พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 พฤษภาคม 2553
 
 

ละคร ดอกรักริมทาง ตอนที่ 14

ตอนที่ 14

ฮั่งตู๋ซึ่งนั่งรถมากับปฐวีสังเกตเห็นผ้าก๊อซที่อนุสร์ทิ้งไว้ให้ ฮั่งตู๋ดีใจมากรีบเห่าบอกปฐวีให้จอดรถเพื่อดมให้แน่ใจ ปฐวีดีใจเช่นกันที่ตามมาถูกทางและรีบพาฮั่งตู๋ตามรอยผ้าก๊อซนั้นไปอย่างมีความหวัง เวลาเดียวกันนั้นธัญญ์ ก็กำลังแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้สกัดจับรถที่ลักพาตัวอนุสร์ไป พัดชาถามธัญญ์ว่าใครน่าจะเป็นคนที่จับตัวอู๊ดไปแต่ธัญญ์ไม่ตอบ

“คุณรู้ใช่ไหมว่าใครจับอู๊ดไป จับไปทำไม ทำไมต้องหนีด้วย พูดถึงอู๊ดทีไร ทำไมคุณต้องทำท่าเหมือนกำลังปกปิดอะไรตลอดเลย หะ คุณ”

“คุณพัดชา ผมขอร้องล่ะ ผมกำลังเครียด อย่าเพิ่งหาเรื่องได้ไหม”

ธัญญ์เดินหนีไปโทรศัพท์ด้วยความวุ่นวายใจเพราะเป็นห่วงอนุสร์ทำให้พัดชาขัดใจมากและเริ่มเอะใจเพราะชื่ออนุสร์กับอู๊ดนั้นคล้ายกันมากและอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้

ในรถสิทธิศักดิ์เริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของอู๊ด แต่จิตรีโทรฯมาขัดจังหวะพอดี อนุสร์จึงได้ยินว่าสิทธิศักดิ์พูดถึงเรื่องเรือขึ้นมา จิตรีบอกสิทธิศักดิ์ว่ามีคนเห็นรถคันที่พาตัวอู๊ดมาจึงวางแผนเปลี่ยนรถกับสิทธิศักดิ์ เมื่อถึง ด่านตรวจตำรวจจึงไม่พบผู้ต้องสงสัย ขณะที่อู๊ดถูกเปลี่ยนไปไว้ที่รถปิกอัพเก่า ๆ คันหนึ่งแทน

ขณะนั้นปฐวีเลี้ยวรถเข้าไปเติมน้ำมันพอดีจึงคลาดกับรถของสิทธิศักดิ์ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ฮั่งตู๋ได้กลิ่นของเจ้านายโชยมาแล้วก่อนจะวิ่งไปเก็บเศษผ้าก๊อซอีกชิ้นกลับมาบอกปฐวีว่ามาถูกทางแล้ว ปฐวีดีใจมากที่อู๊ดยังทิ้งร่องรอยไว้ให้ตามต่อไปได้ก่อนจะรีบขับรถตามไป

ด้านธัญญ์หลังจากเคลียร์เรื่องที่โรงพยาบาลเรียบร้อย เขาก็จะรีบตามไปช่วยอู๊ด พัดชาขอตามไปด้วยอ้างว่าจะไปช่วยอีกแรง ทั้งที่ความจริงแล้วพัดชาต้องการไปพิสูจน์ข้อสงสัยของตัวเอง ธัญญ์ไม่อยากให้ไปแต่สุดท้ายก็ขัดพัดชาไม่ได้

ไพลินรู้เรื่องจากพัดชาก็รีบไปบอกให้นวลจันทร์รู้ด้วยความร้อนใจ นวลจันทร์ข้องใจเพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะจับอู๊ด ปวีณาคิดก่อนจะผูกโยงกับเรื่องของอนุสร์เพราะอู๊ดเป็นคนรับใช้ของอนุสร์ เหมือนคราวก่อนที่จับตัว ฮั่งตู๋ไป ขณะที่ไพลินงงว่าเรื่องอะไร

สิทธิศักดิ์ไปถึงท่าเรือก็แบกอู๊ดที่มัดไว้อย่างมิดชิดลงมา ขณะที่พิกุลหมาของคนขับเรือกำลังวิ่งเล่นอยู่แถวนั้น คนเรือข้องใจที่สิทธิศักดิ์มัดอู๊ดไว้แต่เขาก็บอกว่าไม่ต้องยุ่งแค่รับเงินค่าจ้างไปก็พอ ก่อนจะเปิดผ้าคลุมออกและข่มขู่อู๊ด อนุสร์ได้ยินสิทธิศักดิ์เรียกว่าไอ้หนูก็แปลกใจ แต่ไม่ลืมทิ้งผ้าก๊อซชิ้นสุดท้ายไว้ที่ท่าเรือ

“ชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้ายแล้ว ... คุณวี ฮั่งตู๋ ตามหานุสให้เจอนะ”

ขณะที่เรือแล่นห่างออกไปในทะเล พิกุลเหลือบไปเห็นแสงสะท้อนแวบ ๆ มาจากสะพานจึงวิ่งมาดู พอเห็นเหรียญที่หุ้มผ้า ก๊อซของอู๊ดก็ชอบใจคาบไป เวลาเดียวกันนั้นปฐวีเริ่มกังวลเพราะไม่เจอร่องรอยอะไรของ อู๊ดอีกจึงตัดสินใจแวะถามจากชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้น ขณะที่ธัญญ์เองก็กำลังตามมา ด้วยความเป็นห่วงอนุสร์ หลังจากธัญญ์วางสายกับปฐวีแล้วพัดชาแกล้งถามหยั่งเชิง

“คุณลืมอะไรไปรึเปล่าคุณธัญญ์”

“ลืมอะไร”

“คุณยังไม่ได้โทรฯบอกเจ้านายอู๊ดเลย คุณอนุสร์เพื่อนรักของคุณน่ะจะไม่บอกเค้าหน่อยเหรอ ว่าคนของเค้าโดนจับตัวไป”

พัดชาจะเอาโทรศัพท์ธัญญ์มาดูแต่ ธัญญ์ไม่ยอมทั้งสองยื้อแย่งกันจนรถเกือบเสีย หลัก พัดชาจึงถูกธัญญ์ดุเอาและสั่งให้นั่งเฉย ๆ ระหว่างนั้นปฐวีก็ไปถามหารถต้องสงสัยกับ ชาวบ้านละแวกนั้น แต่กลับไม่มีใครเห็น ปฐวี ได้แต่ปรับทุกข์กับฮั่งตู๋เมื่อความหวังเริ่มริบหรี่

ระหว่างนั้นฮั่งตู๋ก็ออกเดินหาร่องรอยเจ้านายจนไปเจอกับพิกุลที่กำลังขโมยโทรศัพท์เข้า พิกุลวิ่งหนีโดยมีฮั่งตู๋วิ่งตามไปจนถึงกรุสมบัติของพิกุล ฮั่งตู๋จึงเจอผ้าก๊อซของอนุสร์ ฮั่งตู๋ถาม พิกุลว่าได้มาจากไหน พิกุลว่าเจอที่ท่าเรือ เจ้าของโยนทิ้งไว้ก่อนจะออกเรือไป ฮั่งตู๋รีบวิ่งไปที่สะพานทันที ขณะที่สิทธิศักดิ์พาอู๊ดขับเรือออกไปกลางทะเล อู๊ดมองไปที่ท้องทะเลอย่างเศร้าใจ

