แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Quills (2000): Marquis de Sade

ลองดูFilm ประวัตินักประพันธ์เรื่องชื่อ Marquis de Sade
มาร์กีส์ เดอ ซาด


source : //upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f8/Sade_(van_Loo).png/190px-Sade_(van_Loo).png

ภาพมาร์กีส์ เดอ ซาด วาดโดย Charles-Amédée-Philippe van Loo (ประมาณ ค.ศ. 1761)

โดนาเตียง อัลฟงส์ ฟรองซัวส์ เดอ ซาด (ฝรั่งเศส : Donatien Alphonse François de Sade) หรือที่รู้จักกันดีว่า มาร์กีส์ เดอ ซาด (Marquis de Sade) และมีชื่อเล่นว่า "มาร์กีส์จอมเทพ" (Divine Marquis) มาร์กีส์เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1740 - ถึงแก่กรรมเมื่อ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1814 เป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศส ส่วนใหญ่เป็นเขียนงานด้านปรัชญา และมักจะเป็นเรื่องทางกามารมณ์ที่รุนแรง บ้างก็เป็นงานเชิงปรัชญาที่เคร่งครัดจริงจัง ผลงานของเขามักจะเน้นเสรีภาพสุดโต่ง โดยไม่ถูกจำกัดด้วยจริยธรรม ศาสนา หรือกฎหมาย และมุ่งเน้นสุขารมณ์ส่วนตัวเป็นหลักใหญ่ ผ่านการทรมานร่างกายในรูปแบบต่างๆ ผลงานของเขาส่วนมากเขียนขึ้นในช่วง 29 ปีที่เขาถูกจับขังในโรงพยาบาลบ้า

ชื่อของเขาออกเสียงว่า "มากี เดอ ซาด" [maʁ'ki.də.saːd] ; อันเป็นที่มาของคำว่า ซาดิสม์ (sadism) นั่นเอง

"Quills" Trailer



Source ://atticfox.files.wordpress.com/2008/04/us1sheet.jpg

ลองมาดูที่ใน Filmสื่อ หนังขึ้นต้นด้วย ที่โรงพยาบาลรักษาคนโรคจิตชารองตอง The Chorenton Asylum for the Insone ปารีส 1794

มากีร์ได้รับการรักษาที่นี้ และเค้ากะอยากอยู่ไม่ไปใหน เหตุที่เค้าต้องเข้าโรงพยาบาลบำบัดจิต เพราะ มีคนอ่านวรรณกรรมของเค้า และได้ฆ่ากันตาย
ตอนเค้าหนุ่มๆๆเอากางเขนตบหน้าสาวใช้ และทำร้ายภารยาของเค้าเอง เค้าอยู่อย่างบันดาศักดิ์ ประมาณว่ากินดีอยู่ดี มีห้องส่วนตัวอะ



สิ่งที่มาร์กีร์ทำ แอบเขียนวรรณกรรมอีโรติก..........ที่แรงมาก เขียนกระทบถึงผู้ถือวินัยทางศาสนา เป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างรุนแรงอะ โดยมี แม็กดารีน แอบเอาไปส่งให้ม้าเร็วให้สำนักพิมพ์ได้ตังค์เอามาแบ่งกัน นิยายออกไปสู่โลกภายนอกขายดิบขายดี ถึงหูKing ของฝรั่งเศส ได้ส่งคุณหมอให้ไปจัดการกับมาร์กีร์ และเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล

บาทหลวงคุณพ่อที่ดูแลโรงพยาบาล เห็นว่า สิ่งที่มาร์กีร์ทำ คือการปลดปล่อยตัวเอง ........ออกมาทางงานเขียน(มองโลกในแง่ดีอะ) ขอร้องให้มากีร์เขียนต่อไป แต่ห้ามเอาไปเผยแพร่

กับความซนของแม็กดารีน ซึ่งเพิ่งโตเป็นสาว ทำงานมีหน้าที่ซักผ้าปูที่นอนในโรงพยาบาลโรคจิต กะสมรู้ร่วมคิดกับมาร์กีร์แอบเอางานของมาร์กีร์ไปขายอีก คราวนี้ คุณหมอสั่ง ถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้ ..........โรงพยาบาลจะถูกปิดทันที



ความดื้อดึงของมาร์กีร์ เขียนบทละครโดยให้นักแสดงที่เป็นคนไข้โรคจิตเล่นแสดงต่อผู้ชม (หาเงินเข้าโรงพยาบาลอะ) มันคือการล้อเลียนคุณหมอซึ่งมีภารยายังสาว และคุณหมอใช้เงินอย่างมากในการต่อเติมบ้าน หินอ่อนอิตาลี ผ้าม่านจากจีน กระจกจากอัมสเตอร์ดัม etc...........

