ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 ตุลาคม 2552
 
 
ซินยุนบก ตอนที่ 2

ตอนที่ 2
“อ้อ....ที่อยู่ในตลาด....”

“เข้าห้องน้ำออกมาเจอทองหรือไง ถึงได้หน้าบานขนาดนี้”

“หน็อย....ยังจะพูดอีก ท่านรู้มั้ย วันนั้นทำเอาข้าลำบากแค่ไหน เราสองคนดึงภาพจนขาด แต่ท่านหนีไปปล่อยให้ข้าชดใช้คนเดียว จ่ายมาเดี๋ยวนี้ 300 ตำลึง”

“เฮอะ....วันนี้อากาศดี เรื่องอะไรมา ทวงเงินให้เสียอารมณ์ นึกว่าข้าอยากทำขาดหรือไง”

“ยังไงก็ช่าง สุดท้ายข้าก็ชดใช้ให้เขาไป จ่ายมาเร็วเข้า 300 ตำลึง อย่าคิดเบี้ยวอีกนะ”

“เจ้าทำลายภาพเขียนของท่านทังวอน ตามหลักต้องไปขอโทษเขามากกว่าทวงเงินจากข้านะ”

“หึ....ท่านทังวอนหรือ เฮ่อ ๆ ๆ เรื่องนี้ท่านไม่ต้องห่วงแทนข้าหรอก เฮ่ย.... เท่าที่ดู คงมาขายฉากบังตาล่ะสิ....วันนี้เป็นวันสำคัญรู้มั้ย ก็คือ....ท่านทังวอนคิมฮงโดที่แสนจะโด่งดัง จะมาถ่ายทอดความรู้ที่ศูนย์ศิลปะของเรา ท่านอย่าเพิ่งมาเกะกะเลย กลับไปก่อนเร็วเข้า”

“งั้นหรือ งั้นข้าจะเอาฉากนี้ไปขายให้เขา ดีกว่าหอบกลับให้เมื่อยอีก อึ๊บ....”

“เดี๋ยว....นี่....พี่ชาย....”

“อ้อ....เอางี้ เจ้าช่วยยกเข้าไปดีกว่า”

“หา....อุ๊ย....นี่....พี่ชาย....”

“ทำไม มองอะไร ไม่รีบตามข้ามาอีก”

“เอ่อ....เดี๋ยวก่อนซี่ พี่ชาย ทางโน้นเข้าไม่ได้นะ นี่เป็นเขตหวงห้ามของเรา”

“เอาน่าอย่าพูดมากได้ไหม น่ารำคาญจริง”

“บอกว่าห้ามเข้าไม่ได้ยินหรือไง” ซิน ยุนบก กล่าว

“ก็บอกว่าจะไปขายให้คิมฮงโดไม่เข้าไปแล้วจะเจอเขาได้ไง แปลกจริง”

“ยังจะเดินอีก ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”

“ท่านทังวอนมาแล้วหรือครับ” ช่างเขียน คนหนึ่งทัก

“ท่านทังวอน ๆ”

“ทัง....ทังวอน?” ซินยุนบก งง

“นึกว่าใคร พวกเจ้าเองหรือ ไม่เจอตั้งนานสบายดีหรือเปล่า” คิมฮงโด ทักพวกช่างเขียนเก่า ๆ พวกช่างตอบ “สบายดี ๆ”

“คิมฮงโด....เฮ้ย ๆ ๆ....ว้าย....” ซินยุน บก ร้องเสียงหลง
ซินยุนบกไม่นึกว่าชายที่เจอที่ร้านขายภาพจะเป็นท่านทังวอน คิมฮงโดจึงตกใจเกือบทำฉากบังตาตกเสียหาย คิมฮงโดเข้ามาที่สำนักศิลปะเพื่อสอนการวาดภาพให้กับนักเรียน โดยมีชางยอวอน หัวหน้านักเรียนเป็นคนแนะนำ ให้รู้จักกับนักเรียนทุกคน คิมฮงโดบอกกับทุกคนว่าจะสอนเขียนรูปบนฉากบังตา แต่นักเรียนบอกว่าเคยเรียนไปแล้วเมื่อวันก่อน เขาจึงให้ทุกคนวาดภาพกลับหัว

“โดยปกติเวลาเราจะเขียนรูป ในสมองจะมีภาพบางอย่าง ทันทีที่เริ่มลงมือทำงาน เราจะนึกถึงภาพนั้นแล้วถ่ายทอดโดยผ่านทางพู่กัน แต่ถ้าเอาภาพนั้นกลับหัวซะ มันจะกลายเป็นอีกรูปหนึ่งหรือเปล่า”

