แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

Rain Man (1988):It tells the story of an abrasive, selfish yuppie, Charlie Babbitt,

The Rain Main - RECUT movie trailer spoof


กับการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางที่เรียกว่า Self-centered ความเห็นแก่ตัว ละโมบ Charlie Babbitt (Tom Cruise) กะพ่อของเค้าตายไป ทิ้งมรดกไว้ 3 ล้านเหรียญ อ่าและพ่อของเค้าให้มรดกแก่พี่ชายที่เป็นออร์ทิสติก Raymond Babbitt (Dustin Hoffman) ซึ่งไม่มีความสามารถพอในการทำหน้าที่เหมือนมนุษย์ปรกติทั่วไป ชาลีกะหาทางพาพี่ชายเลย์มอนออกไปจากที่เลย์มอนอยู่ กับการขี้กลัวเครื่องบินของเลย์มอน กับการเดินทางทางรถของสองพี่น้องที่เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

มันมองดูง่ายเน๊อะ ............แค่พี่ชายเป็นออร์ทิสติก เดี๊ยวความสัมพันธ์กะดีกันเองมองกันแบบง่ายๆ หรือจุดจบ โอเค ชาร์ลีเอาเลย์มอนไปดูแล

เลย์มอนที่เป็นออร์ทิสติก อัจฉรยะในด้านคณิตศาสตร์ หรือด้านใดด้านหนึ่งที่แบบว่าเก่งแบบสุดโต่งไปเลยอะ
แต่........มันไม่ใช่อะจิ๊
ชาร์ลี เป็นออร์ทิสติกที่เป็นระบบงะ ทานข้าวตอนนี้ ดูทีวีเวลานี้ หรือทำอะไรตอนนี้ เป๊ะเป๊ะ อะ ทีนี้ ถ้าเลย์แมนผิดไปจากระบบที่ตัวเองเป็นอยู่...........เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก........มานกะควบคุมไม่ได้อะ

กับความสัมพันธ์ทำไมเลย์มอนต้องไปอยู่สถานที่ดูแลออทิสติก ตอนเค้าเด็กๆๆ พ่อกลัวว่าเค้าจะไปทำร้ายน้อง เลยต้องพาเค้าไปที่อยู่ที่นั่นอะ

"อย่าทำน้อง น้องเจ็บ" กับคำพูดนี้เป็นคำพูดของ เลย์มอน...........ปี่แตกไปหลายยคอหนัง...........>

......... ที่ความรักมีต่อน้องเค้ากับการควบคุมตัวเองไม่ได้ของเค้า และโตขึ้นมา ชาร์ลีกลับกลายมาเป็นการเข้าใจพี่ชายอย่างเลย์มอน

Film ให้อารมณ์ได้ขำ ก็ขำ หรือลึกก็ลึก แอบร้องไห้เล็กๆๆ กะมี เสน่ห์ของFilm อยากรู้เหมือนกัน ทำไมคนรักหนังดูเรื่องนี้หลายๆๆรอบ และเป็นหนังในดวงใจของใครหลายๆๆคน

Rain Man Airport Scene Qantas Never Crashed



Rain Man Road Scenes




Source ://tf.org/images/covers/RainMan.jpg

ขออนุญาติเอาบทความมี่คุณหมอเขียนเกี่ยวกับออทิสติก เรื่องเรนแมนมาปะค่ะ เขียนได้ดีอะ


Source : //www.happyhomeclinic.com/au23-rainman.htm

HAPPY HOME AUTISTIC ACADEMY

ศูนย์วิชาการออทิสติก แฮปปี้โฮม





จากเรนแมน สู่ออทิสติก



นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น




ภาพยนตร์เรื่องเรนแมน
เรนแมน (Rain Man) เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่นำเรื่องราวความมหัศจรรย์ของบุคคลออทิสติกมาถ่ายทอด ทำให้ผู้คนได้รู้จักกันทั่วโลก สร้างจากข้อมูลจริงของบุคคลออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษ หลายๆ คน มารวมอยู่ในคนเดียว นำมาถ่ายทอดบนแผ่นฟิล์มได้อย่างแนบเนียน เก็บเกี่ยวรายละเอียดต่างๆ ของบุคคลออทิสติกมานำเสนอ เพื่อให้โลกรู้จักพวกเขามากขึ้น แม้ว่าเวลาจะผ่านมาถึง 17 ปีแล้ว สำหรับเรนแมน แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนเป็นอย่างดี

