Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
"วิชัย ทองแตง" ขาใหญ่ตลาดหุ้น แฉต่างชาติเขมือบหุ้นโรงพยาบาล

.



นายวิชัย ทองแตง รองประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจและต้องการลงทุนในหุ้นธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทยเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเข้ามาลงทุนมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลของไทยเป็นที่ยอมรับ มีผู้ป่วยในหลายประเทศสนใจเข้ามาใช้บริการรักษา ทั้งญี่ปุ่น สหรัฐ ตะวันออกกลาง ปัจจุบันในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา ก็เดินทางเข้ามารักษาพยาบาลที่เมืองไทยกันมาก โดยปีนี้ตัวเลขผู้รักษาพยาบาลต่างชาติสูงถึง 2.53 ล้านคน จากปีที่แล้ว 1.74 ล้านคน

"นักลงทุนและกองทุนต่างชาติสนใจหุ้นโรงพยาบาลเยอะ อย่างกรณี BGH ก็มีต่างชาติเข้ามาถือหุ้นจนเกือบเต็มโควตา 49% แล้ว และเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 จะเป็นช่องให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลของไทยได้เยอะขึ้นถึง 70% ซึ่งถึงตอนนั้นก็คงจะเห็นภาพชัดมากขึ้น" นายวิชัยกล่าว

โดยจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งประกาศรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 30 อันดับแรกของ BGH เมื่อ 29 มีนาคม 2555 พบว่า มีผู้ถือหุ้นต่างชาติดังนี้ CREDIT SUISSE, INGAPORE BRANCH 2.03% STATE STREET BANK EUROPE 1.67% HSBC (SINGAPORE) 1.06%, NORBAX 0.52%

และในจำนวนนี้มี DEUTSCHE BANK AG SINGAPORE (DCS) 2.89% ซึ่งเพิ่งขายหุ้นทั้งหมด นายวิชัยกล่าวว่า ในกรณีนี้ส่วนตัวประเมินว่าเป็นการขายเพื่อทำกำไร ซึ่งน่าจะได้อย่างน้อย 30-40% ประกอบกับปัญหาวิกฤตยุโรปอาจทำให้ผู้ถือหุ้นของดอยช์แบงก์ ได้รับผลกระทบต้องการดึงเงินกลับก็เป็นไปได้ ซึ่งในส่วนนี้ตนจึงได้เข้าไปรับซื้อไว้บางส่วน

นายวิชัยกล่าวว่า ปัจจัยบวกที่ดึงดูดให้ผู้ป่วยในต่างประเทศนิยมเข้ามารักษาในไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากความโดดเด่นใน 3 ด้านได้แก่ คุณภาพ ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลในประเทศไทยถึง 24 แห่ง ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน JCIA (Joint Commission International Accreditation USA) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับของทั่วโลก

รวมทั้งราคาค่ารักษาของไทย ยังค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับต่างประเทศอย่างสหรัฐอาจถูกกว่าถึง 5 เท่า และต่ำกว่าสิงคโปร์อย่างน้อย 30-40% และสุดท้ายคือ บริการ ซึ่งคนไทยได้การยอมรับจากผู้ป่วยทั่วโลกถึงความเป็นมิตร ถือเป็น 1 ในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นผู้ป่วยทั่วโลกจึงหันเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว จนเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในสายตานักลงทุนและกองทุนต่างชาติ

IHH เคลื่อน เฮลท์แคร์ เอเชีย

นายวิชัยอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจเฮลท์แคร์ในประเทศไทยเป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเพราะล่าสุดเมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทไอเอชเอช เฮลท์แคร์ (IHH Healthcare) ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลมาเลเซียที่มุ่งลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ได้เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบสองตลาด ทั้งในตลาดหลักทรัพย์กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่มีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในปีนี้ด้วยมูลค่าประมาณ 2.7 แสนล้านบาท ถือเป็นกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เวลานี้มีเครือข่ายโรงพยาบาลในสิงคโปร์ มาเลเซีย ตุรกี อินเดีย รวมทั้งจีน และมีผลให้กลุ่มของ BGH กลายเป็นอันดับ 2 ไปทันที ซึ่งปัจจุบันมาร์เก็ตแคปของ BGH อยู่ที่ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท

"การที่เราหล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ของเอเชียไม่ได้หมายความว่าเราจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เพราะคุณสมบัติของโรงพยาบาลไทยยังดึงดูด ดังนั้นถึงไม่ชิงที่ 1 กลับมา เราก็อยู่ได้สบาย แต่ถ้าเราจะทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 เราต้องวางแนวทางขยับตัวมากกว่านี้" นายวิชัยกล่าวและว่า

