Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
อยู่ก่อนแต่ง แต่งก่อนอยู่

* คำเตือน* ก่อนจะอ่าน ขอให้ทำใจนิดนึงนะคะว่ารำเพยเขียนบทความนี้ ให้ตัวเองกับบางคนอ่าน ดังนั้นคิดอะไรก็เขียนออกมาเลย ไม่มีการแปลทั้งสิ้น สำหรับผู้อนุรักษ์การใช้ภาษาไทย อ่าน blog นี้กรุณาเอาความเป็นนักอนุรักษ์วางไว้ที่อื่นก่อนอ่านค่ะ ไม่งั้นคุณอาจจะหงุดหงิดได้โดยง่าย

สมัยนี้คำถามที่ว่าอยู่ก่อนแต่งดีกว่าหรือไม่ เป็นคำถามที่เราจะได้ยินกันบ่อยครั้ง จนทำให้เราคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไป แต่ถ้าเรามามองในอีกแง่หนึ่งก็คือว่าการอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน หรือว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานนั้น มันไม่ใช่เรื่องใหม่นักหรอกค่ะ สังเกตดูได้จากวรรณคดีของไทย โดยเฉพาะวรรณคดีที่สะท้อนภาพความเป็นอยู่ของคนไทยในอดีตได้ดีอย่างขุนช้างขุนแผน หรือพระอภัยมณี เราก็จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าเรามักจะไม่เอามาเป็นหัวข้อสนทนากัน คล้ายๆ เรารู้ว่ามีแต่ก็เป็น taboo ของสังคม ไม่พูดกัน ซึ่งต่างจากสมัยนี้ที่คนกล้าพูดกันมากขึ้น

In my opinion, no..that was wrong...in my case, I know I am terrified of intimacy, relationship and commitment because of the possibility of failure. I've been hurted so many times in the past that I am so afraid it would happen again. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานอาจจะเป็นเพียงข้ออ้างที่จะทำให้หนีออกได้ง่ายกว่า กันการที่ตัวเองจะต้องเสียใจได้ง่ายกว่า แต่ก็อย่างว่า นี่ก็แค่ความเห็นของรำเพยเท่านั้นแหละค่ะ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนกลัวความผิดหวัง



ไอ้เรื่องการจะอยู่ก่อนแต่งนี่น่ะ ในความคิดของรำเพยคือมันจะได้อิทธิพลมาจากสังคมรอบตัวเรา เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ "try it before you buy it and if you don't like this product, you can refund within 30 days." คนเรากลายเป็นมีแนวคิดว่าควรลองอยู่ด้วยกันก่อน ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็เลิกกันไป ไม่เหมือนรุ่นพ่อแม่เราที่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วเกิดปัญหาก็จะพยายามหาทางปรับความเข้าใจกันเพื่อให้เข้ากันได้ ความอดทนของคนมีน้อยลง กลับกลายเป็นใช้หลักการเดียวกับการซื้อของมาใช้กับการมีชีวิตคู่ซะนี่ เพราะว่ากลัวว่าจะล้มเหลวอยู่ด้วยกันไม่ได้ ดังนั้นขอลองอยู่ด้วยกันสักระยะน่ะ ถ้าอยู่ด้วยกันได้ค่อยแต่งงาน

แต่ก่อนรำเพยก็พอจะเห็นด้วยกับการอยู่ด้วยกันก่อนแต่งนะคะ แต่ตอนนี้ชักจะไม่แน่ใจ เพราะว่าสถิติการหย่าร้างของคนที่อยู่ด้วยกันมาก่อนแต่งมันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าคนที่แต่งก่อนเลย มันเลยเหมือนว่าอันที่จริงแล้วการจะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ cohabitate before marriage สักเท่าไหร่เลย แต่น่าจะขึ้นอยู่กับระดับความอดทนของคนที่มีน้อยลงเข้าไปทุกที

อีกอย่างก็คือว่า การทดลองอยู่ด้วยกันปี หรือสองปี มันก็ไม่ได้หมายความว่า เวลาปีหรือสองปีจะบอกได้ว่าอีกสิบปียี่สิบปี คู่ของเราจะเป็นอย่างไร I don't think that spending one or two years together would guarantee successful life together. Circumstances, personalities and relationships change over time, maybe it'd be better if we keep learning to accept and understand each other as we grow old together. That being the case, การที่ทดลองอยู่ด้วยกันก่อนปีหรือสองปี มันแทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะมันไม่ใช่ indicator ที่จะบอกได้ว่าในระยะยาวเราจะเข้ากันได้ไหม