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับรางวัลออสการ์ ในปี พ.ศ.2531 ถึง 4 ตัว คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม คือ แบร์รี่ เลวินสัน บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือ ดารานำชายยอดเยี่ยม ซึ่ง ดัชติน ฮอฟแมน สวมบทบาทบุคคลออทิสติก ได้อย่างแนบเนียน



เรื่องราวในภาพยนตร์ เริ่มต้นด้วย ชาร์ลี แบ๊บบิท (แสดงบทโดย ทอม ครูซ) ทราบข่าวการเสียชีวิตของพ่อ จึงเดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมพิธีศพ หลังจากนั้นได้พบว่า พ่อได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินต่างๆ มูลค่ากว่า 3 ล้านดอลลาร์ ให้กับสถาบันแห่งหนึ่ง เหลือเพียงรถยนต์เก่าๆ คันเดียว ที่เขาได้รับเป็นมรดก ซึ่งรถยนต์คันนี้ เป็นคันที่เขาเคยขโมยไปขับเล่นกับเพื่อนตอนอายุ 16 ปี แล้วถูกพ่อแจ้งจับข้อหาขโมยรถ ติดคุกอยู่ 2 วัน เป็นสาเหตุให้เขาโกรธแค้นพ่อ และหนีออกจากบ้านไป ไม่ยอมติดต่อกลับมาอีกเลย

ชาร์ลีรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมมรดกกว่า 3 ล้านดอลลาร์ จึงถูกยกให้กับสถาบันแห่งหนึ่ง เขาจึงเดินทางไปค้นหาคำตอบ จนทำให้เขาทราบว่า เขายังมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งซึ่งอยู่ในความดูแลของสถาบัน ตั้งแต่แม่ของเขาเสียชีวิต ซึ่งเขาไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แพทย์ประจำสถาบันได้เล่าให้เขาฟังว่า พี่ชายเขาชื่อ เรย์มอน แบ๊บบิท (แสดงโดย ดัชติน ฮอฟแมน) เป็นโรคออทิสติกที่มีศักยภาพสูง อยู่ในความดูแลของสถาบันมาตั้งแต่เด็ก แต่ชาร์ลีเองก็ยังไม่เข้าใจดีว่า โรคออทิสติกคืออะไร



ชาร์ลีกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่ เกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาว่าถ้าเขาได้เป็นผู้ดูแลเรย์มอน เขาก็จะได้รับมรดกทั้งหมด เขาจึงเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ดูแลพี่ชาย และได้แอบพาพี่ชายออกจากสถาบันแห่งนั้น เพื่อกลับไปอยู่ด้วยที่แคลิฟอร์เนีย และเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

ในขณะเดินทาง เกิดเหตุการณ์ต่างๆ หลายอย่าง ทำให้ชาร์ลี ได้เรียนรู้พฤติกรรมของพี่ชายซึ่งเป็นโรคออทิสติกว่าเป็นอย่างไรบ้าง จนหลายครั้งเขาสะกดกั้นอารมณ์ไม่อยู่ แต่ในที่สุดเวลา 7 วันที่ได้อยู่ด้วยกันทำให้เขาทั้งสองเกิดความผูกพันมากขึ้น ทำให้ชาร์ลีเปลี่ยนความคิดจากเดิม เขาอยากได้มีสิทธิในการดูแลเรย์มอนด้วยความผูกพันจริงๆ ไม่ได้สนใจในเรื่องมรดกแล้ว

ชาร์ลีได้รับรู้ว่า เรย์มอน คือพี่ชายแท้ๆ ที่เคยอยู่กับเขาตอนเด็กๆ เคยช่วยเลี้ยงดูเขา จนถึงอายุ 2 ขวบ ร้องเพลงให้เขาฟัง ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำของชาร์ลีตลอดมา แต่เขานึกอยู่เสมอว่า เป็นเพื่อนในจินตนาการที่ชื่อ เรนแมน แต่จริงๆ แล้วคือพี่ชายเขาเอง ซึ่งเขาเรียกชื่อเพี้ยนตามภาษาของเด็กๆ จาก “เรย์มอน” เป็น “เรนแมน” สาเหตุที่พี่ชายเขาต้องไปอยู่ในความดูแลของสถาบัน เนื่องจากเกือบทำน้ำร้อนลวกเขานั่นเอง

