จินตภาพจากความมืด คอนเสิร์ตเพื่อคนตาบอด...
เย็นวันที่ 18 สิงหาคม ที่ ศูนย์วัฒนธรรมฯ ครับ...
มีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ต...
PMS Classical Concert Series 2005
Program I
Disclose the Invisible Beauty of Classical Music
จัดโดย พีรพงศ์ มิวสิคสตูดิโอ (PMS)
คอนเสิร์ตในครั้งนี้เป็นรายการพิเศษ ที่ใช้นักเปียโน เยาวชนไทย วงดุริยางค์สากลของไทย วาทยกรชาวไทย และผลงานการประพันธ์ดนตรีของคนไทย เพื่อบรรเลงให้คนไทยฟัง
ผีคิวฯ กับ ผี(คืนนี้ไม่ค่อยจะ)เหม่ง เลยถือโอกาสพาไปชมบรรยากาศในค่ำคืนนั้นกัน...
มาดูกันเลยดีกว่า ค่ะ/ครับ....
ก่อนเข้างาน เห็นน้องๆตาบอดเดินกันเป็นขบวนไปเข้าห้องน้ำ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสที่ได้มาร่วมงาน (หรือว่าทีได้ปลดปล่อยหว่า???)
อันนี้ ผีคิวฯ สีหน้ายิ้มแย้มเหมือนกันที่ได้โพสท่า... อิอิ... มีหักหลัง...
สองอาสาสมัคร(แกมโดนบังคับ)เข้าร่วมงานโครงการ เปิดหมวกครื้นเครง #3 ตรอกข้าวสาร พี่ทรายกะพี่เดี่ยว ครับ....
พี่ทราย เป็นนักร้องดีกรี ที่สอง เอ้ย ต้องพูดว่า รองชนะเลิศ ประกวดร้องเพลงรายการ... อิอิ... อุบไว้ดีกว่า...เด๋วรู้อายุพี่แกหมด... (ถ้าได้งานจาก Blog ผมก็แบ่งค่าสปอนเซอร์มาด้วยเด้อ)
ส่วน พี่เดี่ยว ก็เป็นมือเดี่ยว Harmonica ขึ้นไปเล่นคนเดียวกลางเวที ถนนดนตรีที่ปิดถนนสีลมเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองครับ... แต่ตอนนี้หันมาสนใจเปียโนซะยิ่งกว่าพี่ทรายอีก...
เข้าไปภายในตึกก่อนเข้าชมการแสดงก็มีการขายเสื้อ ความรักทำให้คนตาบอด....ดีขึ้น โดยบริษัท บ้านอุ้ม ครับ...
นอกจากนั้นยังจัด โครงการหางานให้คนตาบอด ด้วยนะครับ... บริษัทไหนต้องการช่วยเหลือสังคมของคนตาบอดให้ดีขึ้นโดยการให้โอกาสแก่พวกเขา... สนใจจะจัดจ้างคนตาบอดเข้าทำงาน...
สอบถามรายละเอียดได้ที่
บริษัท บ้านอุ้ม จำกัด 1201-133 ซ.ลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) วังทองหลาง กทม. 10310 โทร : 0-29347717-8
คนตาบอดก็มีศักยภาพเหมือนคนปกตินะครับ...
เข้ามาใน Concert Hall ก็แหม... รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปตอนที่ยังเป็น นักเรียนดุริยางค์ อีกครั้งหนึ่ง... มีคอนเสิร์ตที่ไหน ยกขโยงไปดูกัน.. เพื่อเพิ่มไฟในทรวง... เอ้ย เพิ่มไฟในการซ้อมครับ... เห็นพี่ๆเค้าเล่นกันได้ดีๆ ก็อยากเล่นได้อย่างเขามั่ง... ซ้อมๆๆ วิดพื้นๆๆ
งานนี้เริ่มจากผลงานการประพันธ์ดนตรีของนักประพันธ์ และวาทยกรชาวไทย วานิช โปตวานิช ในบทเพลง The Killing Fields (ทุ่งสังหาร)(ภาพยนตร์ที่ คุณลำพูฯ กำลังจะเขียนถึง แต่ไม่รู้เมื่อไหร่?? อิอิ)
เพลงบรรยายถึงการดำเนินชีวิตของชาวเขมรในกรุงพนมเปญ การบุกรุกและการทำลายล้างจากพวกเขมรแดง พี่โป ทำให้เราได้จินตนาการกันถึงบรรยากาศและเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของทุ่งสังหารได้อย่างดีเลยครับ...
