แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

Last Life in the Universe(2003) :Ruang rak noi nid mahasan

Last Life in the Universe : เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล, Ruang rak noi nid mahasan เรื่องนี้ขอโชว์โง่งะ ขอตีความตามใจตัวเอง งะ กับเสน่ห์ของFilm อยู่ที่คิด หนังไม่ได้ บอกโจ๊ะโจ๊ะ ตรงนี้ ตรงนี้ เป็นอย่างงี้ อะ .....

หนังเรื่องนี้อุปการะคุณMr.cozyงะ

Last Life in the Universe Trailer



"The Last Lizard" จิ้งจกตัวสุดท้าย เรียกอย่างงี้ได้อะปะ หนังสือนิทานสำหรับเด็กญึ่ปุ่นที่เคนจิพกติดตัวเป็ฯประจำ

"The lizard wakes up and finds he's the last lizard alive.
จิ้งจกกะตื่นขึ้นมาและพบว่าเค้าคือจิ้งจกตัวสุดท้ายที่มีชีวิตอยู่
His family and friends are all gone.
ครอบครัวและเพื่อนของเค้า ไปเรียบร้อยแล้วววว (ตายแหง๋มๆๆ)
Those he didn't like,
เค้าไม่ชอบพวกเหล่านั้นเลย
those who picked on him in school, are also gone.
พวกเขาเหล่านั้นชอบหาเรื่องเค้าในโรงเรียน
The lizard is all alone.
จี้งจกกะโดดเดี่ยว
He misses his family and friends.
เค้าคิดถึงครอบครัวและเพื่อนๆๆ
Even his enemies.
คิดถึงแม้กระทั้งศตรูของเค้า
It's better being with your enemies than being alone.
มันดีกว่ามีชีวิตอยู่กับศตรูมากกว่าอยู่อย่างโดดเดี่ยว
That's what he thought.
นั้นคือ เค้าคิดอะไรอยู่
Staring at the sunset, he thinks.
จ้องมองไปที่พระอาทิตย์ตกดิน เค้าคิด
"What is the point in living...
อะไรคือประเด็นของการมีชีวิตอยู่
If I don't have anyone to talk to?"
ถ้าไม่มีใครๆๆที่จะเสวนาด้วย
But even that thought doesn't mean anything...
แต่ถึงแม้ว่านั้นคือความคิดที่ไม่ได้มีความหมายอะไร
when you're the last lizard."
เมื่อเธอคือ จิ้งจกตัวสุดท้าย



เรื่องของเคนจิ ที่หมกมุ่นคิดอยู่กับการฆ่าตัวตาย
Why do I want to kill myself?
I don't know...
เหตุผลของเคนจิไม่ได้เหมือนคนทั่วไป ที่อกหัก เรื่องเงินหรือผิดหวัง คุณรู้มั๊ยหนังสือหลายๆๆเล่มบอกว่า "Death is relaxing. ความตายคือความผ่อนคลาย".....
Before waking up refreshed and ready to begin your next life.
That's what they say.
"This is bliss."
ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวาและเริ่มต้นกะชีวิตหน้า
พวกเขากะบอกว่า "นี้คือความผาสุข"


Source ://www.nipponcinema.com/images/screencap/last_life_in_the_universe1.jpg


เคนจิพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งไม่สำเร็จ ...... เคนจิได้รับปืนในตุ๊กตา.....และพี่ชายของเคนจิพาเพื่อนมาที่อาพาร์ตเม็นต์........ปังปังปัง ...พี่ชายเคนจิกะเรียบร้อย........และกะปังปังปังต่อ..........เคนจิ คนที่พยายามคิดจะฆ่าตัวตาย สังหารเพื่อนพี่ชายซะเอง......(นี้อะน๊ะสัญชาติญาณของคนจะฆ่าตัวตาย......เราว่าไม่ใช่อะ)

เก็บกวาดทำความสะอาดเคลียร์พื้นที่อย่างใจเย็นและเรียบร้อย


Source ://www.nipponcinema.com/images/screencap/last_life_in_the_universe2.jpg


สิ่งที่คลี่คลายในปมของตัวเคนจิ เรื่องฆ่าตัวตายนี้คือ น้อย ผู้หญิงคนไทยที่เค้าได้สัมผัสเธอ

น้อย ถามน้องหมาที่เลี้ยไว้: Hey did you see a Japaness Guy?

