--[เมื่อโลกกลับด้าน "แล้วผมจะท้องไหม"]--

: : เมื่อโลกกลับด้าน!! : :




แสงแดดในยามเช้าสาดเข้ามาทางหน้าต่างบ้านผม แทงเข้ามาสู่เปลือกตาที่กำลังหลับพริ้ม
ปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาจากนิทราอันแสนสุขบนที่นอนลายโดเรม่อน ที่มีหมอนข้างลายเดียวกันวางอยู่ข้าง ๆ!!

ใจอยากจะหลับต่อ แต่กลัวจะกลายเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาวมากขึ้นไปอีก
ทั้งที่ทุกวันนี้มันก็ยาวจนเกินเยียวยาเสียแล้ว วัน ๆ ไม่ยอมทำอะไรนอกจากหายใจทิ้งไปวัน ๆ เท่านั้น T_T

ป่าวหรอกครับที่ผมต้องรีบตื่นขึ้นมา มันมีสาเหตุ เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของผมก็คือ
วันนี้ผมมีนัด ผมมีนัดกับที่รักของผม!!

เธอชื่อ อมารี ครับแปลว่าอะไรผมไม่ได้ถาม แต่นัยว่าตอนที่เธอกำลังจะเกิด
แม่เธอปวดท้องจะคลอดที่โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท แถว ๆ ประตูน้ำ
แม่เธอเลยตั้งชื่อเธอว่า "อมารี"
ส่วนจะนามสกุล วอเตอร์เกท ด้วยหรือเปล่า อันนี้ผมไม่แน่ใจเพราะไม่เคยถาม!!


อมารีเป็นผู้หญิงร่างเล็ก สูงเพียง 160 กว่า ๆ เท่านั้นเอง ผิวไม่ขาว
ออกไปทางคล้ำ ๆ ผมชอบแซวเธอว่า เธอเป็นลูกหลง ที่บอกว่าลูกหลงนั่น
ไม่ได้หมายความว่าพ่อกับแม่ไม่อยากให้เกิด แต่เธอแหกการคุมกำเนิดออกมานะครับ
แต่ลูกหลงที่ผมแซวก็เพราะ ทั้งบ้านเธอ ขาวกันหมด มีเธอดำคล้ำอยู่คนเดียว!!!
เธอเคยบอกผมว่า ยามที่เธอมองดูพี่น้อง ดูพ่อ ดูแม่ของเธอแล้ว เหมือนกับว่าตัวเองเป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง
ที่ถูกวางอยู่ท่ามกลางหิมะ ผมบอกเธอไปว่า !!! ก้อนหินมันยังน้อยไป น่าจะเรียกว่าถ่านจะเวิร์คกว่า

เธอตอบผมกลับมาว่า "เป็นถ่านแล้วมันไปหนักหัวบิดาคุณเหรอ!!!"


นั่นแหล่ะครับ ผมแซวเธอทีไรก็โดนด่ากลับมาทุกที แต่ขอโทษ โดนด่าแต่ก็มีความสุขครับ กรั่ก ๆ ๆ

จริง ๆ แล้ว อมารีกับผม ยังไม่เคยเจอหน้ากันจริง ๆ หรอกครับเคยเห็นแต่รูปถ่าย
ผมเจอเธอผ่านทางคอลัมม์ลุงหนวดหาคู่ในหนังสือพิมพ์ แถมรูปที่เห็นก็คาดตาซะด้วย
เหมือนนักโทษแหกคุกก็ไม่ปาน

แต่รู้สึกสะดุดตายังไงก็ไม่รู้ครับ เธอคลับคล้ายคลับคราเหมือนเพื่อนผมคนนึง
ใจที่เห็นตอนแรกก็ยังคิดเลยครับ ว่า

"นี่มันเพื่อนตรูนี่หว่า"

นี่มันหมดหนทางถึงขนาดต้องมาลงหาคู่ในหนังสือพิมพ์แล้วเหรอวะเนี่ย!!!
แต่พอดูชื่อแล้วไม่ใช่ ก็โล่งใจไป เพราะว่า ถ้าขนาดหน้าตาอย่างเพื่อนผมนั่น
มันยังหาสามีไม่ได้แล้วละก็ มีหวังผู้หญิงทั้งโลกก็โสดกันหมดแน่ ๆ
เพราะเพื่อนผมคนนี้มันหน้าตาจัดเข้าขั้นดีมากเลยทีเดียว

นั่นแหล่ะครับ ด้วยความสะดุดตา แถมดูชื่อแล้วโดนใจ และที่สำคัญที่สุด
ด้วยคุณสมบัติของชายหนุ่มที่เธอต้องการ มันช่างโดนกับผมเสียเหลือเกิน


"อมารี สาวสวย จบปริญญาตรี หน้าที่การงานดี ต้องการคู่ใจ
คุณสมบัติ ฐานะไม่สนใจ หน้าตาไม่ต้องหล่อ งานการไม่ต้องดีก็ได้
ขออย่างเดียว รักจริงและพร้อมจะดูแลกันตลอดไป"



อะโห อะไรจะอัตคัตปานนั้นฟระ ถ้าคุณสมบัติของตัวเธอเองที่ว่านี่ ยังต้องมาลงหาคู่ในหนังสือพิมพ์อย่างนี้
โลกเรามันชักจะมีเรื่องตลกเพิ่มมากขึ้นทุกวันเสียแล้ว!!

แต่ก็นั่นแหล่ะครับถึงผมจะคิดว่ามันประหลาด แต่คุณสมบัติที่เธอต้องการ
แมร่งโคตรจะโดนนนน เพราะไอ้ตัวกระผมนี่ ก็จัดเข้าขั้นจนโคตร ๆ ใครมาจับตัวผมนี่ จะมีเสียงดัง แกรบ ๆ ๆ
ประมาณว่า จนกรอบ แถมหน้าตายังสุนัขไม่เห่าอีกต่างหาก คิดดูสิ ขนาดหมายังไม่เห่า แล้วคนจะมองเร๊อะ!!!


ด้วยความโดนในดังกล่าว ผมจึงส่งจดหมายน้อยแนะนำตัวไปหาเธอ
รู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องมานั่งเขียนจดหมายใส่กระดาษสีชมพู จากที่ไม่เคยทำอย่างนี้มานานมากแล้ว
ทุกวันนี้อะไร ๆ ก็อีเมล์ อะไรก็โทรศัพท์ แต่อยู่ดี ๆ ต้องมาเขียนจดหมายจีบสาว เลยรู้สึกแปลก ๆ


"สวัสดีครับ คุณอมารี........

