ธรรมดาคือธรรมดาที่แสนจะธรรมดา ธรรมดาคือธรรมดาที่ยิ่งกว่าธรรมดา ธรรมชาติคือธรรมดา ที่แสนจะธรรมดาและยิ่งกว่าธรรมดา
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

บารมีและขอบารมีเก่าให้มารวมตัว

บารมี
พูดถึงบารมี เราคงเคยได้ยินคนพูดกันบ่อยๆว่า
“ท่านผู้นี้บารมีล้นหลามที่เดียวไปไหนมาไหนไม่เคยต้องตกระกำลำบาก
มีคนคอยรับใช้ตลอดเลย”

หรือ
“พี่คนนี้แกมีบารมีจริงๆ ไม่ว่าจะริเริ่มงานบุญอะไร
สำเร็จได้รวดเร็วทุกครั้ง ทั้งๆที่ตัวพี่แกก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร”

หรือ
“คุณนี่บารมีดีจริงๆ แค่คิดก็มีคนเสนอตัวเข้ามาช่วยแล้ว”

แต่อีกหลายคนฟังคำว่าบารมีแล้ว ร้องอู้...อยู่ในลำคอ
แล้วแหงนคอตั้งฉากเงยหน้ามองไปสูงลิบลิ่วโน้น
มันช่างสูงสุดขอบฟ้า ห่างไกลจากคนเดินดินซะเหลือเกิน
เหมือนปลาลอยคออยู่ในน้ำ แล้วแหงนหน้ามองดาวบนฟ้า
ไม่มีโอกาสสัมผัสดาวได้
แหม...รู้สึกคำว่าบารมีเหมาะกับคนที่เป็นเจ้าคนนายคนเท่านั้น
ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่าใครน๊อ...ช่างคิดจริงๆเลย




บารมีไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นเองได้
บารมีคือความดีที่เราต้องสร้าง ต้องบำเพ็ญ
ต้องค่อยๆสะสมทีละเล็กทีละน้อย
และเราต้องหมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ผลในการสร้างบารมีนั้นเห็นผลช้า
เราต้องใจเย็น ไม่ท้อถอย
เมื่อบารมีแท้จริงเกิดขึ้นแล้ว จะไม่มีวันเสื่อม




“บารมีแท้จริงเป็นอย่างไรล่ะ?”
เคยเห็นดอกไม้ใช่มั๊ย เอาดอกมะลิก็แล้วกัน
ยิ่งตอนวันแม่ดอกมะลิยิ่งขายดีที่เดียว
เพราะมะลิเป็นสัญลักษณ์ของวันแม่
เดี๋ยวนี้มีการประดิษฐ์ดอกมะลิขึ้นมาจากวัสดุสังเคราะห์บ้าง
ผ้าบ้าง แป้งขนมปังบ้าง มากมายหลายชนิด
ซึ่งคงทนกว่าดอกมะลิสด
เมื่อมองดูไกลๆ
ดอกมะลิประดิษฐ์ก็สวยงามไม่ต่างจากดอกมะลิสดเท่าไหร่
แต่พอเข้าไปใกล้
เราก็จะพบความแตกต่าง
อันดับแรกเลยคือกลิ่น
มะลิสดจะมีกลิ่นหอมจรุงใจ
คนที่ได้กลิ่นจะรู้สึกสดชื่น
กลีบดอกและใบนุ่มนวลแสดงถึงความมีชีวิตชีวา
แต่มะลิประดิษฐ์ไร้ซึ่งกลิ่นอันเป็นธรรมชาติ
แม้ว่าจะมีการตกแต่งกลิ่นเพิ่มไปก็ตาม
และยิ่งเข้าใกล้จะยิ่งเห็นความหยาบ
ความไร้ชีวิตของกลีบดอกและใบชัดเจนยิ่งขึ้น




