เห็นด้วย ข่าวหน้าหนึ่งวันนี้ ไม่มีอะไรเขียนแล้วหรือ หรือว่าคนไทยสนใจเรื่องนี้มากกว่าราคาน้ำมันขึ้นและขึ้นๆๆๆๆๆๆ นักข่าวเมืองไทยอุตส่าห์เรียนมาจนจบนิเทศศาสตร์หรือวารสารศาสตร์ มีสติปัญญาทำข่าวเพียงนี้หรือ

จริงนะที่ท้อง 4-5 เดือนแล้วไม่รู้นี่ ..

และเห็นด้วยว่าเป้นเรื่องส่วนตัวของเนอะ แต่สื่อก็ต้องการขายข่าวอ่ะนะ

เห็นด้วยกับเจ้าของบล็อคค่า
ที่ด่าๆ เค้าเนี่ยก็คนเรียนมาดีๆ ทั้งนั้น





...

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยเจ้าค่ะ ยิ่งพวกผู้ชายที่ออกมาว่าเค้า น่าเกลียดมาก แทนจะที่จะว่าผู้ชายด้วยกัน แถมรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงดีแค่ไหนกัน ถึงได้ออกมาพูดว่าซ่ะ แย่ชะมัด
ที่สำคัญเรื่องส่วนตัวค่ะ อายุก็ไม่น้อยแล้วด้วย เฮ้อ .. เนี๊ยะแหล่ะ คนล้มแล้วเหยียบ

เห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ


คนเราก็นะ.....


เรื่องดีๆ ไม่ชอบหรอกที่จะพูดถึง

เรื่องร้ายๆ ล่ะ ดาหน้าเข้าหาเลย

เย้ยยย ร้ายที่หนายยย คนเค้ามีลูกน่ายินดี ไม่ร้าย ไม่ร้าย

จริงๆค่ะ
มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า ละอีกอย่างเค้าก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ อายุก็เท่านี้แล้ว จะอะไรกันมากมายนะ คนไทยเนี่ย!!

ตอนนี้ไม่เข้าเฉลิมไทยเลยค่ะ รำคาญมากๆ
คนเค้าจะมีลูกมีผัว เจือกเรื่องของเค้ากันจริงๆ มาพูดอยู่ได้เป็นดาราๆๆๆๆ ดาราแม่งก็คนนะเว้ย ไม่ใช่เทวดา มีดีมีเลวปะปนทั่วไป ประสาทมั่กๆ

เห็นด้วยกับคุณรำเพยค่ะ

แอะ... ตะกี๊ โพสท์ความเห็นผิดห้อง ( พอดีไปอ่านอันนั้นอยู่น่ะ แฮ่... )

บล็อกสวยจังเลยครับ

อืม... แต่สำหรับเรื่อง... คุณแหม่มแคทลียาท้องนั้น...

ผมก็ยังมองว่า... เค้าเป็นคนของสังคมอยู่ดีนะ

และ เค้าก็ต้องพยายามเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมด้วย เพราะฉะนั้น หากดารา ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม ( ไม่ว่าดาราคนไหน )

ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

จริงอยู่ หน้าที่ในการดูแล อบรม สั่งสอน เป็นของพ่อแม่... และครูบาอาจารย์ แต่... เราก็ต้องยอมรับอีกอย่างหนึ่งว่า... สื่อ... ก็มีอิทธิพล ต่อการรับรู้ของคนในสังคม

ถ้า...มีคนที่มีชื่อเสียง หรือดารา นักร้อง ทำเรื่องไม่ดีไม่งามกันบ่อยๆ คนในสังคม... ก็จะเริ่มมองว่า... มันเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ใครๆเค้าก็ทำกัน