ผมเห็นคุณลงหาคู่ไว้ในคอลัมม์ลุงหนวดหาคู่ ผมเห็นแล้วรู้สึกว่า คุณกับผมคงจะไปด้วยกันได้
อีกทั้งคุณสมบัติที่คุณต้องการ มันก็ช่างตรงกับตัวผมเสียเหลือเกิน ผมเลยส่งจดหมายฉบับนี้มาแนะนำตัวแก่คุณ

ผมชื่อหมันครับ อ่ะ ๆ อย่าเพิ่งคิดว่าผมเป็นหมันล่ะ อายุ 31 ปี หน้าที่การงานไม่มี บ้านจนมากถึงจนที่สุด
หน้าตาจัดอยู่ในขั้นเลวมากถึงเลวมากที่สุดเช่นเดียวกัน นิสัยพอเอาได้ (เอ่อ อะไรฟระเอาได้ T_T)
ไม่ทำร้ายคนพิการ เด็ก สตรี และ คนชรา แต่ด่าเสียหมาหมดไม่มีเว้ณ!!

ไม่เคยให้ร้ายใคร หากมันผู้นั้นไม่ให้ร้ายผมก่อน ไม่มีความคิดแค้นอาฆาทใครที่ทำไม่ดีกับผม
แต่มีข้อแม้ว่า มันต้องตาย!!!

คุณอมารี อ่านแล้วอาจจะหลงรักผมขึ้นมาทันที แต่ช้าก่อนครับ หากว่าคุณอมารี ตอบจดหมายนี้มาภายใน 3 วัน

ผมจะแถมเบอร์โทรศัพท์ให้คุณด้วย!!

ก็หวังว่า คุณอมารีจะยินดีที่จะสานความสัมพันธ์ระหว่างเราให้แนบแน่นยิ่งขึ้นนะครับ

ปล.ผมส่งรูปที่ผมคิดว่าดูดีที่สุดของผมมาให้คุณดูด้วยครับ!!

หมัน"



หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตอบกลับผมมา


"เรียนคุณ หมัน

ดิฉันได้อ่านจดหมายของคุณแล้ว รู้สึกถูกชะตายังไงพิกลค่ะ แต่ยังนะคะ ยังไม่ได้หลงรักค่ะ
เพราะคุณสมบัติของคุณ พร้อมรูปที่คุณส่งมาให้ดิฉันเห็นแล้วขนลุกค่ะ ไม่คิดเลยนะคะว่า
ในโลกนี้ยังมีคนที่อุบาทว์ขนาดคุณอยู่อีก

ไม่รู้ว่าจดหมายของดิฉันจะไปถึงคุณภายในสามวันหรือเปล่านะคะ เอาเป็นว่า ดิฉันให้เบอร์คุณไว้เลยก็แล้วกัน

088-8888888

เบอร์นี้นะคะ โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วคุยกันค่ะ

อมารี ณ วอเตอร์เกท"



นั่นคือเนื้อความในจดหมายที่เธอตอบผมกลับมา

เวลา 3 เดือนผ่านไป ที่ผมติดต่อกับเธอผ่านทางโทรศัพท์
มีบางครั้งที่เธอส่งรูปของเธอมาให้ทางอีเมล์ของผม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า
หน้าตาอย่างเธอ จะต้องมาลงหาคู่ในหนังสือพิมพ์อย่างนี้ แถมหน้าที่การงานที่เธอทำอยู่
ก็จัดว่าเธออยู่ในตำแหน่งที่ดีขององค์กร รายได้ของเธอเดือนเดียว
ก็เท่ากับผมหาได้ครึ่งปี ชาติตระกูลก็ดี การศึกษาก็สูง เรียกว่า เพอร์เฟ็กซ์ ก็คงไม่ผิดนัก!!! T_T

มันน่าแปลกใจไหมล่ะครับ

ความน่าแปลกใจในครั้งนี้ ยังมาซึ่งความไม่ไว้ในใจจากผมเป็นอย่างยิ่ง
ผมกลัวว่าจะโดนเธอหลอก แต่ความรู้สึกนั้น เริ่มจางหายไปเรื่อย ๆ
เมื่อได้คุยกับเธอทุกวัน ๆ ๆ จากความไม่ไว้ใจ เริ่มกลายเป็นความชอบ


"จนในที่สุด กลับกลายมาเป็นความรัก"


ใช่แล้ว ผมรักเธอ ไม่น่าเชื่อว่าผมจะหลงรักคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย
แต่ผมก็รักไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในกระทู้ที่ผมเคยอ่าน เค้าบอกไว้ว่า มันเป็นความรักจอมปลอมก็ตามที
แต่ใครล่ะที่จะบังคับใจตัวเองไม่ให้รักได้ หากว่าใจมันรู้สึก!!!

พูดน่ะง่าย แต่ทำน่ะมันยากโคตร!!


4 เดือนผ่านไป จนกระทั่งมาถึงเมื่อ 3 วันที่แล้ว ผมกับเธอก็คุยกันปกติ
แต่ก่อนจะวางสายไปนั้น เธอก็นัดผมเพื่อเจอกันเป็นครั้งแรก

อ้อ ลืมบอกไปครับ เธอชื่อเล่นว่า "เหมย"

"วันศุกร์คุณว่างไหม" เธอถามผมมา
"ว่าง ทำไมรึ"

"จะชวนไปเที่ยวพัทยา"

การชวนของเธอคราวนี้ทำให้ผมดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้พบกับเธอเสียที
หลังจากที่ผมตะล่อมเธอมานานมากแล้ว แต่เธอก็ไม่ยอมท่าเดียว
แต่อยู่ดี ๆ เธอก็เป็นฝ่ายนัดผมเอง ผมตอบตกลง

"ไปสิ จะไปกันยังไงล่ะ"

ผมถามเธอกลับไป เพราะทั้งชีวิต ผมไม่เคยไปเลย ไอ้สถานที่ ๆ เค้าเรียกกันว่า พัทยาเนี่ย
รู้แต่ว่า มีฝรั่งไปเที่ยวกันเยอะ แต่ก็ไม่เคยไปซักที


"เดี๋ยวเหมยจะขับรถไปรับคุณที่บ้านก็แล้วกัน"
"อืม ได้สิ แล้วเจอกันนะ"
หลังจากตกลงกันเรื่องเวลาเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา
ผมก็นอนไม่ค่อยจะหลับ หลับ ๆ ตื่น ๆ ด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับว่า
ผมเพิ่งจะเคยออกเดทกับผู้หญิงครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต!!!