เคนจิไปนอนกะตายที่ใต้ท้องรถของน้อย.... กะฆ่าตัวตายเรื่องเดิมๆๆ

น้อย ถาม :ทำอะไรอะ
เคนจิ บอก :......... ความสุข...........


Source ://www.worldmovies.net/_uploads/images/movies/942577055.jpg


นิด น้องสาวของน้อยในชุดนักเรียนญึ่ปุ่นที่เคนจิพบในห้องสมุด ได้ทะเลาะกับพี่สาว เรื่อง ของจอร์น นิดไปนอนกับจอร์น ทั้งที่รู้ว่าเป็นแฟนพี่สาว นิดกลับบอกว่า จอร์นมันก็นอนไปทั่วแหละ น้อยโมโห ไล่นิดลงจากรถ กลางสะพานพุทธ นิดเห็นเคนจิกำลังจะกระโดดน้ำตาย ......รถมาชนนิด และนิดกะสิ้นใจ


Source ://img45.imageshack.us/img45/7862/m0020054lastlife41qk.jpg


น้อยเอากระเป๋ามาคืนเคนจิที่ห้องสมุด


ในFilm สื่อให้เห็ฯของ....contrast.......ความแตกต่าง

น้อยกินผัดซีอิ้ว เติม เครื่องปรุง น้ำตาล น้ำปลา พริก น้ำส้ม
เคนจิ ข้าวผัด ช้อนซ้อมไม่ใช้ ......ใช้ตะเกียบพก

น้อยซื้อซูชิมาฝากเคนจิ เคนจิแพ้ไม่กิน.....ให้หมากิน
น้อยกินบะหมี่ แบ่งให้เคนจิกิน เคนจิ กิน และกะสไตล์ญี่ปุ่น YES แต่ But กะบอกอิ่มแล้ว ..........แต่กินต่ออะ
กับการพยายามกินมะพร้าวของเคนจิ .....และกะส้มตำเป็นเหตุ

ความรกซกมกในบ้านของน้อย เพราะอีกไม่กี่วันน้อยจะไปญึ่ปุ่นแล้ว
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยรักสะอาดของเคนจิ

และด้านภาษาที่เรียกว่า Multilingualism คือความหลายหลายของภาษา ใช้ถึงสามภาษา คือ ญุ่ปุ่น ไทย และ อังกฤษ

เคนจิไม่อยากกลับอาพาร์ตเม็นต์ ขอตามน้อยไปบ้าน
เคนจิขึ้นไปข้างบนบ้านน้อย ดูชุดนักเรียนญี่ปุ่นของนิดที่แขวนอยู่ ....น้อยมาเห็นถึงกลับไล่เคนจิออกจากบ้าน

สิ่งที่เก็บกดของน้อยร้องไห้ออกมาเอาเสื้อนักเรียนญึ่ปุ่นของนิดมากอดไว้

Why did you leave me Nid?
I'm scare. I don't want to be alone.

กับคนสองคนที่แตกต่างกันอยู่ด้วยกัน สิ่งที่เหมือนกันคือ น้องสาวน้อยตาย พี่ชายเคนจิตาย ........ลงตัวอยู่เรื่องเดียวที่เหมือนกันอะ


Source ://www.dvdtimes.co.uk/images/NoelMegahey/lastlife4.jpg

น้อยพี้กัญชา กับภาพหลอนที่สนุกสนานและกะจบลงด้วย คิดถึงนิด Nid I'm sorry.

กับซีนข้างล่างนี้เรายอมรับเลยว่า ........นั้นคือเสน่ห์ของเป็นเอก .....หนังเรื่องอื่นๆๆมี....แก่นของหนัง.........แต่เป็นเอกมีกิ๊น.......กับความฉลาดของเค้า......ที่ทำให้คนเสพหนังตีความไปต่างๆๆนาๆๆ


หนังภาพสวย หาที่ใหนกะดูได้ .......หนังมีแก่น หาที่ใหนก็ดูได้........แต่หนังมีกิ๊น......หาดูยากอะ....