และนั่น... คือจุดหนึ่ง ที่ทำให้สังคมเสื่อมทรามลง


เพราะคน เริ่มคิดว่า... ใครๆ ก็ทำกัน การยับยั้งชั่งใจ หรือ ความเหมาะสม ก็จะลดลง

การที่สังคมเสื่อมทรามลง ก็เป็นเพราะ "ทุกคน" ที่ไม่พยายามเป็นคนดี ไม่พยายามไม่ทำสิ่งไม่ดี หรือ... คิดเพียงแค่... ไม่ใช่เรื่องของกู ไม่ใช่เรื่องของฉัน ไม่ใช่หน้าที่

เหมือนกับ... ที่ ทุกวันนี้ ... เราส่วนใหญ่ ก็คิด ก็รู้สึกว่า... ครูดีๆ คนดีๆ เดี๋ยวนี้ มันน้อยลงกว่าสมัยก่อนมากแล้ว... ( ใช่ไม๊ครับ ? ) ( เอาตามสัดส่วนของคนในสังคมนะ )

เพราะอะไร ?

ปล. ผมไม่ได้มาชวนทะเลาะ หรือหาเรื่องนะครับ เพียงแต่ ... แวะมา แล้วก็เลย... มาคุยด้วย มาแสดงความเห็น... เท่านั้นเอง

ในฐานะที่เป็นคนที่มีเมนส์ไม่ปกติ และเคยหายไปกว่า 6 เดือน
เห็นด้วยค่ะ ว่ามีสิทธิที่เมนส์จะไม่มาโดยไม่ได้ท้องได้

แต่ว่า หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีลูก
ก็ควรจะเช็คหน่อย ถ้ามันหายไปซักสองสามเดือน
ทั้งนี้ เผื่อว่าคุณตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆ
จะได้รีบเตรียมตัวให้เหมาะกับการเป็นแม่น่ะค่ะ

อีกอย่าง ทราบมาว่า ยาสตรีเบนโลมีผลต่อทารกในครรภ์ด้วย

ยังงัย ท่านที่มีเมนส์ไม่ปกติ และมีพฤติกรรมเสี่ยง
ก็ตรวจซักหน่อยนะคะ ที่ตรวจครรภ์อันละไม่กี่บาท
แลกกับลูกที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่ได้เป็นการลงทุนที่สูงไปเลยค่ะ

เพื่อสุขภาพของลูกคุณนะคะ
(อันนี้เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ชอบใจเกี่ยวกับแหม่ม แบบเป็นห่วงลูกเค้าน่ะ)



ส่วนเรื่องแหม่ม เค้าจะบอก หรือไม่บอกมันก็เรื่องของเค้าอ่ะนะ
คนเราจำเป็นต้องบอกความลับให้กับทุกคนในโลกหรอ
คนที่ออกมาโวยวายว่าไม่ยอมบอกเนี่ย
ไม่มีสิ่งที่ปิดคนอื่นบ้างหรืองัย
บางเรื่อง บางอย่าง มันก็ต้องเลือกคนบอกจริงมั้ย

แต่ไม่เบื่อ ไม่รำคาญนะคะ เพราะไม่ได้อ่าน ไม่ได้สนใจ 555

ตอบคุณนกไฟนิลมังกร ...รำเพยก็ไม่ไ้ด้คิดว่าคุณชวนทะเลาะนะคะ แต่รำเพยเชื่อว่า ..แหม่มไม่รู้ว่าตัวเองท้อง ดังนั้นเค้าไม่ได้โกหกใคร...

เหตุที่เชื่อว่าเค้าไม่รู้เพราะว่า
1 คนมันมีเมนผิดปกติ มันเป็นได้นา
2 ถ้าแหม่มรู้้ว่าตัวเองท้องแน่ๆ เค้าคงไม่กินยาเบนโลหรอก

นั่นคือสิ่งที่รำเพยคิดจริงๆนะ ว่าเค้าไม่รู้น่ะค่ะ เพราะว่าถ้ารู้ว่าท้อง คิดว่าเค้าคงไม่คิดจะทำร้ายลูกเค้าหรอกนะ