จนกระทั่งวันนี้มาถึง ผมตื่นนอนขึ้นมาด้วยใจที่ปลอดโปร่ง
เจือไปด้วยความตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เหลือบดูนาฬิกา
เหลือเวลาอีก 4 ชั่วโมงกว่าเหมยจะมารับ เธอนัดผมไว้ตอนเที่ยง
โดยกะเวลาเดินทางจากบ้านผมไปพัทยาไว้ที่ 3 ชั่วโมง

ผมจัดเตรียมของใส่กระเป๋าใบเล็กของผมไว้ เสื้อผ้าไม่ต้องเอาไป
เพราะไม่มีโปรแกรมจะค้างคืน แน่ล่ะ เจอกันครั้งแรกจะค้างคืนกันแล้วเร๊อะ บ้าหรือเปล่า

...........................

ตรู๊ดดดดดดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดดดดดด

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมหยิบมันขึ้นมาดูว่าใครโทรมา ปรากฎว่าเป็นเหมยนั่นเองที่โทรเข้ามา

"ว่าไงคุณ อยู่ไหนแล้ว" ผมถามไปพลางเหลือบดูเวลา
"อยู่หน้าบ้านคุณแล้ว ลงมาสิ" เธอตอบกลับมาเล่นเอาผมต้องเผ่นลงมาจากบนห้อง

รถเก๋งคันงามจอดอยู่ที่หน้าบ้านผม
ใจผมเต้นแรงจนแทบจะพุ่งออกมาข้างนอกเลยทีเดียว ตื่นเต้นที่จะได้เจอเธอ
หัวผมคิดไปร้อยแปด ขณะที่เอื้อมมือไปเปิดประตูรถ อีกไม่กี่วินาที
ผมจะได้เจอคนที่ผมรักแล้ว เธอจะหน้าตาเหมือนกับรูปที่เธอส่งมาให้ดูหรือเปล่าน๊า

"กึ่ก" ผมเปิดประตูรถพร้อมก้มตัวลงไปมอง

สิ่งที่ผมเห็น คือนางฟ้าจำแลงคนหนึ่ง ใส่แว่นตาดำ เสื้อเชิ๊ตสีขาว
กางเกงยีนส์เซอร์ ๆ เธอหันมายิ้มให้ผม รอยยิ้มของเธอเล่นเอาผมแทบจะเป็นลมลงไปตรงนั้น

ผมเงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้าพร้อมพึมพัมเบา ๆ


"ขอบคุณสวรรค์"


"ขึ้นมาสิคุณ" เหมยร้องเตือนผม ดึงให้ผมหลุดออกมาจากภวังค์
"อ่ะ ครับ ๆ"

ผมก้าวขึ้นไปบนรถ เอากระเป๋าใบเล็กมากอดไว้กับอก
พร้อมกับดึงถุงยางนิรภัยมาคาด เฮ้ยไม่ใช่ๆ เข็มขัดนิรภัยต่างหาก T_T

.......................................................

ตลอดทาง เธอกับผมคุยกันอย่างถูกคอ
คงเป็นเพราะว่า เคยชินกันทางโทรศัพท์มาแล้ว และหน้าตาก็เคยเห็นจากรูปกันมาบ้างแล้ว
จึงเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของผมและเธอได้อย่างรวดเร็ว

เหมยเคยบอกว่า เธอรักผมเข้าแล้ว
ส่วนผมก็บอกเธอกลับไปว่า ผมก็รักเธอเหมือนกัน

การได้คุยกันบนรถในครั้งนี้ เป็นตัวตอกย้ำให้เธอและผมได้แน่ใจว่า เราเลือกคนไม่ผิดแล้ว!!
รถเก๋งคันงาม แล่นมาจอดที่ริมชายหาดพัทยา เวลาขณะนั้นคือ 16.30 น. หรือ สี่โมงครึ่ง

"หิวหรือยัง"

เหมยหันมาถามผม ผมพยักหน้าหงึก ๆ เพราะตั้งแต่เช้า ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย!!

"งั้นเดี๋ยวพาไปกินอาหารทะเลอร่อย ๆ นะ"

เธอบอกพร้อมหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปอย่างชำนาญในเส้นทาง
เธอบอกว่า เธอเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว


...........................................


อาหารหลายอย่างถูกลำเรียงมาที่โต๊ะ
เวลาผ่านไปจนท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ได้เวลากลับกันแล้ว

แต่ก่อนกลับ เหมยบอกกับผมว่า เธอมีที่ ๆ หนึ่งที่อยากให้ผมได้ไปเห็น
ผมถามเธอว่า ที่ไหน เธอบอกออกมาสั้น ๆ ว่า


"หอพระโพธิสัตว์"


อะไรคือหอพระโพธิสัตว์ ผมก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่เคยมา
แต่การที่จะได้อยู่กับคนที่ผมรักนานขึ้น ก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ ผมพยักหน้าตอบตกลงทันที

เราออกจากร้านอาหารมาตอนท้องฟ้ามืดครึ้ม เหลือบดูนาฬิกา
มันบอกเวลา 18.30 น. เราใช้เวลาอยู่ที่ร้านอาหาร 2 ชั่วโมงเต็ม ๆ


............1 ชั่วโมงหลังจากนั้น เธอก็เลี้ยวรถเข้าไปในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่

ไฟไม่มี ทางทุรกันดาร สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่
แลดูน่ากลัวยังไงพิกล ในใจผมยังคิดอยู่เลยว่า รีสอร์ทอะไร น่ากลัวขนาดนี้วะ
แล้วใครมันจะกล้าเข้าไปพัก!!!

ใช้เวลาซักพัก รถก็แล่นเข้าไปภายในรีสอร์ท ผมเริ่มเอ่ะใจ ว่า
เอ๊ะ!! จะพาไปที่หอพระโพธิสัตว์ไม่ใช่หรือ ทำไมเลี้ยวเข้ารีสอร์ทล่ะ
ด้วยความสงสัย ผมจึงหันไปถามเธอ

"จะไปหอพระโพธิสัตว์ไม่ใช่เหรอ"

เหมยยิ้มเล็ก ๆ เป็นรอยยิ้มที่ผมเดาไม่ออกว่า มันหมายควาย
เอ้ย หมายความว่าอะไร เธอยิ้มพลางตอบกลับมาว่า


"มันต้องเข้าไปทางนี้แหล่ะ หอพระโพธิสัตว์จะอยู่ข้างใน เมื่อกี๊ก็มีป้าย คุณมองไม่เห็นเหรอ"