“มาไกลขนาดนี้ ฮั่งตู๋กับคุณวีคงหาเราไม่เจอแน่....พ่อจ๋า แม่จ๋า นุสจะต้องตายจริง ๆ หรือนี่”
ระหว่างนั้นปฐวีที่เริ่มถอดใจเกิดฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งร้องหาฮั่งตู๋ ขณะที่ธัญญ์กับพัดชามา ถึงที่นั่นพอดี ทั้งสามกำลังบ่นที่เดี๋ยวก็คนหายเดี๋ยวก็หมาหายอยู่นั่น ลูกสาวเจ้าของร้านก็โวย วายว่าโทรศัพท์หายขึ้นมา แม่ค้าตะโกนด่า

เวลาเดียวกันนั้นพิกุลพาฮั่งตู๋ขึ้นเรือไป ที่เกาะด้วยกัน โดยที่ฮั่งตู๋เอาโทรศัพท์ที่พิกุลขโมยมาติดตัวไปด้วย ระหว่างนั้นสิทธิศักดิ์พาอู๊ดไปจนถึงกระท่อมร้างและจับไปขังไว้ข้างใน อู๊ดพยายามร้องขอชีวิตโดยเผลอเอ่ยเรียกชื่อสิทธิศักดิ์ออกมา

“อย่านะ อย่า อย่าฆ่าฉันเลย นายศักดิ์ ปล่อยฉันไป แล้วฉันสัญญาจะไม่เอาเรื่อง ฉันจะไม่แจ้งตำรวจ แถมจะให้เงินนายศักดิ์ด้วย”

“ว่าอะไรนะ”

“ฉันบอกว่า ฉันจะไม่เอาเรื่อง แถมจะให้เงินนายศักดิ์ด้วย”

“ฉันไม่เคยรู้จักกับแก รู้จักชื่อฉันได้ยังไง ไอ้อู๊ด แกเป็นใครกันแน่”

อู๊ดอึ้งใจหายวาบ

“ว่าไง แกรู้จักชื่อฉันได้ยังไง”

อู๊ดหน้าซีด ไม่ตอบ หลังจากนั้นสิทธิศักดิ์ก็โทรฯ ไปบอกให้จิตรีรู้ จิตรีเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวตอนที่เจออู๊ดและรู้สึกคุ้นหน้าจนแอบ ตามไปดูตอนตัดผม

“ไอ้เด็กคนนี้ท่าทางมันไม่น่าไว้ใจ ฉัน ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามันเป็นใคร มาจากไหน ศักดิ์เธอสอบสวนเอาความจริงมาให้ได้...แล้วค่อย ฆ่ามัน”

หลังจากนั้นสิทธิศักดิ์ก็กลับเข้ามาจัดการ กับอู๊ดต่อ ระหว่างนั้นอู๊ดกำลังพยายามแก้มัดให้ ตัวเองอยู่

“อย่าคิดหนี แกไม่มีทางรอดแน่ แต่ก่อนจะฆ่าแก ฉันต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าแกเป็นใคร รู้จักชื่อฉันได้ยังไง”

สิทธิศักดิ์กระชากตัวอู๊ดขึ้นมา อู๊ดดิ้นโวยวายเมื่อสิทธิศักดิ์จะมาค้นตัวก่อนจะเอาตัวรอดด้วยการบอกว่าเป็นคนของอนุสร์

“คุณอนุสร์ให้ฉันเข้ามาที่บ้านคุณวี เพื่อสืบหาพินัยกรรมที่หายไป”

“งั้นเรอะ งั้นแกคงบอกชั้นได้สินะ ว่าตอนนี้ นังอนุสร์มันมุดหัวอยู่ที่ไหน ว่าไง บอกมา นังอนุสร์มันอยู่ที่ไหนไม่บอกงั้นเรอะ ได้”

สิทธิศักดิ์จะยิงอู๊ด ทันใดนั้นฮั่งตู๋กับพิกุล ก็กระโจนเข้าใส่อย่างแรงจากด้านหลัง สิทธิศักดิ์ล้มไป อู๊ดดีใจมาก ฮั่งตู๋งับมือสิทธิศักดิ์จนปืนหล่น ก่อนที่พิกุลจะรีบคาบปืนหนีไปทิ้งอีกห้อง สิทธิศักดิ์สะบัดหลุดไล่เตะฮั่งตู๋ ฮั่งตู๋วิ่งหนีไปทาง เดียวกับพิกุล หลอกล่อให้ศักดิ์ตามไป

ระหว่างนั้นแม่ค้ากำลังโวยวายกับปฐวีว่าหมาของเขานั่นแหละที่เอาโทรศัพท์ไป ปฐวีพยายามปฏิเสธว่าฮั่งตู๋ไม่เคยขโมยของใคร พัดชา เองก็ช่วยยืนยันแต่แม่ค้าก็ไม่เชื่อเพราะมีคนเห็นว่าฮั่งตู๋มีโทรศัพท์ห้อยคออยู่ ปฐวีเอะใจถามว่ามีคน เห็นที่ไหน พอรู้ว่าเป็นที่ท่าเรือปฐวีก็จะรีบไป แต่ แม่ค้าก็มาห้ามไว้จนธัญญ์ต้องเอาโทรศัพท์ของตัว เองยกให้เพื่อตัดความรำคาญ แม่ค้ามองโทรศัพท์ ของธัญญ์อย่างชอบใจแล้วเอาขึ้นมากดโทรฯ

ขณะที่สิทธิศักดิ์เดินหาฮั่งตู๋กับพิกุลอยู่ นั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นฮั่งตู๋รีบกดรับสาย ทันใด นั้นสิทธิศักดิ์ก็เปิดประตูห้อง เห็นหมาสองตัว ยืนอยู่ด้วยกัน สิทธิศักดิ์เหวี่ยงไม้เข้าใส่ พิกุลกับฮั่งตู๋หลบกันพัลวัน พิกุลเห่าดังลั่น อู๊ดได้ยินร้องลั่น

“อย่านะ อย่าทำอะไรฮั่งตู๋นะ”

ลูกสาวแม่ค้าเจ้าของโทรศัพท์ได้ยินเสียง เหล่านั้นก็รีบยื่นโทรศัพท์ให้แม่ฟังหน้าตาตื่น เพราะมีแต่เสียงหมากับเสียงคนร้องโวยวาย แม่ค้าจึงรีบเอาไปให้พวกปฐวีฟัง

“หมาคุณอยู่กับหมาชั้น มีคนกำลังจะฆ่ามัน ฟังนี่”

ปฐวีกดเปิดเสียงจนได้ยินทั้งเสียงอู๊ด ฮั่งตู๋ พิกุล และสิทธิศักดิ์ชัดเจน

“นั่นมันเสียงอู๊ดนี่!”

