Bloggang.com : : Bernadette : Ben-Hur (1959):Novel A Tale of the Christ (1880)

Ben-Hur (1959):Novel A Tale of the Christ (1880)

Ben-Hur หรือ Benhur) กำกับโดย William Wyler และสร้างจากบทที่สามของนวนิยาย A Tale of the Christ (1880) เขียนโดย Lew Wallace's ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Loews Theater ใน New York City November 18, 1959 กะได้ 11 อคาเดมี อวอร์ต

Ben-Hur (1959) Trailer

Source ://z.about.com/d/classicfilm/1/0/Y/4/-/-/Ben_Hur.jpg

ฉากแรกกล่าวถึงเรื่องราวกำเนิดพระเยซู 26 ปีต่อมา ยูดาร์ เบนเฮอร์ ผู้ร่ำรวยจากการค้าขาย สายเลือดตะกูลสูงศักดิ์ในเยรูซาเร็ม เมื่อปีก่อน การมาถึงของรัฐบาลใหม่ เบนเฮอร์ซึ่งยังเด็ก และเพื่อนเมซาลา และเมซาลาเป็นนักสิทธิมนุษยชน กับการมาถึงของกองทัพโรมันรักษาการ

เป็นครั้งแรกที่เบนเฮอร์และเมซาลามีความสุขที่พบหลายปีหลังจากนั้น พวกเขาพบกับความแตกต่างทางการเมือง ในทัศนคติที่พวกเขาเห็นมัน เมซาลาเชื่อในอำนาจความรุ่งโรจน์ของโลกอาณาจักรโรม ขณะที่เบนเฮอร์มีความคิดเห็นที่แตกต่างเชื่อในความศัทธาของชาวยิว เมซาลาถามเบนเฮอร์ให้ระมัดระวังคนของประเทศเบนเฮอร์เกี่ยวกับกันต่อต้านโรมัน การปฎิวัติ หรือ การวิจารณ์รัฐบาลของโรม เบนเฮอร์ ปฎิเสธไม่เห็นด้วย ทำให้เค้าทั้งสองโกรธกัน

ครอบครัวของเบนเฮอร์มีทาสสองคน ซีโมนเดส และลูกสาวคือ อีสเตอร์ ผู้ซึ่ง เตรียมแต่งงาน กับเบนเฮอร์และให้อิสระแก่เธอคือการแต่งงาน

ระหว่างช่วงต้อนรับขบวนพาเรด กองทัพของโรม เกิดอุบัติเหตุขึ้น เมซาลารู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ กล่าวลงโทษเบนเฮอร์ว่าผิด ให้เป็นทาสแจวเรือ และ ขับมีเรียมและทิสาสแม่และน้องสาวเบนเฮอร์ เข้าจองจำเพื่อที่จะข่มขู่ความดื้อรั้นประชากรชาวยิวที่หัวแข็ง โดยการลงโทษ ครอบครัวและเพื่อนพ้องของชาว

เบนเฮอร์สาบานที่จะกลับมาและแก้แค้น เมื่อกลุ่มทาสมาถึงนาซาเร็ท เบนเฮอร์ล้มป่วย เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะในเส้นทางเดินเรือเบนเฮอร์ปฎิเสธที่จะกินน้ำ เบนเฮอร์ไม่รู้ว่าพระเยซูคริสให้น้ำกินแก่เบนเฮอร์ และ แรงบันดาลใจแห่งความรอด

Ben Hur meets Jesus

หลังจากนั้นสามปีต่อมา ทาสฝีพายเรือซึ่งเบนเฮอร์ได้รับปฎิบัติหน้าที่โดยมี ผู้บังคับกองเรือ ของ Quintus Arrius อาณาจักรส่งไปปล้นสะดมห์ทำลายชาวเมสะโดเนีย เบนเฮอร์ได้ตำแหน่งใหม่เป็นผู้นำทัพ เค้าตกลงใจเพื่อความอยู่รอด แม้ว่าเค้าปฎิเสธ การเสนอโดยการโยกย้ายของกาดิเอเตอร์หรือพวกคนขับรถม้าศึก ของ Arrius'นั้นคือพระเจ้าทรงคุ้มครองเค้า