ทั้งที่เป็นเอกให้สัมภาษณื ดูสเปเชี่ยลอะ เค้าไม่เคยเรียนทำหนังมาเลย .......และScriptที่ได้จากปราบดาหยุ่น ครั้งแรกเค้าปฎิเสธไป เพราะเค้าติดทำหนัง มนรักทรานซิสเตอร์อยู่...และดราฟ ได้มานิดเดียว และเค้าทั้งสอง ร่วมกันเขียนบท

ซีนนี้ กะว่า หลอนบ้าง หรือ ผีบ้าง หรือ บอกไม่รู้เรื่องเลย ......เฉลยที

น้อยกับเคนจินั่งดูทีวี ........จิ้งจกตกลงมา บนโต๊ะ .....น้อยล้มตัวลงนอนที่ตักของเคนจิ เคนจิกะบอกว่า ... สองวันก่อนชั้นเห็ฯผู้หญิงใส่ชุดนักเรียนญึ่ปุ่นมาที่นี้ เคนจิหยิบกัญชาของน้อยมาสูบ ......แต่ที่นอนตักไม่ใช่น้อย แต่เป็นนิดที่ใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่น ......ที่ขานิดมีรอยฟกช้ำ

ตอนเช้ากลับกลายเป็นว่า น้อยใส่ชุดนักเรียนญึ่ปุ่นจุดธูป เอาชุดนักเรียนญุ่ปุ่นของนิดไปเผา และบอกเคนจิว่า เฮ๊ย You need woman น๊ะ

กับอีกซีนที่หลอน น้อยทำกับข้าวให้เคนจิกิน และมันกลายเป็นนิด
นิด :I give you my car.
Why?
I'm not taking it to Japan.
But I cannot... lt's your car.
But I give it to you.

นิดลุกออกไป กลับมาอีกทีกลายเป็นน้อย
น้อย : I give you license too.
You look strange. It doesn't look like you.
Don't laugh... lt's yours now.
You drive me to airport on Monday, okay?
OK.

และน้อยกะไปญึ่ปุ่น กะก่อนไปกะบอกนิด Goodbye Nid.


Source ://www.lovehkfilm.com/panasia/aj6293/last_life_in_the_universe.jpg


กับคำพูดของน้อยกับเคนจิ
น้อย :You want to see me again?
เคนจิ: Yes.
น้อย: When?
เคนจิ: One day.

หนังเปิดเรื่องว่าน้อยไปทำงานที่ญึ่ปุ่นได้ตีความไปต่างๆๆนา .....แต่น้อยทำงานเป็นพนักงานเสริพร้านกาแฟ และน้อยกลับที่พัก เพื่อนน้อยกะบอกว่า

Noi, someone's here to see you.


กำกับ Director: Pen-Ek Ratanaruang

เขียนบทWriter: Pen-Ek Ratanaruang, Prabda Yoon


หนังได้รับคำชมจาก BBC

กับอารมณ์ที่โหยหา เกี่ยวกับควาโดดเดี่ยว ความรัก ความสิ้นหวัง
กับคนแปลกหน้าสองคน ที่ค่อยๆๆตระหนักใจว่า พวกเค้า ต้องการความรักและความเข้าใจ

"FULL OF MAGICAL SURPRISES"



Source ://www.creativitiesunfold.com/public/image/symposium_lecture/15_pen_ek/image/pic_head_th.jpg

เป็นเอก รัตนเรือง (เกิด 8 มีนาคม พ.ศ. 2505 ที่กรุงเทพมหานคร) เป็นผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ชาวไทย เติบโตมาจากวงการกำกับภาพยนตร์โฆษณา เป็นเอกเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากภาพยนตร์ เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล และจัดว่าเป็นหนึ่งในคนทำหนังคลื่นลูกใหม่ ร่วมกับ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง และ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
ผลงาน

