|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทำบุญวันสารทเดือนสิบ
วันนี้เราไปทำบุญวันสารทเดือนสิบที่วัดใกล้ๆ บ้านมาค่ะ ไปกับแม่และน้องสาว (พ่อไม่ค่อยเข้าวัดเท่าไหร่) แล้วญาติๆ ก็มาเหมือนทุกๆ ปี แต่ปีนี้มาไม่ครบ ด้วยเหตุผลบางประการ...ที่ไม่รู้ว่าทำเวรทำกรรมอะไรไว้ จึงได้เจอ"อะไร" ที่มัน "ทุเรศ" แบบนั้น ก็ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้"อะไร"นั่น ไปผุดไปเกิดด้วยเถิด 
การทำบุญวันสารทเดือนสิบเป็นการทำบุญให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว อันที่จริง พิธีกรรมของตระกูลเรา(ฝั่งพ่อ)มันเริ่มตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อาที่อยู่กรุงเทพฯ ก็ลงมาถึงตั้งแต่วันอังคารตอนเย็น (แถมเพิ่งไปถอยป้ายแดงมาเมื่อวันจันทร์ก็ขับลงมาเลยอ่ะ เพิ่งรู้นะ คนที่ป่วยเค้าต้องรักษาด้วยการถอยป้ายแดงมาเชยชม ++นรกกินกบาลข้าน้อยแล้ว แง่มๆ เรารักและเคารพอาคนนี้มากกว่าใครๆ เลยล่ะ เพราะอาใจดี ฮี่ๆ ) พอเช้าวันพุธก็นัดกันมาบังสุกุลโกฐิกระดูกของปู่ย่าเรา และของปู่ย่าน้อยซึ่งเป็นน้องชายของปู่เราและเป็นพ่อของอานั่นเอง คนที่เคยมาก็ยังคงมาเหมือนเดิม คนที่ไม่เคยมาก็ยังไม่มาเหมือนเดิม (เอาน่า ช่างเขาเหอะ) ทำกันที่วัดตอนเก้าโมง เสร็จตอนเที่ยงก็มานั่งทานข้าวกันที่บ้านเรา เอาล่ะสิ ไฮโซมาบ้านโลโซ ข้าน้อยก็ต้องวิ่งบริการให้วุ่นไปทั้งกระท่อมโทรมๆ หลังน้อยนั้นด้วยความเต็มใจ(และเคยชิน เพราะกระท่อมหลังน้อยนี้มักถูกเลือกใช้บริการเป็นประจำ สงสัยจะติดใจเรา กร้ากกก)
พอตอนเย็นเราก็มาช่วยแม่เตรียมของที่จะไปทำบุญใหญ่ในวันพฤหัสฯ ซื้อของสด ของแห้งที่ใช้ทำกับข้าว ผลไม้ ดอกไม้ธูปเทียน ขนมประจำพิธี เช่น ขนมเทียน ขนมต้ม ขนมห่อ ขนมลา และขนมกระยาสารททั้งหลาย อาหารบางอย่างที่ทำยากๆ และไม่เสียง่าย เช่น แกงส้ม หมูฮ่อง พะโล้ ก็ทำไว้ก่อนตั้งแต่ดึกๆ พอตอนเช้าก็จะได้เอามาตั้งไฟอุ่นให้ร้อนอีกครั้งหนึ่ง
เช้าวันนี้แม่ตื่นตั้งแต่ตีสี่มาทำกับข้าว ส่วนเราเป็นลูกที่ดี ตื่นเกือบหกโมงแล้ว แหะๆ ก็มาจัดเตรียมกับข้าวไปวัดสำหรับพระฉันเช้าก่อน เสร็จแล้วก็มาจัดสำรับสำหรับฉันเพลชุดใหญ่อีกรอบ เตรียม"กระทงเปรต" (บ้านเราเรียกงี้อ่ะ) เป็นกระจาดเล็กๆ บรรจุอาหารคาวหวานนานาชนิดลงไป (บางบ้านใช้ใบตองห่อกับข้าว แต่ปัจจุบันใช้ถุงพลาสติกกันเกือบหมดแล้ว) ไม่ได้ใส่มาก แค่อย่างละนิดอย่างละหน่อย ใส่น้ำ ใส่ขนมทั้งหลาย ใส่ผลไม้ เช่น กล้วยไข่ลูกนึง ส้มกลีบนึง แอปเปิ้ลชิ้นนึง เงินเหรียญ หมากพลูเป็นคำ ยาเส้น ยานัตถ์ มวนยาสูบ ดอกไม้ ธูปเทียน แล้วก็จะมีการเขียนชื่อบรรพบุรุษใส่กระดาษเพื่อไปใส่ในเมรุจำลองอันเล็กๆ ที่ทางวัดจัดไว้ให้ แล้วเค้าก็จะเอากระดาษรายชื่อนั้นไปเผา
พอเตรียมเสร็จก็มาอาบน้ำแต่งตัวไปวัด พอไปถึง โอ๊ะ! คนเยอะมากๆ ก็ต้องเอาสำรับไปจัด ตักบาตรด้วยข้าวสวยก่อน แล้วก็ไปตักบาตรข้าวสารอีกที ตอนตักบาตรข้าวสารเนี่ยแหละที่รันทดจริงๆ คนเบียดเสียดกันอย่างแรง ไม่เข้าใจ ทำไมไม่เข้าแถวกันนะ คนไทยแท้กันเลยล่ะ 555+