เมื่อชาร์ลีได้รู้ความจริงว่า ที่แท้เรย์มอนคือเรนแมน ชาร์ลีรู้สึกสงสารพี่ชายมาก และเสียใจที่คิดไม่ดีต่อพี่ชาย เขาได้พาเรย์มอนมานอนบนเตียง ช่วย ถอดรองเท้าให้ และ ช่วย ห่มผ้าห่ม ปฏิบัติต่อพี่ชายเป็นอย่างดี เกิดความผูกพันกันอย่างแท้จริง จนในช่วงท้าย เรย์มอน สะกดชื่อชาร์ลี ได้ถูกต้อง เหมือนที่เคยสะกดชื่อ เวิร์น เพื่อนสนิทที่เขาจำไว้ในใจเสมอมา ว่าเป็นคนที่ดีต่อเขามาก และจากจุดนี้ภาพยนตร์ยังสื่อให้เห็นชัดเจนในสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้ออทิสติกจะมีปัญหาในเรื่อง การเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่น แต่เขาก็มีความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ และมีความผูกพันกับคนอื่นได้เหมือนคนทั่วๆ ไป และเมื่อเกิดความผูกพันกันแล้ว ก็สามารถเรียนรู้ และเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้เช่นกัน

ภาพยนตร์ได้สื่อสิ่งที่เป็นอาการของออทิสติก ออกมาได้ครบถ้วน ชัดเจน โดยเฉพาะด้านพฤติกรรม ที่มักยึดติดในรูปแบบเดิมๆ ไม่มียืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น เวลานอน เตียงจะต้องชิดหน้าต่าง อ่านหนังสือก่อนนอน และนอนเวลา 5 ทุ่มตรง รายการอาหารก็ต้องแบบเดิมตายตัวในแต่วันของสัปดาห์ เวลาทานแพนเค้ก ต้องมีขวดน้ำเชื่อม พร้อมกับไม้จิ้มฟันตั้งไว้ข้างๆ แม้กระทั่งกางเกงในก็ต้องเป็นแบบที่เคยใส่เป็นประจำเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากสิ่งที่เคยทำก็จะอารมณ์เสียรุนแรง มักยึดถือในกฎที่เคยถูกสอนมาอย่างตายตัว ไม่ยืดหยุ่น เช่น เวลาฝนตกห้ามออกไปไหน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว ทำซ้ำๆ เช่น การโยกตัวเล่นทั้งเวลานั่งและยืน ชอบทำคอเอียงๆ เหมือนกำลังฟังอะไรอยู่ในโลกส่วนตัว เดินชอยเท้าเร็วๆ เป็นก้าวสั้นๆ และเอามืออุดหูเมื่อมีเสียงดัง

เวลาคุยกันจะไม่สบตา มองเอียงๆ เฉียงๆ มองด้วยหางตา เหมือนกำลังจดจ้องบางอย่างในระยะใกล้ ประมาณ 2-3 นิ้ว จากสายตา ไม่ค่อยแสดงสีหน้า และอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ จะมีสีหน้าเฉยๆ ตลอด บรรยายความรู้สึกไม่เป็น เช่น ฉากที่อยู่ลิฟท์ ซูซานน่า แฟนสาวของชาร์ลี จูบเรย์มอน แล้วถามว่า “รู้สึกอย่างไร” เรย์มอนก็ตอบว่า “เปียก” นอกจากนี้ยังไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้ดีนัก ไม่สามารถเข้าใจมุขตลก เอามุขตลกที่ได้ฟังจากทีวีไปคิดตลอดว่าทำไม ขบปัญหาไม่แตก ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

มีคำอุทาน หรือเสียงที่เป็นลักษณะเฉพาะ เช่น “เอ๊าะ ออ” พูดเป็นวลีสั้นๆ ซ้ำๆ ใช้ระดับเสียงเดียวกันตลอด ไม่มีจังหวะสูงต่ำ แต่ในภาพยนตร์ก็ไม่ได้สื่อถึงปัญหาด้านภาษาให้เห็นเด่นชัดนัก