ก็เหมือนคนเราหากช่วยเหลือผู้อื่นโดยหวังสิ่งตอบแทน
เพื่อสร้างสร้างบารมีเทียมๆขึ้นมา
เอาเงินหว่าน
ทำตัวเป็นคนดี
ชอบบริจาค
ช่วยเหลือสังคม
แต่ในหัวคิดคำนวณผลได้ผลเสียกำไรสรรพเสร็จ
คนที่มองผ่านๆ ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดี
เป็นคนที่ควรสรรเสริญ
เพราะไม่รู้ถึงความคิดของเขา
แต่หากมองลึกเข้าไปในเจตนาของเขา
เขาก็จะเป็นเพียงแค่มะลิเทียมเท่านั้น
หาความหอมชื่นใจไม่ได้
อาจจะมีกลิ่นหอมบ้างแต่เป็นเพียงกลิ่นที่ประดิษฐ์ขึ้น
แล้วมันก็จะจางหายไป
ไม่ตราตรึงนิ่มนวลฝั่งลึกลงไปในจิตใจเหมือนกลิ่นของมะลิแท้ ฉะนั้น
“เราจะเลือกเป็นมะลิแท้หรือมะลิเทียม?”




การสร้างบารมีต้องใช้เวลามาก
บารมี ไม่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิดปุ๊บติดปั๊บ
อัตโนมัติได้ทันใจวัยรุ่นและไม่รุ่นทั้งหลาย
การสะสมบารมี ก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้
กว่าเราจะหาเมล็ดมาได้
มาลงมือเพาะชำ
กว่าจะแตกราก แตกหน่อ ออกใบ
ก็ต้องใช้เวลา
เมื่อแตกใบออกมาแล้ว
ระหว่างนี้เราก็ต้องทำนุบำรุงรักษาดูแลเอาใจใส่อยู่ตลอด
กว่าต้นอ่อนจะแข็งแรง
ทั้งดิน ทั้งน้ำ ทั้งปุ๋ย สภาพอากาศ สภาพแวดล้อม
ทุกอย่างต้องพร้อม
กว่าต้นไม้จะโต
กว่าออกดอกให้ผลได้
ก็ต้องใช้เวลาใช้การเอาใจใส่ด้วยกันทั้งนั้น
ฉะนั้นเราต้องอดทน ฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆ ไปให้ได้
บ่อยครั้งที่เราโดนทดสอบด้วยปัญหาต่างๆ
คนรอบข้างไม่เห็นด้วย
พายุอารมณ์กระหน่ำหนัก
สภาวะเศรษฐกิจบีบรัดจนแทบเอาตัวไม่รอด
สารพัดสารเพปัญหาที่โหมกระหน่ำเข้ามา
แต่นั่นเป็นการวัดใจเรา ว่าเราจะมั่นคงในการสร้างบารมีแค่ไหน
นั่นแหละเขาถึงว่า “มารไม่มีบารมีไม่เกิด”
เมื่อเราจะสร้างบารมี เราต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ตั้งมั่น
ต้องบุกตะลุยให้ออกจากป่าแห่งขวากหนามให้จงได้
จงจำคำนี้ไว้ “ทองแท้ไม่ไหม้ไฟ”
เมื่อเราจะเป็นทองแท้เราก็ไม่ต้องไปกลัวไฟ
เพราะไฟทำอะไรเราไม่ได้




"บารมีนี่ทำกันไม่ได้ง่ายๆ เลยเนอะ
แล้วเราจะสร้างบารมีกันได้อย่างไรล่ะ?"

ในทางศาสนาพุทธเรา ได้กล่าวถึงการสร้างบารมีไว้
เรียกว่าบารมี ๑๐ ทัศ ซึ่งผู้เขียนได้เคยกล่าวไว้ใน
“อธิษฐานจิต ขอขมา และตัดกรรม” ไปแล้ว
จึงจะขอกล่าวแค่พอเข้าใจ


บารมี ๑๐ ทัศ คือกำลังใจที่เต็ม บริบูรณ์ มั่นคง
ในการมุ่งสู่พระนิพพาน
ซึ่งจิตเราต้องทรงอยู่ พร้อมอยู่ รู้อยู่
และเข้าใจ
ในทาน
ในศีล
ในการถือบวชทางจิต
ในการเห็นตามจริง
ในความเพียรพยายามทำลายกิเลส
ในการอดทนต่อการอุปสรรคและการทดสอบนานัปการ
ในการไม่ท้อถอยที่จะทำลายกิเลส
ในการคงมั่นในสิ่งที่เราตั้งใจไว้
ในการให้ความรักความเมตตาต่อทุกจิตวิญญาณไม่มีประมาณไม่มีจำกัด
ในการยินยอม ยอมรับ ถึงกฎของไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ทั้งหมดนี้คือการสร้างบารมี




