|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
https://www.facebook.com/themomentumco/photos/a.1636533129971718/3115883022036714/
17 พฤศจิกายน 2514 จอมพลถนอมทำรัฐประหารตัวเอง
ภายหลังการเสียชีวิตของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี 2506 จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้เป็นผู้สืบทอดอำนาจเผด็จการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยยังคงอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไว้ใช้เป็นเกราะกำบัง และสามารถชี้เป็นชี้ตายประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ถึงกระนั้น ในแง่ของบารมีและประสบการณ์ทางการเมืองที่เจนจัดน้อยกว่าจอมพลสฤษดิ์ ผนวกกับประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้ระยะเวลาร่างยาวนานเกือบครบ 10 ปี หรือนับตั้งแต่ปลายปี 2500 ที่จอมพลสฤษดิ์ รัฐประหารรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำให้เก้าอี้ผู้นำของ ‘นายกฯ คนซื่อ’ อย่างจอมพลถนอมสั่นคลอนเรื่อยมา จนในที่สุด จอมพลถนอมก็เปิดทางให้มีการเลือกตั้ง และจอมพลถนอมเองได้ตั้งพรรค ‘สหประชาไทย’ เป็นพรรคของตัวเอง เพื่อลงสนาม สวมเสื้อคลุมประชาธิปไตย
ผลการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2512 ปรากฏว่าจอมพลถนอมได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีท่ามกลางข่าวลือที่ว่า สหรัฐอเมริกายังหวังให้คณะจอมพลถนอมเป็นรัฐบาลต่อไป เพื่อง่ายต่อการแทรกแซงในการปราบปรามอิทธิพลคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อให้เอื้อต่อกองทัพสหรัฐฯ ที่ขนพลทหารมาเป็นจำนวนมากเพื่อร่วมรบในสงครามเวียดนามในเวลาเดียวกัน
ทว่าอำนาจการบริหารของจอมพลถนอมนั้นกลับไม่ราบรื่นเสียทีเดียว ไม่ว่าจะด้วยการ ‘ต่อรอง’ อำนาจของ ส.ส. ไม่ว่าจะด้วยการถูก ส.ส.ฝ่ายค้านรุกตรวจสอบ ซึ่งเป็นไปตามระบบกลไกการถ่วงดุลแห่งรัฐสภา ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
ในที่สุด อำนาจรัฐบาลจอมพลถนอมยังถูกท้าทายอย่างหนัก จากบรรยากาศสังคมที่มีความเสรีมากขึ้น ประชาชนเริ่มกล้าวิพากวิจารณ์เรื่องการเมือง แนวคิดการบริหารประเทศ ขณะเดียวกันพรรคสังคมนิยมเริ่มกลับมามีพื้นที่ ทั้งท่าทีความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่หวนสู่มิตรภาพ จากการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ได้กลายมาเป็นระเบิดลูกโตโจมตีรัฐบาล ฝ่ายค้านและผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายต่างเรียกร้องให้จอมพลถนอม เปลี่ยนท่าทีที่มองจีนเป็นชาติคอมมิวนิสต์ตัวร้าย มาเป็นมิตรตามอย่างสหรัฐฯ และรับรองจีนในเวทีสหประชาชาติ จนถึงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ถอนกองกำลังออกจากประเทศไทย
ส.ส.ฝั่งรัฐบาล นำโดย ญวง เอี่ยมศิลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ได้ขู่ลาออกจากตำแหน่ง หลังไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนตามที่จอมพลถนอม สัญญาไว้ในช่วงก่อนเลือกตั้ง ส่งผลให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2515 ไม่ผ่านรับหลักการวาระที่ 2 สาเหตุเพราะ ส.ส.บางส่วนต้องการงบประมาณบำรุงท้องถิ่นจากเดิมที่จัดสรรไว้ 224 ล้านบาท เป็น 448 ล้านบาท ลุกลามกลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและ ส.ส.
