญิงที่กำลังให้กำเนิดบุตรกำลังอยู่ในบ้าน พอพวกนาซีเข้ามา พวกนาซียิงเธอ และฉีกเด็กแรกเกิดออกจากท้องผู้หญิง


Sant’Anna Stazzema
source ://ww2panorama.org/images/168.jpg

พลเมืองประมาณ 140 คนเข้าไปในโบส์ถ บาทหลวงคุณพ่อผู้ดูแล คือ Father Innocenzo Lazzeri พวกเค้าทั้งหมดถูกฆ่า รวมถึงบาทหลวงคุณพ่อด้วย ต่อจากนั้น พวกนาซีดึงที่นั่งของโบส์ทั้งหมดมาทับกับกองศพและเผา


Source ://memoriastorica.files.wordpress.com/2008/03/stazzema.jpg


Source ://www.prato.linux.it/~lmasetti/antiwarsongs/img/upl/stazzema.jpg
Source ://memoriastorica.files.wordpress.com/2008/03/stazzema.jpg

พลเมืองประมาณ 560 คนถูกฆ่าอย่างทารุณโดยพวกหัวรุนแรง หลังจากนั้น พวกเยอรมันได้ยึดพื้นที่นี้ และร้องรำทำเพลง เป่า ฮาโมนิกา

เมื่อพวกหัวรุนแรงปล่อยข่าวนี้ออกไป พลเมืองส่วนหนึ่งของอิตาลีไม่เพียงแค่โกรธและ หวาดกลัว แต่พวกเค้าตกตะลึงกับการกระทำครั้งนี้ด้วย บทยอดเขาของโบส์ถ Sant'Anna ซึ่งเข้าไปไม่ถึงเป็นป่าและเป็นที่ปลอดภัยของสรวงสวรรค์(เปรียบเทียบอะ)พลเมืองผู้อพยพหลายร้อยคนได้หนีมาอยู่ที่นี้ และมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 400 คน

Mauro Pieri ได้หลบหนีพร้อมกับครอบครัวของเขาและเพื่อนบ้านของเค้าได้ถูกฆ่า กองทัพของกลุ่มสัมพันธมิตรได้เคลื่อนทัพมา จากทางตอนใต้ของอิตาลี ตอนใกล้ๆสิ้นสุดของสงคราม กองทัพเยอรมัน ในเวลานั้นสู้รบอยู่ทางตอนเหนือซึ่งเรียกพวกเขาเหล่านั้นว่า Gothic Line นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าการสังหารที่โหดเหี้ยมนี้เป็นการช่วยให้พวกพวกชาวอิตาลีที่หัวรุนแรงก่อวินาศกรรมการยึดครองของเยอรมัน หลายๆคนเชื่อว่า กองทัพเยอรมัน การโจมตีอย่างรุนแรงนี้ มันคือ นโยบายทางการเมืองที่ปรกติในเรื่องของการข่มขวัญ

ในเดือน September 1944 คณะกรรมการ กลุ่มสัมพันธมิตรสืบสวนความจริงมันคืออาชญากรรมทางสงคราม แต่ ซึ่งอธิบายไม่ได้ระบุวันที่ ว่าพวกหัวรุนแรงได้ทำผิด มันเป็นการสัมภาษณ์เพียงเล็กน้อยผ่านทหารเยอรมัน ผู้ซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และกับบาทหลวงคุณพ่อซึ่งมีชีวิตอยู่หลังจากนั้น อย่างไม่น่าเชื่อ การเพิกเฉย ในความเป็นจริงของเหยื่อสงคราม ไม่ว่าผู้หญิงและเด็ก มันสรุปว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอย่างไรกะตาม พวกหัวรุนแรงภายใต้การนำของ อาชญากรสงคราม


Nella foto una delle fucilazioni avvenute a Sant'Anna di Stazzema
Source ://www.rainews24.rai.it/ran24/immagini/Sant'Anna_Stazzema.jpg

เยอรมันได้ทำลายต่อเนื่องไปจนถึงทางตอนเหนือของอิตาลี อังกฤษ และอเมริกาใช้กลยุทธิ์ เข้าตี กับความรุนแรงในหมู่บ้านอื่นๆ และจากเดือน September 29 ไปจนถึง October 1, 1944 พวกหัวรุนแรงที่เลวที่สุดในสงครามคือพวก SS เข้าตีอย่างหนักที่ พื้นที่ the Monte Soleทางตอนใต้ของ Bologna, ได้สังหารผู้คนไป 1,830 คน ผู้หญิงและเด็กถูกเผา และบ้านเรือนถูกเผาไป 420หลังคาเรือน

