ธรรมดาคือธรรมดาที่แสนจะธรรมดา ธรรมดาคือธรรมดาที่ยิ่งกว่าธรรมดา ธรรมชาติคือธรรมดา ที่แสนจะธรรมดาและยิ่งกว่าธรรมดา
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
ไหว้ครู

ไหว้ครูกันทำไม?

นึกย้อนไปประมาณยี่สิบปีกว่าๆ นานพอดูเหมือนกัน
สมัยนั้นเทคโนโลยีต่างๆ ยังไม่ค่อยมีมากนัก
ไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึง
ผู้เขียนก็เป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงนั้น
หลังปีใหม่ไทยประมาณ ๒ เดือน
ในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนมิถุนายนของทุกปี
ก็จะเป็นวันไหว้ครู
ก่อนถึงวันไหว้ครูหนึ่งวัน
เด็กทุกคนจะช่วยกันหาวัสดุอุปกรณ์
เพื่อประดับประดาพานดอกไม้ไหว้ครูให้สวยที่สุด
เพราะงานพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้หนึ่งปีจะมีเพียงครั้งเดียว

ไก่ขันเจื้อยแจ้ว
นกกาส่งเสียงร้อง
บอกเวลาฟ้าสางเริ่มขึ้นแล้ว
วันนี้ต้องตื่นเร็วกว่าปกติ
สลัดตัว ขี้เกียจทิ้ง ลุกกระวีกระวาด
มุ่งออกไปหาสิ่งที่เล็งไว้ล่วงหน้าหลายวัน
เป้าหมายชูคอรออยู่ริมรั้ว
ไม่รั้วบ้านตัวเอง
ก็รั้วเพื่อนบ้าน

ดอกเข็มหลากหลายสีสัน
เหลือง ส้ม ชมพู แดง
ชูช่อรอเราอยู่
ละอองน้ำเล็กๆ ยังเกาะอยู่ตามกิ่ง ก้าน ใบ รวมถึงดอกด้วย
บ่อยครั้งที่เป้าหมายของเราเปลี่ยนจากริมรั้วมุ่งสู่ป่าละเมาะ
เป้าหมายพิเศษในป่าก็คือดอกเข็มป่าสีขาว
ซึ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
เป้าหมายแรกบรรลุแล้ว
เราจะนำดอกเข็มที่หาได้นี่ล่ะมาประดับพาน



ในป่าละเมาะนอกจากจะมีดอกเข็มป่าแล้ว
สายตาที่สอดส่ายเป็นเรดาร์ก็ยังแสกนไปทั่ว
นั่นไงเจอแล้ว
ต้นไม้ต้นเล็กๆ
ตามลำต้นและใบจะมีหนามแหลม
ผลกลมสีเขียว
ผิวเรียบมัน
ออกรวมกันเป็นพวง
เมื่อสุกผลจะมีสีแดงสุกปลั่ง
ผลดิบจะมีรสฝาด
ชาวบ้านมักจะนำผลดิบมาเป็นผักจิ้มกินกับน้ำพริก
ถ้าบอกชื่อออกไปหลายคนต้องร้องอ๋อ...
เจ้าต้นที่กำลังบรรยายอยู่นี้คือมะแว้ง
ซึ่งชาวบ้านจะเรียกกันว่ามะเขือแว้ง

มะเขือแว้งเป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน
สรรพคุณมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
ผลสดทำให้ชุ่มคอ
แก้ไอ
ขับเสมหะ
แก้เบาหวาน
บำรุงน้ำดี น้ำตับอ่อน
ลดความดันเลือด
ลดไข้
แก้ร้อนใน
ช่วยระบายท้อง
และยังช่วยให้เจริญอาหารได้ดีอีกด้วย
ส่วนรากและใบใช้ประกอบเป็นยาบำรุงธาตุ
และแก้วัณโรคต่างๆ ได้ด้วย




ที่บรรยายสรรพคุณมาทั้งหมด
คงสงสัยกันละสิว่าจะไปเกี่ยวกับการไหว้ครูที่ตรงไหน?
เกี่ยวมากเลยล่ะ
เกี่ยวตรงกลีบดอกสีม่วงแยกเป็นดาวห้าแฉก
มีเกสรสีเหลืองเป็นแท่งกลมประมาณ๔-๕แท่ง
อยู่ตรงกลางดาวห้าแฉก
และยังมีเกสรสีขาวอีก ๑ อัน
ที่ยื่นยาวออกมาจากกลุ่มเกสรสีเหลือง
แล้วม้วนปลายเป็นงวงนั่นแหละ
ดอกมะเขือแว้งจัดว่าเป็นดอกมะเขือที่สวยที่สุดก็ว่าได้
สวยกว่าดอกมะเขือทั่วๆไป
ไม่เช่นนั้นเราคงไม่เสาะแสวงหากันหรอก