“เสียงผู้ชายนั่นมันนายศักดิ์ ลูกน้องคุณ จิตรี ผมจำได้ มันนี่เองที่จับอู๊ดไป”

“อู๊ดกับฮั่งตู๋กำลังแย่ เราต้องรีบไปช่วยฮั่งตู๋”

“แล้วป้าพอจะรู้ไหมครับ ว่าตอนนี้หมาของป้าอยู่ที่ไหน”

“พิกุลมันไม่ไปไหนหรอก ถ้ามันไม่อยู่แถวนี้มันก็ตามเขาออกเรือไปจับปลาที่เกาะโน่น แหละ”

ระหว่างนั้นพิกุลกับฮั่งตู๋ช่วยกันหลอกล่อ จนสามารถเอาเชือกพันสิทธิศักดิ์จนล้มลงก่อนจะวิ่งหนีไปช่วยอนุสร์ แต่หลังจากอนุสร์แก้เชือก ให้ตัวเองสำเร็จ สิทธิศักดิ์ก็ตามมาจัดการทั้งสามโดยจับตัวอู๊ดไว้ ก่อนจะสั่งให้ไล่ฮั่งตู๋กับพิกุลเข้าไปขังในห้อง ฮั่งตู๋ตะกายประตูด้วยความกลุ้มใจเพราะช่วยอนุสร์ไม่ได้

ปฐวี ธัญญ์ และพัดชามาถึงที่เกาะแล้วเจอรองเท้าของอู๊ดก็แน่ใจว่าอู๊ดต้องถูกจับมาที่นี่แน่นอน ทั้งสามจึงแยกกันช่วยค้นหา ขณะที่สิทธิศักดิ์กำลังลากอู๊ดไปที่โขดหินริมทะเล

“โทษฉันไม่ได้นะไอ้หนู เพราะไอ้หมาเวรของแกเสือกเอาปืนของฉันไปทิ้ง แกเลยต้อง ตายทรมานหน่อย”

“แกจะทำอะไร”

“ฉันก็จะจับแกถ่วงน้ำ ให้แกจมน้ำตายยังไงล่ะ”
สิทธิศักดิ์เอาเทปพันมืออู๊ดอีกครั้ง อู๊ดพยายามดิ้นหนี ขณะที่ปฐวีวิ่งไปจนถึงกระท่อมและเจอฮั่งตู๋กับพิกุล ฮั่งตู๋รีบวิ่งนำปฐวีไปที่ริมทะเล ในที่สุดสิทธิศักดิ์ก็จับอู๊ดได้และจับมัดมือไว้ก่อนจะผลักลงทะเล ฮั่งตู๋ตามมาถึงพร้อมปฐวีก็รีบดมหากลิ่นเจ้านายจนไปถึงโขดหิน ฮั่งตู๋ได้กลิ่นอนุสร์ก็รีบวิ่งลงทะเลไปอย่างไม่คิดชีวิต ปฐวีตกใจวิ่งแซงฮั่งตู๋ แล้วกระโดดลงน้ำไป

ปฐวีดำลงไปจนเจออู๊ดกำลังดิ้นรน ปฐวีว่ายน้ำเข้าไปหาก่อนจะดึงร่างของอู๊ดขึ้นมา ลอยคออยู่กลางทะเล อู๊ดสำลักน้ำหมดสติพับคาอยู่กับไหล่ปฐวี

“อู๊ด อดทนนะ แกอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ อู๊ด”

ด้านสิทธิศักดิ์วิ่งมาผ่านท่าเรือ เห็นเรืออีกลำจอดอยู่ห่างจากเรือของตัวเองก็เอะใจว่าอาจจะมีคนตามมาจึงรีบหนีไปก่อน

ปฐวีพาร่างปวกเปียกของอู๊ดขึ้นมาจากน้ำ ฮั่งตู๋พัวพันอย่างเป็นห่วง ปฐวีเอาอู๊ดวางที่โขดหินพยายามเขย่าอู๊ดอย่างเป็นห่วงแต่อู๊ดก็ไม่รู้สึกตัว เขาจึงต้องช่วยผายปอดจนอู๊ดสำลักน้ำแต่ก็ยังไม่ฟื้น ปฐวีลูบเนื้อลูบตัวให้อย่างเป็นห่วงรักใคร่ แล้วชะงักเพราะเสื้อที่เปียกโชกแนบตัวทำให้เห็นรอยผ้าที่พันหน้าอกเอาไว้ ปฐวีมองอย่างสงสัย ปฐวีนิ่งนึกถึงตอนที่ช่วยผายปอดให้อู๊ดแล้วรู้สึกทะแม่ง ๆ

“ตะกี้ ที่เรากดลงไปที่ตัวไอ้อู๊ด มันรู้สึก... แปลก ๆ...เหมือนกับว่า...”

ปฐวีหันมามองอู๊ดอีกทีตัดสินใจค่อย ๆ เลิกชายเสื้อด้านล่างขึ้นมาทีละนิด ฮั่งตู๋เห็นทรุดตัวลงนั่งปิดตา ปฐวีค่อย ๆ เลิกเสื้ออู๊ดขึ้นจนเห็นขอบผ้าที่พันหน้าอกไว้อย่างแน่นหนา ปฐวี อึ้งไป

“แกเอาผ้าพันหน้าอกเอาไว้...นี่มันหมาย ความว่า...อู๊ด...แกเป็น...แกไม่ใช่...แต่แกเป็น...แกเป็น...ผู้หญิง...แกเป็นผู้หญิงจริง ๆ”

ด้านธัญญ์กับพัดชาไปเจอพิกุลที่เอา แต่เห่าไหใบเล็ก ๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย ธัญญ์ ตัดสินใจเปิดดูจนเจอปืนของสิทธิศักดิ์ ธัญญ์หยิบผ้าเช็ดหน้าล้วงลงไปในไหหยิบเอาปืนสั้นขึ้นมา ระหว่างนั้นปฐวียังนั่งเฝ้าอู๊ดที่ยังสลบอยู่โดยมีฮั่งตู๋นั่งอยู่ข้าง ๆ

“ไอ้เราหลงคิดว่าตัวเองเป็นเกย์มาตั้งนาน บ้าชะมัด ที่แท้เราก็เป็นผู้ชายปกติธรรมดา ไม่มีอะไรซักหน่อย” ปฐวียิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แต่แล้ว...“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน แต่ถ้าเราเป็นผู้ชาย แล้วไอ้อู๊ดเป็นผู้หญิง...ไอ้ความรู้สึกวูบวาบที่เรามีตอนอยู่กับมัน มันก็หมายความว่า...”

ระหว่างนั้นอู๊ดไอออกมาเบา ๆ ฮั่งตู๋เห่าเรียก ปฐวีลืมเรื่องที่คิดอยู่รีบวิ่งเข้าไปดูก่อนจะดึงขึ้นมากอดแน่นด้วยความดีใจ อู๊ด ลืมตัวกอดตอบปฐวีอย่างตื้นตัน ฮั่งตู๋เดินมาคลอเคลีย ทั้งสามกอดกันกลมอย่างมีความสุข ธัญญ์กับพัดชาวิ่งลงมาตะโกนโหวกเหวกดีใจเช่นกัน

“คุณธัญญ์กับคุณพัดชาตามมาช่วย ทุกคนเป็นห่วงแกมากนะ อู๊ด”

“ขอบคุณครับ”

“พิกุลพาเราไปเจอปืนของนายศักดิ์ มีหลักฐานมัดตัวขนาดนี้ รับรองมันไม่รอดแน่”

“งั้นเรารีบกลับกันดีกว่า ผมมีเรื่องต้องสะสางอีกเยอะ”

ทั้งหมดนั่งเรือกลับ ปฐวีเอาผ้าห่มคลุมตัวให้อู๊ดด้วยความห่วงใยและกอดไว้อย่างนั้น แถมยังดึงอู๊ดมาซบไหล่ตัวเอง

“เอ่อ คุณวีครับ คือ...”

