|
ทำไมเราถึงควรที่จะให้ความสนใจในเรื่องคนที่โกหกจนเป็นนิสัย
เนื้อเรื่องเดิม วันจันทร์ที่ 25 กค 48 เรื่องสังคมที่เปลี่ยนไป วันอังคารที่ 26 กค 48 ตอนที่ 1 Pathological liar โกหกพกลมกลมกลิ้ง
II คำถามที่สำคัญ : ทำไมเราถึงควรที่จะให้ความสนใจในเรื่องนี้
ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องตอบว่า เพราะว่าเรื่องของคนที่โกหกจนเป็นสันดานประจำตัวนี้ยังไม่มีใครศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจังค่ะ มีเป็นกรณีศึกษาเป็นรายๆไปเท่านั้น ในขณะที่เราสามารถมองเห็นพฤติกรรมคนที่ทำแบบนี้มากขึ้นทุกวัน
เรื่องของคนที่โกหกจนเป็นนิสัยยังไม่ค่อยมีการศึกษาอย่างจริงจัง แม้กระทั่งในวงการของนักจิตวิทยาเองก็ยังไม่มีการกำหนดไว้ใน "ไบเบิ้ล" ที่ใช้กัน (ไม่มีการระบุอย่างชัดเจนใน DSM IV, Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) แต่แม้ว่าจะไม่มีการกำหนดระบุว่าเป็น "โรคทางจิต" ชนิดหนึ่ง เรื่องการโกหกจนเป็นนิสัยนี้น่ะ เป็นเรื่องที่นักอาชญวิทยา, นักนิติจิตเวช, จิตแพทย์ และ ทนายความ ในอเมริกาเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับการลงโทษในคดีความที่เกิดจากคนกลุ่มนี้ได้ คำถามที่เป็นปัญหากับวงการกฎหมายก็คือ "คนที่(เป็นโรค?)โกหกจนเป็นนิสัย ควรที่จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองหรือไม่"(2) เพราะว่าถ้ามันเป็นโรคการลงโทษ แทนที่จะลงโทษผู้ต้องสงสัยแบบธรรมดาๆ ก็อาจจะต้องทั้งลงโทษ และรักษาไปด้วย
น่าเศร้าที่ว่านิสัยโกหกนี่เป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่แก้ยาก รักษาก็ยาก เพราะว่าผู้ที่โกหกเองนั้นเกิดความเชื่อไปว่าตนเป็นอย่างที่พูดจริงๆ ดังนั้นโอกาสที่เค้าจะกลับมาแก้ตัวแบ่งแยกระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องเท็จได้นี่ก็แทบจะไม่มีเลย มันต้องขึ้นอยู่กับตัวของเขาเท่านั้นว่าเขาต้องการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ต่อให้จับได้ซึ่งๆหน้า มีหลักฐานให้เห็นได้ชัดคนที่มีนิสัยโกหก ก็ยังพยายามหาทางเลี่ยงไปเรื่อยๆ ไม่ยอมรับรู้ถึงผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตน ถ้าเปรียบก็เหมือน ยอมหนีไปดีกว่าต้องยอมรับว่าตัวเองไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองบอกคนอื่นไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอาจจะไม่ได้เกิดมาจากการที่เค้าไม่กล้าขอโทษ เพียงแต่ว่าการขอโทษคนอื่น ก็คือการยอมรับกับตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไปนั้นไม่จริง มันก็เหมือนกับภาพที่ดี กำลังจะถูกทำลาย ซึ่งสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่เค้ายอมรับไม่ได้นั่นเอง
ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นนิดนึง
เราจะเห็นเสมอๆว่าคนที่โกหกหลอกคนอื่นว่าตัวเองเป็นคนนั้นคนนี้ ทำจนเป็นนิสัยนั้น จะทำอย่างไรก็ไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร พอคนจับผิดได้มากขึ้นๆ เค้าก็จะยิ่งเลี่ยงเงียบหายไป เพราะว่าความกลัวที่ว่า "กลัวจะถูกลืม และไม่มีใครสนใจอีก" จริงๆแล้วพอคนจับผิดได้และเกลียด ก็จะเสียใจ แต่ (มันต้องมีแต่สิน่า)....ไม่ได้เสียใจที่ตนเองทำผิดหรือหลอกลวงคนอื่น......แต่เป็นการเสียใจที่ความพยายามที่ทำให้คนชอบมันไม่สำเร็จ (แปล.....เสียใจที่ความพยายามสร้างภาพให้คนอื่นคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้น แบบนี้ เพื่อให้คนชอบมันไม่สำเร็จ)