มนต์รักทรานซิสเตอร์เสียงสว่าง (Luminous Sound) (2550) ภาพยนตร์สั้นในชุด แด่พระผู้ทรงธรรม
พลอย (2550)
total bangkok(ภาพยนตร์สั้น) (2549)
คำพิพากษาของมหาสมุทร (2549)
เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล (2546)
มนต์รักทรานซิสเตอร์ (2544)
เรื่องตลก 69 (2542)
ฝัน บ้า คาราโอเกะ (2540)




Source ://i2.photobucket.com/albums/y27/mono-gokinjo/123.jpg

ปราบดา หยุ่น (2 สิงหาคม พ.ศ. 2516 - ) เป็นนักเขียน ได้รับรางวัลซีไรต์จากเรื่องความน่าจะเป็น เมื่อพ.ศ. 2545
ประวัติ
เป็นบุตรชายของสุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการอำนวยการของเครือเนชั่น และนันทวัน หยุ่น อดีตบรรณาธิการนิตยสารลลนา มีชื่อเล่นว่า คุ่น สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ แล้วไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ,การศึกษาชั้นปริญญาตรีจากCooper Union School of Art in New York Cityในปีพ.ศ. 2540 โดยปราบดาได้ทำงานด้านการออกแบบกราฟิกอยู่ที่แมนฮัตตันก่อนจะกลับมาเกณฑ์ทหารในประเทศไทย หลังจากนั้น เป็นคอลัมนิสต์ให้กับนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ และเป็นคนเขียนบทให้กับรายการโทรทัศน์เรื่องปมไหม (Silk Knot) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของจิม ทอมป์สัน ผู้ผลิตผ้าไหมรายใหญ่ของไทย

ผลงานของปราบดาเช่น บทภาพยนตร์เรื่อง เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาลปีพ.ศ. 2546 และเรื่องคำพิพากษาของมหาสมุทรปีพ.ศ. 2549 ผู้กำกับคือ เป็นเอก รัตนเรือง

ปราบดาได้รับรางวัลซีไรต์ในปีพ.ศ. 2545 เมื่อเขามีอายุได้29ปี จากเรื่องความน่าจะเป็น ได้รับรางวัลจากคณะกรรมการศิลปะและวัฒนธรรม จากการเขียนเรื่องWhere We Feel: A Tsunami Memoir by An Outsider.

ปัจจุบัน ปราบดาอาศัยอยู่ในอาคารชุดเขตเพลินจิต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสำนักพิมพ์ไต้ฝุ่นด้วยเช่นกัน

ชื่อ ปราบดา อาจจะมาจากคำว่า ปราฟด้า (Правда) ใน ภาษารัสเซีย ที่แปลว่าความจริง และเป็น ชื่อหนังสือพิมพ์ที่เคยมีอิทธิพลมากที่สุดของ สหภาพโซเวียต


[แก้] ผลงาน

[แก้] เรื่องสั้น
เมืองมุมฉาก (2543) (City of Right-Angles, 2000)
ความน่าจะเป็น (2543) (Probability, 2000)
อุทกภัยในดวงตา (2544) (Flood in the Eyes, 2001)
ส่วนที่เคลื่อนไหว (2544) (The Parts That Move, 2001)
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง (2545) (The Story Really Happened, 2002)
กระทบไหล่เขา (2547) (Crashing Into Shoulders of Mountains, 2004)
ความสะอาดของผู้ตาย (2548) (Cleaning the Dead, 2005)

[แก้] นวนิยาย
ชิทแตก! (2545) (Chit-tak!, 2002)
แพนด้า (หนังสือ)|แพนด้า (2547) (Panda, 2004)
ฝนตกตลอดเวลา (2548)(Rain Lessons, 2005)
นอนใต้ละอองหนาว (2549)(Under the Snow, 2006)