มาร์กีร์ตัวแสบโดนบาทหลวงคุณพ่อ ยึดปากกาขนนก และ หมึกพิมพ์ กับความดื้อของเค้า เค้าใช้กระดูกไก่ และไวน์เป็นน้ำหมีก เขียนงานวรรณกรรมของเค้า บนผ้าปูที่นอน และแม็กดารีน คัดลอกงานออกมา เพื่อส่งสำนักพิมพ์ กับการจับได้ครั้งนี้ บาทหลวงคุณพ่อยึดทุกอย่างในห้องของมาร์กีร์ไปหมดเลยอะ

แม็กดารีนโดนจับไปทำโทษโดนเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณะชน บาทหลวงคุณพ่อมาห้ามขอให้เฆี่ยนบาทหลวงคุณพ่อแทน


มันคือความรักกับการหักห้ามจิตใจ ของบาทหลวงคุณพ่อกับแม็กดารีน เพราะว่า บาทหลวงคุณพ่อสอนเธอ อ่านเขียนหนังสือตั้งแต่เธอยังเด็ก

ความดื้อของมาร์กีร์ คราว ทุบกระจกกรีดนิ้วมือตัวเอง และเขียนงานวรรณกรรมของเค้าบนเสื้อผ้าของเค้าเอง บาทหลวงคุณพ่อยึดเสื้อผ้าไปหมด มาร์กีร์มีแต่ตัวเปลือยเปล่า

มาร์กีร์ต่อว่าพระเยซูคริส และ พระแม่มารีย์ด้วยวาจาที่ไม่สุภาพ และโยนพระคัมภีร์ทิ้งทุกๆๆครั้งที่มาร์กีร์ โมโห ..........ที่ไม่ได้เขียนวรรณกรรมของเค้า


และโศกนาฎกรรมก็เกิดขึ้น กับความคิดที่ดื้อของมาร์กีร์

แม็กดารีนอยากให้มากีร์เขียนวรรณกรรมอีก กับความหัวหมอของพวกเค้า
ต้องผ่านห้องถึงสี่ห้อง ห้องแรกมาร์กีร์ คำพูด บอกทางกำแพง แก่คนไข้โรคจิตที่ชอบทำตัวเป็นนก ห้องที่สอง บอกต่อ ซึ่งเป็นคนไข้โรคจิตเช่นกัน และก็บอกต่อเป็นคนไข้โรคจิตชอบใช้กำลัง ไปจนถึงห้องที่สี่........ซึ่งแม็ดดารีนเป็นคนจรดน้ำหมึกงานวรรณกรรมของมาร์กีร์

กับการบอกผ่านคนบ้า มีคำว่า ไฟ คนบ้าห้องที่สาม เอาเทียนเผาห้องของเค้าทำให้เกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาล

กับความกลหล แม็คดารีนถูกคนไข้โรคจิตแทงตาย และเอาศพลงไปในอ่างซักผ้าขนาดใหญ่



มันคือความเศร้าโศกเสียใจของบาทหลวงคุณพ่อ กับคุณหมอที่ต้องการล้างแค้นมาร์กีร์ที่ภารยาคุณหมอได้หนีไป คุณหมอใช้วิธีกล่อมบาทหลวงคุณพ่อให้ทำโทษมาร์กีร์

นั้นคือ การตัดลิ้นของมาร์กีร์
และคุณหมอทำโทษมาร์กีร์แบบรุนแรงเช่นกัน

สิ่งที่นึกไม่ถึงที่สุด กับความรุนแรงของมาร์กีร์ เค้าเขียนวรรณกรรมบนกำแพง ....................ด้วยอึ...........ของมากีร์อะ


เจ้าหน้าที่เรียกบาทหลวงคุณพ่อไปดู มาร์กีร์ที่ไม่มีลิ้น ร่างกายอ่อนแอใกล้จะตาย



บาทหลวงคุณพ่อ : ควรทำพิธีครั้งสุดท้ายให้เค้า เพื่อสามารถช่วยวิญญาณของเค้าที่มีชีวิต ไม่ผิดพลาดก่อนตาย พระผู้เป็นเจ้าบนสรวงสวรรค์ ทรงแสดงถึงความเมตตาของพระองค์ เปิดประตูพระองค์ให้ชายผู้นี้ โดยเค้าเป็นลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ในตัวของเราทุกคน มีความงดงาม.........และความอัปลักษณ์รวมกัน ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น ขอพระองค์ทรงยกโทษให้เค้าให้เราทุกคน

บาทหลวงคุณพ่อเอาสายประคำมาให้มาร์กีร์จูบ........มาร์กีร์กัดกางเขนและกลืนเข้าคอสิ้นใจตายอะ