สิ่งของนั้นพอลองแล้วไม่ชอบก็เปลี่ยนได้ เพราะมันไม่มีความรู้สึกอะไร แต่คนเราไม่ใช่แบบนั้น As long as we have feelings, testing a relationship โดยที่ไม่พยายามที่จะทำให้มันรอดอยู่ตลอดรอดฝั่งไปได้ ก็มีแต่จะทำให้ฝ่ายที่ถูกเลิกนั้นเสียใจ and feel rejected. ถ้าต้องการจะอยู่กับใคร แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่ด้วยกันได้จริงๆ ก็ลองพิจารณาดูให้ดีๆจะดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าเราเริ่มด้วยความคิดที่ไม่แน่ใจว่าจะไปด้วยกันรอดไหม แล้วลองอยู่ด้วยกันก่อน ไอ้การทดลองอยู่ด้วยกันก่อนมันก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้อยู่ด้วยกันได้นะคะ the fact that you are concerned about this should already be a warning flag.

Perhaps it is best to carefully select your spouse. เลือกคนทีเราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ คนที่เข้าใจเราไม่ว่าจะเรื่องดีหรือไม่ดี และเลือกคนที่อยู่ด้วยแล้วเป็นคู่กันได้โดยที่ไม่ต้องสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป น่าจะดีที่สุด

จริงไหม



Create Date : 08 กันยายน 2548
Last Update : 8 กันยายน 2548 17:27:25 น. 42 comments
Counter : 2715 Pageviews.

 
ปล. ห้ามลากไปเข้าเรื่องของดาราสาวเป็นอันขาด เนื่องจากไม่เกี่ยวกันด้วยประการทั้งปวง ใครเอาเรื่องดารามายุ่ง ....

อิชั้นจะลบความเห็นนั้นออก

เราเตือนท่านแล้ว


โดย: รำเพย วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:32:18 น.  

 
ไอติมก็คิดนะว่าอยู่ก่อนแต่งน่าจะดี แต่ไม่ได้คิดไปถึงขนาด refund within 30 days นะ (จะว่าไปค่าสินสอดเนี่ยเค้าไม่ให้ refund นี่คะ สงสารผู้ชาย เอิ๊กๆ)

ไอติมว่านะที่ตัวไอติมคิดอยู่ก่อนแต่งก็เพราะว่ากลัว failure นั่นแหละ มันเหมือนช่วยสร้างความมั่นใจว่าเราอยู่กันได้นะ แต่พอมาอ่านแล้วไอ้การที่ขาดความมั่นใจนี่มันเป็น warning flag อย่างที่ป้าบอกจริงๆ ด้วย แล้วคนกลัวเจ็บอย่างไอติมจะมั่นใจได้ยังไงน้อ เวลาคนเราตกลงใจแต่งงานกัน เค้าคิดกันยังไงน้อ


โดย: i-scream วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:37:42 น.  

 
การอยู่ก่อนแต่ง แค่เปนข้ออ้างของการเอากัน โดยสังคมไม่ครหา


ผมคิดงี้จริงๆนะ


โดย: jb IP: 203.146.222.67 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:38:01 น.  

 
รูปคู่ข้างล่างเนี่ย กำลังพากันหนีรึเปล่าคะ


โดย: ด.ญ.ไอติม (i-scream ) วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:39:27 น.  

 
เค้าบอกไว้ว่า

อย่าเลือกคนที่เราอยู่ด้วยได้ แต่ให้เลือกคนที่เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า ...เอ หวานไป ไม่ค่อยเข้ากะเนื้อหา 555

เรื่องอยู่กันก่อนแต่งนี่...ไม่รู้จะออกความเห็นงัยอะค่ะ เห็นแพ็คกร้าวๆขนาดนี้ ก็ยังเป็นคนหัวเก่ามากๆอยู่ดี ไม่รู้สิคะ ถึงโลกจะหมุนไปเร็วขนาดไหน ถึงผู้หญิงจะก้าวหน้ามากขึ้น ผู้ชายใจกว้างมากขึ้น แต่จริงๆ ลึกๆ เราก็ยังโหยหาอะไรเดิมๆแหละค่ะ (สมมติ อยู่กันมานานแต่ต้องเลิกกัน ผู้ชายคนใหม่ก็ต้องตะขิดตะขวงใจบ้างแหละน่า)

แพ็คชอบที่ว่าการไม่อยู่ด้วยกัน ทำให้เรามีระยะห่าง มีเวลาคิดถึง มีช่องว่างที่ทำให้โหยหากัน น่าจะดีกว่านะ

อยู่ด้วยกัน ทำให้รู้จักกันมากขึ้น แต่มันไวไปอ่ะ บางทีมันเร่งไปจนถึงจุดที่ว่า เรารู้จักกันมากไปแล้ว เราไม่มีอะไรเรียนรู้จากกันอีกแล้ว...มันจะเกิดเหตุการณ์อะไรอันนี้ก็น่าจะรู้กัน

ความเห็นจากผู้หญิงที่ชีวิตนี้มีแต่รักเค้าข้างเดียว มีน้ำหนักพอมั้ยก็ไม่รู้นะคะ


โดย: patsypacky วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:40:15 น.  