“แกเพิ่งรอดตายมาได้ อย่าพูดมาก... นอนพักซะ”

ปฐวีกอดอู๊ดไว้ อู๊ดใจเต้นโครม ๆ ธัญญ์แอบเหลือบดูทีท่าของปฐวีนึกสงสัย ที่ท้ายเรือฮั่งตู๋มองปฐวีกับอู๊ดแล้วถอนใจเพราะรู้ว่าอนุสร์ต้องแย่แน่ ๆ ปฐวีกอดอู๊ดเอาไว้ยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไอ้อู๊ด ไอ้ตัวดี แกหลอกให้ฉันเป็นบ้าเป็นบออยู่ตั้งนาน คราวนี้ถึงตาฉันเอาคืนบ้างล่ะ”

ตอนที่ 15

ปฐวี อู๊ด ธัญญ์ พัดชา พร้อมด้วยฮั่งตู๋และพิกุลกลับมาถึงฝั่ง ระหว่างที่กำลังเตรียมตัวจะกลับกรุงเทพฯนั้น พัดชามองปฐวีกับอู๊ดที่เปียกทั้งตัวก่อนจะบอกให้ทั้งคู่หาเสื้อผ้าเปลี่ยนก่อนดีกว่า ธัญญ์รีบอาสาไปจัดการให้ ห่างออกไปฮั่งตู๋กำลังขอบคุณพิกุลที่มีส่วนช่วยให้ฮั่งตู๋ไปช่วยอนุสร์ทันเวลา

ระหว่างที่ธัญญ์ไปซื้อเสื้อผ้าให้อยู่นั้น ปฐวีมองอู๊ดที่ตัวเปียกอยู่ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม อู๊ด กระชับผ้าห่มเข้ากับตัวอย่างระแวง ปฐวีเดินมานั่งด้วยจนชิด

“หนาวเรอะ”

อู๊ดกระเถิบหนี “นิดหน่อยครับ”

ปฐวีกระเถิบตามไปจนชิด ทำตาวิบวับ “ฉันก็หนาว”

“เอาไปเลยครับ ผมยกให้”

อู๊ดส่งผ้าให้และทำท่าจะหนี แต่ปฐวีจับมือไว้แล้วกระเถิบเข้าไปชิด

“ไม่เอา” พร้อมกับดึงอู๊ดมากอดเอาผ้าห่มตัวเองและอู๊ดไว้ “แกก็หนาว ชั้นก็หนาว เราก็ห่มด้วยกันสิ”

อู๊ดพยายามจะหนีแต่ติดกับเสาของเพิงพักทำให้จนมุมถอยไม่ได้

“แต่คุณวีครับ คุณวีกับผมเป็นผู้ชาย มานั่งกอดกันแบบนี้ เดี๋ยวใครเค้าจะคิดว่า ..”

“เฮ่ย คนมันหนาว จะให้ทำยังไง ผู้ชายกับผู้ชายกอดกันผิดตรงไหน...แมน ๆ โว้ยอู๊ด ไม่ต้องคิดมาก”
ปฐวีกอดอู๊ด ขณะที่อู๊ดดิ้นทั้ง ๆ ที่ไม่มีทางหนี ปฐวีแอบยิ้มอย่างสะใจ เวลาเดียวกันนั้นพัดชาก็แอบสังเกตธัญญ์ระหว่างที่เลือกซื้อเสื้อผ้าให้ปฐวีกับอู๊ด พัดชาเห็นปฐวีลืมซื้อชุดชั้นในให้ก็ทักขึ้น

“คุณวีกับอู๊ดเปียกโชกทั้งตัวแบบนั้น จะเปลี่ยนแต่เสื้อผ้าข้างนอกได้ยังไงผู้ชายนี่ชุ่ยชะมัดเลย”

ธัญญ์ทำหน้าหมั่นไส้พัดชาแล้วเดินไปที่ชั้นขายกางเกงในผู้ชายก่อนจะหยิบมาสองตัวแล้วชะงักนึกขึ้นได้

“จริงสิ ชุดชั้นใน”

ธัญญ์มองไปมองมาเห็นชั้นขายยาและอุปกรณ์รักษาพยาบาลอยู่ด้านในหลังร้านเลยหาทางกำจัดพัดชา

“อ้ะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว เอาไปจ่ายเงินให้ด้วย ผมขอไปซื้อของใช้ส่วนตัวหน่อย”

พูดจบธัญญ์ก็เดินไปปล่อยให้พัดชากระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว ธัญญ์คิดว่ารอดแล้วแต่ระหว่างที่เขาหยิบผ้าพันแผลมาด้วยนั้น พัดชาก็ดักคออีกว่าซื้อไปทำไมและแกล้งถามว่าเจ็บตรงไหน ธัญญ์จึงต้องแกล้งชี้ไปที่เป้าจนพัดชาอายเดินหนีไปเอง

หลังจากนั้นธัญญ์ก็เอาเสื้อผ้ามาให้ปฐวีกับอู๊ด ปฐวีแกล้งชวนให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันแต่อู๊ดก็ปฏิเสธ ธัญญ์ต้องรีบหาทางช่วยบอกให้ไปอีกทางหนึ่ง พัดชาแอบสังเกตท่าทีของธัญญ์กับอู๊ดยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้นไปอีก พัดชาจึงแอบตามอู๊ดไปที่ห้องน้ำก่อนจะปีนแล้วเอามือถือแอบถ่ายรูปไว้

ระหว่างที่พัดชากำลังถ่ายรูปนั้นธัญญ์ก็มาเห็นเข้าพอดี พัดชาได้ยินเสียงธัญญ์เรียกตกใจล้มลงไปใส่ธัญญ์ที่ยืนอยู่ด้านล่าง ธัญญ์ตั้งสติได้เห็นโทรศัพท์ในมือพัดชาก็โวยวายขึ้น พัดชาไม่ยอมรับว่าแอบถ่ายรูปอู๊ดไป ธัญญ์แย่งมาดูแต่ไม่เห็นรูปอะไร

“ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่มีอะไร”

“คุณลบทิ้งไปแล้วน่ะสิ”

“บอกฉันหน่อยไม่ได้เหรอ คุณกับอู๊ดมีความลับอะไรกันแน่”

“ไม่ได้ คุณอย่ารู้เลย ผมไม่อยากให้คุณพลอยเดือดร้อนไปด้วย”

“อย่ามาขู่ซะให้ยากเลย คุณยิ่งปิด ชั้นยิ่งอยากรู้ คุณปิดฉันไม่ได้หรอก คุณธัญญ์”

นวลจันทร์โทรฯ มาเช็กว่าปฐวีกับอู๊ด กลับมาหรือยัง ป้าอุ้งว่ายังทั้ง ๆ ที่ดึกแล้วนวลจันทร์ก็เริ่มเป็นห่วง ระหว่างนั้นลำดวนก็มาบอกว่าปฐวีกับอู๊ดกลับมาแล้ว ป้าอุ้งรีบขอตัวไปดูทั้งคู่ก่อน ป้าอุ้งนอกจากจะถามอาการของอู๊ดแล้วยังซักไซ้ด้วยว่าคนที่จับตัวไปเป็นใคร ปฐวีไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องมากจึงตัดบทบอกให้อู๊ดไปพักผ่อน อู๊ดรับคำก่อนจะเดินไปที่ห้องพร้อมกับฮั่งตู๋โดยมีปฐวีเดินตามไปด้วย

“คุณวีมีอะไรรึเปล่าครับ”

“เปล่า ฉันก็จะแค่เดินมาส่งแก นอนซะ หลับฝันดีนะ”