[แก้] รวมบทความและความเรียง
(เปิดไป) หน้าศูนย์ (2549)
ภาพไม่นิ่ง (2544) (Unstill Pictures, 2001)
น้ำใส่กะโหลก (2545) (Water For the Skull, 2002)
อย่าอ่านเลย ก็แล้วกัน (2545) (Please Don't Read, Carefully, 2002)
เป็น: เรียงความว่าด้วยลมหายใจในตัวหนังสือ (2546) (Be: About the Breath of Words, 2003)
สมมุติสถาน (2548) (Imagined Landscape, 2005)
ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน 1 (กับ วินทร์ เลียววาริณ) (2545) (Parallel Probability Vol. 1, with Win Leowarin, 2002)
ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน 2 (กับ วินทร์ เลียววาริณ) (2547) (Parallel Probability Vol. 2, with Win Leowarin, 2004)
ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน 3 (กับ วินทร์ เลียววาริณ) (2548) (Parallel Probability Vol. 3, with Win Leowarin, 2005)
ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน 4 (กับ วินทร์ เลียววาริณ) (2549) (Parallel Probability Vol. 3, with Win Leowarin, 2006)
ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน 5 (กับ วินทร์ เลียววาริณ) (2550) (Parallel Probability Vol. 3, with Win Leowarin, 2007)

[แก้] บทภาพยนตร์
เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล (2546) (Last Life in the Universe, with Pen-ek Rattanaruang, 2003)
คำพิพากษาของมหาสมุทร (2549) (Invisible Waves, 2006)

[แก้] หนังสือแปล
คนหัวหมา (2546) (Dogwalker, by Arthur Bradford, 2003)


Source ://www.script-o-rama.com/movie_scripts/l/last-life-in-the-universe-script.html
//www.bbc.co.uk/films/2004/06/29/last_life_2004_review.shtml
//72.14.235.104/search?q=cache:Z7i-96FWf8YJ:th.wikipedia.org/wiki




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2551
18 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 13:07:09 น.
Counter : 3114 Pageviews.

 

สวัสดีจ๊ะหนูแบร์เน็ตติ้ ขยันทำบล๊อคจังนะ เดี๋ยวพี่ดีเจมาอ่านรายละเอียดใหม่นะ จะไปนอนแล้วครับ

ที่เข้าไปถามเรื่องดีเจ นะครับ คือ dj booboo จะเปิดเพลงประเภท House (ตอนนี้ไม่ได้เป็นดีเจแล้วนะ) ก็จะเปิดอย่างเดียวครับใช้เอฟเฟกท์บ้างแต่จะไม่สแกรชแผ่นเหมือนฮิปฮอป แต่พยายามจะศึกษาเหมือนกัน อาจจะเอามาเล่าให้ฟังภายในสองปีนี้แหละ พี่ดีเจเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องดีเจในบล๊อคเก่า ๆ นิดหน่อยเหมือนกันลองขุดลงไปดูได้ บล๊อคเราจะง่ายมีแค่ห้องเดียวไม่ได้แบ่ง

 

โดย: dj booboo 4 มิถุนายน 2551 2:29:14 น.  

 

สวัสดีจ๊ะหนูแบร์เน็ตติ้ ขยันทำบล๊อคจังนะ เดี๋ยวพี่ดีเจมาอ่านรายละเอียดใหม่นะ จะไปนอนแล้วครับ

ที่เข้าไปถามเรื่องดีเจ นะครับ คือ dj booboo จะเปิดเพลงประเภท House (ตอนนี้ไม่ได้เป็นดีเจแล้วนะ) ก็จะเปิดอย่างเดียวครับใช้เอฟเฟกท์บ้างแต่จะไม่สแกรชแผ่นเหมือนฮิปฮอป แต่พยายามจะศึกษาเหมือนกัน อาจจะเอามาเล่าให้ฟังภายในสองปีนี้แหละ พี่ดีเจเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องดีเจในบล๊อคเก่า ๆ นิดหน่อยเหมือนกันลองขุดลงไปดูได้ บล๊อคเราจะง่ายมีแค่ห้องเดียวไม่ได้แบ่ง



โดย: dj booboo วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:2:29:14 น.

ตอบ งั๊บ ขอบพระคุณพี่ดีเจงั๊บบ

 

โดย: Bernadette 4 มิถุนายน 2551 9:07:49 น.  

 

หนังว่าถึง คนเหงาในเมืองใหญ่ ครับ

ตามความเห็นผม

เคนจิ เขาใช้ชีวิตเรียบร้อย มีระเบียบจนน่าเบื่อไม่รู้จะอยู่ไปทำไมมั้งครับ

แต่ตัวละครแต่ละตัวล้วนเป็น วิญณาณที่เปลี่ยวเหงาทั้งนั้น

จึงมีการกระทำแตกต่างกันไป

 

โดย: mr.cozy 4 มิถุนายน 2551 13:27:42 น.  