การหาดอกมะเขือแว้งนี้ไม่ใช่จะหากันง่ายๆนะ
เพราะช่วงไหว้ครูทีไร
ดอกเขือมะแว้งหายากทุกที
ฉะนั้นต้องอาศัยความเร็วเป็นต่อ
และต้องวางแผนล่วงหน้า
ไปเสาะหาทำเลแหล่งที่มีต้นมะเขือแว้งไว้ล่วงหน้าด้วย
เนื่องจากมะเขือแว้งไม่ค่อยมีใครเอามาปลูกไว้ในบ้านกันสักเท่าไหร่
คงเพราะคิดกันว่าในป่าก็มีเยอะไป
ส่วนพวกความไวเป็นเต่า
ก็ต้องยอมเดินไปหลังบ้าน
ไปที่แปลงผักสวนครัว
เอาดอกมะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือพวง
หรือดอกมะเขืออะไรก็ได้ที่มีอยู่ เอามาแทนไปก่อน
ไม่ว่ากัน




เหลืออย่างสุดท้ายแล้ว
ที่ขาดไม่ได้คือหญ้าแพรก
แต่ไม่ใช่หากันง่ายๆนะ
สงสัยละสิ
แค่ต้นหญ้าทำไมหายากนัก
ก็หญ้าแพรกที่กำลังพูดถึงอยู่นี่ไม่ใช่หญ้าสีเขียว
เราจะใช้หญ้าแพรกสีขาว
แต่จะว่าไปการหาก็ไม่ยากเกินไปนัก
จริง ๆ แล้วมันมีขั้นตอน

ก่อนจะถึงวันไหว้ครู ประมาณ ๑-๒ อาทิตย์
เราจะใช้ก้อนหินขนาดใหญ่พอสมควร หรือแผ่นไม้
เอาไปวางทับต้นหญ้าเอาไว้
พอถึงวันไหว้ครูก็จะยกเอาก้อนหินหรือแผ่นไม้ออก
จะพบต้นหญ้าสีขาวที่เติบโตอยู่ใต้นั้น
นั่นแหละหญ้าแพรกที่พูดถึง
ขนาดโดนทับซะขนาดนั้น
ยังมีความอุตสาหพยายาม
ที่จะเติบโต ดิ้นรน ไขว่คว้า ค้นหา แสงสว่าง




แม้ว่าองค์ประกอบสำคัญๆ ครบแล้ว
เราก็ยังไม่จบแค่นั้น
ยังไปหาดอกไม้เสริมมาทำพวงมาลัย
เช่นดอกมะลิ ดอกรัก ดาวเรือง บานชื่น บานไม่รู้โรย
พืชผักต่างๆ
เพื่อนำมาทำพาน
แล้วแต่จะหาได้ในท้องถิ่น
ไม่ต้องซื้อหา
ไม่ต้องเสียเงิน

แต่ละคนจะทำกรวยใบตองใส่ดอกไม้ธูปเทียนส่วนตัว
ส่วนรวมจะเป็นพานดอกไม้ธูปเทียน
ซึ่งจะช่วยกันประดิษฐ์ประดา
กรองมาลัย ร้อยมาลา แกะสลัก
สร้างสรรค์กันสุดฤทธิ์
โชว์ความสามารถกันสุดฝีมือ
เพื่อให้เกิดพานดอกไม้ไหว้ครูที่งดงามวิจิตรบรรจง

สิ่งสำคัญที่เราเสาะแสวงหาได้มาก็ครบแล้ว
เรามาทบทวนความสำคัญ
ของวัสดุในการประกอบกรวยดอกไม้ และพานดอกไม้กันหน่อยดีกว่า
เริ่มกันที่ธูป ๓ ดอก
แทนสัญลักษณ์ของการเคารพบูชา
พระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์
เทียน
แทนแสงส่องสว่างที่คอยนำทางให้เราเดินไปตามทางที่ถูกที่ควร
ดอกเข็ม
แทนความเฉลียวฉลาดแหลมคมของสติปัญญา
ดอกมะเขือ
แทนความอ่อนน้อมถ่อมตน
เนื่องจากก่อนมะเขือจะออกผล
กิ่งที่มีดอกจะโน้มต่ำลง
เหมือนคนเราก็ต้องรู้จักมีสัมมาคาราวะ
จึงจะได้รับการอบรมสั่งสอน
ส่วนหญ้าแพรก
แทนความมานะ
อุตสาหะ
พยายาม
บากบั่น
ฟันฝ่า
อดทน
มุ่งมั่น
ที่จะมุ่งหน้าต่อไป
ไม่ยอมหยุดยั้ง




เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า
“ไหว้ครูกันทำไม?”
หลายคนตั้งคำถามแบบนี้
คนถามคำถามนี้อาจจะไม่ตั้งใจจะฟังคำตอบนัก
ก็ถามไปอย่างนั้นแหละแค่อยากถาม
หรือรู้สึกว่ามันไม่เข้ากับยุคสมัยไฮเทคโนโลยีเลยสักนิด
ทุกวันนี้โลกวิวัฒนาการไปไหนต่อไหนกันแล้ว
โลกาภิวัฒน์น่ะรู้จักกันมั๊ย
ยังจะมาไหว้ครูกันอยู่อีก
โบราณจัง คร่ำครึจริงๆ
มีแต่คนแก่คนโบราณเท่านั้นแหละที่ไหว้กันอยู่
ก็เคยไหว้ครูอยู่หรอก ตั้งแต่สมัยอยู่โรงเรียนประถมมัธยมโน้น
เดี๋ยวนี้ โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วยังต้องให้มาไหว้กันอีกเหรอ?
โตจนจะแก่ตายแล้วยังต้องไหว้ครูไปทำไม?
ไหว้ครูดียังไง?
ไปฟังคำตอบดีๆ ของ
อาจารย์คณานันท์กัน

“เหตุผลที่ให้มีการไหว้ครูเพราะ
๑.พระท่านสั่งลงมาให้ทำ
๒.เป็นเครื่องแสดงความยอมรับนับถือ
ให้แรงครูผู้ประสิทธิประสาทวิชาสืบต่อกันมา
ทั้งที่มีกายเนื้อ และไม่มีกายเนื้อส่งลงมาคุ้มครองศิษย์ได้
๓.เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในวิชาและชีวิตของศิษย์นั่นเอง
ถึงตัวผมเองก็ต้องทำเช่นกัน
พร้อมๆกันกับทุกท่าน
เพราะมีวิชาที่เบื้องบนประสิทธิประสาทมาให้พร้อมกันไปด้วยครับ”




การไหว้ครูมีหลายแบบ
เนื่องจากทุกศาสตร์ทุกศิลป์
เราถือว่ามีครูบาอาจารย์ด้วยกันทั้งนั้น เช่น
ไหว้ครูนาฏศิลป์
ไหว้ครูดนตรี
ไหว้ครูมวย
ไหว้พ่อแก่
ซึ่งพานดอกไม้อาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง
ตามแต่ครูบาอาจารย์ของแต่ละสาย
แต่ที่สำคัญนั่นคือ
ดอกไม้ ธูป เทียน
และส่วนที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
คือจิตใจ
ที่เปี่ยมด้วยความเคารพบูชาครูบาอาจารย์ของเรานี่เอง

เมื่อเราไหว้ครู
นั่นคือการแสดงการคาราวะ
และยังเป็นการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนของศิษย์
เป็นการลดทิฐิมานะของตน
เพื่อขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์
ให้ช่วยมาประสิทธิประสาทวิชาความรู้
ไม่ใช่ว่าอยากรู้แต่ไม่ยอมกราบไม่ยอมไหว้
ไม่ยอมแสดงถึงจิตที่ตั้งมั่นจริงใจ
แล้วครูบาอาจารย์ที่ไหนจะเห็นความตั้งใจจริงของเราล่ะจริงมั๊ย
เมื่อเรารู้จักเคารพนบนอบครูบาอาจารย์ด้วยจิตด้วยความจริงใจ
ครูบาอาจารย์ท่านย่อมเห็น
ย่อมรับรู้
และย่อมมีเมตตาสั่งสอน
ถ่ายทอดความรู้ให้เราอย่างแน่นอน
เมื่อรู้เหตุผลดีๆ กันแล้ว
เรามาเริ่มการไหว้ครูพระกรรมฐานตาม
อาจารย์คณานันท์กันเลย