ผมได้แต่ส่ายหน้า เพราะเท่าที่จำได้ ผมเห็นแต่ป้ายรีสอร์ท!!!
รถแล่นเข้ามาจนถึงด้านในสุดของรีสอร์ท ด้านหน้าเป็นทะเลยามค่ำคืน
ส่วนข้าง ๆ เป็นห้องพักสำหรับแขกของรีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งมันปิดไฟมืดหมดทุกห้อง
นั่นแสดงว่า ไม่มีแขกมาพักเลย จะมีก็เพียงแต่ ห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านขวามือ
ที่มีผู้หญิงกลุ่มนึง นับคร่าว ๆ ได้ประมาณ 10 คน แต่ละคนก็ขาว หมวย สวยเอ็กซ์ กันทั้งนั้น
ทุกคน ใส่สายเดี่ยว กางเกงขาสั้น พวกเธอกำลังนั่งกินเหล้ากันอยู่

ผู้หญิงกลุ่มนั้น หันมามองรถที่ผมและเหมยขับเข้าไปจอดเทียบอยู่ใกล้ๆ
ผมมองไปที่เหมย เห็นเธอเหลือบไปที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นชั่วแว่ปนึงพร้อมยิ้มเล็ก ๆ

สายตาของผู้หญิงกลุ่มนั้น มองมาที่รถด้วยทีท่าแปลก ๆ
หลาย ๆ คนหันไปซุบซิบ ๆ กัน ในขณะเดียวกัน มีอีกหลาย ๆ คนยิ้มออกมา

ด้วยความที่ว่าผมเป็นผู้ชายตัวคนเดียว มากับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก
ทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีว่า มันมีอะไรทะแมร่ง ๆ เสียแล้ว ผมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใบเล็กของผมมาแนบไว้กับตัว
กะไว้ว่า หากเกิดอะไรขึ้น ผมจะทะยานออกนอกตัวรถ และวิ่งเรียกให้คนช่วย แม้ว่ารีสอร์ทนี้
มันจะเหมือนรีสอร์ทผีสิงที่ไม่น่าจะมีคนก็ตามที ในใจผมคิดว่า ผมพลาดเสียแล้วที่ไว้ใจเหมย ผมไม่น่าเลย
ด้วยความไว้ใจแท้ ๆ ที่ทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ อันตรายจริง ๆ T_T

"ผมจะทำยังไงดี ผมจะทำยังไงดี" ผมคิดอยู่ในใจ กอดกระเป๋าไว้กับอกน้ำตาจะไหล

ผมหันไปมองเหมยอีกรอบ ไม่เห็นเธอจะมีทีท่าอะไรให้เป็นที่ระแวงเลย
เธอดับเครื่องยนต์หันไปหยิบกระเป๋าออกมา แล้วเปิดประตูรถออกไป
พอเธอปิดประตูรถฝั่งเธอเข้ามา ด้วยสัญชาติญาณส่วนตัวผมก็รีบเอื้อมมือไปกดปุ่มเซ็นทรัลลาดพร้าว
เอ้ย เซ็นทรัลล็อคที่อยู่ฝั่งเธอทันที เพื่อให้ประตูล็อคหมดทั้ง 4 ด้าน แล้วเอานิ้วยันไว้ เผื่อว่าเธอจะกดรีโมท!!!


"เอาวะ จะทำอะไรตรูก็ต้องออกแรงกันหน่อยล่ะ อย่าคิดว่าเห็นเราเป็นผู้ชายแล้วจะมาทำอะไรเราได้ตามใจชอบนะ!!!"


เหมยหันมามองผมพลางทำสีหน้าแปลกใจ
เธอพยักหน้าให้ผมลงไป พร้อมกวักมือเรียก ส่วนผมส่ายหน้าไม่ยอมลง

"ไม่เอาหรอก เรื่องอะไรจะลงไปหลอกเรามาหรือเปล่าก็ไม่รู้!!!"


เธอพยายามจะชวนให้ผมลงไปให้ได้ จับปากเธอที่ยืนเรียกผมอยู่นอกรถได้ใจความว่า

"ลงมาสิคะ ทำไมไม่ลงมาล่ะ"

แต่ผมก็ส่ายหน้าลูกเดียว พร้อมบอกออกมาในรถว่า

"ไม่ลง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"

ผมส่ายหน้าน้ำตาผมไหล ร้องไห้สะอึกสะอื้น ทำไมต้องมาเจออย่างนี้ด้วย

ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงกลุ่มนั้น พร้อมทั้งถามเธอไปว่า
รู้จักกันหรือเปล่า ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจที่ผมพูด ซึ่งตอนนั้น
ผู้หญิงกลุ่มนั้น เลิกกินเหล้าหันมามองที่ผมกันหมดคนที่กำลังยิ้มอยู่ หุบยิ้ม
บางคนทำหน้าไม่พอใจ นั่นยิ่งตอกย้ำให้ผมเชื่อว่า เหมย จะพาผมมาทำมิดีมิร้ายแน่ ๆ
คนเดียวยังพอทน แต่นี่ตั้ง 10 กว่าคน ชายหนุ่มตัวเล็ก ๆ อย่างผมจะไปสู้อะไรได้

เหมยคงเห็นว่าผมร้องไห้ และไม่มีทีท่าว่าจะผมจะลงไปเธอจึงบอกว่าเธอจะขึ้นมาบนรถ
ผมปล่อยมือออกจากปุ่ม เพื่อให้เธอขึ้นมาพอเธอขึ้นมานั่งข้าง ๆ ผม เธอก็ถามผมทันที

"ร้องไห้ทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า" ผมไม่ตอบแต่เอื้อมมือมาเช็ดคราบน้ำตา

"ทำไมไม่ลงไปล่ะคะ แล้วร้องไห้ทำไมคะเนี่ย" เธอถามมาอีกครั้งความข้องใจ ส่วนผมส่ายหน้าตอบกลับไป
"ไม่ลงล่ะ คุณรู้จักผู้หญิงกลุ่มนั้นหรือเปล่า อะฮึก ๆ " ผมตอบไปทั้งน้ำตา อารมณ์นั้น ผมกลัวจริง ๆ นะ

เหมยหัวเราะชอบใจ พร้อมบอกกลับมาว่า "ไม่รู้จักหรอก ทำไมล่ะ กลัวหรือ อ๋อ กลัวว่าเหมยจะพาคุณมาให้ผู้หญิงรุมโทรมเหรอคะ"

ผมพยักหน้าจนน้ำตากระจาย!!! พร้อมให้เหตุผลเธอ

"กลัวสิ อะฮึก ๆ คุณเพิ่งเจอผมครั้งแรก แล้วสถานการณ์อย่างนี้จะให้ผมคิดยังไงล่ะ
นี่มันก็ดึกแล้วด้วย กระซิก ๆ ไปเถอะนะครับ ผมไม่อยากดูแล้วแหล่ะ
ไอ้หอพระโพธิสัตว์ของคุณน่ะ อะฮึก ๆ เอาไว้มาวันอื่นก็ได้นะ"