เราย้อนกลับมาดูการสะสมบารมีกันดีกว่า
การสะสมบารมีอย่างง่ายๆที่ผู้เขียนขอยกมาตอนนี้
ซึ่งเป็นบารมี ๑ ใน ๑๐ ทัศ นั่นคือการให้ทาน
ความหมายของทาน
คือการที่เรายินดีเต็มใจที่จะให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้ผู้รับพ้นทุกข์


การให้ทานทางพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นมงคล ๑ ใน ๓๘ ประการที่เราควรทำ ซึ่งแบ่งทานออกเป็น ๓ ประเภท
๑.อามิสทาน คือการให้วัตถุ สิ่งของ หรือ เงินเป็นทาน
๒.ธรรมทาน คือการสอนธรรมะ การให้ ธรรมะเป็นความรู้เป็นทาน
๓.อภัยทาน คือการให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร ไม่พยาบาท




แล้วทำบุญทำทานอย่างไรถึงจะได้บุญมากๆ?
การทำทานที่ถือว่าเป็นความดี
และได้บุญมากนั้นต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ๓ ประการ

๑.วัตถุบริสุทธิ์ คือสิ่งของที่นำมาทำทาน ต้องได้มาโดยสุจริต
ไม่ได้ไปลักขโมย หรือไปโกงใครมาในทุกๆ ทาง
ต้องเป็นของที่เจ้าของยินยอมบริจาค ด้วยความยินดี ด้วยใจจริง
และทราบจุดมุ่งหมายที่แท้จริงด้วย
หากโดนหลอกล่อให้เอาของมาทำบุญ
เพื่อคนพามาจะได้หน้าใหญ่ นี่ก็ผิดวัตถุประสงค์
๒.เจตนาต้องบริสุทธิ์ คือมีความยินดี จิตใจผ่องใสเบิกบาน
ในการได้ทำบุญทำทานนั้น
ไม่รู้สึกเสียดายทั้งก่อนหน้า และหลังการให้ไปแล้ว
ไม่ใช่ตอนจะให้หน้าใหญ่ให้น้อยไม่เป็น
แต่พอกลับถึงบ้านเงินแทบไม่เหลือ
คนในครอบครัวพลอยลำบาก นี่ก็ผิดวัตถุประสงค์
การทำบุญทำทาน
ควรทำแต่พอดี พอดีเรา พอดีเขา
คือเราไม่เดือดร้อน และผู้รับก็ยินดีที่ได้รับของนั้น
๓.บุคคลบริสุทธิ์ คือผู้ให้และผู้รับที่ดี ที่มีศีล ย่อมได้บุญมาก




แล้วถ้าเราเห็นคนติดยา อาจจะเป็นญาติพี่น้องเรา
แล้วเขาทรมานต่อความอยากยา เราเห็นเขาเป็นทุกข์
“เราเอาเงินให้เขาไปซื้อยามาเสพเพื่อให้เขาพ้นทุกข์
นี่ถือว่าทำบุญด้วยหรือเปล่า?”

ก็เรามีเจตนาดีไม่อยากให้เขาทรมาน
ผู้เขียนขอบอกเลยว่าการทำบุญให้ทานประเภทนี้
ถือว่าเป็นการสร้างบาปกรรมทางอ้อม
เช่นไม่ว่าเราจะซื้อ หรือให้ หรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม
ให้เขาได้เสพสุรา ยาเสพย์ติด แล้วเขาเกิดคลุ้มคลั่งไปทำร้ายคนอื่น
เราก็มีส่วนบาป
การให้อาวุธ ถ้าเขาเอาไปใช้ทำร้ายคนอื่น
เราก็บาป
การให้สิ่งที่ทำให้เกิดการลุ่มหลง การให้สิ่งลามกทุกชนิด
ไม่ว่าจะเป็นภาพพิมพ์ ภาพยนตร์ ดนตรี
ที่ก่อให้เกิดกามราคะกำเริบ เกิดกิเลส ตัณหา
แล้วเป็นเหตุให้ผู้รับไปกระทำต่อคนอื่น
เราก็บาป
การจัดหาสัตว์เพื่อผสมพันธุ์
จัดคนต่างเพศไปบำเรอคนอื่น
ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบาป
แม้เราไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เหมือนเราไปสนับสนุนให้เขาทำบาป