“ไหว้ครูกันก่อนครับ
เตรียมอุปกรณ์ดังนี้
ดอกไม้ ๓ สี ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม เงิน ๙ บาท
ว่า นะโม ๓ จบครับ
วางอารมณ์ใจว่า
ขณะนี้ ข้าพเจ้า มีศีลบริสุทธ์
ไม่ได้ฆ่าสัตว์
ไม่ได้ลักทรัพย์
ไม่ได้ประพฤติผิดในกาม
ไม่ได้พูดปด
ไม่ได้ดื่มสุรา
ศีลห้าของข้าพเจ้าบริสุทธิ์
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตเรียนวิชานี้
ด้วยจิตเมตตาเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลก
ข้าพเจ้าทรงไว้ซึ่งเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
พรหมวิหารสี่ของข้าพเจ้าพร้อมบริบูรณ์
ข้าพเจ้าขอน้อมจิตยึดถือไตรสรณคมณ์
เป็นที่พึ่งที่อาศัยตลอดชีวิต
ตราบเท่าเข้าสู่นิพพาน
จากนั้น เปิดซีดีคำสมาทานพระกรรมฐานของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
วัดท่าซุง ซึ่งหาได้จากเว็บนี้ครับ”



คำสมาทานพระกรรมฐาน
มะโมตัสสะ ภะคะวะโต
อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง
ตุมหากัง ปะริจัจชามิ

“ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ
ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต
แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
พระธรรม
และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา
มีหลวงพ่อปานวัดบางนมโคเป็นที่สุด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่สภาวะพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ
พระปีติทั้ง ๕
และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙
ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ
พระปีติทั้ง ๕
และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙
จงมาบังเกิดในกายทวาร
ในวจีทวาร
ในมโนทวาร
ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต
สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่างๆ
ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน
ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้
เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้น
ได้ชัดเจน
แจ่มใส
และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ
เหตุใดที่พึงจะบังเกิดแก่ข้าพเจ้า
ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น
ได้โดยไม่ต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด



จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานต่อไปว่า
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตเรียนวิชานี้
เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์
และบำเพ็ญบารมีด้วยความจริงใจ
หากแม้นข้าพเจ้ามีจิตคิดร้ายนำวิชาไปใช้ในทางที่ผิดต่อ
ชาติ
ศาสนา
พ่อ แม่
ครูบาอาจารย์
ผู้ประสิทธิประสาทวิชาแล้ว
ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้เรียนวิชานี้สำเร็จ
ถึงสำเร็จก็ขอให้วิชาที่ได้มา
ถูกส่งกลับคืนไปจนหมดสิ้นเมื่อข้าพเจ้าผิดสัจจะ
แต่หากข้าพเจ้าใช้วิชาในทางที่ถูกที่ควร
ขอให้ข้าพเจ้าจงเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า
ทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ”

“ส่วนดอกไม้ ธูปเทียน ให้นำไปบูชาพระ
และนำเงินบูชาครูไปทำบุญใส่บาตร
หากไม่มีดอกไม้ธูปเทียน เงินบูชาครู
สำหรับการขึ้นครูตอนนี้ให้
รีบทำภายใน ๓ วัน
หากพ้นจาก ๓ วัน
ไม่บูชาครู
แล้วมีอาการเจ็บป่วย
ให้รีบขอขมาพระรัตนตรัย บูชาครู
และใส่บาตร แล้วจะหายจากอาการป่วย
ไหว้ครูเสร็จแล้วครับ
สำหรับคนที่ไม่มีพระให้ใส่บาตร
ก็เอาเงินหยอดกระปุกเก็บไว้ไปทำบุญที่วัดทีหลังได้ครับ”




เอาล่ะเมื่อทราบถึงความสำคัญของการไหว้ครูพระกรรมฐานกันแล้ว
เราก็ไปเตรียมดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้ครูกันเถอะ
ครูบาอาจารย์ท่านจะได้มีเมตตา
ประสิทธิประสาทวิชาความรู้
ถ่ายทอดคำสั่งสอน
คำแนะนำ
ชี้แนะแนวทางที่ถูกที่ควร
ให้พวกเราได้เจริญก้าวหน้าในทางธรรมยิ่งๆ ขึ้น




Create Date : 06 ธันวาคม 2551
Last Update : 31 มกราคม 2552 15:17:00 น. 1 comments
Counter : 9959 Pageviews.

 


โดย: ไชยเดช IP: 202.129.32.178 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:20:46:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไอฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ธรรมชาติคือความสวยงาม
ธรรมชาติคือความเรียบง่าย
ธรรมชาติคือความสุข
ธรรมชาติคือความรัก
...แค่เราเปิดใจให้ธรรมชาติ
เราก็จะรับรู้และซึมซับ
ความสวยงามที่เรียบง่าย
ที่ส่งมอบความรักให้เราตลอดไป
...ธรรมชาติ
Friends' blogs
[Add ไอฟ้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.