 
แล้วถ้าอยู่กันไปเรื่อยๆ ไม่แต่งงานล่ะคะ แบบนี้จะเรียกว่าอยู่ก่อนแต่งรึเปล่า การแต่งงานนั้นสำคัญไฉน คิดแล้วปวดหัว


โดย: ด.ญ.ไอติมเกิดอาการสงสัย (i-scream ) วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:44:52 น.  

 
ติม ...ป้าจะตอบติมได้ไง ส่วนตัวไปนิด ไว้คุยเวลาเจอกันดีกว่าหนู

โบ๊ต...จริงจ้ะ เห็นด้วยจ้ะ

แพค...ชอบประโยคนี้

อยู่ด้วยกัน ทำให้รู้จักกันมากขึ้น แต่มันไวไปอ่ะ บางทีมันเร่งไปจนถึงจุดที่ว่า เรารู้จักกันมากไปแล้ว เราไม่มีอะไรเรียนรู้จากกันอีกแล้ว...มันจะเกิดเหตุการณ์อะไรอันนี้ก็น่าจะรู้กัน

พี่ว่าถ้าเราจะอยู่เพื่อเรียนรู้นะ แต่งแล้วค่อยอยู่มันก็ทำได้เหมือนกันนั่นแหละ คนเราถ้าอยู่ด้วยกันได้ ยังไงก็อยู่ได้ ไม่น่าจะต้องอ้างว่าลองอยู่ก่อนเลยเนอะ


โดย: รำเพย วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:45:44 น.  

 
เราหัวโบราณ

ตอบแค่นี้ก็คงพอนะ ^^






ช่วยหยุดโลกด้วย เราจะลง


โดย: =p o o k p u i= วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:59:46 น.  

 
อ่านดีๆดิปุ๋ย เราว่าปุ๋ยคงเข้าใจเรา


โดย: รำเพย วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:18:09:06 น.  

 
แต่งก่อนอยู่ค่ะ



โดย: keyzer วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:18:09:50 น.  

 
จริงจ๊ะ



เราหาคนร่วมชีวิตนะ ไม่ใช่มิสทีน
จะได้ ไม่พอใจ คืนได้ แถมคืนเงินอีกตังหาก


โดย: นกซิลล่า IP: 202.44.32.11 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:18:10:44 น.  

 
อยู่ก่อนแต่ง หรือแต่งก่อน อยุ่ก็ไม่ได้ต่างกันหรอกค่า ถ้าคนมันจะไม่ใช่คู่ ยังงัยมันก็ไม่ใช่
เพียงแต่ ถ้าไม่แต่งก่อน..ถึงเวลา จะแยกกันมันง่ายกว่า แต่ง จดทะเบียน ฯลฯ..ทำให้คู่แต่งงานเริ่มขี้เกียจทำเรื่องหย่า ไงค้า...ถึงเวลา ถ้าไม่รักกัน ต้องทนอยุ่ไปในบ้านหลังเดียวกันไปเรื่อยๆ..ชีวิตก็ไม่ได้มีความสุขมากหรอกน่อ..

แค่ความเห็นของเด็กบ้านแตกนะ อิอิอิ


โดย: เกือกซ่าสีชมพู วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:18:29:03 น.  

 
อิหนูเอ๊ย ลองคิดจะหย่าซะตั้งแต่แรก เดี๋ยวมันก็ได้หย่าจริงๆ เพราะว่าแทนที่จะพยายามประคองกันไป กลับคาดว่าคงไปด้วยกันไม่ได้ตั้งแต่เริ่ม

ลางมันออกอะ


โดย: รำเพย วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:18:36:10 น.  

 
ฮี่ๆ..ก็เค้าเป็งพวกมองโลกในแง่ร้ายง่ะ


โดย: เกือกซ่าสีชมพู วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:19:28:56 น.  

 
มังคุดเองอยู่ก่อนแต่งมาแล้นค่ะ
หนึ่งเดือนก่อนแต่งงาน ตอนนั้นก็ 25 จะ 26 แล้ว แต่คบกันมาประมาณ เกือบสามปีก่อนแต่งอ่ะ ดูแล้วดูอีกจนมั่นใจ

มังคุดเองก็ไม่ถึงกับเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ว่าการอยู่ก่อนแต่งมันดีกว่า
มังคุดว่ามันก็แล้วแต่ความรับผิดชอบตัวเองของแต่ละคน

สำหรับมังคุดเอง การจะทำอะไรซักอย่างก็ต้องคิดมากๆ
คิดหลายตลบ ทบไปทบมา ปล่อยเวลาผ่านไปซักพักแล้วค่อยตัดสินใจ
เพราะถ้าคิดเดี๋ยวนั้น ทำเดี๋ยวนั้น ส่วนใหญ่เราจะตัดสินด้วยอารมณ์ส่วนตัวอ่ะ


โดย: mungkood วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:19:46:51 น.  