ในด้านความสามารถในการดูแลตนเองในกิจวัตรประจำวันต่างๆ เรย์มอนทำได้ดี สามารถสื่อสาร และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ อ่านออกเขียนได้ และปรับตัวอยู่ในสังคมได้ดีพอสมควร ถือว่าเป็นกลุ่มออทิสติกที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้เขายังถูกสอนในเรื่องการพิทักษ์สิทธิของตนเองเป็นอย่างดี เช่นฉากที่เขาถูกชาร์ลี กระชากเสื้อ เขาก็เอาสมุดมาจดบันทึกไว้ว่า ถูกคุกคามอย่างไรบ้าง โดยใคร เมื่อไหร่ เป็นต้น

แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้นคือ เรย์มอนมีความสามารถพิเศษในระดับอัจฉริยะเฉพาะด้าน โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเรื่องตัวเลข และมีความจำแบบคล้ายการภาพถ่าย เวลาเห็นหรืออ่านอะไร จะจำได้หมด คล้ายถ่ายภาพเข้าเก็บไว้ในสมองเป็นฉากๆ และดึงมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพบว่าบุคคลออทิสติก ประมาณร้อยละ 10 มีความสามารถพิเศษคล้ายแบบนี้ แต่จะมีความหลากหลายเฉพาะทางในแต่ละคน อาจเป็นความสามารถพิเศษในด้านการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ด้านความจำที่จำรายละเอียดได้ทุกอย่าง ด้านศิลปะ หรือดนตรี เรียกกลุ่มที่มีความสามารถพิเศษเหล่านี้ว่า “ออทิสติก ซาวองก์” (Autistic Savant)



ภาพยนตร์ได้สื่อถึงความสามารถพิเศษต่างๆ ออกมาได้ชัดเจนมาก จากหลายฉาก เช่น เรย์มอน ทำกล่องไม้จิ้มฟันหล่น มองแว๊บเดียวก็รู้ว่าหล่นไป 246 อัน ซึ่งถูกต้องพอดี ไม่มีขาดไม่มีเกิน สามารถคูณเลขหลายหลักได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง สามารถจดจำรายละเอียดของเครื่องบินตกได้ทุกลำว่าเป็นของสายการบินไหน ตกปีไหน เสียชีวิตเท่าไหร่ จนเป็นสาเหตุให้เรย์มอนไม่กล้าขึ้นเครื่องบิน ทำให้ชาร์ลีต้องพาเดินทางโดยรถยนต์แทน และสามารถจำหมายเลขโทรศัพท์ได้ทั้งหมดจากการอ่านสมุดโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว พอเห็นชื่อพนักงานโรงแรมก็บอกได้ว่าเบอร์โทรศัพท์อะไร

ฉากเด่นของภาพยนตร์อีกฉาก คือ ชาร์ลี พาเรย์มอน ไปเล่นการพนันที่นครลาสเวกัส เรย์มอนจำไพ่ได้แม่นยำ ทำให้ชนะพนันมาประมาณ 8 หมื่นดอลลาร์ จนเจ้าของบ่อนต้องใช้กล้องวงจรปิดจับผิดดูว่ามีกลโกงอะไร แต่ก็ไม่พบและประหลาดใจมาก ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนจะมีความสามารถการจำไพ่ได้ถึง 6 สำรับ ในที่สุดก็ไม่ยอมให้เล่นพนันต่อไป บังคับให้กลับ ซึ่งฉากนี้มาจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงที่นครลาสเวกัส และเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ทำไมการจัดประชุมออทิสติกระดับนานาชาติ เคยไปจัดที่นครลาสเวกัส



ในตอนจบ เรย์มอนต้องกลับไปอยู่ในความดูแลของสถาบันต่อไป ตามที่จิตแพทย์ 2 ท่านได้ลงความเห็น (ตามกฏหมายสุขภาพจิตของสหรัฐอเมริกา การตัดสินใจให้บุคคลที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตอยู่ในความดูแลของใคร ต้องมีจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่าน ประเมินและลงความเห็นตรงกัน)



ภาพยนตร์ ได้สะท้อนมุมมองและแนวคิดด้านสุขภาพจิต ในสมัยเมื่อ 2-3 ทศวรรตก่อน ที่เชื่อว่า การดูแลโดยสถาบันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนพิเศษเฉพาะทาง ได้ทำงานโรงงานในอารักษ์ ภายใต้การดูแลของสถาบันทั้งหมด แต่ในปัจจุบัน แนวคิดเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แนวคิดการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Rehabilitation) เป็นคำตอบที่เริ่มได้รับการยอมรับในวงกว้างขึ้น การคืนบุคคลเหล่านี้ให้กับครอบครัวและชุมชน เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพน่าจะเหมาะสมที่สุด ที่จะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างแท้จริง (Independent Living) โดยความเกื้อกูลของชุมชนและสังคม ภายใต้แนวคิดการฟื้นฟูสมรรถภาพ ไม่ใช่การสงสารหรือสงเคราะห์ คาดว่าถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ คงจะมีตอนจบที่เปลี่ยนแปลงไป ตามแนวคิดในปัจจุบัน