ด้านพระราชาจองโจ ตรัสกับพระอัยยิกาถึงเรื่องที่คิมฮงโด กลับมาสอนหนังสืออีกครั้งที่ศูนย์ศิลปะ พระอัยยิกาไม่มั่นใจว่าคิมฮงโด จะสามารถสืบหาคนที่เขียนรูปได้สำเร็จหรือไม่

“ภาษิตโบราณว่าไว้ สันดอนขุดง่ายสันดานขุดยากจริงมั้ยพ่ะย่ะค่ะ....คนอย่างท่านทังวอน ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน เปรียบเหมือนอาชาที่คึกคะนอง....แม่ทัพ” พระราชาจองโจ ตรัส

ใต้เท้าชางถามหาคิมฮงโดกับช่างเขียน คนหนึ่ง เมื่อรู้ว่าเขากำลังสอนนักเรียนศิลปะให้เขียนฉากบังตากลับหัวก็ประหลาดใจ ด้านคิมฮงโดก็ตั้งใจสอนลูกศิษย์ สอบถามทีละคนว่า การเขียนรูปคืออะไร แต่ไม่มีใครบอกได้ถูกใจจนมาถึงชางยอวอน

“การเขียนรูปก็คือ....การบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยใช้ภาพเป็นสิ่งแทน น่ะครับ เพราะว่าในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่รอดพ้นสายพระเนตรของฝ่าบาท ฉะนั้น หน้าที่ของช่างเขียนก็คือ ใช้ภาพเขียนแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์แห่งโชซอน” ชางยอวอน กล่าวจบทุกคนปรบมือ

“เจ้าชื่ออะไรนะ” คิมฮงโด ถาม

“เคยบอกท่านแล้วว่า ข้าเป็นหัวหน้าชั้นของรุ่นนี้ และผู้ดูแลศูนย์ศิลปะใต้เท้า “ชางพยองซู” ก็คือพ่อข้า ข้าชื่อชางยอวอนครับอาจารย์”

“เจ้าน่ะ”

“ครับ ท่านอาจารย์”

“ทำไมชอบร่ายยาวนัก ฝีมือไม่เท่าไหร่ แต่ฝีปากเจ้าเหมือนจะเป็นช่างเขียนจริง ๆ....เอาล่ะต่อไป ใครจะตอบคำถามข้าอีกบ้าง....เป็นคนเขียนรูปแท้ ๆ กลับไม่นึกถึงความหมายของงานตัวเองเลยหรือ....แล้วพวกเจ้ามาอยู่ศูนย์ศิลปะเพื่ออะไรกัน....แต่ละคนช่างไม่มีหัวคิด คนที่ยังถือพู่กันอยู่นั่นน่ะ....นี่....เจ้าหนู....ตาเจ้าตอบข้าหน่อยซิ อะไรคือการเขียนรูป”

“การเขียนรูปหรือครับ เอ่อ..คือการเขียนรูปนั้นเป็นสิ่งแทนความคิดถึงจะได้ไหมครับ” ซินยุนบก ถาม

“งั้นหรือ เพราะอะไร”

“ครับ ความคิดถึง ก็กลายเป็นภาพได้ หรือไม่ก็....ภาพนั้น ทำให้คนหวนคิดถึงอะไรบางอย่าง”

“ต่อซิ”

“เพราะมีคนที่อยู่ในใจ คิดถึงเขาบ่อย ๆ เลยเขียนเป็นภาพออกมา เพราะฉะนั้น บางคนจึงอยู่ในภาพนั้น”

“ให้ความคิดถึงกลายเป็นภาพ แล้วไงอีก”

“หลังจากนั้น พอเห็นคนที่อยู่ในภาพ แม้เราจะลืมไปแล้ว ก็ช่วยให้เกิดความทรงจำใหม่ แบบนี้ เพราะภาพเขียน ชวนให้รำลึกถึงอดีตถูกมั้ยครับ”

“เมื่อได้เห็นภาพ ก็จะนึกถึงหรือ”

“ครับ หรือก็คือว่า....หมายถึงว่า.... การเขียนรูปเป็นสิ่งแทนความทรงจำอย่างหนึ่ง”

“ความทรงจำหรือ เจ้าบอกว่าเขียนรูป แทนความทรงจำ..บอกชื่อของเจ้ามาซิ”