หนึ่งปีผ่านไป บาทหลวงคุณพ่อองค์ใหม่มาดูแลโรงพยาบาลนี้ และคุณหมอเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ
มีการพิมพ์หนังสือของมาร์กีร์จำหน่าย จัดการพิมพ์โดย คนงานที่เป็นคนไข้โรคจิตทั้งหมด คุณหมออ้างว่าโรงพยาบาลไม่ตังค์

และคุณหมอบอกว่า .........หวังว่าคุณพ่อคงจะเข้มแข็ง


และบาทหลวงคุณพ่อองค์เก่า คุณหมอจับไปขัง กล่าวหาว่าเป็นคนไข้โรคจิต รักษาไม่หาย เต็มไปด้วยความรุนแรง

บาทหลวงคุณพ่อต่อว่าคุณหมอ : เจ้าคือปีศาจ ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ถ้ามีความเมตตาอยู่บ้างกรุณาน้ำกระดาษ กับน้ำหมึกมาให้ข้า

คุณหมอ : อย่าทำอะไรเด็ดขาดคนไข้คนนี้เป็นอันตรายต่อตัวเอง และต่อผู้อื่น



และแม่ของแมกดารีนซึ่งเป็นคนซักผ้าในโรงพยาบาลเช่นกันตาเธอบอด เธอน้ำ กระดาษ ปากกา และน้ำหมึกมาให้บาทหลวงคุณพ่อ บันทึกความชั่วร้ายของคุณหมอ

The Quills Trailer


[แก้] บทประพันธ์ของซาด
Dialogue entre un prêtre et un moribond (บทสนทนาระหว่างนักบวชกับคนใกล้ตาย) ค.ศ. 1782
Les Cent-Vingt journées de Sodome (หนึ่งร้อยยี่สิบวันที่โซโดม) หรือ l’École du libertinage (โรงเรียนของผู้รักอิสระ) ค.ศ. 1785 ได้รับการตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1904
Aline et Valcour (เอลีน กับ วาลกูร์) หรือ le Roman philosophique (นวนิยายปรัชญา) ค.ศ. 1786 ได้รับการตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1795
La vérité (ข้อเท็จจริง) ค.ศ. 1787
Les Infortunes de la vertu (ผู้โชคร้ายทางจรรยา) (เวอร์ชันแรกของเรื่องจัสตีน) ค.ศ. 1787
Justine (สาวน้อยจัสตีน) หรือ les Malheurs de la vertu (ความโชคร้ายทางจรรยา) ค.ศ. 1788 ได้รับการตีพิมพ์เ่มื่อปี ค.ศ. 1791
Catalogue raisonné des Œuvres de M. Sxxx (แคตาลอกพินิจพิเคราะห์ผลงานของนายซ..) ค.ศ. 1788
La Philosophie dans le boudoir (ปรัชญาในห้องพักอารมณ์) ได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 1795
La nouvelle Justine (สาวน้อยจัสตีนคนใหม่) หรือ les Malheurs de la vertu (ความโชคร้ายทางจรรยา) ตามด้วย l’Histoire de Juliette (เรื่องของจูเลียต) น้องสาวของหล่อน ค.ศ. 1797
Les Crimes de l'amour (อาชญากรรมแห่งความรัก) เรื่องราวของวีรบุรุษและโศกนาฏกรรม ค.ศ. 1800
Eugénie de Franval (อูเจนี เดอ ฟรองวาล) ค.ศ. 1788
La Marquise de Gange (ลา มาร์กีส เดอ กองจ์) ค.ศ. 1813
Dorcy ou la Bizarrerie du sort (ดอร์ซี หรือเรื่องพิสดารของชะตากรรม) ค.ศ. 1881



Source : //movies.yahoo.com/movie/1802761117/photo/stills
//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B9%8C_%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD_%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%94


Create Date : 15 กันยายน 2551
Last Update : 16 กันยายน 2551 10:41:30 น. 14 comments
Counter : 8172 Pageviews.

 
เคยเห็นเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ตอนนั้นมองผ่านเลยไม่ได้สนใจ...เห็นทีต้องกลับไปหามาดูบ้างแล้วล่ะ


โดย: DKRY วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:10:29:40 น.  

 
เคยเห็นเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ตอนนั้นมองผ่านเลยไม่ได้สนใจ...เห็นทีต้องกลับไปหามาดูบ้างแล้วล่ะ



โดย: DKRY วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:10:29:40 น.


ตอบ หนังออกแนวขำเล็กๆๆอะ ไม่หนักงะ จี้ดี


โดย: Bernadette วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:10:38:25 น.  

