Journey without destination is a successful journey.
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
ความสุขจากการอ่าน

ตอนนี้เราปิดเทอมแล้วค่ะ อยู่บ้าน อ่านแต่หนังสือ(นิยาย 555+) จนตาลาย เลยมานั่งรำลึกถึงความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับหนังสือสักหน่อย

เราเริ่มต้นการอ่านจากหนังสือเรียนของพี่ล่ะ คือจะมีพี่ชายพี่สาวซึ่งถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือลูกพี่ลูกน้องเพราะว่าเราน่ะเป็นลูกคนโตของพ่อแม่ค่ะ พี่ชายห่างจากเรา 8 ปี ส่วนพี่สาวก็ 6 ปี พอพวกพี่ๆ ทำการบ้านก็จะไปนั่งมอง นั่งเล่นด้วย พี่ๆ ก็เลยให้อ่าน พอพี่ๆ ขึ้นภูเก็ตไปหามะ ก็จะซื้อนิทานปกแข็งสวยๆ เล่มโตๆ มาให้ (ส่วนเงินที่ซื้อน่ะหรอ หึหึ ของมะทั้งน้านแหละ *มะคือแม่ของพี่ๆ ค่ะ แต่เราก็เนียน เรียกมะด้วยเลย ฮี่ๆ) และที่บ้านเราก็ชอบอ่านการ์ตูนเล่มละห้าบาท พวกขายหัวเราะอะไรด้วย เราอ่านดะหมดเลย

พอพวกพี่ๆ ขึ้นมัธยม พี่ชายก็ไปเรียนภูเก็ต พี่สาวก็ระเห็จไปไกลถึงนครปฐม แล้วก็ไปต่อที่กรุงเทพฯทั้งสองคน เราเลยกลายเป็นหมาหัวเน่า โดนทิ้งอยู่คนเดียว เพื่อนเล่นก็ไม่มี ต้องฟัดกับหมาไปวันๆ (เพราะน้องสาวยังเล็ก จับแรงๆ ไม่ได้) ฟัดไปฟัดมา ชักเบื่อ เลยเริ่มหันมาอ่านหนังสืออีกแล้ว คราวนี้โดดไปอ่านแบบเล่มโตๆ เลยคือ "แฮร์รี่ พอตเตอร์" อ่านตอนอยู่ป.5 ค่ะ สนุกมากๆ เลย ก็เลยอ่านมาเรื่อยๆ นับแต่บัดนั้นมา

แรกๆ เราก็อ่านพวกวรรณกรรมเยาวชนทั้งของไทยของต่างชาติ พอขึ้นมัธยมต้นสนิทกับอาจารย์หมวดสังคม เลยเริ่มอ่านพวกประวัติศาสตร์ด้วย จำพวกพงศาวดารที่เป็นหนังสือเก่ามากๆ นิทานโบราณคดี ๕เรื่องเอก ไล่เรื่อยไปถึงพวกมหากาพย์อีเลียดเลย(แต่อย่าถามว่าเป็นไงนะเรื่องนี้ อ่านนานแล้ว ลืมๆ บ้างแล้วน่ะ) อ่านไปอ่านมาเริ่มจับนิยายมาอ่านบ้าง จับอะไรมาอ่านรู้ไหม? ร้อยกรองขุนช้างขุนแผนกับเรื่องสังข์ทอง แล้วถึงอ่านร้อยแก้วเรื่องสี่แผ่นดิน รากนครา บ่วงบรรจถรณ์ ทับตะวัน แล้วก็มาเล่นของสูง อ่านหนังสือรางวัลซีไรท์ (ที่ห้องสมุดรร.จะมีชื่อหนังสือรางวัลซีไรท์แปะไว้น่ะค่ะ เลยลองหามาอ่านบ้างก็เท่านั้น) อ้อ...อ่านพวกธรรมะด้วยล่ะ เลยเถิดไปถึงของศาสนาคริสต์ด้วยแหละ