“ครับ ข้าชื่อซินยุนบกครับอาจารย์” ซินยุนบกตอบ จากนั้นคิมฮงโดก็ให้การบ้านให้ทุกคนกลับไปทำ

ใต้เท้าชางมาหาอาจารย์ “แผ่กเป” เพื่อสอบถามถึงการเขียนรูปกลับหัวมีความหมายอย่างไร จึงรู้ว่าเป็นการทดสอบสายตาคนเขียนรูป ไม่ต้องใช้สมอง แต่ใช้ความสามารถในการมอง จะทำให้รู้ข้อดีข้อด้อยของนักเรียนแต่ละคน

“ใครกล้าสอนด้วยวิธีแบบนี้” แผ่กเป ถาม

“เจ้าทังวอน”

“หือ....ทังวอน ทังวอนหรือ คนที่เป็นเสี้ยนหนามของท่านในอดีต....หึ ๆ ๆ หมอนี่กลับมาเมื่อไหร่ศูนย์ศิลปะคงได้สนุกแน่ เฮ่อ ๆ ๆ”

เจ้ากรมพิธีการมาหาใต้เท้าชาง สอบถามเรื่องการสืบหานักเรียนที่เขียนรูปผิด เนื่องจากพระอัยยิกามีรับสั่งกดดันลงมาและให้ลงทัณฑ์ด้วยการทุบมือ

“ข้าก็รู้อยู่ และได้กำชับช่างเขียนทุก คนให้เงียบไว้ อย่าเพิ่งพูดให้พวกนักเรียนตกใจ ซะก่อน พวกเขานึกว่าที่ทังวอนไปสอนเป็นแค่บทเรียนธรรมดา แต่ว่า ไม่นานต้องเจอคนที่เขียนรูปนั้นแน่”

“ข้าไม่อยากคิดเลยว่าจะรอถึงวันนั้นได้หรือเปล่า แต่หากโชคร้าย สืบไม่ได้ว่าเป็นผลงานของใคร พระอัยยิกาจะสั่งลงโทษใครบ้างนี่คือสิ่งที่เราต่างก็กลัวนัก หรือไม่ก็....”

“หรือไม่ก็....อะไรอีก” ใต้เท้าชาง ถาม

“เราสองคนที่ยอมให้เรียกตัวทังวอน กลับมา มือของเรา....จะถูกตัดด้วย....สังเวยการลงทัณฑ์ทุบมือ เข้าใจหรือเปล่า”

“หมายความว่า พระอัยยิกาเคยรับสั่งอย่างงั้นหรือ ที่จะให้ทุบมือน่ะ” ใต้เท้าชาง กล่าว ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน ชางยอวอนก็แอบได้ยินจึงนำเรื่องการลงโทษไปบอกเพื่อน ๆนักเรียน และเข้าใจไปว่าหากใครทำการบ้านไม่ได้จะถูกลงโทษด้วยการทุบมือ

นักเรียนศิลปะหลาย ๆ คนรู้สึกเครียดเพราะไม่สามารถคิดลากเส้นการบ้านของคิม ฮงโดได้ หลายคนช่วยกันคิดหาวิธีอยู่จนดึก จนเช้าวันรุ่งขึ้นคิมฮงโดให้ทุกคนนำผลงานมาส่ง

“นี่ก็คือคำตอบ ใครจะพูดว่าทำไม่ได้อีก....ได้ข่าวว่าเมื่อคืนอดหลับอดนอนช่วยกันคิดไม่ใช่หรือ แล้วทำไมง่าย ๆ แค่นี้ยังแก้ไม่ตกอีก พวกเจ้ารวมหัวทำอะไรกันแน่ แบบนี้อีกหน่อยจะเลื่อนขั้นเป็นช่างเขียนส่วนพระองค์ ทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ยังไง อนาคตถ้าหวังพึ่งพวกเจ้ามิต้องพังหรอกหรือ ยังไม่ถือดี ๆ จะให้ลงโทษอีกใช่ไหม”

“แต่ว่า ภาพที่ท่านเขียน มันไม่เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมเหมือนที่บอกนี่ครับ” ซิน ยอนบก ถาม

“ตำแหน่งที่ข้าให้คือ 9 จุด จะมองเป็นสามเหลี่ยมก็ได้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบ พวกเจ้าต่างก็ถูกคำว่าสี่เหลี่ยมจำกัดความคิด ทำให้ไม่รู้คำตอบจริง เราต้องคิดนอกกรอบถึงจะเห็นภาพรวมได้”