ขณะเดียวกัน นอกสนามการเมือง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2513 ขบวนการนิสิตนักศึกษาได้ก่อตั้งศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ความเป็นเผด็จการไร้เสถียรภาพของรัฐบาล และ อำนาจกองทัพที่กัดกร่อนระบอบประชาธิปไตย เมื่อทุกปัญหาสาละวนประดังเข้าใส่รัฐบาลจอมพลถนอม ที่ถูกนิยามว่าเป็นเผด็จการที่สามารถปรับตัวเข้ากับประชาธิปไตยได้ ท้ายสุดวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 จอมพลถนอมจึงประกาศกฎอัยการศึก และทำการรัฐประหารตนเองโดยให้เหตุผลว่า
“ได้มีบุคคลบางจำพวกอาศัยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ยุยงบ่อนทำลาย ใช้อิทธิพล ทั้งภายในและภายนอกสภานิติบัญญัติ ก่อกวนการบริหารราชการของรัฐบาล ให้ดำเนินไปด้วยความยากลำบากและล่าช้า ไม่ทันต่อเหตุการณ์…แทนที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันสามัคคีกันเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อป้องกันภยันตราย แต่บุคคลบางกลุ่มบางคณะกลับฉวยโอกาสทำการก่อกวน ขัดขวาง ให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขโดยสะดวก เช่น ยุยงให้ประชาชนและสถาบันต่าง ๆ เป็นปฏิปักษ์และกระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาลให้นักศึกษาเดินขบวน ให้กรรมกรหยุดงาน…เป็นเหตุถ่วงการบริหารราชการ… การแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว ถ้าจะดำเนินการตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่ทันต่อเหตุการณ์ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการยึดอำนาจการปกครอง เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้โดยเฉียบขาดและฉับพลัน”
ประเทศไทยต้องกลับมาทนทุกข์อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการอีกครั้ง แม้จะมี ส.ส. อย่าง อุทัย พิมพ์ใจชน ส.ส.ชลบุรี, บุญเกิด หิรัญคำ ส.ส.ชัยภูมิ และอนันต์ ภักดิ์ประไพ ส.ส.พิษณุโลก ที่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาให้ดำเนินคดีแก่คณะปฏิวัติในข้อหากบฏต่อแผ่นดิน แต่การตีความของศาลในยุคนั้น ก็ทำให้ ส.ส. ทั้ง 3 ราย ถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 10 ปี (ถูกปล่อยตัวในยุค สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกฯ)
ขณะเดียวกัน แม้ ณ เวลานั้น จอมพลถนอม จะมีอายุครบ 60 ปี จำเป็นต้องเกษียณอายุราชการ แต่จอมพลถนอมกลับตัดสินใจต่ออายุราชการตนเองในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทั้งยังเลื่อนให้ พลเอก ประภาส จารุเสถียร รับยศจอมพล ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ทั้งหมด ล้วนถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ไม่นับรวมไปถึงข่าวคราวทุจริตในระบบราชการมิเว้นแต่ละวัน ได้ผสมรวมกัน และกรณี ‘ทุ่งใหญ่นเรศวร’ ที่พบเฮลิคอปเตอร์ทหารตกขณะเดินทางไปล่าสัตว์ผสมรวมกันจนกลายเป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาโค่นล้มระบอบเผด็จการทหาร เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 หรืออีก 2 ปีถัดมา.
- ปฏิวัติแล้วตั้งพรรคการเมืองเพื่อรองรับหลังจากลงจากหลังเสือ ซึ่งเผด็จการก็ทำกันมาทุกๆครั้ง พล.อ.สนธิ หัวหน้า คมช. ก็ตั้งพรรคมาตุภูมิ https://thestandard.co/sonthi-boonyaratglin-co-chartthaipattana-party/ ไปไม่รอดก็ยุบไป
พรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งก่อตั้งพรรคก็เพื่อรองรับหัวหน้า รปห. ซึ่งกำลังหมุนไปหมุนไป หมุนไหน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ติดตามตอนต่อไป https://www.facebook.com/photo?fbid=1469739510226042&set=pcb.1469739616892698
แคะขี้มูก
https://www.facebook.com/100077686148937/videos/517597893601766
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2565 |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2565 11:26:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 211 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|