สิ่งสำคัญคือการรุกคืบของกลุ่ม IHH ซึ่งทำให้ขณะนี้ธุรกิจเฮลท์แคร์ในไทยและในเอเชียเป็นที่จับจ้องของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ก็เชื่อว่าหลังจากนี้ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนสำคัญของกลุ่ม IHH

นายวิชัยกล่าวว่า หากประเทศไทยต้องการรักษาธุรกิจโรงพยาบาลไว้ นักธุรกิจไทยก็ต้องมีการร่วมมือสร้างเครือข่ายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งเช่นที่กลุ่ม BGH ดำเนินอยู่ เพื่อไม่ให้ถูกกลุ่มกองทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อกิจการได้ง่ายนัก เพราะการที่จะอยู่แบบเดี่ยว ๆ นั้นลำบาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาร่วมมือกับ BGH ร.พ.มูลค่า 1 ใน 4 ของเฮลท์แคร์

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงพยาบาลมีมูลค่าเพียง 1 ใน 4 ของธุรกิจเฮลท์แคร์เท่านั้น ดังนั้นนอกจากการขยายเครือข่ายโรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันในกลุ่ม BGH นั้นมีอยู่ 30 แห่งแล้ว และยังคงมีนโยบายขยายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดหัวเมือง นอกจากนี้ก็กำลังมองหาโอกาสการลงทุน 3 ใน 4 ของธุรกิจเฮลท์แคร์

ดังนั้นที่ผ่านมา BGH จึงได้ขยายตัวเข้าไปในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ซื้อบริษัทผู้ผลิตยา เป็นต้น และหลังจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านอื่นเพิ่ม ซึ่งส่วนตัวมีความสนใจการทำรีสอร์ตเพื่อการพักฟื้นสำหรับต่างชาติ เพราะต่อไปหลายประเทศทั่วโลกจะกลายเป็นสังคมคนชรา จึงมองว่าธุรกิจนี้ยังมีโอกาสอีกมาก

โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไอเอชเอชตั้งเป้าที่จะเติบโตเป็นสองหลักภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนและในตลาดยุโรปตะวันออกซึ่งมีความเป็นไปได้ และจากราคาหุ้นที่แข็งแกร่งของ IHH สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการบริการด้านสุขภาพและอนามัยในชนชั้นกลางของภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวขึ้น

ขณะที่นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทัล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้ความสนใจและเข้ามาลงทุนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในไทยมาก เนื่องจากมองว่าโรงพยาบาลนั้นเป็นธุรกิจที่มักจะไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าเศรษฐกิจเป็นอย่างไร เฮลท์แคร์หรือสถานพยาบาลก็ยังมีการเติบโตที่ดี และเติบโตต่อเนื่อง เป็นธุรกิจที่มีรีเทิร์นดี มีการจ่ายเงินปันผลทุกปี

"ช่วงที่ไอเอชเอช เฮลท์แคร์ของมาเลเซีย ที่จะเข้าตลาดหุ้นที่สิงคโปร์ เมื่อสัก 1 เดือนที่ผ่านมา สังเกตเห็นว่ามีนักลงทุนต่างประเทศจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถจองซื้อหุ้นได้ ก็เลยเทการลงทุนส่วนหนึ่งมาที่หุ้นโรงพยาบาลบ้านเรา และทำให้หุ้นโรงพยาบาล 2-3 แห่งมีความเคลื่อนไหวมาก"

ผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลางรายหนึ่ง กล่าวว่า การที่โรงพยาบาลหลายแห่งมีเครือข่ายหรือจำนวนสาขาที่มาก เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศให้ความสนใจ หากสังเกตจะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาจะมีนักลงทุนต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลเป็นระยะ ๆ และขนาดตลาดที่ใหญ่ก็จะทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน

นอกจากนี้ โรงพยาบาลในไทยยังมีความได้เปรียบหลาย ๆ อย่าง ทั้งบุคลากร แพทย์ พยาบาล อุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย บริการที่ได้รับการยอมรับ ที่สำคัญราคาไม่แพง เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวมาก ฯลฯ เรียกว่าทุกอย่างเอื้ออำนวย นักลงทุนต่างประเทศจึงสนใจ

"การเปิดเออีซีในปี 2558 ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น โรงพยาบาลจะต้องเร่งปรับตัวโดยเฉพาะ และโรงพยาบาลขนาดเล็กจำเป็นต้อง

เตรียมความพร้อม เพราะวันนี้มีต่างประเทศสนใจจะเข้ามาร่วมธุรกิจด้วย"


มติชนออนไลน์


Create Date : 29 กรกฎาคม 2555
Last Update : 29 กรกฎาคม 2555 16:13:44 น. 1 comments
Counter : 3386 Pageviews.

 
bgh เห็นต่างชาติขายกันนี่ครับ


โดย: เชน IP: 171.98.1.155 วันที่: 30 กรกฎาคม 2555 เวลา:6:33:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.