การปะทะปล้นสะดมห์ของกองทัพเรือโรมันและทาส เรือของ Arrius ได้จมลง แต่เบนเฮอร์ช่วยชีวิต Arrius และในไม่ช้าพวกเค้าได้รับการช่วยเหลือโดยชัยชนะของกองทัพเรือโรมัน Arrius ได้รับชื้อเสียงกับชัยชนะและขอบคุญขอถวายฎีกาต่อไทบีเรียส ซีซาร์ Tiberius Caesarให้หยุดการกล่าวโทษทั้งหมดกับการต่อต้านของเบนเฮอร์ แม้ว่าการลงมติยอมรับเบนเฮอร์ เค้าได้เป็นอิสระ และเรียนรู้วิถีของโรมัน รวมถึงการเริ่มเป็นผู้ชนะในการขับรถม้าศึก

Source ://mmimagessmall.moviemail-online.co.uk/benhur9.jpg

กลับไปที่ยูเดียร์ เบนเฮอร์ตามหาอีสเตอร์ ผู้ซึ่งเบนเฮอร์เตรียมแต่งงานกับเธอ และเบนเฮอร์เรียกร้องให้เมซาลาปล่อยให้แม่และน้องสาวของเค้าเป็นอิสระ เมื่อทหารเข้าไปในห้องใต้ดินเล็กๆแม่และน้องสาวของเบนเฮอร์ เป็นโรคเรื้อน และได้ถูกขับออกจากเมือง

The Arab sheik Ilderim ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกับเบนเฮอร์ได้ให้ม้าฝึกแก่เค้าเพื่อแข่งขัน และแนะนำเบนเฮอร์ เข้าแข่งขันก่อนการมาถึงรัฐบาลใหม่ของยูดาห์ภายใต้การปกครองของโรมคือ ปอนทิอัส ปิลาต Pontius Pilate เบนเฮอร์ ยอมรับ ภายใต้เงือนไขที่มีไหวพริบของเมซาลาและเตรียมพร้อมเข้าแข่งขัน เบนเฮอร์ชนะ ความรุนแรงอย่างถึงพริกถึงขิงของรถม้าศึกที่เข้าแข่งขัน และ ความพ่ายแพ้ของเมซาลา ได้รับบาเจ็บอย่างหนักขนาดถึงตาย แต่ขมขืนใจบอกเบนเฮอร์ สถานที่จะพบแม่และน้องสาวของเค้า ในหุบเขา "Valley of the Lepers"แม้ว่า เบนเฮอร์บรรลุผลสมประสงค์กับการแก้แค้นเมซาลา จิตใจของเบนเฮอร์ยังคงได้รับความทรมาน

Source ://misirach.org/Portals/1/BenHur.jpg

ประเด็นของหนังที่สร้างจากส่วนหนึ่งของ "A Tale of the Christ" การเรียนรู้นั้นคือ Tirzah ได้ตายลง พวกเขานำแม่ของเบนเฮอร์ไปพบพระเยซูเจ้า แต่ไม่สามารถใกล้พระองค์ได้ กับการทดสอบได้เริ่มขึ้นเตอร์ การจำได้การสำนึกของเบนเฮอร์ที่พระเยซูเจ้าได้นำเค้าออกจากเรือ เบนเฮอร์พยานถึงการถูกตรึงการเขนของพระเยซูเจ้า ทันทีทันใดหลังจากที่พระองค์ทรงสิ้นพระชมน์ แม่และน้องสาวของเบนเฮอร์ ได้รับการรักษาให้หายจากโรคเรื้อนโดยอัศจรรย์ ในจิตใจและจิตวิญญาณของเบนเฮอร์ เค้ากลับไปที่บ้านและบอกอีสเตอร์ นั้นคือ เบนเฮอร์บอกกับในหัวใจของเค้าว่าพระเยซูบอกกับเค้าเกี่ยวกับ........การให้อภัย ขณะที่พระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขน
"I felt His voice take the sword out of my hand."

Film ได้เริ่มต้นกับ ไมกี้Magi โหราจารณ์ มาเยี่ยมพระกุมาร และจบด้วยความว่างปล่าวของกางเขนที่ Calvary เป็นเบื้องหลัง และ in the background and a shepherd and his flock (a prominent Judeo-Christian symbol) in the foreground.