 
อยากดูอ่ะ จะไปหาได้จากไหนคะ เหอๆ วรรณกรรมปกขาวนี่เป็นที่นิยมทุกยุคทุกสมัยจริงๆ เนอะ

เคยดูเรื่อง Quill เหมือนกัน แต่เป็นหนังญี่ปุ่นแนวหมาของคนตาบอดง่ะ


โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:1:01:38 น.  

 
อยากดูอ่ะ จะไปหาได้จากไหนคะ เหอๆ วรรณกรรมปกขาวนี่เป็นที่นิยมทุกยุคทุกสมัยจริงๆ เนอะ

เคยดูเรื่อง Quill เหมือนกัน แต่เป็นหนังญี่ปุ่นแนวหมาของคนตาบอดง่ะ



โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:1:01:38 น.


ตอบ ส่งไปให้ดูกะได้ ฮู๊ววววว


โดย: Bernadette วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:8:56:07 น.  

 
น่าดูจัง อิอิ


โดย: Toon16 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:21:04:12 น.  

 

น่าดูจัง อิอิ



โดย: Toon16 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:21:04:12 น.


ตอบ ให้แพรดูแล้ว ค่อยดูต่อกะได้ งะ


โดย: Bernadette วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:22:24:20 น.  

 
GO TO BCOMMENTED.COM
BCOMMENTED.COM

รุนแรงกันเหลือเกิน...
Oh..My God!! วรรณกรรมบนฝาผนัง หุ หุ หุ

GO TO BCOMMENTED.COM
BCOMMENTED.COM


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:23:03:20 น.  

 
รุนแรงกันเหลือเกิน...
Oh..My God!! วรรณกรรมบนฝาผนัง หุ หุ หุ


BCOMMENTED.COM



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:23:03:20 น.


ตอบ วรรณกรรม อึ


โดย: Bernadette วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:9:26:52 น.  

 
เหมือนจะเคยดูค่ะ

ไว้วันหยุดจะเข้ามาดู

เรืองอื่นๆด้วย

สวัสดีค่ะ ... คิดถึงงงงงง




โดย: Opey วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:9:59:15 น.  

 
ไม่ได้เข้าซะนาน ปาไปหลายเรื่องเลยนะเนียะ
- เรื่องนี้ยังไม่ได้ดู


โดย: haro_haro วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:10:57:49 น.  

 
เหมือนจะเคยดูค่ะ

ไว้วันหยุดจะเข้ามาดู

เรืองอื่นๆด้วย

สวัสดีค่ะ ... คิดถึงงงงงง






โดย: Opey วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:9:59:15 น.


ตอบ จ้า


โดย: Bernadette วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:13:13:43 น.  

 
ไม่ได้เข้าซะนาน ปาไปหลายเรื่องเลยนะเนียะ
- เรื่องนี้ยังไม่ได้ดู



โดย: haro_haro วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:10:57:49 น.


ตอบ หลับอยู่เหรอ


โดย: Bernadette วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:13:14:31 น.  

 
เรื่องนี้เจ๋งแบร์ เราชอบมากๆ

มันเป็นเรื่องพวกแนวคิดเสรีนิยมปะทะกับพวกอนุรักษ์นิยมน่ะ เราว่า

ตอนที่พระเอกเขาเถียงในกรณีไปเผาหนังสือเขาเพราะกลัวเด็กเลียนแบบว่า - ถ้ามีเด็กอ่านไบเบิ้ลแล้วไปเดินบนน้ำจนจมน้ำตาย งั้นควรเผาไบเบิ้ลดีไหม - เสียดสีดีชะมัด



โดย: mr.cozy วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:32:31 น.  

 
เรื่องนี้เจ๋งแบร์ เราชอบมากๆ

มันเป็นเรื่องพวกแนวคิดเสรีนิยมปะทะกับพวกอนุรักษ์นิยมน่ะ เราว่า

ตอนที่พระเอกเขาเถียงในกรณีไปเผาหนังสือเขาเพราะกลัวเด็กเลียนแบบว่า - ถ้ามีเด็กอ่านไบเบิ้ลแล้วไปเดินบนน้ำจนจมน้ำตาย งั้นควรเผาไบเบิ้ลดีไหม - เสียดสีดีชะมัด





โดย: mr.cozy วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:32:31 น.


ตอบ อยู่ในยุค ท้าทายพอดี กำลังเปลี่ยนแปลง หรือตอน กิโยติน หัวศพเป็นเข่งเลยอะ กองให้ชาวบ้านเห็น และร่างกายที่คอหลุด เอาไปวางไว้บนรถม้าอะ น่ากลัวชะมัด

ดูฉากกิโยตินโหดๆๆนี้เลยอะ


โดย: Bernadette วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:15:37:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.