สีหน้าเธอดูเหมือนจะนึกขึ้นได้ เธอบอกขอโทษผมเป็นการใหญ่

"เหมยขอโทษคุณนะ เหมยไม่ได้คิดเหมือนกันว่าคุณจะกลัว
ไม่เป็นไร เอาไว้คราวหน้าค่อยพามาตอนกลางวันนะ ขอโทษที หยุดร้องไห้นะคะคนดี"

เธอปลอบผมด้วยคำพูดที่อ่อนหวาน ทำเอาผมยิ้มออกมาได้ เฮ้ออออ เธอไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ด้วย!!!
รถเก๋งคันเดิมเคลื่อนตัวออกจากรีสอร์ท ด้วยความเงียบของทั้งผมและเหมย น้ำตาผมหยุดไหลแล้วพร้อมความโล่งใจ..

รถวิ่งมาได้ซักระยะหนึ่ง เหมยก็ทำลายความเงียบออกมา

"เหมยยังไม่อยากกลับบ้านเลย แวะไปกินข้าวกันก่อนกลับนะ"

ถึงแม้ว่า เมื่อกี๊นี้ผมจะไม่ไว้ใจเธอ แต่เธอก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอไม่ได้พาผมมาทำมิดีมิร้าย
อีกทั้งไอ้ความตื่นเต้นและน้ำตาเมื่อกี๊ มันทำให้กระเพาะผมย่อยอย่างรวดเร็ว
ท้องผมจึงเริ่มหิวอีกแล้ว ไอ้ตัวผมน่ะ ไม่แปลกอะไรหรอก เพราะหิวบ่อย
แต่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ ทำไมกินเก่งจังเลยฟระ!!!

ผมตอบตกลง "อื้อ ไปสิ"

เธอบอกว่า เธอรู้จักร้านอร่อยร้านนึง มีขนมเค้กสุดอร่อยให้กินด้วยร้านที่ว่านี่
อยู่ในโรงแรม ไอ้ผมน่ะ ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกครับ เธอพาไปไหนก็ไปหมดแหล่ะ
ดีเหมือนกัน ได้กินอาหารโรงแรมด้วยนะ ชีวิตนี้ นอกจากข้างถนนกับในห้างแล้ว
ผมไม่เคยกินอาหารโรงแรมเลย!!

20 นาทีต่อมา เธอก็พาผมไปนั่งกินข้าวในโรงแรมที่เธอบอก มันเป็นโรงแรมใหญ่โต
หรูหราเป็นยิ่งนัก ประมาณว่า ถ้าผมไม่ได้มากับเธอ ก็ไม่รู้ว่า
ชีวิตนี้จะมีบุญได้มาเหยียบที่นี่หรือเปล่า

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว นั่งกินไป คุยไป จนกระทั่งอาหารหมด
เรียกเช็คบิล ผมกับเธอก็ยังออกมานั่งคุยกันที่ล็อบบี้ของโรงแรมต่อ
ด้วยความที่เพิ่งจะได้คุยกันเป็นครั้งแรก เราจึงมีเรื่องคุยกันมากมาย
รวมไปถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาด้วย

เธอหัวเราะให้กับความกลัวที่ไม่เข้าเรื่องของผม ส่วนผมก็เขินอายไปเท่านั้น
ก็แน่ล่ะใครจะกล้าล่ะ ผู้ชายตัวคนเดียว กับผู้หญิงเป็น 10 ผมไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงแน่ ๆ
ที่ยอมออกมา 2 ต่อสองกับเหมยนี่ ผมก็คงโดนคนมองไม่ดีอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่มี
มันทำให้ผมยอมออกมากับเธอ แม้ว่าผมจะโดนมองในแง่ไม่ดีก็ตามที มันก็คุ้มค่า ที่ทำให้ผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก!!

.
.
.
.
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เหลือบดูเวลา พระเจ้า!!! ตี 1 แล้ว...



"ตี 1 แล้วนะ เรากลับกันดีกว่า แม่ผมคงเป็นห่วงแล้วแหล่ะ ผมยังไม่ได้โทรบอกแม่เลย"
ผมบอกกับเธอ เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูพลางอ้าปากหาวหวอด

"ตี 1 แล้วจริง ๆ ด้วย แต่เหมยง่วงแล้วอ่ะ เอางี้ดีไหม เราพักกันที่นี่คืนนึง แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ"

"ค้างคืน"
คำพูดของเธอเล่นเอาผมตกใจ ใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ พลางคิดไปว่า

"จะดีเหรอ เจอกันครั้งแรกก็จะค้างด้วยกันเสียแล้ว เราเป็นผู้ชายด้วย คนอื่นเค้าจะมองผมยังไง"

"จะดีเหรอครับ ผมยังไม่ได้บอกแม่ผมเลย" ผมบอกเธอ
"ก็โทรไปบอกสิคะ บอกว่าอยู่กับเหมยก็ได้" เธอแนะนำ

"ขืนบอกว่าอยู่กับเหมย มีหวังผมโดนแม่ด่าแน่ ๆ มีอย่างที่ไหน ผู้ชายมาอยู่กับผู้หญิง สองต่อสอง"

ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์ไปหาแม่

"ฮัลโหล แม่เหรอครับ"
"ทำไมไม่กลับบ้าน นี่อยู่ไหนเนี่ย" เสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

"แม่อ่ะ ผมอยู่กับเพื่อน วันนี้จะทำรายงานกัน" ผมหาข้ออ้าง
"รายงานบ้าอะไร แกจบมาตั้งนานแล้วยังต้องทำรายงานอะไรอีก แล้วนี่อยู่บ้านใคร!!!"
เสียงตอบกลับมาทำเอาผมต้องหดหัวเป็นเต่า

"อยู่บ้านย้งอ่ะแม่ เอ่อ ทำรายงาน เอ่อ รายงานของไอ้ย้งมันน่ะแม่ ไม่เกี่ยวกับผมหรอก" ผมมั่วนิ่มต่อไป
"อ้อ แล้วไป แล้วนี่จะกลับไหม"

"คงไม่กลับล่ะแม่ คงนอนค้างที่นี่เลย แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ" ผมทำเสียงอ่อนเสียงหวาน
"เออ ๆ ๆ เป็นผู้ชายนะเราน่ะ ทำอะไรก็ระวังตัวด้วย!!!"