 
ผมกับภรรยารอให้แต่งงานกันก่อน
แล้วค่อยอยู่ด้วยกันครับ

ถึงวันนี้.. ก็ยังเหมือนวันแรกที่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
รู้สึกราบรื่น และเต็มไปด้วยความห่วงใย ตื่นเช้าขึ้นมาก็รู้สึกดีที่มีอีกคนนึงอยู่ในชีวิต เรื่องหงุดหงิดใส่กันในปี ๆ นึงนี่น้อยมาก

เรื่องของ "ความเข้าใจ" และยอมรับในความแตกต่างที่มีในตัวของแต่ละคน
เป็นเรื่องที่อยากแนะนำครับ
เพราะเรามาจากคนละครอบครัว เติบโตมาจากคนละสิ่งแวดล้อม
ย่อมมีทัศนคติและวิธีคิดในเรื่องต่าง ๆ ไม่เหมือนกันบ้าง.. เป็นเรื่องธรรมดา
ขอให้รู้ว่าความขัดแย้งมักจะเกิดขึ้นตรงนี้

ไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันก่อนหรือไม่.. อยากให้คิดในด้านของ "ความเข้าใจ" ให้มากที่สุดครับ

ถ้า "เข้าอกเข้าใจ" กันเป็นอย่างดี ความขัดแย้งในชีวิตคู่ไม่จะเกิดขึ้นหรอกครับ

เล่าให้ฟังเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างให้น้อง ๆ .. ในโลกนี้มีทุกด้าน แต่ละด้านก็มีสิ่งดีในตัวเอง บางเรื่องเหมาะกับคนแบบนึงมาก แต่อาจจะไม่เหมาะกับเรา สิ่งที่เหมาะกับเราอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนอื่น

ค่อย ๆ เลือกวิธีที่เหมาะสมของคุณให้ดีที่สุด

ขอให้มีชีวิตคู่ที่มีความสุขครับ


โดย: Darkside of the White วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:20:39:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณดำ
ชอบอ่านที่คุณเขียนอะค่ะ ยาวดี

เรื่องการอยู่ด้วยกันก่อนหรือแต่งแล้วค่อยอยู่นี่น่ะ อันที่จริงแล้ว ตามความเชื่อส่วนตัวของรำเพยก็คือว่า มันไม่ีมีบทสรุปลงไปแน่นอนหรอกว่าอะไรดีกว่าอะไร มันอยู่แต่ที่ว่าเราถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร และคนที่เป็นคู่ของเราถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร

เพราะว่าสังคมไทยน่ะ ยังไงซะเรื่องการแต่งงานก็เป็นเรื่องของครอบครัว ไม่ใช่แค่ตัวคนสองคนเมื่อไหร่กัน ยกเว้นซะแต่ถ้าที่บ้านไม่ว่ากล่าวอะไร และเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไอ้การอยู่ด้วยกันก่อนก็คงไม่ส่งผลเสียทางจิตวิทยาของผู้หญิง

ที่ต้องบอกว่ามันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้หญิงโดยที่ไม่ได้เอ่ยถึงผู้ชายนั้น ก็เพราะว่ายังไงซะ สังคมไทยเรา ไม่ว่าโลกจะก้าวไปเร็วแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วพอเกิดอะไรต้องเลิกกัน ผู้ที่เสียหาย ก็ยังเป็นฝ่ายหญิงที่สูญเสียมากกว่าอยู่ดี

แต่ถ้าที่บ้านของฝ่ายหญิงไม่ได้เห็นว่าการที่อยู่ร่วมกันก่อนแต่งนั้นเป็นเรื่องไม่ดี การที่ย้ายไปอยู่ด้วยกันก่อนก็คงไม่มีผลอะไรมากนักหรอกค่ะ เรื่องแบบนี้อันที่จริงมันต้องแล้วแต่ครอบครัวว่าเลี้ยงลูกมาให้มีความเชื่ออย่างไรด้วย เพราะถ้าสองฝ่ายมีความเชื่อไม่ตรงกัน ฝ่ายนึงบอกว่าไปลองอยู่ด้วยกันก่อนน่ะดี ส่วนอีกฝ่ายขอแต่งงานก่อนดีกว่า ต่อให้ฝ่ายที่ขอแต่งงานก่อนดีกว่ายอมมาอยู่ด้วยก่อนแต่งงาน ลึกๆแล้วไอ้ความรู้สึกว่ามันไม่ควร ยังไงก็ยังมีอยู่ดีนั่นแหละ

มันต้องพูดกันให้รู้เรื่องนิ


โดย: รำเพย วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:20:53:39 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่รำเพย