ปฐวีจูบหน้าผากอู๊ดหนึ่งทีแล้วเดินหนีไป อู๊ดตะลึงตาค้างแทบจะทรุดลงไปกับพื้น ขณะที่ลำดวนกับป้าอุ้งที่ตามมาแอบมองก็ตกใจสุดขีด ส่วนปฐวีหัวเราะสะใจอยู่คนเดียวในห้อง

“ป่านนี้คงคิดจนหัวแทบระเบิด สมน้ำหน้า ทำให้เรานอนไม่หลับมาหลายคืน มันต้องให้เจอกับตัวเองซะบ้าง สะใจเว้ย”

คืนนั้นอู๊ดแทบจะนอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าปฐวีเป็นอะไร และเข้าใจว่าปฐวีคงจะชอบอู๊ดที่เป็นผู้ชายจริง ๆ ฮั่งตู๋อยากบอกให้เจ้านายรู้ตัวว่าปฐวีรู้แล้วว่าอู๊ดเป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงอู๊ดกอดฮั่งตู๋ใจเต้นโครมคราม

วันรุ่งขึ้นธัญญ์ก็นำตำรวจไปตรวจค้นบ้านจิตรีแต่เช้าเพื่อค้นหาสิทธิศักดิ์ที่อาจจะหลบซ่อนอยู่ แต่กลับไม่พบตัวสิทธิศักดิ์นอกจากเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนทิ้งไว้เท่านั้น ธัญญ์และตำรวจมองหน้าจิตรี จิตรีอ้ำอึ้ง

“เมื่อคืนเค้าค้างกับชั้นที่นี่ค่ะ แต่ชั้นไม่รู้จริง ๆ นะคะ ว่าเค้าไปทำอะไรมา ศักดิ์เป็นแค่ผู้ช่วยส่วนตัวของฉัน หลังเลิกงาน เค้าจะไปไหน ไปทำอะไร ฉันไม่รู้จริง ๆ”

“แน่ใจเหรอครับ คุณจิตรี ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ย ไม่ใช่ฝีมือของคุณกับนายสิทธิศักดิ์ร่วมมือกัน”

“มีหลักฐานรึเปล่าคะ คุณธัญญ์ ถ้าไม่มี อย่ามากล่าวหากันพล่อย ๆ ดีกว่า ฉันเดาว่า ศักดิ์คงมีเรื่องผิดใจกับเด็กคนนั้นมาก่อนน่ะค่ะ เลยคิดจะทำร้าย...แหม คิดไม่ถึงเลยนะคะ ว่าหน้าตาดี ๆ อย่างนั้น จะริอ่านเป็นโจร”

“เราพบกระสุนปืน 2 กล่อง รุ่นที่ใช้กับปืนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุด้วยครับ”
“เราคงต้องขอนำไปประกอบรูปคดี แล้วถ้าหากนายสิทธิศักดิ์ติดต่อกลับมาหาคุณจิตรีอีกเมื่อไหร่ ขอให้แจ้งให้ทางเราทราบทันทีนะครับ”

“แน่นอนค่ะ นักเลงอันธพาลอย่างนั้น ฉันไม่เลี้ยงไว้แน่”

จิตรีทำทีเดินมาส่งตำรวจขึ้นรถพร้อม กับบอกตำรวจให้บอกเธอด้วยหากว่าเจอตัว สิทธิศักดิ์ ขณะที่ธัญญ์ซึ่งเดินรั้งท้ายหันมา ขู่จิตรี

“เราก็รู้กันดีนะ คุณจิตรี ว่าจริง ๆ แล้วนายศักดิ์น่ะเป็นหุ่นเชิดของใครอีกไม่นานหรอก ตำรวจก็ต้องสาวไปถึงมือที่อยู่เบื้องหลังจนได้ คอยดูสิ”

จิตรีเครียดมากที่แผนการทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อสิทธิศักดิ์ติดต่อเข้ามาจิตรีจึงรีบบอกให้รู้ตัวว่ากำลังถูกตำรวจตามจับ

“บ้าชะมัด! แล้วพวกมันรู้ได้ยังไง ใครไปบอกตำรวจว่าผมทำ”

“ไอ้อู๊ดมันไม่ตาย คุณวีกับคุณธัญญ์ไปช่วยมันเอาไว้ แล้วรู้อะไรไหม เขาเก็บปืนที่มีลายนิ้วมือของเธอได้ด้วย ถ้าตำรวจเค้าจับเธอได้ เธอไม่รอดแน่ศักดิ์ ทางที่ดี เธอห้ามโทรฯมาหาฉันอีกเป็นอันขาด”

“แต่ผมทำงานให้คุณนะ คุณจิตรี เกิดเรื่องแล้วจะมาทิ้งกันง่าย ๆ งั้นเรอะ”

“ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก ศักดิ์ แต่ตอนนี้แยกกันเราอยู่ รวมกันเราตาย ถ้าไม่อยากเข้าคุกหลบไปซะไปหาที่กบดานก่อน อย่าโผล่ มาที่บ้านนี้อีก อีกวันสองวัน ฉันจะหาทางไปพบเธอเอง เข้าใจไหม”

สิทธิศักดิ์จำต้องยอมรับคำตามที่จิตรีสั่งเพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ขณะที่ธัญญ์ รีบโทรฯไปบอกให้อนุสร์ระวังตัวเพราะยังจับ สิทธิศักดิ์ไม่ได้ แต่อนุสร์ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสิทธิศักดิ์จึงต้องการจะฆ่าอู๊ด หลังจากวาง สายธัญญ์ไป ปฐวีก็เข้ามาถามว่ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้ อู๊ดบอกว่าคุยโทรศัพท์กับธัญญ์ที่โทรฯมาแจ้งข่าว

“คุณธัญญ์โทรฯมาบอกว่าตำรวจยังจับตัวนายศักดิ์ไม่ได้ ให้ผมระวังตัวไว้”

“จริงของเค้า .. ทางที่ดี ช่วงนี้ แกไม่ควรจะออกไปไหน ไม่ควรจะอยู่คนเดียว จนกว่าตำรวจเค้าจะจับตัวนายศักดิ์ได้”

“ครับ”

“ฉันรู้แล้ว มานี่”

ปฐวีลากอู๊ดเข้าไปในบ้านบริเวณโต๊ะกินข้าว ป้าอุ้งกับลำดวนกำลังจัดโต๊ะอาหารกลางวัน พากันทำตาโตเมื่อเห็นปฐวีจูงมืออู๊ดเข้ามา

“ลำดวน ป้าอุ้งครับ ผมมีเรื่องจะบอก .. นับแต่นี้ต่อไป อู๊ดจะต้องอยู่ในสายตาของผมตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัย”

ป้าอุ้งกับลำดวนรับปากด้วยความงง

“แล้วนับจากวันนี้ แกจะนอนคนเดียวไม่ได้ แกต้องขึ้นไปนอนข้างบนกับชั้น”

อู๊ด ป้าอุ้ง ลำดวนได้ยินแล้วตกใจสุดขีด

“อะไรนะครับ”

“ป..ไปนอนกับคุณวี ม..หมายความว่ายังไงคะ”

“ก็หมายความว่า ไปนอนด้วยกันไง ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวแกเอง นี่เป็นคำสั่ง ทำตามที่ฉันพูด อย่าเถียง”

อู๊ดตะลึง ปฐวีอมยิ้มด้วยความสะใจ ป้าอุ้งไม่อยากจะเชื่อว่าปฐวีจะเป็นไปได้ขนาดนั้น และไม่รู้ว่าหากนวลจันทร์รู้เรื่องเข้าจะเป็นอย่างไร ระหว่างนั้นนวลจันทร์กับปวีณาก็มาถึงที่บ้านปฐวีพอดี ป้าอุ้งสับสนไม่รู้ว่าจะบอกทั้งคู่ยังไง