แม่วางหูไปแล้ว ผมหันไปยิ้มให้เหมย พอเหมยได้คำตอบจากผม
เธอเดินไปที่เค้าท์เตอร์ทันที บอกพนักงานว่าขอเช็คอิน

"ห้องเดียวนะคะ" พนักงานเช็คอินถามเมื่อมองเห็นผมและเธอ

เหมยหันมามองหน้าผม ผมมองหน้าเธอ น้ำตาพาลจะไหลออกมาอีกครั้ง ส่ายหน้า
เธอคงเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของผมนั่นแหล่ะ เธอจึงหันไปบอกกับพนักงานเช็คอินคนเมื่อกี๊ว่า

"2 ห้องค่ะ"

พนักงานมองผมแปลก ๆ แต่ก็หยิบกุญแจพร้อมบอกให้พนักงานพาไปที่ห้อง
ห้องของผมและ เหมยอยู่ติด ๆ กัน โดยห้องของผมจะถึงก่อน แล้วจึงจะถึงห้องของเธอ

พนักงานเมื่อส่งเสร็จก็เดินจากไป ปล่อยให้ผมและเหมย ยืนอยู่หน้าห้อง
ผมเอื้อมมือไปไขกุญแจ แล้วก้าวเข้าไปในห้อง โดยมีเหมยเดินตามเข้ามา
ผมหันไปมองแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอคงอยากเห็นว่าวิวห้องผมเป็นอย่างไรนั่นแหล่ะ

ผมเปิดไฟ ส่วนเธอเดินสำรวจรอบ ๆ ห้อง

ด้วยความที่วันนี้ เดินทางมาทั้งวันทำให้ขาผมล้าเหลือเกิน
ผมจึงทื้งตัวลงบนที่นอนนุ่มนิ่ม


เหมย หลังจากเดินสำรวจห้องผมทั่วแล้ว เธอก็เดินมานั่งอยู่บนเตียงข้าง ๆ ผม

"ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนสิคะ อย่าเพิ่งนอน" เหมยบอกผม ทำให้ผมต้องดึงกายลุกขึ้นมาคุยกับเธอ

แต่ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น !!!!!!

ตัวผมยังไม่ทันลุกขึ้นมานั่ง เธอก็โถมตัวเข้ามาใส่ผม
มือทั้งสองข้างของเธอจับมือของผมไว้ไม่ให้ดิ้น ส่วนตัวเธอทั้งตัว
ก็ทับลงมาบนตัวผม ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย สูง 185 หนัก 65 กิโล
ผมจึงสู้แรงเธอไม่ได้ เธอสูง 160 กว่า ๆ หนัก 40 กว่า ๆ เธอตัวใหญ่กว่าผมเยอะ!!! (แสรดดดดดดด)

ผมได้แต่พยายามดิ้นรนอยู่ใต้อกคับ B ของเธออยู่อย่างนั้น

"อย่านะ" .......ผมพูดออกไป
"อย่าทำอย่างนี้" ......ผมพูดออกไปอีกครั้ง
"มันไม่ดี" .......ผมพูดต่ออีก
"ผมเสียหาย" ........ผมพูดต่ออีกครั้ง

"คุณจะ....อุ๊บ!!!!" ....... ผมพูดต่อไม่ได้แล้ว T_T


เนื่องจาก พอผมอ้าปาก ปากเรียวบางของเธอก็พุ่งเข้ามาประกบเข้ากับปากหนา ๆ ของผม

......... อุ๊บ ๆ ๆ อื้อออ ๆ

ผมพยายามดิ้นให้หลุด แต่เสียใจด้วย ผู้ชายตัวใหญ่ ๆ อย่างผม
จะไปสู้แรงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอได้อย่างไร มือทั้งสองของเธอ
กดข้อมือของผมไว้ ไม่ให้กระดิก ผมออกแรงขัดขืนและดิ้นรน แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล


ส่วนปากของเธอ ก็บดขยี้ที่ริมฝีปากของผม (โอวววววววววววว)


เวลาผ่านไป การดิ้นรนของผมเริ่มน้อยลงทุกที เรี่ยวแรงจากที่เคยมี มันมลายหายไปไหนหมดก็ไม่รู้
จากปากที่เคยเม้มไว้ ก็เริ่มเผยอออกรับลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอ ที่พยายามจะแทรกเข้ามาให้ได้

มือที่เคยขัดขืน ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะขยับ หน้าผมร้อนผ่าว ใจเต้นแรงเหมือนคนกำลังวิ่งมาซัก 10 กิโล

ผมพยายามดิ้นอีกครั้ง แต่ก็รู้สึกเหมือนกับว่า ตัวผมจะไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
ร่างกายผมไม่ยอมรับฟังคำสั่งจากสมองผมอีกแล้ว!!!

เสื้อและกางเกงผมหลุดออกจากตัวไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ภาพที่ผมเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะดำเนินต่อไปคือ "เหมย"

เสื้อเหมยหลุดออกไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทันสังเกตุ สิ่งที่เห็นคือ เหมยในร่างเกือบเปลือยเปล่า
ผมเห็นไทรอั้มพ์สีขาวน่ารัก กำลังจะหลุดออกไปจากทรวงอก!!!

พรวดดดดดดดดดด เลือดกำเดาผมไหลอาบแก้ม เอ้ยไม่ใช่ น้ำตาผมไหลอาบแก้ม T_T


เธอไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ อาศัยจังหวะที่ผมกำลังเคลิ้ม โน้มตัวลงมาอีกครั้ง!!!!!!!

น้ำตาผมแห้งเหือด ตาผมหลับพริ้มมมมมมมมม สติลางเลือน เหมือนอยู่ในห้วงฝันอันแสนสุข และ เหนื่อยโคตร!!!
(แสรดดดดดด นึกภาพแล้วทุเรศตัวเองว่ะ T_T


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

และในที่สุด ทุกอย่างก็ไปถึงจุดสิ้นสุด!!!!


ตรงที่ .... ไว้ ให้ไปจินตนาการกันเอาเอง
ส่วนอะไรคือจุดสิ้นสุดก็ไปคิดกันเอาเองบ้าง อย่าให้ต้องอธิบาย
เพราะไม่งั้น มันอาจจะกลายเป็นนิยายประโลมโลก ติดเรท X ไปเสียเปล่า ๆ
เอาแค่ เรท R ก็พอแล้ว T_T




...........................................................