นู๋ก็ไม่เห็นด้วยนะคะกับการอยู่ก่อนแต่ง แต่เพื่อนนู๋(คนนี้เค้าเคยโกอินเตอร์มาแล้วปีนึงอ่ะค่ะ) เค้าบอกว่าหากเค้ามีแฟน เค้าจะขอที่บ้านมาทดลองอยู่กับแฟนก่อน เป็นการทดลองอยู่น่ะค่ะว่าสามารถปรับนิสัยเข้าหากันได้ทุกเรื่องหรือไม่

แต่สำหรับนู๋เอง(และจากผลการวิจัยที่โดนมากๆ) คนที่อยู่ก่อนแต่ง โอกาสที่จะเลิกรามีสูงมากเพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวอย่างทะเบียนสมรส หรือว่าลูก เวลาที่โมโหหรือขัดใจกัน การใช้ความอดทนของแต่ละฝ่ายจะลดน้อยลงหรือไม่มีความพยายามจะอดทนเลย เพราะไม่มีสิ่งที่จะผูกมัดทั้งคู่ไว้น่ะค่ะ ^^

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่รักจะหมดสวยก็ต่อเมื่อเราเอาความหลงมาปนกับความรัก


โดย: นู๋โมจัง วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:21:05:27 น.  

 
ท่าทางเด็กบ้านแตกจะมองโลกในแง่ร้ายแฮะ เพราะไอติมคิดเหมือนเกือกซ่าสีชมพู แฮ่ ... บ้านแตกเหมือนกัน

ในความคิดนะคะ มักจะคิดว่าถ้าอยู่ไม่ได้ก็อย่าอยู่ด้วยกันเลย สงสารลูกเถอะ เพราะไม่รู้จะเข้าข้างใครดี ขอเครียดทีเดียวตอนเลือกว่าสุดท้ายจะไปอยู่กับใคร .... การมองโลกในแง่ร้ายของไอติมมีที่มาฉะนี้แล


โดย: ไอติมบ้านแตก IP: 202.57.140.61 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:22:56:29 น.  

 
เด็กเดี๋ยวนี้ก็อยู่ก่อนแต่งทั้งนั้นแหละค่ะ...พี่

ยิ่งเด็กมหาลัยที่อยู่หอพักอ่ะ

แต่มะมีใครมาอยู่กะมู๋เบญเลยอ่ะค่ะ


โดย: อิงคยุทธ วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:23:12:59 น.  

 
คนเราเดี๋ยวนี้ อะไรก็สะดวกสบายขึ้น
ได้อะไรง่ายขึ้น ตัวเลือกมากขึ้น
ความผูกพันน้อยลง
ความอดทนแทบไม่มี

และ คิดถึงแต่ตัวเองเป็นส่วนใหญ่

คิดว่าข้างบนคือที่มาของการหย่าร้าง


เคยได้ยินว่า ถ้าจะอยู่ด้วยกัน อย่าเริ่มด้วยคำว่าทน
เพราะวันนี้ เราคิดว่า เราทนได้ ทนนิสัยเหล่านี้ได้
แต่วันนึง แก้วน้ำมันก็ต้องเต็ม และวันนั้น คำว่า
"ทนไม่ได้ ทนไม่ไหวแล้ว"
มันจะลอยขึ้นมาทันที

พอกับว่า ถ้าคิดไว้ว่าวันนึงอาจจะเลิก
มันก็เท่ากับเป็นการรับประกันว่า
คบกันเพื่อเลิก ถ้าเช่นนั้น ไม่เป็นการเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ
หากอีกฝ่าย ไม่ได้คิดเหมือนกัน
เราอยู่ไปวันๆ มีดีกว่าไม่มี
เขาอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้ ไม่มีไม่ได้


ส่วนตัว อยู่ก่อนแต่ง หรืออยู่หลังแต่งไม่ต่างกันเลย
ถ้าคิดจะอยู่ด้วยกันก็อยู่ได้ แต่ถ้าคิดจะให้อีกฝ่ายเปลี่ยนก็อยู่ไม่ได้
การแต่งงาน ไม่ได้เปลี่ยนอะไรตรงนั้น หากความคิดของเจ้าตัวไม่ได้เปลี่ยน
แค่เป็นกลไกสังคม เพียงแค่ ถ้าครอบครัวยอมรับทั้งสองฝ่าย
มิใช่ว่า ลักลอบ หรือคัดค้าน สร้างความสะเทือนใจให้บุพการี
ก็น่าจะยอมรับได้

ทำอะไรให้มีขั้นมีตอน อย่าหักหน้าผู้หลักผู้ใหญ่
คิดเอาไว้ว่า ใครเลี้ยงมาจนมีชีวิตมาทำลายน้ำใจท่าน

ชีวิตเป็นของเรา แต่เราไม่มีสิทธิใช้ชีวิตของเรา
บนความล่มสลายของชีวิตใคร


โดย: cocoa butter วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:23:46:45 น.  