ทำบุญได้บาปนี่น่ากลัวจริงๆ
เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราให้ไป ผู้รับจะเอาไปทำอะไร?
ถ้างั้นเราทำบุญก็ต้องเลือกคนให้ด้วยสิ?
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ให้เราเลือกที่จะทำบุญ
แต่ให้เราดูว่าสิ่งที่เราทำก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้รับมากน้อยแค่ไหน
การทำบุญย่อมได้บุญตั้งแต่ตอนที่เราตั้งใจจะทำแล้วส่วนหนึ่ง
หากเราใช้สติปัญญาไตร่ตรองอีกสักนิดในการทำบุญ
ก็จะทำให้เราได้บุญเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง




หากเราไปเจอคนกำลังจะจมน้ำตาย
ร้องขอความช่วยเหลือ ผลุบๆโผล่ๆ อยู่กลางคลอง
และเราก็สามารถจะช่วยได้ด้วย
แต่แหม...เรานี่ความจำดีจริงๆ จำได้ว่าไอ้คนนี้มันติดยาอยู่
ชอบลักเล็กขโมยน้อย
ทำความเดือนร้อนให้พ่อแม่ตัวเองและคนอื่นๆ อยู่เสมอ
เราก็เลยทำเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้ ไม่ชี้
“ปล่อยให้มันตายๆไป โลกจะได้เบาขึ้น อยู่ต่อไปก็หนักแผ่นดิน”
นั่นแสดงว่าเราพรหมวิหาร ๔ ข้อเมตตาของเราบกพร่อง
ถ้าหากเราพยายามช่วยแต่เขาไม่รอด เราก็ต้องวางอุเบกขา
แต่หากเขารอด เขาย่อมมีโอกาสที่จะกลับตัวมาเป็นคนดีได้
และถึงแม้ว่าเขายังไม่กลับตัว เราก็ต้องวางอุเบกขาเช่นกัน
แต่นั่นถือว่าเราได้ทำอย่างเต็มกำลังเราที่ทำได้แล้ว
ผู้เขียนยังถือว่าการให้โอกาสเป็นทานอันยิ่งใหญ่อีกประการหนึ่งเลยทีเดียว




อธิษฐานจิตขอบารมีเก่าให้มารวมตัว
“เรามีบารมีเก่ากันด้วยเหรอ?”
“จะมีบารมีกันสักแค่ไหนกันเชียวเรามันก็แค่คนธรรมดา?”
“แล้วคนจนๆ อย่างเราจะมีบารมีกับเขาไหม?”

มีสิ มีทุกคนนั้นแหละ
มากน้อยก็ต่างกันไปตามแต่ที่สะสมกันไว้
ทำมากได้มาก ทำน้อยก็ได้น้อย
แล้วสะสมกันไว้แค่ไหนแล้วล่ะ?
ถ้าถามผู้เขียน ผู้เขียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีบารมีเก่าสักแค่ไหน
แต่หากมีสักเล็กสักน้อย ก็ขอให้ได้ใช้ประโยชน์หน่อยเถอะ




“แต่ว่าหากบารมีมีนิดเดียวจะเอาไปทำอะไรได้ล่ะ?”
ไม่ว่าจะมากหรือจะน้อยก็ขึ้นชื่อว่าบารมีล่ะ
การเอาไปใช้ทำอะไรได้นั้น
ถ้าพูดภาษาคนรวยก็เรียกว่า
“เงินต่อเงิน”
แต่ของเราต้องเรียก
“บารมีต่อบารมี”
เป็นการต่อจริงๆ นะ

กี่ชาติกี่ภพภูมิมาแล้วที่เราได้สะสมเก็บหอมรอมริบบารมีมา
ก็เหมือนกับเราเอาเงินไปฝากธนาคารไว้
ถ้าไม่เบิกเงินมันก็ยังนอนนิ่งอยู่ในธนาคารนั่นแหละ
ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาที่เราจะเอาเงินนี้ไปลงทุน
ทำให้เงินมันงอกเงยเพิ่มมากขึ้น เราก็ต้องถอนออกมา