 

หนังว่าถึง คนเหงาในเมืองใหญ่ ครับ

ตามความเห็นผม

เคนจิ เขาใช้ชีวิตเรียบร้อย มีระเบียบจนน่าเบื่อไม่รู้จะอยู่ไปทำไมมั้งครับ

แต่ตัวละครแต่ละตัวล้วนเป็น วิญณาณที่เปลี่ยวเหงาทั้งนั้น

จึงมีการกระทำแตกต่างกันไป



โดย: mr.cozy วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:13:27:42 น.

ตอบ งั๊บขอบพระคุณงั๊บ

เราลองไปอ่านของรีวิวญุ่ปุ่น มุมมองเค้า เน้นอย่างเดียว เรื่อง ยากูซ่า

อารมณ์ของหนัง ไม่เน้นเลย บอกใส่เรื่องยากูซ่าน้อยปายยทำนองนี้ม้างง หรือยากูซ่าไม่เป็นแบบนี้งะ

กะมันหนังออนโมสเฟียงะ ........หนังบรรยากาศกะอารมณ์

ในขณะฝั่งตะวันตก ตีความ เหงา เศร้า โดดเดี่ยว sin

 

โดย: Bernadette 4 มิถุนายน 2551 13:55:30 น.  

 

โหเรื่องนี้ จำได้ว่าตอนออกมาจากโรง ลอยกลับบ้านไปเลย 555+ ช่วงนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่ชอบหนังเหงาๆ หนังเฮียหว่อง หนังอากิ เคาริสมากิ หนังจิม จาร์มุส ถือว่าเป็นช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยที่ปลีกวิเวกมากๆ 555+

ชอบตอนจบด้วยละ แบบว่ามันชวนฝันดี อย่างน้อยเราก็รู้แล้วล่ะ ว่าเจ้าเคนจิมันทำอะไรกับชีวิตของตัวเอง หลังจากเรื่องยุ่งๆเหล่านี้จบลง

 

โดย: BloodyMonday 4 มิถุนายน 2551 15:26:24 น.  

 

หวัดดีจ้าแบร์...เข้ามารายงานตัวหลังจากหนีงานไปเที่ยวมาครึ่งเดือน โฮะ โฮะ...เดี๊ยวจะไล่ตามเก็บบล็อคที่ผ่านๆมานะจ๊ะ

 

โดย: DKRY 4 มิถุนายน 2551 16:37:29 น.  

 

หวัดดีจ้าแบร์...เข้ามารายงานตัวหลังจากหนีงานไปเที่ยวมาครึ่งเดือน โฮะ โฮะ...เดี๊ยวจะไล่ตามเก็บบล็อคที่ผ่านๆมานะจ๊ะ

 

โดย: DKRY 4 มิถุนายน 2551 16:37:30 น.  

 


โหเรื่องนี้ จำได้ว่าตอนออกมาจากโรง ลอยกลับบ้านไปเลย 555+ ช่วงนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่ชอบหนังเหงาๆ หนังเฮียหว่อง หนังอากิ เคาริสมากิ หนังจิม จาร์มุส ถือว่าเป็นช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยที่ปลีกวิเวกมากๆ 555+

ชอบตอนจบด้วยละ แบบว่ามันชวนฝันดี อย่างน้อยเราก็รู้แล้วล่ะ ว่าเจ้าเคนจิมันทำอะไรกับชีวิตของตัวเอง หลังจากเรื่องยุ่งๆเหล่านี้จบลง



โดย: BloodyMonday วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:15:26:24 น.

ตอบ งะ ตะเองกะเบาโหวงง เรากะดูเรื่องนี้ กะชวนคิดง่า
แง๊บบบบบบบ

 

โดย: Bernadette 4 มิถุนายน 2551 18:00:37 น.  