และต่อกันด้วย Hightlight ของงานคืนนี้เลยก็ว่าได้...
คือการเดี่ยวเปียโนโดยนักเปียโนดาวรุ่งของไทย น้องภูมิ พรหมชาติ อายุ15 ปี ในผลงานชิ้นเอกของ Edward Grieg คีตกวีชาวนอร์เวย์ ในบทเพลง Piano Concerto ในบันไดเสียง A minor บรรเลงร่วมกับวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ภายใต้การอำนวยเพลงของ พี่โป
ไม่ใช่แค่เดี่ยวเปียโนนะครับ...
ยังมีการวาดภาพประกอบเสียงเพลงโดยเด็กนักเรียนตาบอดที่มีพรสวรรค์ น้องเสือ บัณฑิต และยังได้รับเกียรติจาก อาจารย์สุชาติ วงษ์ทอง ศิลปินเขียนภาพสีน้ำชื่อดังของเมืองไทย และ ดารารับเชิญอย่าง พี่ดุ้ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ, คุณอ้ม สิริยากร พุกกะเวส ด้วยครับ...
พอน้องภูมิเริ่มบรรเลงเพลง... เหล่าศิลปินก็เริ่มบรรจงจรดพู่กันวาดภาพสีน้ำมันตามไปด้วย...
หัวผมหันสะบัดตลอดเวลา 20 นาทีของเพลง Piano Concerto ครับ...
เหลียวซ้ายไปดูลีลาการวาดภาพของ อ.สุชาติ โอ้ว...มันมีพลัง... โอ้ไม่ใช่.. นั่น อ.เฉลิมชัย...
เหลียวมาทางขวาดู น้องเสือ ค่อยๆ รับฟองน้ำจุ่มสี ที่เตรียมโดยอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วค่อยๆเอานิ้วคลำนำและลากเป็นสีน้ำเงินเข้มด้านล่างของกรอบทับไปทับมาจนพอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นสีน้ำเงินแห่งท้องทะเล...
หันกลับมาตรงกลาง.. ดูลีลาการอำนวยเพลงของพี่โป... ช่างพริ้วสมกับตำแหน่งที่หนึ่งโลกจริงๆ...
หันไปดู พี่ดุ๊กกับคุณอุ้ม ก็กำลัง ลงสีพื้นกัน ต่างคนต่างมีลีลาของตนเอง...
กลับมาตรงกลางอีก... ก็ถึงตา น้องภูมิ Solo มั่ง... ไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กอายุ 15 ที่ไปแข่งได้แชมป์มาทั่วโลก...
หันไปทางซ้ายอีก... อ.สุชาติ ไล่สี ด้านบนของภาพเป็นสีขาว ฟ้า และ เขียว... กรอบของอาจารย์จะยาวกว่าของคนอื่นครับ...
หันไปทางขวาอีกรอบ... น้องภูมิ... ค่อยๆเอาฟองน้ำระบายสีฟ้าด้านบนของกรอบ... เฮ่ย! น้องภูมิมาวาดภาพตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? อ้อไม่ใช่ดูผิดครับ... น้องภูมิยังนั่งเดี่ยวอยู่ตรงกลางนู่น... น้องเสือยังคงค่อยๆลากฟองน้ำให้สีต่อไปเรื่อย...
ส่วนของคุณอุ้มกับพี่ดุ้กก็เริ่มมีสีมากขึ้น... แต่ไม่รู้ว่าเป้นรูปอะไร...
จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน....
หลายๆคนคงหันๆๆๆๆๆ เหมือนกับที่ผมทำ...
เราก็ได้ผลงานชิ้นเอกออกมาสู่สายตา พร้อมที่จะนำไปประมูลเพื่อการกุศลกันต่อ...
[รูปน้องเสือ : จินตภาพจากความมืด] ผมขึ้นไปถ่ายรูปแล้วคุยชื่นชมกับผลงานของน้องเค้าถามว่ารู้ได้ยังงัยว่าตรงไหนสีอะไร....