“ลูกชายชั้นอยู่บ้านใช่ไหมลำดวน”

“กำลังทานข้าวค่ะ คุณนวล”

“แล้วอู๊ดล่ะ เป็นยังไงมั่ง สบายดีหรือยัง แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”

“ไอ้อู๊ดอยู่กับคุณวีค่ะ ส่วนจะสบายหรือไม่สบาย คุณนวลกับคุณณาเข้าไปก็ดูเอง เถอะค่ะ”

ที่โต๊ะอาหารปฐวีนั่งหัวโต๊ะวางท่าราวกับเจ้าชาย มีก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งวางตรงหน้า โดยมีอู๊ดบริการอยู่ อู๊ดกำลังปรุงก๋วยเตี๋ยวตามคำสั่ง และบรรจงเอาช้อนตักน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวให้ปฐวีชิม ปวีณาเดินนำเข้าไปก่อนเห็นอู๊ดป้อนปฐวีพอดี ชะงัก

“ตาวี นั่นทำอะไรน่ะ”

“กินก๋วยเตี๋ยวครับ พี่ณา คุณแม่ มาแต่เช้าเชียว มีอะไรรึเปล่าครับ”

นวลจันทร์เดินตามหลังมา ตอบเรียบ ๆ “แม่เป็นห่วง เลยชวนยายณามาถามข่าวอู๊ด เป็นยังไงมั่งล่ะเรา อยู่ดี ๆ ก็มีคนมาจับตัวซะงั้น มันเป็นใครรู้ไหม”

ปฐวีเล่าเรื่องจิตรีกับสิทธิศักดิ์ให้นวลจันทร์กับปวีณาฟัง ทั้งสองตกใจมากไม่คิดว่าทั้งคู่จะร้ายกาจขนาดนี้ นวลจันทร์ถามอู๊ดว่ารู้ไหมว่าสิทธิศักดิ์มาจับตัวไปทำไม อู๊ดว่าไม่รู้

“พี่เดาว่า ยัยจิตรีต้องเป็นตัวการ เค้าคงต้องการจับตัวอู๊ดไปเพื่อบีบให้คนที่ชื่ออนุสร์ออกมาจากที่ซ่อน”

“ถ้าจริงคุณจิตรีก็คงผิดหวังครั้งใหญ่ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณอนุสร์เจ้านายของแก เค้าก็ยังไม่ยอมออกมาอยู่ดี .. ถามจริง ๆ เหอะอู๊ด คุณอนุสร์เจ้านายแกเนี่ย เค้ามีตัวตนจริง ๆ รึเปล่าฮะ ระหว่างที่ทุกคนเดือดร้อนวุ่นวาย ช่วยแกหาพินัยกรรมให้เค้าเนี่ย (จ้องตาอู๊ด) คุณอนุสร์เค้าไปหลบอยู่ที่ไหน”

ปฐวีมองอู๊ดอย่างจับผิด อู๊ดหลบหน้าหลบตาด้วยความไม่สบายใจ หลังจากนั้นเมื่อนวลจันทร์กับปวีณาเดินออกมาเพื่อจะกลับบ้าน ป้าอุ้งซึ่งมาดักรออยู่ก็บอกเรื่องระหว่างปฐวีกับอู๊ดให้ทั้งคู่รู้

“อะไรนะ! ตาวีชอบไอ้อู๊ด นี่ป้าอุ้งหมายความว่ายังไง”

“อิฉันสังเกตมาซักพักแล้วค่ะ ดูคุณวีเธอสนใจไอ้อู๊ดมากกว่าคนรับใช้ธรรมดา แล้วตั้งแต่กลับมาเมื่อคืน คุณวีก็ประคบประหงม พะเน้าพะนอไอ้เจ้าอู๊ดไม่ให้ห่างตัวเลยค่ะ ถึงขั้นจะให้ขึ้นไปนอนด้วยกัน”

“แล้วไง นี่ป้าอุ้งคิดว่า.. คิดว่าวีเป็นเกย์งั้นเหรอคะ”

“เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ ลูกชายฉันเป็นผู้ชายอยู่ดี ๆ จะกลายเป็นเกย์ไปได้ยังไง”

“แต่คุณนวลคะ อิฉันเห็นกับตาว่า ..”

“หยุดนะป้าอุ้ง ลูกชายฉันไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าอุ้งว่าแน่นอน ป้าอุ้งเลิกคิดอะไรบ้า ๆ ได้แล้ว แล้วอย่าพูดเรื่องนี้อีก ใครได้ยินเข้า ตาวีจะเสียหายเข้าใจไหม”

ป้าอุ้งพยักหน้าจ๋อย ๆ นวลจันทร์เดินฉับ ๆ ออกไปอย่างอารมณ์เสีย ปวีณามองป้าอุ้งอย่างไม่แน่ใจก่อนจะตามนวลจันทร์ไป

พัดชามาชะเง้อรอวินัยเพราะรูปที่เธอแอบถ่ายอู๊ดไว้นั้นพัดชาแอบส่งต่อมาที่โทรศัพท์ของวินัยก่อนที่ธัญญ์จะเอาโทรศัพท์ไปดู ไพลินไม่สนใจลูกสาวที่ถามหาพ่อแต่มาคาดคั้นเรื่องที่เกิดขึ้นรวมทั้งเรื่องของธัญญ์ด้วย แต่พัดชากลับปฏิเสธว่าไม่สนใจธัญญ์ ระหว่างนั้นวินัยกลับมาจากตีกอล์ฟพอดี พัดชาจึงรีบวิ่งออกไปหา

วินัยกลับมาด้วยความหงุดหงิดที่ก๊วนกอล์ฟยกเลิกแต่เขากลับไม่รู้เพราะไม่ได้เปิดดูข้อความที่ถูกส่งมา ไพลินต่อว่าสามีที่ไม่สนใจจะเปิดดูเอง พัดชารีบบอกว่ามีของตัวเองด้วยและจะขอโทรศัพท์ไปโหลดดูรูป วินัยเอาโทรศัพท์มาเปิดดูแล้วก็ต้องช็อกเพราะรูปของอู๊ดที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าและกำลังเอาผ้าพันหน้าอกที่พัดชาส่งมาทิ้งไว้

วินัยร้องด้วยความตกใจก่อนจะรีบกดลบทิ้งเพราะกลัวว่าไพลินเห็นแล้วจะเข้าใจผิด ก่อนจะรีบเดินหนีไปเพื่อกลบเกลื่อน พัดชารีบวิ่งตามพ่อไปเพื่อขอดูรูปถ่ายนั้นแต่พอรู้ว่าวินัยลบทิ้งไปแล้วพัดชาก็โวยวาย

“พ่อลบรูปนั้นทิ้งไปแล้ว!โอ๊ย ตายๆๆๆๆ หนูยังไม่ได้เห็นเลยนะคะ คุณพ่อลบทิ้งได้ ยังไงอ้ะ”

“เอ๊า แล้วหนูส่งรูปนั่นไปให้พ่อทำไมล่ะ”

“ก็หนูมีความจำเป็น หนูแอบถ่าย แล้ว โดนเค้าจับได้ หนูเลยต้องรีบทำลายหลักฐาน”

“หะ!!?? หนูเป็นคนแอบถ่าย”