“อาจารย์ครับ ถ้าอย่างงั้นแค่ 3 เส้นก็ต่อเป็นภาพได้เหมือนกัน” ซินยุนบก กล่าว

“สามเส้นหรือ สามเส้นยังไง ไม่มีทางเป็นภาพได้หรอก” คิมฮงโด กล่าว

“แต่ข้าคิดว่ามี เพียงแต่ท่านมองไม่ออกเท่านั้น”

“แสดงว่า เจ้ามีคำตอบมากกว่านี้หรือไง”

“ยุนบก” ซินยอนบก เตือนน้อง

“เจ้ามาเขียนดู” คิมฮงโด กล่าว ซิน ยุนบกจึงลองเขียนภาพดู

“แค่นี้....ก็เป็นคำตอบได้แล้ว”

“ถ้าจะว่ากันจริง ๆ เส้นกลางไม่ได้ลากผ่าน 3 จุดตรงกลางหรอกนะ จุดนี้อยู่สูงไป จุดนี้ผ่ากลาง อีกจุดก็อยู่ข้างใต้ มันไม่ได้ผ่านเป็นเส้นตรง แค่ลากเฉียงเท่านั้น จริงหรือเปล่า”

“ครับ แหะ ๆ ๆ ถูกต้อง เฮ่อ ๆ ๆ” พวกศิษย์ กล่าว

“ถ้าดูจากภาพนี้ ที่อาจารย์พูดก็มีเหตุผลพอฟังขึ้น”

“มีเหตุผลพอฟังขึ้น หมายความว่าไง”

“คือว่า....ลองคิดถึงการเขียนเส้นตั้งฉากสิครับ เอ่อ....ถ้าตั้งฉากในแนวนี้ มุมกว้างขึ้นการเอียงก็ทำได้มากขึ้น ตรงข้าม ถ้ามุมแคบมันจะเอียงได้น้อยลง ช่องแคบก็จะหดลงตามด้วยจริงมั้ยครับ”

“มันพูดอะไร ยิ่งฟังก็ยิ่งงงเต๊ก” นักเรียนคนหนึ่ง กล่าว

“แล้วยังไง”

“เพราะฉะนั้น ถ้าท่านแต้มจุดให้มันแคบลง เส้นกลางไม่ต้องเฉียงขนาดนี้ก็จะผ่านทุกจุดได้หมด”
“พูดอะไร ช่วยแปลให้ฟังหน่อย” นักเรียนอีกคนกล่าว

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“ไม่เชื่อดูสิครับ ถ้าเรา..ลากยาวไป เรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ไปยาวเท่าที่จะไปได้ แบบนี้เห็นมั้ยครับ จากนั้นก็..ย้อนกลับมาจุดเริ่มต้นแล้วลากผ่านไป เห็นมั้ยครับ...ไปอีก ๆ วาดไปเรื่อย ๆ จนสุดทางจะไปได้ ถ้ามันไม่มีที่สิ้นสุดจริง ช่องว่างระหว่างเส้นก็จะยิ่งแคบลงโดยปริยาย หรือก็แปลว่า ถ้าเราทำให้ช่องว่างของเส้นยิ่งแคบลงเท่าไหร่ มุมที่หดลงก็จะลากผ่าน 3 จุดนี้ได้พอดี กลายเป็นภาพอีกหนึ่งภาพ เหมือนที่อาจารย์สอนไงครับ”

“มันก็ชอบอวดเก่งไปอย่างงั้น” ชาง ยอวอน กล่าว

“ที่เขาพูด....ก็แค่ตะแบง” คิมฮงโด กล่าว

“ทำไมครับ ทำไมว่าข้าตะแบง”

“คำตอบที่ดีจะต้องชัดเจน ให้คนเห็นชัด ไร้ข้อกังขาถึงจะเรียกว่าเป็นคำตอบที่แจ่มแจ้ง แล้วคำตอบของเจ้า ทำให้ทุกคนเห็นกับตาและเกิดความเข้าใจได้ไหม”

“ครับ ข้าคิดว่าทำได้”

“งั้นก็ลองดู”

“แต่ว่า....ท่านจะยอมให้ข้าใช้กระดาษ เรียงต่อเท่าที่ต้องการได้หรือเปล่า”

“จะใช้กระดาษเท่าที่ต้องการงั้นหรือ”

“อึม....ใช่ และแป้นหมึกอีก 10 อัน ที่ฝนหมึกเตรียมไว้พร้อม”

“จะใช้แป้นหมึกอีกเป็นสิบเชียวหรือ”