เมื่อ 17 ปีก่อนชาวอเมริกัน ก็เพิ่งเริ่มรู้จักโรคออทิสติกกันพร้อมๆ กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในภาพยนตร์ก็สะท้อนได้ชัดเจนว่ายังไม่รู้จักกันเลย ชาร์ลียังบอกหมอที่ดูแลเลยว่าขอให้ใช้ภาษาง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ได้ไหม เพราะไม่รู้จักออทิสติก บุคลากรสาธารณสุขก็ยังไม่รู้จักเหมือนกัน ยังสงสัยและตื่นเต้นกับความสามารถพิเศษ จะเห็นได้ชัดจากฉากในภาพยนตร์ ตอนที่ชาร์ลีพาเรย์มอนไปพบแพทย์




เมื่อย้อนมองจากภาพยนตร์ก็จะคงคล้ายๆ กับสถานการณ์ของเมืองไทยในตอนนี้ ที่เริ่มมีคำถามมากมายเกี่ยวกับออทิสติก แต่อีกไม่นาน เมื่อพวกเขาสามารถเรียนร่วมอยู่ในโรงเรียนปกติทั่วไป เรียนในมหาวิทยาลัยได้เหมือนกัน สามารถทำงานร่วมกับพวกเราตามความสามารถที่เขามี พวกเขาก็จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมสังคม กลายเป็นพวกเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยก พวกเขา พวกเรา คำถามต่างๆ เกี่ยวกับออทิสติกคงหมดสิ้นไป



คิมพีค (Kim Peek) ต้นแบบเรนแมนตัวจริง
บุคคลออทิสติก ที่มีความสามารถพิเศษ
ซึ่งมีความรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ มากมาย


ดัชติน ฮอฟแมน ผู้สวมบทบาทเป็น เรย์มอน แบ๊บบิท บุคคลออทิสติก ที่มีความสามารถพิเศษ




 

Create Date : 03 กันยายน 2551
10 comments
Last Update : 3 กันยายน 2551 22:51:22 น.
Counter : 2812 Pageviews.

 

อ่านแล้วก็อยากดูอีก

เคยดูสมัยนู๊นนนนนน

 

โดย: renton_renton 4 กันยายน 2551 18:37:12 น.  

 


เคยดูในโรงสมัยนู้นเหมือน ..คุณ reton_renton
ชอบมากค่ะ..ชอบความรักระหว่างพี่น้อง

Recados e Imagens - Emo - Orkut

Dustin เล่นได้น่ารักดีมาก...พอจะจำได้เลาๆ


 

โดย: เริงฤดีนะ 4 กันยายน 2551 19:15:04 น.  

 

หนังเรื่องนี้น่ารักดีค่ะ ชอบฉากที่ชาร์ลีสอนเรย์มอนเต้นรำ

 

โดย: ชิฟฟอนคาปูชิโน่ 4 กันยายน 2551 20:25:56 น.  

 

ชอบหลายๆฉากโดยเฉพาะซีนขับรถนะ

หนังเรื่องนี้บอกว่าบางอย่างวัตถุก็สูงค่ากว่าจิตใจ

เราก็ชอบมากๆ ตอนจบที่ลากันซึ้งดี

 

โดย: mr.cozy 5 กันยายน 2551 11:17:46 น.  

 

เรื่องนี้เคยดูเมื่อนานมาแล้วค่ะ จำไม่ค่อยได้แล้ว เห็นแล้วก็อยากไปหามาดูอีกรอบ

แต่เคยดูหนังเกาหลีอยู่เรื่องนึง พระเอกเป็นออทิสติก แต่วิ่งเก่งมาก

ส่วนตัวก็มีคนรู้จักที่เป็นออทิสติกเหมือนกันค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่เจ้าตัวยังเด็กมาก ซะจนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเมื่อเขาโตขึ้นจะมีความสามารถพิเศษอะไร

 

โดย: แพร (bookofpear ) 5 กันยายน 2551 17:56:52 น.  