แสงแดดพุ่งผ่านม่านของโรงแรมเข้ามา ผมเผยอตาขึ้น เปลือกตาผมสั่นระริก
เมื่อสติผมทำงาน ผมนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ทันที


"เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม" ผมถามตัวเองพลางสำรวจร่างกาย


ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างอยู่ภายใต้ผ้าห่ม
ผมกำผ้าห่มที่ปิดอยู่ครึ่งตัว เปิดดู โอววววววววว ลูกน้อยของพ่อ!!!
ใช่แล้ว ท่อนล่างก็เปลือยเปล่า แม้มันจะดูทุเรศอยู่บ้าง แต่ก็พอจะรู้ได้ว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่ฝัน!!!

ผมหันไปมองที่ว่างบนเตียงข้าง ๆ ผมทันที แต่ผมไม่เห็นเหมย
ตัวต้นเหตุพรากของรักของหวงของผมไปเลย น้ำตาผมไหลอาบแก้ม ผมมองไปรอบห้อง

เหมยยืนกอดอก มือคีบบุหรี่ ดูดอยู่ปุ๊ย ๆ ๆ ควันรอยอ้อยอิ่งไปปะทะกระจกบานนั้น
เธอยืนอยู่ริมกระจกของโรงแรม ที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้
โดยมีผ้าขนหนูสีขาวของโรงแรม พันรอบกาย เผยต้นขาอันเรียวยาวกลมกลึงน่ามอง
เธอพ่นควันสุดท้ายและหันมามองผม พร้อมยิ้มน้อย ๆ


ผมดึงผ้าห่มมาปิดหน้าอกไว้ พลางยันกายขึ้นมานั่งพิงที่หัวเตียง
มือทั้งสองข้างจับอยู่ที่ผ้าห่ม น้ำตาไหลพราก ผมร้องไห้กระซิก ๆ ๆ ๆ
เหมยยิ้มกริ่ม เธอเดินเข้ามาหาผม ผมถดตัวหนี "อย่าเข้ามานะ อะฮึก ๆ คนใจร้าย!!!" ผมพูดออกไปเบา ๆ (อุแหว่ะ!!)


แต่เหมยไม่ฟังผม เธอยังคงคลานขึ้นมาบนเตียงและเอื้อมมือมาจับข้อมือของผมไว้พร้อมเอ่ยออกมาว่า


"ไม่ต้องกลัวนะคะ เหมยจะรับผิดชอบคุณเอง!!!!"



น้ำตาผมไหลพรากมากขึ้นกว่าเดิม ในที่สุด ความบริสุทธิ์ที่รักษามานาน
ก็โดนเธอคนนี้มาใช้กำลังพรากเอาไปเสียแล้ว นึกแล้วเจ็บใจนัก ผมไม่น่าไว้ใจเธอเลย
ผมรักเธอก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะทำอย่างนี้ ถึงแม้ว่ายังไง ๆ ผมก็ต้องยอมตกเป็นของเธออยู่วันยังค่ำ
แต่ก็ไม่ใช่ในลักษณะที่เธอข่มขืนโคเขาให้กินหญ้าอย่างเช่นที่เธอกระทำ!!!


"ไม่ต้องร้องไห้นะคนดี เหมยจะรับผิดชอบทุกอย่าง"


เธอพยายามปลอบผม ผมรวบรวมสติอีกครั้ง ถามเธอกลับไปว่า


"คนใจร้าย....ทำไมเหมยทำอย่างนี้กับผม อะฮึก ๆ ๆ ๆ"
"โถ คนดี ก็เพราะเหมยรักคุณไง"

เธอตอบกลับมาพร้อมเอามือมาลุบหัว ผมหดคอลงพร้อมดึงผ้าห่มให้สูงขึ้น!!

"อย่ามาแตะต้องตัวผมนะ อะฮึก ๆ กระซิก ๆ"
"โธ่ พ่อคุณ อย่างอนไปเลยนะคะ ที่เหมยทำ ก็เพราะเหมยรักคุณ"

"รักผม อะฮึก ๆ แต่คุณทำอย่างนี้ ไม่ให้เกียรติผมเลย ผมอุตส่าห์ไว้ใจคุณนะ อะฮึก ๆ ๆ"

ผมต่อว่าพลางเอามือปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

"เพราะรักไง เหมยทนไม่ได้ที่จะต้องจากคุณไปโดยที่คุณยังไม่เป็นของเหมย
คุณจะว่าอะไรเหมยก็ยอม แต่เหมยรักคุณนะ"

เธอเอื้อมมือมาโอบกอดผมไว้
ผมระดมมือน้อย ๆ ลงไปบนอกคับ B ของเธอ!!!

"คนบ้า ๆ คนผีทะเล คนบ้า ทำไมทำอย่างนี้ ปึ่ก ๆ ๆ ๆ ฮือออออออออออ อะฮึก ๆ ๆ"
"โถ ๆ ๆ อย่าร้องไห้นะคนดีของเหมย"

เธอพูดพร้อมกอดผมแน่นขึ้น จนผมแทบขาดอากาศหายใจตาย!!
หมดปัญญาจะทุบต่อ เลยปล่อยมันไปซะงั้น เมื่อเธอเห็นว่าผมหยุดแล้ว
เธอจึงปล่อยให้ผมได้หายใจบ้าง ผมมองหน้าเธอแบบค้อน ๆ แล้วพูด

"แล้วนี่ถ้าที่บ้านผมรู้เค้าจะว่ายังไง คุณนะคุณ ไม่น่าเลย อะฮึก ๆ"
"เหมยบอกแล้วไงล่ะคะ ว่าเหมยจะรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวนะคะที่รัก"

"แล้วเมื่อคืนน่ะ อะฮึก ๆ คุณได้ป้องกันหรือเปล่า" ผมถามกลับไปเมื่อนึกขึ้นได้
"ป่าว ไม่ได้ป้องกันหรอก ทำไมเหรอ" เธอถามกลับมายิ้ม ๆ

"โธ่ ทำไมคุณทำอย่างนี้ ทำไมคุณไม่ป้องกัน แล้วอย่างนี้.......... "








"ผมจะท้องไหมเนี่ย"



จบข่าว สมันน้อยรายงาน



แสรดดดดดดดดดดดดดดด บ้าไปแล้วกรู T_T



ปล. เหตุการณ์ทั้งหมด สมมุติขึ้นมานะครับ สมมุติทั้งหมดเลยนั่นแหล่ะ
ทั้งชื่อ ทั้งอะไรก็สมมุติหมดเลย
อยู่ว่าง ๆ ก็เลยเอามาเขียนได้เป็นวรรคเป็นเวรอย่างนี้แหล่ะ T_T

เวรกรำแท้ ๆ มีที่ไหน ผู้หญิงขืนใจผู้ชาย จะบร้าเร๊อะ!!!