“ค่ะ แต่หนูยังไม่ทันได้เห็นเลยซักกะแว้บเดียว หมดกัน คุณพ่อนะคุณพ่อ ไม่น่าเลย”

“เดี๋ยว ๆ พัดชา นี่หนูจะบอกพ่อว่า หนูไปแอบถ่ายคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเอามาดูเล่นเหรอ หนูเป็นอะไรลูก โรคจิตหรือยังไง”

“ว้าย เปล่าค่ะคุณพ่อ .. คือที่หนูไปแอบถ่ายคนคนนั้น เพราะหนูสงสัยว่า เค้ากำลังปกปิดอะไรบางอย่าง .. เฮ้อ แต่ฟ้าก็ไม่เข้าข้างเลย อุตส่าห์ถ่ายมาจนได้ คุณพ่อก็ดันมาลบทิ้ง”

“ไม่ลบได้ยังไง แม่เค้ายืนอยู่ตรงนั้นทั้งคน ขืนแม่เค้าเห็น พ่อก็แย่สิ”

“ทำไมต้องแย่ล่ะคะ”

“เอ๊า อยู่ดี ๆ มีรูปผู้หญิงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้ามาอยู่ในเครื่องพ่อ แม่เค้าไม่กรี๊ดบ้านแตกให้มันรู้ไป”

“พ่อว่าอะไรนะคะพ่อว่าคนในรูปนั่นเป็นผู้หญิง? พ่อแน่ใจนะคะ”

“แน่สิ”

“พ่อแน่ใจได้ยังไง”

“ก็เห็นอยู่”

“เห็นอะไรคะพ่อ พ่อต้องบอกหนูนะคะ ว่าพ่อเห็นอะไรทำไมพ่อถึงมั่นใจว่าคนในรูปเป็นผู้หญิง”

“ก็เค้า เค้าเอาผ้าพันหน้าอกเอาไว้ ถ้าเค้าเป็นผู้ชาย จะพันไว้ทำไมล่ะลูก”

พัดชาเริ่มมั่นใจว่าอู๊ดน่าจะเป็นอนุสร์ปลอมตัวมาอย่างที่คิด จึงแกล้งซื้อชุดชั้นในแล้วไปฝากธัญญ์เพื่อส่งให้อู๊ดอีกต่อ แต่ธัญญ์ ก็ยังไม่ยอมรับแถมยังไล่พัดชากลับไปอีกด้วย หลังจากนั้นธัญญ์ก็รีบโทรฯไปบอกให้อนุสร์ รู้ ทั้งคู่ไม่ค่อยสบายใจนักที่ถูกสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ

“คุณพัดชากำลังสงสัยนุสงั้นเหรอพี่ธัญญ์”

“ใช่ เค้าจับพิรุธของเราได้หลายอย่าง พี่ชักกลัวว่า เรื่องที่นุสปลอมตัวเป็นอู๊ด มันอาจจะเป็นความลับได้อีกไม่นาน..”

“นุสก็กลัวเหมือนกันพี่ธัญญ์ ตอนนี้คุณวีทำตัววุ่นวายกับไอ้อู๊ดมาก นุสชักไม่ค่อยสบายใจแล้ว นุสว่านุสจะรีบหาพินัยกรรมของพ่อให้เจอให้เร็วที่สุด จะได้เลิกปลอมตัวเป็นไอ้อู๊ดซะที”

เวลาเดียวกันนั้นปฐวีให้ทินกรกับหนึ่งมาช่วยกันแยกภาพวาดทั้งหมดออกเป็นกอง ๆ ทั้งพวกที่ถูกไฟไหม้ เลอะสี และยังเรียบร้อยดีอยู่ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในรูปภาพเหล่านั้นเลย หนึ่งข้องใจตัดสินใจถามปฐวีว่ากำลังหาอะไรอยู่ ปฐวียอมบอกแต่ให้ทุกคนช่วยเก็บไว้เป็นความลับ

“ถ้ามีคนหาพินัยกรรมฉบับนี้เจอ คุณอนุสร์ ลูกสาวของคุณอรรณพ ก็จะทวงเอาสมบัติคืนมาจากคุณจิตรีได้”

“เพราะอย่างนี้ ยัยจิตรีถึงได้พยายามจะเอาภาพเขียนพวกนี้ไปเผาทำลาย”

“ผมเลยเอามันมาซ่อนไว้ที่บ้านคุณแม่ เราจะให้ใครรู้ไม่ได้ ว่าภาพเขียนอยู่ที่ไหน”

“ซ่อนพินัยกรรมในภาพเขียน!? เออ ก็ช่างคิด แล้วซ่อนยังไงล่ะครับ คุณวีถึงได้คิดว่าจะรอดหูรอดตาคนอื่นไปได้”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เราถึงต้องมานั่งหากันอยู่นี่ไง”

“พี่นึกออกแล้ว! ทำไมเราไม่พาฮั่งตู๋มาล่ะ คุณอรรณพเค้าเขียนบอกเอาไว้ในปลอกคอฮั่งตู๋ ฮั่งตู๋อาจจะรู้ก็ได้ว่าภาพไหนเป็นภาพที่ซ่อนพินัยกรรม”

ทุกคนเห็นดีด้วยแต่ปฐวีกลัวว่าอู๊ดจะรู้ว่ารูปภาพอยู่ที่ไหนหากพาฮั่งตู๋มา ปวีณาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปิดเรื่องนี้กับอู๊ดด้วย

“ผมมีเหตุผลของผมครับ อู๊ดจะยังรู้เรื่องนี้ไม่ได้จนกว่าผมจะได้รู้ความจริงอะไรบางอย่าง .. แต่ผมนึกอะไรออกแล้ว ทิน แกจำวันที่ฉันย้ายเข้าบ้านได้ไหม ที่เราเจอภาพเขียน พวกนี้ในห้องของคุณอรรณพ”

“จำได้ครับ พี่วีเป็นคนสั่งให้ผมย้ายภาพทั้งหมดออกไป”

“แกจำได้ไหม .. มันมีภาพเขียนภาพ นึง ที่เค้าวาดเป็นภาพสุดท้าย ภาพฮั่งตู๋ คุณอรรณพวาดภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายก่อนตาย เขาต้องซ่อนพินัยกรรมเอาไว้ในภาพนี้แน่”

“ใช่แน่ครับ ภาพนี้แหละที่ไอ้ฮั่งตู๋มันขึ้นไปฉี่ใส่”

ทุกคนเฮกันไปรื้อกองภาพที่ไม่โดนไหม้ไฟ แต่กลับไม่มีภาพฮั่งตู๋

“ในกองนี้ไม่มี กองนี้ก็ไหม้ไปหมดแล้ว เหลือกองนี้เป็นกองสุดท้าย ถ้าภาพฮั่งตู๋ยังอยู่ ก็ต้องเป็นภาพใดภาพหนึ่งในกองนี้”

ทินกรกับหนึ่งมุ่งมั่นสัญญากับปฐวีว่าจะหาให้เจอให้ได้ ระหว่างนั้นปวีณาตัดสินใจถามน้องชายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอู๊ด

“ก็เห็นป้าอุ้งว่าวีรักใคร่เอ็นดูมัน ถึงขั้น จะเอาไปนอนด้วย พี่ก็อยากรู้น่ะซี ว่าวีคิดอะไรแบบนั้นกับอู๊ดรึเปล่า”

“อ๋อ พี่ณากลัวว่าผมจะเป็นเกย์”