วรรณกรรม Ben-Hur: A Tale of the Christ

Source ://www-personal.ksu.edu/~rcadams/bh_1st_1st.jpg

Ben-Hur: A Tale of the Christ คือวรรณกรรมเขียนโดย Lew Wallace
สร้างโดยอาศัยท่ามกลางบรรยากาศเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในพันธสัญญาใหม่ The book was also the first work of fiction to be blessed by a pope.[

นวนิยายมีแปดบท
Part One บทที่หนึ่ง
อ้างอิงจากไบเบิ้ล มัทธิว 2:1-12 ,ลูกา 2:1-20
Biblical references: Matt. 2:1-12, Luke 2:1-20

Part Two บทที่สอง
อ้างอิงจากไบเบิ้ล ลูกา 2:51-52
Biblical references: Luke 2:51-52

Part Three บทที่สาม
The attention now turns to a scene in Italy. Greek pirate-ships had tried to loot many Roman vessels in the Aegean Sea, and Sejanus had ordered that Quintus Arrius take warships out to combat the Greeks.

Part Four บทที่สี่
Judah has now trained five years in the palaestra in Rome. Arrius having died, Ben-Hur inherits his possessions and takes the name of Arrius as an heir. Judah goes to Antioch on state business. On the voyage, he learns from a fellow Jew that his father's chief servant, Simonides, lived in a house in this city, and that his father's possessions had been entrusted to him. He then pays a visit to the house.

Part Five บทที่ห้า
Messala sends a letter to Valerius Gratus about his discovery that Ben-Hur is alive and well. However, Sheik Ilderim, who is presently watching Ben-Hur train the horses, receives the letter from a servant who intercepted it as the courier carrying it was passing through his territory.

Part Six บทที่หก
Simonides bribes Sejanus to remove Valerius Gratus from his post, as a service to Ben-Hur, who now had more freedom to move around as one of his enemies was gone. Soon after the accession of the new prefect, Pontius Pilate, Ben-Hur sets out for Jerusalem to find his mother and sister

Part Seven บทที่เจ็ด
กล่าวถึงในไบเบิ้ล ยอร์น 1:29-34
Biblical references: John 1:29-34

Part Eight บทที่แปด
กล่าวถึงในไบเบิ้ล มัทธิว 27:48-51, มะระโก 11:9-11, 14:51-52, ลูกา 23:26-46, ยอร์น 12:12-18, 18:2-19:30
Biblical references: Matthew 27:48-51, Mark 11:9-11, 14:51-52, Luke 23:26-46, John 12:12-18, 18:2-19:30

Epilogueบทส่งท้ายของงานวรรณกรรม (ซึ่งมักจะกล่าวถึงชะตากรรมของตัวละคร),
บทส่งท้ายกับสองซีนในปีเดียวกันหลังจากที่พระเยซูเจ้าสิ้นพระชมน์และถูกตรึงบนไม้กางเขน

พี่น้องคริสเตียนในโรม ภายใต้การปกครองของเนโรเบนเฮอร์และเพื่อนตัดสินใจในบางสิ่งเพื่อช่วยเหลือ

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเค้าตัดสินใจสร้างโบส์ถไว้ใต้ดิน และเป็นที่รู้จักกันดีคือ กาตากอม Catacomb of San Calixto in Rome.

Source ://en.wikipedia.org/wiki/Ben-Hur_(novel)
//en.wikipedia.org/wiki/Ben-Hur_(1959_film)

Create Date : 27 สิงหาคม 2551

Last Update : 27 สิงหาคม 2551 22:33:27 น.

8 comments

Counter : 3252 Pageviews.

โดย: คนขับช้า

วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:6:44:14 น.

ซื้อหนังเรื่องนี้ให้คุณพ่อ
เพราะพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าเคยดูหนังกลางแปลงเรื่องนี้ พอเห็นแผ่น เลยซื้อไปให้ท่าน
ตัวเองยังไม่ได้ดูเลยครับ แต่หลายเสียงบอกว่าสุดยอด

โดย: คนขับช้า วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:6:44:14 น.

ตอบ ตำนานหนัง คลาสิค งานสร้างอลังการ รุ่นคุณพ่อคุณแม่ชอบค่ะ

ติดอันดับสถาบันหนังต่างๆๆๆ ช่ายๆๆๆสุดยอดเจงเจงค่ะ