“ถ้ายอมให้สองอย่างนี้ ข้าจะลากเส้นผ่านตรง ๆ ให้ท่านดู”

“งั้นก็หมายความว่า ถ้าไม่มีหมึกและกระดาษมากมายมหาศาล เจ้าจะไม่สามารถทำได้ใช่ไหม”

“นั่นก็แปลว่า ถ้าท่านไม่คิดประหยัดกระดาษและให้หมึกที่เตรียมพร้อมแก่ข้า เราจะพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้เมื่อไหร่ก็ได้” ซิน ยุนบก กล่าว

“ปริศนาในวันนี้ ก่อนจะรู้คำตอบจริง ให้เก็บไว้ในใจคิดดู การเรียนวันนี้ ข้าจะจบแค่นี้”

“โอย....เฮ่ย....อุ๋ย....แขนแทบจะหัก.... จบดื้อ ๆ ซะงั้น....” พวกนักเรียน กล่าว

คิมฮงโด พอจะเริ่มรู้แล้วว่านักเรียนคนไหนเป็นคนแอบเขียนรูปพระอัยยิกา เมื่อออกมาจากห้อง ชุนเข้ามาถาม

“เฮ่อ ๆๆ เป็นไง สืบได้เรื่องหรือยัง ....นี่มันอะไรน่ะ....ฮ่า....เป็นวิธีที่ใช้ได้นี่นะ หือ ...หรือว่าจะเป็นคนนั้น นักเรียนที่เขียนรูป กลับหัวได้เหมือนจริง...เฮ่ย...น่าเสียดาย สงสัยต้องเสียคนเก่งไปซะแล้ว...นักเรียนคนนี้เป็นใครน่ะ....แม้แต่ข้าก็บอกไม่ได้หรือ”

“อย่าเพิ่งมาเร่งข้าเลย นี่ยังไม่ถึงเวลา ข้าอยากไปคุยกับเขาก่อน”

“คุยแล้วจะได้อะไร”

“ถ้าไม่คุยแล้วจับผิดคน เป็นเจ้าจะนอนหลับสบายได้ไหมล่ะ เอาแต่เร่งอยู่ได้” คิมฮงโด กล่าว

ชางยอวอนกับเพื่อนนักเรียนศิลปะ กำลังจะแอบหนีออกไปเที่ยวหอนางโลม แต่ คิมฮงโดมาเห็นก่อน จึงสอบถามเมื่อรู้ว่านักเรียนที่เหลืออยู่ คือ ซินยอนบก กับซินยุนบก สองคนเท่านั้น จึงเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้คุยกับซินยุนบก จึงปล่อยให้นักเรียนทั้งหมดออกไปเที่ยวกัน

คิมฮงโด กำลังเดินอยู่ก็เห็นซินยุนบก ออกมาจากหอจิตรกร จึงแอบตามไปดูก็พบว่าซินยุนบกออกมาหาพ่อค้าร้านรูป นำรูปเขียนที่ชนชั้นสูงลวนลามผู้หญิงมาขายให้ แต่พ่อค้ากดราคาเหลือแค่ห้าตำลึง

“ทำไม....แค่ 5 ตำลึงเองหรือ”

“โธ่เอ๊ย....นี่เป็นข้าหรอกนะ มีข้าคนเดียวถึงยอมจ่ายตั้ง 5 ตำลึงคนอื่นไม่ได้หรอก อ้อ....เอาเถอะ ๆ ไปเร็วเข้า หัดเขียนมาเยอะ ๆ จะได้เก่ง อาทิตย์หน้ามาอีกนะจ๊ะ ใต้เท้า เชิญข้างในเลยครับ เชิญ แหะ ๆ” พ่อค้า กล่าวไล่ซินยุนบกไปเมื่อมีลูกค้าเข้ามา

“ว่าไง วันนี้มีของดีหรือเปล่า” ลูกค้าถาม

“มีซี่รอเดี๋ยวนะ ไป ๆ ๆ”

“อ้อ....ได้ ๆ อาทิตย์หน้าข้าจะมาใหม่” ซินยุนบก กล่าว

“เชิญ ๆ แหะ...”

“จริงหรือ มีของใหม่แน่นะ”



Create Date : 14 ตุลาคม 2552
Last Update : 14 ตุลาคม 2552 13:41:37 น. 1 comments
Counter : 398 Pageviews.

 
..........ขอขอบคุณมากเลย........นางเอกของเราท่าจะแย่แล้วอะ.......


โดย: เด็กเกาหลี IP: 111.84.65.139 วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:20:39:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com