 

อ่านแล้วก็อยากดูอีก

เคยดูสมัยนู๊นนนนนน



โดย: renton_renton วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:18:37:12 น.


ตอบ เคยดูตอนเด็กๆๆเหมือนกานนนหนังในดวงจายยของใครหลายๆๆคน


เคยดูในโรงสมัยนู้นเหมือน ..คุณ reton_renton
ชอบมากค่ะ..ชอบความรักระหว่างพี่น้อง



Dustin เล่นได้น่ารักดีมาก...พอจะจำได้เลาๆ






โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:19:15:04 น.

ตอบ ช่ายๆๆๆๆๆ แง๊ปปปลายละเอียดของหนังเยอะเจงเจง


หนังเรื่องนี้น่ารักดีค่ะ ชอบฉากที่ชาร์ลีสอนเรย์มอนเต้นรำ



โดย: ชิฟฟอนคาปูชิโน่ วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:20:25:56 น.

ตอบช่ายๆๆๆๆ เป็นการบ่งบอกถึงความอ่อนโยนในตัวของเลย์มอนนน


ชอบหลายๆฉากโดยเฉพาะซีนขับรถนะ

หนังเรื่องนี้บอกว่าบางอย่างวัตถุก็สูงค่ากว่าจิตใจ

เราก็ชอบมากๆ ตอนจบที่ลากันซึ้งดี



โดย: mr.cozy วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:11:17:46 น.

ตอบ ช่ายๆๆๆๆ ตอนขับรถ กะตอนจบ มานซึ๊งงม๊ากก น้องชายกะอยากอยู่กะพี่ พี่เป็นแบบนี้ ควบคุมอารมณ์ลำบากอ่า


เรื่องนี้เคยดูเมื่อนานมาแล้วค่ะ จำไม่ค่อยได้แล้ว เห็นแล้วก็อยากไปหามาดูอีกรอบ

แต่เคยดูหนังเกาหลีอยู่เรื่องนึง พระเอกเป็นออทิสติก แต่วิ่งเก่งมาก

ส่วนตัวก็มีคนรู้จักที่เป็นออทิสติกเหมือนกันค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่เจ้าตัวยังเด็กมาก ซะจนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเมื่อเขาโตขึ้นจะมีความสามารถพิเศษอะไร



โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:17:56:52 น.


ตอบ น่าดูน่าดู เพื่อนออร์ทิสติ๊กก ความจำแม่นม๊ากกก

และการรับรู้ ให้รู้แค่นี้ชั้นรู้ เรียนรู้เพิ่มพลิกแพลงมะเป็งงะ

จิตใจพวกเค้าบริสุทธิ์ม๊ากกก ทางความเชื่อเรา ถือว่าพวกเค้าเป็นพวกมีบุญมาเกิดอะ

 

โดย: Bernadette 5 กันยายน 2551 18:31:03 น.  

 

sakuran หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ แต่เหมือนจะไม่มี Master zone 3 นะ ที่เห็นจะเป็นโซน 2 เอามาใส่ซับไทยมากกว่า แต่หนังน่าดูมากค่ะ สีนี่แบบสวยปิ๊งเลย

 

โดย: แพร (bookofpear ) 5 กันยายน 2551 19:21:56 น.  

 

 

โดย: เริงฤดีนะ 6 กันยายน 2551 0:07:19 น.  

 

sakuran หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ แต่เหมือนจะไม่มี Master zone 3 นะ ที่เห็นจะเป็นโซน 2 เอามาใส่ซับไทยมากกว่า แต่หนังน่าดูมากค่ะ สีนี่แบบสวยปิ๊งเลย



โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:19:21:56 น.


ตอบ ขอบพระคุณงั๊บบบ นานนดูหนังเอเซียงั๊บบบ

 

โดย: Bernadette 6 กันยายน 2551 9:32:46 น.  

 

เข้ามาดูคุณทอม หล่อดีนะครับ
ทำไมหนังที่มีคนเป็นแบบ ติงๆ ต๊องๆ ปัญญาอ่อน ชอบได้รางวัลเนอะ เคยดูเรื่องนี้ก็ชอบ แต่ไม่ชอบ เลิฟซีน ใส่มาเกินไปหน่อย ขายพระเอกนิ

 

โดย: dj booboo 23 กันยายน 2551 13:07:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.