Create Date : 18 กรกฎาคม 2550
Last Update : 18 กรกฎาคม 2550 20:24:16 น.
Counter : 431 Pageviews.

28 comments
  
เข้าฮาจริงๆเร้ยยยย...

ไปตรวจอ่ะยังว่าท้องไหม....

อิอิอิ
โดย: ^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:32:23 น.
  
เรื่องจริงป่าวเนี้ยลูกเพ่ อย่างสยิวเลย
โดย: I.Brother วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:33:41 น.
  
ตกลงเรื่องจริงป่ะน้า

ถ้าจริง น้าจะได้เป็นฝัง เอ้ย ฝั่งเป็นฝากับเค้าซะที
โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:44:41 น.
  
เอ่อ เขียนอย่างนี้ยังคิดว่าเรื่องจริงกันอีกเหรอครับ จะบร้าเร๊อะ มีที่ไหน ผู้หญิงข่มขืนผู้ชาย ป๊าดดดดดT_T
โดย: สมันน้อย เบอร์ 14 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:48:49 น.
  
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องโกหก

หลงอ่านจนจบ...555
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:00:24 น.
  
คุณสมันน้อย...ชอบทำเอาใจหายใจคว่ำทุกทีสิน่า
โดย: pinkieminkie วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:16:11 น.
  
อ่านกี่เรื่อง ก็หายเครียดทุกที ครับ สุดยอดจิงๆครับ
โดย: alex23th IP: 125.26.143.91 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:59:18 น.
  
โห ไอ้เราอ่านมาก็นึกว่าเรื่องจริง
นึกว่าคุณสมันน้อยโดนลวงไปปู้ยี้ปู้ยำจริงๆ

นี่ถ้าไม่ได้อ่านจนจบนี่ นึกว่าเรื่องจริงเลยนะเนี่ย
โดย: berserker IP: 222.123.105.84 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:05:17 น.
  
กล้าพูดดดดดด กล้าเขียนนน

เดี๋ยวแช่งให้ท้องจริง ๆ ซะนี่



โดย: รอยร้าวไม่เคยจาง วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:05:19 น.
  
แต่ก็อยากให้เป็นเรื่องจริงใช้เปล่า ??

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:11:01 น.
  
กร้ากกกกกกกกกกกกกกก
โดย: s.o.s วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:35:43 น.
  
55555555555555555555555555555555
โดย: squashmania IP: 202.57.173.69 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:42:23 น.
  
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ฮาโคตรครับน้าหมัน

ดีนะน้าหมันไม่นั่งกัดผ้าห่ม ร้องไห้ ส่วนเธอนั่งดูดบุหรี่ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 555555555
โดย: Darth Trowa IP: 58.9.156.94 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:08:45 น.
  
กะลังอินอยู่ดีๆ
น้ามาปลุกให้ตื่นตาม ทำไมเนี่ย

ฮาตะหลอดคนอาไร๊ คิดได้
โดย: SmilingMaker IP: 58.136.168.126 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:17:35 น.
  
โล่งอกไป น้าหมันจะได้ออกรอบซะที
โดย: bee IP: 203.148.162.129 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:37:27 น.
  
คิดว่าเรื่องจริงนะเนี่ย
โดย: น้ำค้างบนยอดข้าว IP: 203.149.23.11 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:52:05 น.
  

น้าหมันติดเรท ๆ อิอิ

ตามมากันถึงในนี้
ทำเอาตัวแสบเสียผู้เสียคนหมด 555+
แต่ก็อ่านหมด 555+

หรือว่าตัวแสบแอบติดเรทตาม 555+

แวะมาป่วนน้าหมันแล้วก็ไป อิอิ

โดย: ตัวแสบมาเยือน วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:37:20 น.
  
อยากรู้ว่าแปลว่าอะไร

สงสัยต้องไปถามเจ้าของโรงแรม
โดย: ตาต่วน วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:45:54 น.
  
emo คิดไปได้นะน้าฯ emo
โดย: mingdynasty วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:59:35 น.
  
555+ไอ้เราก็หลงคิดว่าเรื่องจิง...

อ่านแล้วสยิวกิ้วมากๆค่ะ...
แล้วตกลง...เหมยนี่มีตัวจิงป่ะค่ะ...
แล้วเค้ารับผิดชอบพี่หมันรึป่าว....55+
โดย: คนส่วนน้อย วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:53:21 น.
  
อ่านแล้วหัวเราะกั่กๆๆ เหมยเอ๊ยทำคนดังท้อง เป็นข่าวแหงๆ

โดย: คบเด็กสร้างบ้าน IP: 58.136.168.50 วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:37:53 น.
  
อ่านแล้วอีกล่ะ อิอิ
ไปอ่านมาที่ถนนนักเขียนนะคะ
แวะมาเที่ยวบ้านพี่น้าหมันค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ คุณแม่มือใหม่ ก้ากกกกกกก
โดย: oldword วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:24:41 น.
  
แวะมาอ่านอีก
โดย: เฒ่าเจ้าอุบาย วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:11:27:17 น.
  
แสรดดดดด

ไอ้เราก้ออ่านอย่าง ขะมักขะเม่น เห้อ แสดดดดดดดด

อีกทีนะ
โดย: กวางจัง IP: 222.123.176.196 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:23:09:41 น.
  
เซ็งเปรตตตตตตตต เอ้ย เซ็งเป็ด

โธ่ๆๆ ยังว่า หน้าอย่างโหด ไรจะขี้ป๊อดแท้ กร๊ากกกกกก
ปล. แต่เขียนดีมาก เขียนได้ถึงอารมณ์ดีอ่ะ
โดย: Mix Love วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:16:47:36 น.
  
คุณคะ

เห็บกดอะไรไว้รึเปล่า??

โหะๆ
โดย: เก้งตัวใหญ่ๆ IP: 202.28.7.55 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:19:17:17 น.
  
ฮาไม่ไหวแล้ว..นั่งอ่านอย่างตั้งใจ แรกๆนึกว่าเรื่องจริง

พอถึงเรื่องจดหมายเริ่มไม่แน่ใจ..

แต่ยังงัยก้อเขียนได้น่าติดตามมากค่ะ ตลกไม่ไหวแล้ว
โดย: MeJayya วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:9:19:43 น.
  
55555555555555+
โดย: กะลุ๊กปุ๊ก..ปุ๊กๆ IP: 58.9.68.229 วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:11:08:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมันน้อย เบอร์ 14
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

:: หลังไมค์หาผมได้ครับ ::


Custom Search



กรกฏาคม 2550

1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
MY VIP Friend