พอขึ้นม.ปลาย ก็มาเรียนที่ภูเก็ต รร.ที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็เรียนหนักนะ เพราะเราดันสะเหร่อมาอยู่สายวิทย์ แถมได้อยู่ห้องรองจากกลุ่มโครงการพัฒนาศักยภาพวิทย์-คณิต (พูดไปพูดมาก็รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่เลือกไม่ไปอยู่ห้องโครงการฯ ตอนเค้าคัดเด็กไป ไม่งั้นมีหวังเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เรียนหนักจริงๆ อ่ะ เด็กพวกนั้นน่ะ แต่ตอนที่ทางบ้านรู้ว่าเรามีสิทธิ์ได้เรียนกลุ่มนั้นแล้วดันสละสิทธิ์น่ะ ข้าพเจ้าหูชาไปหลายวันเลยง่ะ) เพราะว่าเรียนหนัก เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้าห้องสมุดรร.เท่าไหร่ หนังสือประวัติศาสตร์เลยหาอ่านยาก เราก็หันมาอ่านนิยายแทนซะเลย ฮี่ๆ อ่านไปอ่านมา ดันติดนิยายซะแล้วอ่ะ แง่มๆๆๆ

นักเขียนที่เราชื่นชอบมีอยู่หลายท่านมาก เป็นนิยายก็ยกให้ "ปิยะพร ศักดิ์เกษม" เลยค่ะ ชื่นชอบผลงานของคุณอาเอียดมาก ติดใจที่สุดคือเรื่อง "รากนครา" ล่ะ เคยทำใจกล้าส่งอีเมลไปหาท่านด้วย ถามเรื่อง "ชมพูพนพญา" เนื้อความแค่สองสามบรรทัดเอง แต่เราเขียนตั้ง 3 วัน แล้วอาเอียดก็ตอบกลับมา ตื่นเต้นมากเลย เชื่อไหมล่ะ ปลื้มมากค่ะ

ส่วนนักเขียนรุ่นรองๆ ลงมาจากอาเอียดก็มีหลายท่านค่ะ เยอะแยะไปหมด ส่วนใหญ่เป็นสาวๆ สวยๆ ทั้งน้าน 555+

มีเรื่องเปิ่นๆ ของเราอยู่เรื่องนึงแหละ ตอนนั้นเรากำลังมันกับการเล่น msn มากๆ หาเมลตามเว็บแอดเขาไปทั่ว แล้วก็ได้คุยกับคนๆ หนึ่งค่ะ เราก็ถามชื่อไปตามปรกติ แต่เค้ากลับถามกลับมาว่า "นี่ไม่รู้จริงๆ หรอว่าใคร" เราก็งงสิ ใครหว่า พี่เค้าเลยบอกว่าเป็นนักเขียน มีผลงานเรื่อง... พอเรารู้เข้าแทบตกเก้าอี้แน่ะ อึ้งค่ะอึ้ง ขำตัวเองชะมัดเลย งานเขียนของพี่คนนั้นน่ะตอนนี้เป็นละครที่กำลังออนแอร์อยู่ซึ่งเราติดงอมแงมเลย พอรู้อย่างนั้นข้าพเจ้าสั่นเลยค่ะ ไปไม่ถูกเลย เขินก็เขินอ่ะ คิดดูสิ จู่ๆ ก็ได้คุยกับคนที่เราปลื้มผลงานแบบไม่ทันได้ตั้งตัวอ่ะ เป็นคุณ คุณจะเป็นยังไง?