 
ยังไม่มีคนที่จะแต่งหรืออยู่ด้วยเลยอ่ะคับ..อิอิ

เรื่องนี้อยู่ที่ความคิดของแต่ละคน..ต่างคนต่างเหตุผลและความจำเป็นก็ต่างกัน

แต่ยังไง..ฝ่ายหญิงก็รักตัวเองให้มากๆ

ส่วนฝ่ายชายก็ควรให้เกียรติฝ่ายหญิงด้วย



โดย: เชสเตอร์ วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:0:16:53 น.  

 
อยู่ก่อนแต่ง หรือว่าแต่งก่อนอยู่

๑ ลองอยู่ด้วยกันก่อน ถ้าอยู่ด้วยกันได้ก็อยู่กันไปเรื่อยๆ แน่นอนแล้วค่อยมีลูก ถึงจะจดทะเบียนแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าอยู่ ด้วยกันไม่ได้ก็เลิก ยังไงก็ยังเป็นนางสาวอยู่
๒ จัดพิธีแต่งงานเพื่อหน้าพ่อแม่ แต่ยังไม่จดทะเบียนสมรส แล้วอยู่ด้วยกันก่อน ถ้าอยู่ด้วยกันได้ก็อยู่กันไปเรื่อยๆให้แน่นอนแล้วค่อยมีลูก ถึงจะจดทะเบียนสมรส
๓ จัดพิธีแต่งงานเพื่อหน้าพ่อแม่ และจดทะเบียนสมรส แล้วอยู่ด้วยกัน ถ้าอยู่ด้วยกันได้ก็อยู่กันไปเรื่อยๆ ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เลิก สามีไปมีเมียน้อย ก็ต้องยอมรับกับคำนำหน้าว่า นาง ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตของผู้หญิง (ว้าแย่จัง)

จากเพื่อนเธอจ๊ะ(จ๋อมแจ๋ม)




โดย: จ๋อมแจ๋ม IP: 158.108.196.221 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:8:12:49 น.  

 
สวัสดีครับคุณรำเพย

เห็นด้วยครับว่าต้องพูดคุยทำความเข้าใจกันให้รู้เรื่องก่อนที่จะตัดสินใจ

ไม่ว่าจะลองอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง
หรือจดทะเบียนให้เรียบร้อยแล้วค่อยอยู่กินกัน
(สุดขั้วคนละด้านเลยนะครับ)

ถ้าต้องเลิก.. ผู้หญิงเป็นทุกข์ยาวนานกว่าแน่นอนครับ
ไหนจะกับตัวเอง ไหนจะกับสังคม
เหมือนกันทั้งโลกนะผมว่า

อ่านดูความเห็นของคุณ cocoa butter
มีข้อคิดดี ๆ เยอะเลยครับ

ลองเขียนสั้นลงหน่อย.. เผื่อจะชอบมากกว่า :)


โดย: Darkside of the White วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:10:03:48 น.  

 
โกโก้ชอบเขียนยาวๆ (นิสัยเดียวกันกับรำเพยแหละ) อ่านแล้วบางทีเลยหลงเหมือนกัน คนอ่านจับประเด็นไม่เจอ
ฮ่าๆๆ


โดย: รำเพย วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:10:35:33 น.  

 
ครือว่า เป็นเด็กบ้าน้ำลายอ่ะค่ะ

พยายามจะเขียนสั้นๆ เหมือนกัน
แต่พอจะเขียนสั้นๆ ต้องใช้เวลาเยอะกว่า

ถ้ารีบๆ ก็เลยเขียนยาวๆ
เพราะ ขี้เกียจอ่านทวน 555

จะพยายามแก้ค่ะ ^_^


โดย: โคโค่เองค่า IP: 63.203.68.81 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:10:38:07 น.  

 
เข้าใจเนื้อหาของบ๊อกไม้ เราเข้าใจแหละเพย
เพยเขียนเรื่องเหตุผลว่าทำไมคนถึงจะอยู่ก่อนแต่ง
ซึ่งเราว่ามันก็เป็นเหตุผลหนึ่งของคนในสังคมเหงาแหลกลาญพิการอารมณ์เดี๋ยวนี้
ไม่รู้มันจะเหงาอะไรกันนักหนา
และเหตุผลที่แท้จริงมันอาจจะถึงห้าพันเหตุผลก็ได้
ปัจจัยของแต่ละคู่แต่ละคน ลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เหตุผลก็ย่อมต่างกัน