“ก็เป็นรึเปล่าล่ะ แม่เค้าไม่เชื่อหรอกนะ แต่พี่แอบเห็นวีกับเจ้าอู๊ดก็ดู ..สนิทสนมกัน ถามจริง ๆ เหอะ คิดอะไรกับมันรึเปล่า”

“คิด แต่ไม่ใช่อย่างที่พี่ณาคิดหรอก .. ผมรับรองได้พี่ณา ว่าผมยังปกติดี ขอเวลาอีกไม่นานทุกคนจะรู้เองว่าผมทำแบบนี้เพราะอะไร”

ปฐวียิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ปวีณามองอย่างไม่เข้าใจ ขณะนั้นอู๊ดกำลังรอปฐวีอยู่อย่างร้อนใจเพราะอยากรู้ว่าภาพทั้งหมดอยู่ที่ไหน ปฐวีไม่ยอมบอกแถมยังคอยแกล้งเอาเปรียบอู๊ดอยู่ ตลอด อนุสร์จำต้องยอมเพราะปฐวียังไม่ยอมบอกว่าภาพเขียนอยู่ที่ไหน

คืนนี้อนุสร์ในคราบอู๊ดต้องขึ้นไปนอนบนห้องกับปฐวีตามคำสั่งอีก อนุสร์แต่งตัวอย่างรัดกุมก่อนจะชวนฮั่งตู๋ไปด้วยกัน ปฐวีมาดักรออู๊ดที่หน้าห้องพอเห็นชุดนอนที่ใส่อย่างรัดกุมก็อดขำไม่ได้ อู๊ดเดินนำโดยมีฮั่งตู๋เดินตาม แต่ปฐวีกลับห้ามไว้

“แกไปคนเดียว ฮั่งตู๋ต้องนอนอยู่ข้างล่างนี่”

“ไม่ได้ครับ ฮั่งตู๋มันติดผมมาก ถ้าไม่ได้นอนกับผม มันจะนอนไม่ได้ครับ มันจะหอน ร้องครวญครางทั้งคืนเลย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ครับ ไม่เชื่อถามฮั่งตู๋ดูได้เลย จริงไหม ฮั่งตู๋ เราต้องนอนด้วยกันใช่ไหม”

ฮั่งตู๋กลับหลังหันเดินกลับเข้าห้องไป อู๊ดอ้าปากค้าง ฮั่งตู๋ปิดประตูล็อกแล้วลงนอนสบายใจ อู๊ดพยายามเคาะเรียกฮั่งตู๋แต่มันก็ไม่ยอมออกมา อู๊ดหันกลับมา เจอปฐวียิ้มกริ่มอยู่ข้างหลังก่อนจะลากอู๊ดขึ้นไปด้วยกัน ปฐวีเปิดประตูเข้าไปในห้องโดยมีอู๊ดเดินตัวลีบตามเข้าไป

ปฐวีแกล้งหรี่ไฟให้ดูโรแมนติกแล้วกดรีโมตเปิดซีดีเพลงรักหวานทำตาวิบวับมองอู๊ดตลอด อู๊ดกลัวตัวสั่นกอดผ้าห่มแน่น ปฐวีถอดเสื้อคลุมพาดไว้เหลือแต่เสื้อกล้ามตัวเดียว อู๊ดตกใจร้องเสียงหลง ปฐวีบอกให้อู๊ดนอนได้แล้ว อู๊ดหอบหมอนจะไปนอนมุมห้องแต่ ปฐวีก็ไม่ยอมอีกให้ขึ้นมานอนบนเตียงด้วย กัน อู๊ดพยายามเถียงแต่กลับถูกปฐวีดึงลงไปนอนข้าง ๆ ก่อนจะแกล้งพลิกตัวมากอดอู๊ดไว้

“จะนอนเองดี ๆ หรือจะให้ฉันจับแกนอน”

“นอนเองได้ครับ”

ปฐวีปล่อยอู๊ด อู๊ดนอนตัวแข็งทื่อไม่หันมองปฐวีที่นอนอยู่ข้าง ๆ จนครู่หนึ่งผ่านไป อู๊ดกลั้นใจค่อย ๆ เรียกปฐวีเบา ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบ อู๊ดจึงค่อย ๆ พลิกหน้าหันมาดูปฐวีแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าปฐวีอยู่ใกล้แค่คืบ อู๊ดต้องแกล้งบอกว่าจะถามเรื่องรูปเมื่อเห็นว่าปฐวียังไม่หลับ ปฐวีแกล้งหาวแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน

ปฐวีพูดจบก็หันไปนอน อู๊ดจะถามต่อแต่ปฐวีไม่สนใจแถมยังพลิกตัวกอดอู๊ดหมับหลับตานิ่ง .. อู๊ดตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ปฐวีแอบยิ้มอย่างสะใจ คืนนั้นอู๊ดจำต้องยอม นอนอยู่ในอ้อมกอดของปฐวีทั้งคืนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จิตรีนัดเจนจิรามาเจอกันที่สนามกอล์ฟเพื่อถามถึงเรื่องรูป เจนจิราโวยวายที่จัดการกับอู๊ดไม่สำเร็จ จิตรีจึงว่าน้องสาวที่ตามหารูปไม่เจอเช่นกัน เจนจิราโมโหบอกจิตรีให้ จัดการกับอู๊ดให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาพูด ถึงเรื่องหารูปก่อนจะแยกกลับไป ระหว่าง นั้นสิทธิศักดิ์ที่แอบรออยู่ก็เข้ามาหาจิตรีเพื่อเอาเงิน
“เอาไป แล้วหลบไปหาที่ซ่อนตัวก่อน แล้วฉันจะหาทางช่วยเธอทีหลัง”

“หมดกัน ผมต้องหมดอนาคต ต้องหนีตำรวจหัวซุกหัวซุนเพราะมันคนเดียว ไอ้อู๊ด ไอ้เด็กเวร”

“ว่าแต่ว่าเธอยังไม่ได้บอกชั้นเลย ว่าไอ้อู๊ดมันเป็นใคร”

“มันว่ามันเป็นเด็กรับใช้ของนังอนุสร์ ผมกำลังบีบให้มันพูดออกมาแล้วเชียวว่านังอนุสร์อยู่ที่ไหน เสียดายไอ้ฮั่งตู๋มันดันมาช่วยไว้ซะก่อน”

“ไอ้ฮั่งตู๋ถึงกับตามไปช่วยมันเชียวเหรอ ฉันไม่เห็นไอ้หมาตัวนั้นมันจะสนใจใคร นอกจากคุณอรรณพกับนังอนุสร์เจ้านายมัน”

“ก็..ถ้ามันเป็นเด็กรับใช้ของนังอนุสร์ ฮั่งตู๋อาจจะเคยรู้จักกับมันมั้ง”

“เด็กรับใช้ของนังอนุสร์เรอะ...ไม่น่าเป็นไปได้”

“ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณคิดว่ามันเป็นใครล่ะ”

“ฉันก็ยังไม่แน่ใจ...แต่ถ้าหากว่ามันเป็นคนที่ฉันสงสัยล่ะก้อ เราปล่อยมันเอาไว้ไม่ได้แน่”

จบตอนที่ 14
เครดิต ไทยรัฐ




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2553
1 comments
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 16:17:04 น.
Counter : 688 Pageviews.

 

หนูชอบพี่บี้กับพี่วิวมากๆๆเลยค่ะ

 

โดย: มัลลิกา IP: 125.27.126.9 24 กรกฎาคม 2553 19:50:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com