เสร็จจากตักบาตรข้าวสารก็มาบังสุกุลกันอีกในศาลา พระฉันเพลเสร็จชาวบ้านก็ฉันตาม อาหารของชาวบ้านที่เหลือไม่ว่าจะเป็นกับข้าว ขนมนมเนยก็จะเอาไปให้ "ชาวน้ำ" หรือ "พี่น้อง" หรือที่หลายๆ คนรู้จักคือ "ชาวมอร์แกน" นั่นแหละ ให้พร้อมกับเงินคนละสี่ซ้าห้าบาท (ให้เยอะมีหมดตัวนะจ๊ะ มอร์แกนเกือบร้อยแน่ะ เราเองก็หลงใจอ่อนกับเด็กเล็กๆ หมดไปโขอยู่) เสร็จก็ไปกันอีกศาลานึง เอา"กระทงเปรต" ไปตั้งที่ร้านเปรต เป็นร้านไม้เตี้ยๆ น่ะ (รู้จักร้านไหม? คล้ายเตียงใหญ่ๆ ที่ไม่มีพนักพิง ที่เค้าเอาไว้ตั้งของหรือนั่งเล่นนอนเล่นน่ะ) แล้วก็เข้าไปฟังเทศน์ ทอดผ้าป่า กันในศาลา เสร็จจากทอดผ้าป่าก็ไปจุดธูปเทียนที่"กระทงเปรต" แล้วกลับเข้าด้านในเพื่อหลีกทางให้ชาวน้ำแย่งชิงของในกระทงเปรตกันเมื่อพระเริ่มสวดมนตร์ พิธีนี้เราเรียกว่า "ชิงเปรต" เป็นการอุทิศส่วนบุญให้กับสัมพเวสี ผู้ล่วงลับที่ไร้ญาติ หรือไม่มีญาติมาร่วมทำบุญให้ ก็เป็นอันเสร็จพิธีทำบุญวันสารทเดือนสิบ

ขออุทิศผลบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำในวันนี้ไม่ว่ามากหรือน้อย ให้กับบรรดาญาติทั้งหลาย สัตว์เลี้ยงบริวาร เจ้ากรรมนายเวร และสัตว์โลกทั้งหลาย ขอให้ข้าพเจ้าและทุกคน ทุกตัวที่ข้าพเจ้ารัก ได้ไปเกิดในยุคพระศรีอารย์ ดินแดนที่สงบสุขด้วยร่มธรรมด้วยเทอญ
ป.ล. 1ปีนี้รู้สึกว่าตัวเองมืออ่อนลงเยอะเลยแฮะ ถามว่า เราเลือกไหว้คนใช่ไหม? คำตอบคือ ใช่! ทุกครั้งน่ะ เราจะไหว้เมื่อพ่อแม่แนะนำให้ไหว้ ไหว้คนที่เข้ามาทักเราก่อน คนที่ทำอะไรให้เรา คนที่เราเคารพด้วยใจ หรือไม่ก็เป็นญาติที่เรารู้จักและเคารพจริงๆ เราถึงเข้าไปไหว้ทักก่อน (ยัยนี่มารยาทดีโคตร) ก็รู้ตัวอยู่แหละว่ามารยาทการไหว้แย่สุดๆ โดนแม่ด่าประจำว่ามือแข็ง เวลามีคนที่เราไม่รู้จักมาบ้านถ้าพ่อแม่ไม่แนะนำให้ไหว้ก็ไม่ไหว้ แต่ก็นะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันแหละ แต่ปีนี้อาจเป็นเพราะเราโตขึ้น แล้ววันนี้ก็เดินเยอะด้วย เลยเจอคนมาก พอป้าคนนี้ทักก็ไหว้ ลุงคนนั้นทักก็ไหว้ เลยมึน ไหว้คนที่แค่มองดูเราไปด้วย แล้วก็ไหว้คนที่พอเลาๆ ว่าเป็นญาติด้วยหมดเลย
ก็ดี อย่างน้อยก็เป็นหนึ่งวันที่เรามืออ่อนกับคนอื่นเค้าเป็น
ป.ล. 2 อย่าได้เอาตะกร้าคล้องแขนอีกเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากให้แขนช้ำเป็นริ้วๆ
Create Date : 11 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2550 12:39:12 น. |
|
10 comments
|
Counter : 929 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: รวิษฎา วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:15:00:17 น. |
|
|
|
โดย: Ninniko วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:1:24:50 น. |
|
|
|
โดย: บ้านเดียวกัน มาเชียร์กัน (Kang Dong Ye ) วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:21:29:16 น. |
|
|
|
โดย: อาดส้อส IP: 124.157.181.175 วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:9:20:55 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:20:24:38 น. |
|
|
|
โดย: ตี๋ IP: 203.113.71.71 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:10:15:22 น. |
|
|
|
โดย: แมงหวี่@93 (แมงหวี่@93 ) วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:10:31:01 น. |
|
|
|
|
|
|
Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
|
|
|
|
|
|
|
อิอิ ชอบอ่านนิยายเหมือนกันเลย ชอบนักเขียนท่านไหนมากที่สุดค่ะ