พอตอนหลังพี่นักเขียนคนนั้นเค้าแนะนำงานบนเน็ตให้อ่าน เราก็เข้ามาอ่าน ติดหนึบเลยเจ้าค่ะ แล้วก็ลามไปยังนักเขียนท่านอื่นๆ ที่เราชื่นชอบผลงานแต่ไม่เคยรู้จักชื่อเจ้าของผลงานซะงั้น เราก็แอบย่องๆ ไปดูตามเว็บบอร์ด(แต่ไม่เคยเผยตัว ฮา) แล้วก็แอด msn ของบางท่านไว้ พอเห็นพี่ๆ เค้าออนไลน์ เราก็นั่งเขินซะงั้น บางท่านเราสวัสดีไปคำเดียวแล้วไม่คุยอะไรต่อก็มี แต่บางท่านก็นะไม่รู้ดวงซวยหรือไง มาป๊ะกันตอนที่เรากำลังแฮงค์ ก็เลยได้เรื่องปวดหัวไปซะงั้น(ตรงนี้เคสพี่สาวสุดสวยสุดใจดีค่ะ ฮา หนูขอโทษนะค้า) กับบางท่านพอตอนหลังๆ ความเขินชักลดลง(ด้านขึ้นนั่นเอง กร้ากกก) ก็คุยจ้อกแจ้กไปเรื่อยเปื่อย แต่บางครั้งก็มีที่เราเงียบหายจากจอสนทนาไปนานๆ ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะว่าเราหายไปทำไม นั่งหาความกล้าคุยต่อนั่นเอง กร้ากกกกก

ตอนนี้เราก็กำลังเริ่มอ่านนวนิยายแปล หลายนามปากกาที่เขียนสนุก และเขียนในมุมมองแปลกใหม่สำหรับเรา แต่เราเองก็ยังไม่มีความสามารถอ่านฉบับจริงๆ แบบภาษาอังกฤษได้เสียที เฮ้อ... ก็หวังว่าสมองอันน้อยนิดของข้าพเจ้าจะอัพเกรดได้ในเร็ววัน (ไม่วันใดก็วันหนึ่งล่ะว้า )

ขอบคุณกระดาษทุกใบ น้ำหมึกทุกหยด นักเขียนทุกท่าน ที่ทำให้ฉันมีหนังสือดีๆ อ่านอยู่ในทุกวันนี้

*****และเราก็ยังคงมีความสุขกับการอ่านต่อไป*****






ป.ล. อยากอ่านนวนิยายย้อนยุคแฮะ แต่หาไม่ค่อยเจอเลยอ่ะ


Create Date : 09 ตุลาคม 2550
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 13:12:37 น. 7 comments
Counter : 636 Pageviews.

 
ขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิดนะคะ


โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:16:19:18 น.  

 
การอ่านพาเราไปไหน ต่อไหน ได้ไกลไม่รู้จบเลย
ถ้าชีวิตนี้ขาดการอ่านไปจะเป็นยังไงก็ไม่รู้

นิยายย้อนยุคที่เคยอ่าน ก็
สะใภ้จ้าว
คำมั่นสัญญา



โดย: กระปุกกลิ้ง IP: 203.150.232.78 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:17:27:52 น.  

 
รักการอ่านเหมือนกันเลย..


โดย: BLACK BERRIES วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:03:27 น.  

 
ตอนนี้กำลังติดเพชรพระอุมาอยู่ค่ะ แต่สงสัยจะอ่านไม่ทันจบก็เปิดเทอมซะก่อนแล้ว


โดย: กระจิบหญ้าสีเรียบ วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:23:46:41 น.  

 
...

เมี๊ยว ๆ ...

แวะมาทักทายจ้า... อิอิอ...

...


โดย: loykratong วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:3:16:27 น.  

 
สมัยเรียนมหาลัยจะติดอ่านนิยายมากๆ พอถึงวันศุกร์ จะเช่ามาอ่านเยอะมากไม่หลับไม่นอน นักเขียนที่ชอบ โสภาค สุวรรณ

ปล.ตามมาขอบคุณถึงบ้านที่แวะไปเยี่ยมกัน ^^


โดย: saralove&Dan (saralove&Dan ) วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:9:32:30 น.  

 
ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะค่า
บล๊อค น่ารักมากคะ


โดย: ^_^ (ดอกฝิ่นสีชมพู ) วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:21:15:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ศศิกัณห์
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




may ค่ะ


===HOME SWEET HOME===


I don't have a wall but I've just be a wall.




Artemis หรือ Diana...เทพีแห่งจันทรา
Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
X
X
X
Friends' blogs
[Add ศศิกัณห์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.