ก็พอจะเข้าใจหรอกเรื่องการเอาเงินมาลงทุน
“แล้วบารมีนี่เอามาลงทุนได้ด้วยเหรอ?”
ได้สิ...แต่การใช้บารมีลงทุน ไม่เหมือนการใช้เงินลงทุน
เพราะการใช้เงินในการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุน แต่การดึงบารมีเก่ามาใช้ไม่มีความเสี่ยง
“ไม่มีความเสี่ยงยังไงล่ะ?”
ย้อนกลับไปอ่านที่ผ่านมาสิ
จำกันได้หรือเปล่าว่าบารมีเกิดขึ้นได้อย่างไร
บารมีล้วนเกิดขึ้นจากบุญจากความดีงาม
ฉะนั้นไม่มีพิษไม่มีภัยแน่นอน




เอาล่ะ อยากรู้อยากลองกันละสิ ว่า
จะดึงบารมีเก่ามาใช้กันได้จริงๆ อย่างที่ว่ามาหรือเปล่า?
ใครอยากก้าวหน้าเร็ว ใครอยากให้การปฏิบัติรุดหน้าไว
ก็มาอธิษฐานจิตดึงบุญบารมีเก่ามาใช้
ตาม
อาจารย์คณานันท์ กันดีกว่า
เพื่อจะได้ไปสู่จุดมุ่งหมายได้เร็วยิ่งขึ้น


“ข้าพเจ้าขอตั้งจิตระลึกถึง บุญกุศล บุญบารมี
คุณงามความดี สรรพวิชา และสายสมบัติ
ที่ข้าพเจ้าได้สร้าง ได้ศึกษา ได้ปฏิบัติและได้บำเพ็ญมา
(เพื่อปรารถนาสัมมาสัมโพธิญาณมีพระนิพพานเป็นที่สุด)
นับตั้งเเต่อดีต ปัจจุบัน และจะบำเพ็ญต่อไปในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ภาวนา
สัมมาทิฐิ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ
ให้มารวมตัวกัน ณ บัดนี้ เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ใช้สร้างบุญ สร้างบารมี
เพื่อความรุ่งเรือง ทั้งในทางโลกและทางธรรม
มีกำลังใจ กำลังบารมี ทั้ง ๓๐ ทัศน์
ได้ช่วยตนเองและสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์
ประสพแต่ความสุข
พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร
สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเถิด”




หมั่นอธิษฐานจิตกันเข้านะ ให้ใจเราแนบกับพระ
แนบกับความดีให้เหนี่ยวแน่น
หมั่นตอกย้ำจิตตนเองให้มั่นคงในคุณงามความดี
หมั่นทำให้ความดีเป็นเรื่องปกติในชีวิต
แล้วเราจะพบว่าชีวิตเราจะมีแต่สิ่งที่ดีๆ
คิดดี ทำดี จิตดี นั่นแหละ จะนำเราไปสู่ทางสุขสงบอย่างแท้จริง
อ้อ...ได้ผลอย่างไรอย่าลืมเอาเรื่องการปฏิบัติธรรมมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะ





 

Create Date : 07 มกราคม 2552
1 comments
Last Update : 31 มกราคม 2552 15:18:47 น.
Counter : 1537 Pageviews.

 


อยากรู้ข้อไหนง่ายสุดเพราะอะไร
เร้วข้อไหนยากสุดเพราะอะไรมากกว่าอ่ะ
จะต้องตอบให้ได้

 

โดย: nam IP: 124.121.196.73 29 เมษายน 2552 18:25:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ไอฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ธรรมชาติคือความสวยงาม
ธรรมชาติคือความเรียบง่าย
ธรรมชาติคือความสุข
ธรรมชาติคือความรัก
...แค่เราเปิดใจให้ธรรมชาติ
เราก็จะรับรู้และซึมซับ
ความสวยงามที่เรียบง่าย
ที่ส่งมอบความรักให้เราตลอดไป
...ธรรมชาติ
Friends' blogs
[Add ไอฟ้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.