ถามว่าใครแต่ละคนจะเลือกทำอะไร ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน
(เหมือนกับคุณแหม่มนั่นแหละ วก เอิ๊กก เราไม่โทษเธอ ทางเลือกเป็นของเธอ ชีวิตของเธอ)
แต่ถ้าทางเลือกของเรา ชีวิตของเรา เราคิดกับสิ่งนั้นอย่างไร ก็อย่างที่เราตอบไปแล้วนั่นแหละ

คู่ไหนจะอยู่ก่อนแต่งก็เป็นสิทธิของคู่นั้นนะ
แต่เราคิดว่าสิ่งสำคัญที่จะบอกว่าการอยู่ก่อนแต่งนั้นไม่ทำร้ายใคร คุณมีความสุขกับมันได้เต็มที่หรือเปล่า
ก็คือคุณต้องปิดบังใครไหม คุณบอกทุกคนได้ไหม คนที่รักคุณไม่มีใครต้องเสียใจใช่ไหม

ถ้าผ่านเงื่อนไขเหล่านี้ไป ทางเลือกของแต่ละคน ก็ย่อมเป็นของแต่ละคน
แต่ถ้าไม่ใช่ อย่างที่บอก ทางเลือกของเราก็ไปตัดสินใครไม่ได้ แต่เราก็ยังเห็นว่าทางเลือกของเรานี่แหละ ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา…จ้ะ



เนี่ย เห็นมะ ไม่อยากตอบยาว
เราตอบยาวที ยาวยืดนะ ฮ่า


โดย: ปป IP: 203.154.148.50 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:10:39:20 น.  

 
อ้าว น้องโค่ง เอ๊ย โค่ ขี้เกียจนี่หว่าเอ็ง


โดย: รำเพย วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:10:39:32 น.  

 
ขอโทษคุณ Cocoa butter จริง ๆ ครับ

......ผมเพิ่งจะมาอ่านสิ่งที่พิมพ์ไปอีกครั้ง
รีบร้อนไปหน่อย เลยวรรคตอนผิดไปบานเลย

ที่บอกว่าเขียนสั้นลงหน่อยน่ะ...
ผมกะจะบอกคุณรำเพยว่าผมจะลองเขียนสั้นลงหน่อย
เผื่อคุณรำเพยจะชอบมากกว่า

บังเอิญเขียนเอาไว้ก่อน แล้วมาแทรกทีหลัง
ด้วยความสะเพร่ากระเพราไก่ของผมเองเลยไม่ได้ดูให้เรียบร้อย
กลายเป็นคนละเรื่องไปเลย...
ไม่ได้คิดจะตำหนิอะไรเลยนะครับ.. อย่าคิดมากนะ
ผมผิดอย่างจังจริง ๆ ครับ

ชอบสิ่งที่คุณ Cocoa butter คิด..
ผมอ่านซ้ำไปซ้ำมาตั้งหลายรอบ ก็เลยอยากให้น้อง ๆ ที่ยังตัดสินใจไม่ได้.. มีโอกาสได้อ่านสิ่งดี ๆ กลายเป็นคนละเรื่องไปซะได้

จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาดครับ


โดย: Darkside of the White วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:11:54:02 น.  

 
ไม่วายนะคะคุณพี่ปุ๋ย วกเข้าเรื่องดาราจนได้ นี่ดีนะ นิดเดียว ไม่งั้นอิชั้นจะใช้ระบบเผด็จการ ลบค่ะลบ เอ แต่ว่าอิชั้นก็ไม่กล้าลบข้อความบอกอร๊อกกก เดี๋ยวบอกองอนแย่เลย

คุณดำ....อิชั้นชอบอ่านยาวๆ ไม่ต้องลดก็ได้ค่า ไม่ได้เขียนประชด ชอบอ่านจริงๆจ้ะ



โดย: รำเพย วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:12:39:45 น.  

 
รูปที่สองเป็นภาพถ่ายที่สวยมาก
รูปที่สามเป็นภาพวาดที่สวยมาก แสงสวยกิงๆ


โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:12:51:27 น.  

 


โดย: 9 กันยายน 2548 IP: วันที่: 13:26:03 เวลา:203.147.36.34 น.  

 
ชอบความคิดเห็นของคุณ cocoa butter ค่ะ คิดรอบด้านบนพื้นฐานของความเป็นจริง

และเห็นด้วยกับคุณรำเพยว่าเลือกคนที่เรารู้สึกอยู่ด้วยแล้วสบายใจโดยที่ไม่ต้องสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองหรือปรับตัวมากนักจะดีที่สุด

การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งโดยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้รับรู้หรือเห็นด้วย สถานภาพความสัมพันธ์จะเปราะบางกว่า หากเลิกรากันไปฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่าในสายตาและการตัดสินของสังคม

ถึงแม้ว่าจะลองอยู่ด้วยกันจนถึงขั้นแต่งงานก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่รับประกันว่าจะสามารถประคองชีวิตคู่ไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง การแต่งงานไม่ใช่ปลายทางหากเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ขึ้นอยู่กับว่าระหว่างทางจะพบกับอุปสรรค หลงทาง หรือสะดุดหลุมพรางอะไรบ้าง

การหมั่นเติมเต็มความรักซึ่งกันและกัน ความเข้าใจ ไม่เห็นแก่ตัวและไม่คาดหวังสูงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะช่วยประคองชีวิตคู่ไปจนถึงปลายทางชีวิต คู่แท้คือคู่ที่มีศีลเสมอกัน


โดย: Coquette IP: 203.149.6.54 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:17:17:27 น.  