เพียงแค่คู่สามีภารยาอาศัยอยู่ใน Sant'Anna ตอนนี้แต่หนึ่งในนั้นของทุกๆๆคนมีประสบการณ์จากเหตุการณ์นี้ Enio Mancini เค้ามีอายุแค่ 6 ปี แต่เค้าจำได้ว่าเค้ามีชีวิตรอดโดยทหารเยอรมัน ผู้ซึ่งบอกเค้าและครอบครัวให้เข้าไปใน โรงฟืน ตอนนี้เค้าเป็นผู้รับผิดชอบของพิพิธภันธ์ ของเหยื่อความโหดร้ายเหตุการณ์นี้ที่โรงเรียนของหมู่บ้าน สถานที่เป็นอนุสรณ์ที่ใหญ่โตได้ถูกสร้าง มันยังคงเป็นที่เตือนความทรงจำของเหยื่อสงคราม


Mauro Pieri escaped from a stable where his family and others were killed.
Source ://www.thecielobook.com/Stable-W300x441.jpg

หนึ่งในเรื่องแปลกใจในปีต่อมา ทำไมพวกหัวรุนแรงคือ พวกอิตาลี แผนการลับ สมมุติฐานนี้เกิดขึ้นโดยชาวอิตาลีผู้มีอำนาจ และเอกสารเหล่านี้ได้สูญหายไป เพราะอิตาลีไม่ต้องการออกหน้าในระบบของฟรานซิส (และมุสโสรินี ปฎิบัติต่อชาวยิว )และไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์กับเยอรมันนี รายงานกว่า 700ฉบับเกี่ยวกับพวกหัวรุนแรง ไม่เคยถูกค้นพบ จนกระทั้งในปี 1994 พวกเค้าพบมันในศาลทหารที่โรม และกะเก็บไว้ในลิ้นชักติดกับกำแพง

ในปี 2004 กองทัพอิตาลีเริ่มสอบสวนอีกครั้ง จากทหารนาซีเก่าผู้ปฎิวัติในพวกหัวรุนแรง หลังจากความล่าช้าหลายๆๆครั้ง ศาลยุติธรรม ในฤดูร้อน ปี 2005 ตัดสินว่าทหารได้ทำผิด โดยการไตร่ตรองล่วงหน้าในการสังหาร และนำพวกเค้าไปจองจำ guilty of premeditated murder ทหารผู้นี้ตอนนี้อายุ 80 และไม่มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน คำพิพากษาสุดท้าย คำนึงถึงเพียงแค่ชัยชนะทางมโนธรรม


Source ://www.thecielobook.com/SantMemorial-W.gif
The memorial to the 560 victims of the Nazi massacre.

Una mattina di agosto - La strage di Sant'Anna di Stazzema


12-8-1944, part 1/2 (english subtitles)


12-8-1944, part 2/2 (english subtitles)



ปล Filmเรื่องนี้ยังมะได้ดูงะ แฮะแฮะ เห็นเป็นประวัติศาสตร์ ค้นหาข้อมูลก่อง ชอบอะ
Source ://movies.yahoo.com/movie/1809947151/photo/stills
//www.thecielobook.com/sant.php




 

Create Date : 27 กันยายน 2551
2 comments
Last Update : 27 กันยายน 2551 12:26:21 น.
Counter : 2919 Pageviews.

 

สไปท์ ลี ถนัดเรื่องคนผิวสีกับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์อยู่แล้วล่ะแบร์

หนังคงสื่อถึงความแปลกแยกและเหยียดผิวเหยียดชาติพันธ์ได้อย่างดีเลยนะฮะ

 

โดย: mr.cozy 27 กันยายน 2551 14:11:30 น.  

 

สไปท์ ลี ถนัดเรื่องคนผิวสีกับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์อยู่แล้วล่ะแบร์

หนังคงสื่อถึงความแปลกแยกและเหยียดผิวเหยียดชาติพันธ์ได้อย่างดีเลยนะฮะ



โดย: mr.cozy วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:14:11:30 น.


ตอบ ขอบพระคุณที่เสริมให้ค่ะ เรากะไม่ค่อยรู้เรื่องผู้กำกับมากนักงะ
เรากะเลยงงว่า สไปร์ลี ต้องการสื่ออะไร ทำไมทำหนังสงครามม อ่า แนวหนังสงคราม อ่า

 

โดย: Bernadette 27 กันยายน 2551 14:52:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.