 

หวัดดีจ้าแบร์...เข้ามารายงานตัวหลังจากหนีงานไปเที่ยวมาครึ่งเดือน โฮะ โฮะ...เดี๊ยวจะไล่ตามเก็บบล็อคที่ผ่านๆมานะจ๊ะ



โดย: DKRY วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:16:37:29 น.

ตอบ ปายเที่ยวหนายยมา แง๊ววววววววเล่าให้ฟังม้างงงงงงงงง

 

โดย: Bernadette 4 มิถุนายน 2551 18:01:11 น.  

 

 

 

โดย: Opey 4 มิถุนายน 2551 18:04:57 น.  

 

โดย: Opey วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:18:04:57 น.

ตอบ สวัสดีโอพี

 

โดย: Bernadette 4 มิถุนายน 2551 19:38:43 น.  

 

สวัสดีครับคุณแบร์ฯ
ชอบบทสรุปของ Mr.cozy ที่บอกว่า คนเหงาในเมืองใหญ่ เพราะหลายปีก่อนตอนเป็น ยัปปี้ ก็มีบางครั้งมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน แต่ผ่านมาแล้ว
ผลงานของคุณเป็นเอก ชอบ มนต์รักทรานซิสเตอร์ กับเรื่องตลก 69 ครับ หาอะไรมาให้อ่านอีกนะ

 

โดย: dj booboo 4 มิถุนายน 2551 23:47:05 น.  

 

สวัสดีครับคุณแบร์ฯ
ชอบบทสรุปของ Mr.cozy ที่บอกว่า คนเหงาในเมืองใหญ่ เพราะหลายปีก่อนตอนเป็น ยัปปี้ ก็มีบางครั้งมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน แต่ผ่านมาแล้ว
ผลงานของคุณเป็นเอก ชอบ มนต์รักทรานซิสเตอร์ กับเรื่องตลก 69 ครับ หาอะไรมาให้อ่านอีกนะ



โดย: dj booboo วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:23:47:05 น.

ตอบ งั๊บ ชอบเหมือนกันงั๊บบ ฆ่าตัวตาย ตอนนี้เป็งปัญหาเศรษฐกิจ

 

โดย: Bernadette 5 มิถุนายน 2551 6:27:00 น.  

 

หวัดดีจ๊ะแบร์เมื่อเช้ๅขอโทษนะ โปรแกรมภๅษๅไทยมันกวนไม่ย่อมขึ้น
เลยส่งภๅพแต่ดันไม่ขึ้นอีก คิดถึงจ๊ะ ช่วงนี้โอพีบ้ๅเบสบอลเพี้ยนๆเหมื่อนกันคงไม่โกรธนะ
หวังว่ๅคุณคงสบๅยดีน๊ๅๅๅๅ

 

โดย: Opey 5 มิถุนายน 2551 10:10:21 น.  

 

หวัดดีจ๊ะแบร์เมื่อเช้ๅขอโทษนะ โปรแกรมภๅษๅไทยมันกวนไม่ย่อมขึ้น
เลยส่งภๅพแต่ดันไม่ขึ้นอีก คิดถึงจ๊ะ ช่วงนี้โอพีบ้ๅเบสบอลเพี้ยนๆเหมื่อนกันคงไม่โกรธนะ
หวังว่ๅคุณคงสบๅยดีน๊ๅๅๅๅ



โดย: Opey วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:10:10:21 น.

ตอบ บายดี วุ่นๆๆๆเหนื่อยๆๆๆๆ แง๊มๆๆๆๆๆ

 

โดย: Bernadette 5 มิถุนายน 2551 13:43:36 น.  

 

ไม่พูดอะไรนะ
นอกจากจะบอกว่าชอบพี่น้อง 2 ศรี
จากเรื่องนี้ค่ะ...ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 6 มิถุนายน 2551 13:07:01 น.  

 

ไม่พูดอะไรนะ
นอกจากจะบอกว่าชอบพี่น้อง 2 ศรี
จากเรื่องนี้ค่ะ...ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาค่ะ




โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:13:07:01 น

ตอบ แสดงได้ดีม๊ากกกงะ.......สวยด้วยยย

 

โดย: Bernadette 7 มิถุนายน 2551 7:55:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.