น้องเสือ บอกว่าต้องวาดทีละสี... แล้วเช็ดมือให้แห้ง... จากนั้นค่อยๆเอานิ้วคลำว่าตรงไหนเปียก แสดงว่าลงสีไปแล้วและจำเอาว่าลงสีอะไรไป ตรงไหนแห้งแสดงว่ายังไม่ได้ลงสี... ก็ค่อยๆวาดตรงที่แห้งต่อไป...
ทำได้งัยครับเนี่ย... นับถือจินตนาการของน้องเค้าจริงๆครับ...
[น้องเสือ เจ้าของผลงาน] ตอนถูกพิธีกรสัมภาษณ์ น้องเสือ ก็ตื่นเต้นมือสั่นขาสั่น พูดแค่ว่า... "รูปท้องฟ้า, คลื่นทะเลครับ... จินตนาการของผมครับ... จินตนาการของคนตาบอดครับ..."
[รูปคุณอุ้ม] คุณอุ้มบอกว่า เตรียมมาผิดเพลง กะจะวาดประกอบเพลง The Killing Fields เลยออกมาเป็นอะไรที่หม่นๆแบบนี้... แถมท้ายด้วยเสียงอ่อยๆว่า "ช่วยประมูลกันด้วยนะคะ"... สุดท้าย ขายออกไปด้วยราคา 35,000บาทครับ
[รูปพี่ดุ้ก] สื่อให้เห็นถึงจินตนาการของคนตาบอดว่าเค้าจะเห็นเหมือนในรูป เป็นอะไรที่ไม่ชัดเจน... เลือนลาง...
นอกจากนั้นยังมีผลงานการปั้นของน้องที่มีพรสวรรค์ด้วยนะครับ...ที่นั่งกันอยู่ด้านล่าง... นำมาให้ประมูลกัน...
นึกถึงเพลง ต้นชบากับคนตาบอด ของเฉลียงนะครับ...
เค้าไม่เคยเห็นสิ่งที่ตัวเองปั้น... แต่ใช้จินตนาการจากการบอกเล่าของคนข้างๆว่า ช้างมีหูกว้างๆ งวงยาวๆ... เป็นเราจะทำได้อย่างนี้รึเปล่านะครับ...
ช้างตัวนี้ประมูลไปด้วยราคา 20,000บาทครับ...
เต่ากับนก...
ปาก... กว้างขนาดนี้...สงสัยปากป้าด้วง...
อ.สุชาติ ยืนแนะนำอยู่หน้าผลงานตัวเองครับ...
อาจารย์บรรยายถึงเมืองอะไรใน Norway ที่เคยไปวาดรูป ตามเพลงที่ น้องภูมิ Solo Piano... เป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี... อะไรๆก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ... ภาพนี้อาจารย์ใช้นิ้วทั้งสิบ บรรเลงไปบนภาพเหมือนกับกำลังเล่นเปียโนไปด้วย...
และตอนจบงาน ผลงานชิ้นเอกนี้ก็ถูกประมูลไปด้วยราคา 150,000 บาทครับ...
ผมไม่ได้อยู่จนเค้าประมูลกันเสร็จ.. เลยไม่รู้ว่า ภาพของ น้องเสือและพี่ดุ้ก ถูกประมูลไปที่ราคาเท่าไหร่... ส่วนงานปั้นแต่ละชิ้นก็เหยียบหมื่นกันทั้งนั้น...
แต่ยังงัยงานนี้ทั้งคนที่ประมูล, คนไปดูคอนเสิร์ต, รวมถึงคนจัดก็ได้บุญอิ่มไปทั่วหน้ากันหละครับ...
โฆษณาให้ A-Class เค้าหน่อย เค้าก็ทำบุญเหมือนกันครับ... ให้บัตรเรามาดู... คันนี้แค่ 2.39M เองครับ...
สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ...
เด๋วไปปั่น ซ่อกแซ่ก Vol 3-4-5-6 ต่อก่อนละ... ดองมานาน... อิอิ....
อ้อขอบคุณ OST FULLHOUSE เพราะๆ จากน้อง Piggy ด้วยนะครับ... บรรยากาศเข้ากับเรื่องใน Blog ดีจัง...
Create Date : 21 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 21:03:50 น. |
|
28 comments
|
Counter : 1956 Pageviews. |
|
|
|
ดีจังค่ะ