ที่คนกลุ่มนี้ไม่เคยสำนึกว่าการโกหกคนอื่นนั้นเป็นเรื่องไม่ดี ก็เพราะว่าเค้าไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เค้าพูดออกไปคือการโกหก มันอาจจะเป็นการบิดเบือนความจริงไปเล็กน้อย เช่นบอกว่า เรียนรุ่นเดียวกันนี่แหละ ถ้าคนปกติอ่านผ่านๆก็จะแปลว่า เป็นคนเรียนคณะเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ....แต่สำหรับคนที่โกหกจนเป็นนิสัย มันอาจจะตีความไปได้ว่า ....ก็แค่บอกว่าเรียนรุ่นเดียวกัน ไม่ได้บอกว่าเรียนที่เดียวกันสักหน่อยนี่นา.... กลายเป็นโกหกด้วยการเลี่ยงตอบและก็บอกตัวเองไปพร้อมๆกันว่า ไม่ได้หลอกลวงคนอื่น เพียงแค่ไม่ตอบตรงๆก็เท่านั้น ....นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เค้าไม่เข้าใจว่ามันไม่ใช่พฤติกรรมที่ควรทำ เพราะเค้าก็ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นการหลอกลวงผู้คนอย่างไรเลย
ความเห็นส่วนตัวของรำเพยก็คือว่า เราควรให้ความสนใจ สังเกตคนรอบๆตัวเราว่ามีใครเป็นแบบนี้หรือไม่ เพราะว่าในฐานะของเพื่อนเราก็อาจจะช่วยได้ด้วยการทำให้เค้ารู้ว่า เราเป็นเพื่อนเค้าโดยที่เค้าไม่ต้องเป็นคนอื่นก็ได้ จริงใจต่อกันก็ได้ มันน่าจะพอช่วยทำให้คนรอบข้างเรามีพฤติกรรมแบบนี้น้อยลง แต่ถ้าเค้าทำแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้วจนหมดทางเยียวยา ก็อยู่ห่างๆดีกว่าค่ะ ขืนคบกับคนช่างโกหกพกลมไปนานๆ คงเครียดตายเลย
ตอนต่อ วันพฤหัสบดีที่ 28 กค 48 ตอนที่ 3 สาเหตุและที่มาของพฤติกรรมแบบนี้ reference -(1) University of Iowa Hospital & Clinics -(2) Does Pathological Lying Warrant Inclusion in DSM? -Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders forth edition
Create Date : 27 กรกฎาคม 2548 |
|
20 comments |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2548 7:28:08 น. |
Counter : 1246 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: รำเพย 27 กรกฎาคม 2548 6:47:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกือกซ่า IP: 66.91.254.36 27 กรกฎาคม 2548 6:49:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: รำเพย 27 กรกฎาคม 2548 7:04:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 27 กรกฎาคม 2548 7:22:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: viennese 27 กรกฎาคม 2548 7:54:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: err_or 27 กรกฎาคม 2548 7:58:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: KB1 IP: 140.242.6.2 27 กรกฎาคม 2548 8:29:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: KB1 IP: 140.242.6.2 27 กรกฎาคม 2548 8:31:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: จอมอสูร 27 กรกฎาคม 2548 9:15:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 27 กรกฎาคม 2548 9:28:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: ม๊อก IP: 203.151.140.114 27 กรกฎาคม 2548 10:07:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: wbj 27 กรกฎาคม 2548 10:27:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: zmen 27 กรกฎาคม 2548 13:55:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: asariss 27 กรกฎาคม 2548 15:18:37 น. |
|
|
|
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|
|
|
|
|
|
|