 
Frank Johnson


โดย: 9 กันยายน 2548 IP: วันที่: 22:39:33 เวลา:69.64.185.171 น.  

 
การแต่งงานมันไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคน
แต่เป็นเรื่องของคนหลายคน พ่อแม่ ญาติ เพื่อนฝูง
อย่าเอามาเกี่ยวกันซิจ๊ะหนู


โดย: หมาร่าหมาหรอด วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:23:30:21 น.  

 
แต่งก่อนอยู่ท่าจะดีกว่านะ มันตัดสินทุกสิ่งทุกอย่างได้ง่ะ เราว่า


โดย: Dew IP: 61.91.246.204 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:23:35:14 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

อยู่กันได้ด้วยใจค่ะ..อย่างอื่นเป็นเพียงส่วนประกอบ ..แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีพิธีตามความเหมาะสม เพราะเราอยู่ในสังคมและเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยค่ะ..

ปล..อนุโมทนาค่ะ


โดย: ป่ามืด วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:2:24:42 น.  

 
มันเป็นเพียงข้ออ้างของหนุ่มสาวสมัยนี้...
ผู้ชายก็ชอบสิครับ ก็แค่ทดลองอยู่ด้วยกัน
เพราะว่าได้เปรียบทุกประตู

อีกแง่หนึ่ง มันอาจเป็นแนวคิดหนึ่ง
ในการหาทางออกของคนหนุ่มสาว
ในสังคมปัจเจกนิยม ในปัจจุบัน ก็ได้ครับ

ก็ว่ากันไป

แต่ผมไม่ยอมให้ลูกสาวทำแบบนี้แน่!


โดย: มาเยี่ยม IP: 203.151.140.121 วันที่: 27 ตุลาคม 2548 เวลา:7:03:57 น.  

 
ก้อดูดี


โดย: อ่านะ IP: 203.113.55.202 วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:22:18:52 น.  

 
การอยู่ก่อนแต่งนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่คนส่วนมากมักจะดูว่าการอยู่ก่อนแต่งนั้น ไม่เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีแต่คนส่วนน้อยคิดว่าการอยู่ก่อนแต่งนั้นทำให้เราได้ศึกษานิสัยของกันและกันให้มากยิ่งขึ้นทำให้เรามองเห็นจุดบกพร่องของกันและกันมากขึ้นถ้าเรารับในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ได้ก็ดีไปแต่ถ้าเรารับไม่ได้ก็เลิกกันไปจะดีกว่า
"ยอมเจ็บตอนนี้ ดีกว่าเจ็บไปตลอดชีวิต"


โดย: aom IP: 202.28.123.253 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:9:45:22 น.  

 
เราไม่สามารถตัดสินใจให้คู่ไครได้หรอกค่ะ ว่าอยู่ก่อนแต่งดีกว่า หรือแต่งก่อนอยู่ดีกว่า เพราะปัญหา และสภาวะแวดล้อมของแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน เค้าย่อมเลือกทางเดินของชีวิตคู่ที่คิดว่าเหมาะสมแล้วสำหรับคู่ของเค้า เพราะฉะนั้น ทุกอย่างย่อมดีหมด ถ้าคุณดูแลรักษาความรักของคุณไปจนถึงจุดสำเร็จของความรัก และสามารถใช้เครื่องวัดความสำเร็จของความรักได้


โดย: ดาร์รี่ IP: 203.156.144.42 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:16:37:57 น.  

 
สมัยนี้ถ้าไม่อยู่ด้วยกันก่อน แล้วแต่งเลย ก็แย่ค่ะ เราว่านะ
ถ้าเป็นเรา เราคงไม่กล้าแต่งกับคนที่ "ไม่รู้ว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นยังไง" ขนาดคนที่อยู่ด้วยกันก่อน ยังมีปัญหาเลย ..มันต้องเรียนรู้กันก่อนค่ะ

1. เรียนรู้ก่อน เข้าใจกันระดับนึง โอเคผ่าน
2. อยู่ด้วยกัน ศึกษากัน ถ้าโอเคผ่าน
3. แต่ง


โดย: เจน IP: 222.123.231.151 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:17:13:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รำเพย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add รำเพย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.