จริงๆนะ

ปล. ถ้าคนที่เมนมาไม่ปกติน่ะ คงไม่คิดว่าตัวเองท้องหรอก เพราะว่าโอกาสท้องมันยากมาก คนมีประจำเดือนปกติๆ ยังท้องยากจะตาย นี่ไม่ปกติ ใครมันจะไปคิด

เอ หรืออิชั้นจะมองคนในแง่ดีเกินไป

เอิ๊กๆๆ

ปกติถ้าคนที่มีแฟน มีเพศสัมพันธ์ แล้วเมนส์ไม่มีซักสองสามเดือน ก็ต้องฉุกใจมั่งค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ถึงแมห้เมนส์จะไม่เคยมาปกติ แต่ภาวะแวดล้อมก็น่าฉุกคิดได้ ประจวบกับท้องโตขึ้นด้วย

สรุปเรื่องนี้ดฺแนสงสารคุณแหม่ม แต่เคืองๆฝ่ายชาย ทำไมไม่ทำตัวเข็มแข็งปกป้องคุณแหม่มมากกว่านี้ มีแต่คุณแหม่มที่พูดฝ่ายเดียว

เห็นด้วยอะนะ คิดว่าเขาน่าจะมีเหตุผลลึกๆนะ แล้วทุกอย่างก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบทั้งนั้นอะ บางทีเจ้าตัวเขายังไม่ทันพูดเรื่องแต่งงานแต่คนอื่นเอามาพูดซะก่อนทีนี้ถ้าเค้าแต่งเพราะท้องสองสามเดือนก็ว่าไล่จับผู้ชายอีก ไม่ว่าเจ้าตัวเขาจะพูดอะไรไปก็ตามอะนะ สรุปแล้วเค้าทำถูกต้องที่เอาลูกไว้ คนน่าจะดีใจกับเด็กถึงจะถูก ก็บอกคำเดียวว่าคุ้มค่านะ ถึงแม้คุณแหม่มจะเสียแฟนคลับที่ไม่รักจริงไป แต่ก็ได้ลูกที่น่ารักมาเชยชม ไม่ใช่รักหน้าตาตัวเองมากกว่าเลือดเนื้อ ดีใจ ดีใจอะที่จบได้ด้วยดี

ใช่เลยข้างบนเนี้ย

อืม กรณีเป็นคนธรรมดาก็คงพูดเต็มปากล่ะครับว่าเรื่องส่วนตัว

แต่ว่า พอเค้าใช้ชื่อเสียงและหน้าตา ภาพลักษณ์เป็นการเครื่องหมายการค้า และทำมาหากิน รายได้ของเค้ามาจากการขายภาพลักษณ์ทั้งนั้น แบบนี้ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์หน่อยครับ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ เพราะว่า ขายชื่อเสียง แต่ว่า ตอนจะมีเรื่อง จะมาขอบอกว่าไม่อยากมีชื่อเสียง ก็คงไม่ได้

เช่น เป็นครู จะไปเที่ยวกลางคืน ก็ได้ แต่ว่า ก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หรือหากว่าเป็นนักการเมือง ถ้าทำธุรกิจกำไรมากมาย แต่ก็คงจะมีคนส่วนหนึ่งคิดว่า ตำแหน่งการเมืองอำนวยประโยชน์อยู่ดี

ส่วนตัวผม ถ้าแหม่มเป็นคนข้างบ้าน ก็คงยินดีที่จะมีลูก จะแต่งหรือไม่ การที่มีเด็กเกิดมาใหม่ก็น่ายินดีทั้งนั้นล่ะครับ

แต่ว่า ถ้าเป็นคนที่ขายชื่อเสียง ขายภาพลักษณ์แบบนี้มาก่อน จะมาบอกว่า ตอนนี้ชั้นจะไม่ขายล่ะ ก็ดูจะเอาเปรียบผู้บริโภคไปมั้ยครับ เหมือนบอกว่า มีบริการหลังการขายตลอดไป แต่ว่าตอนนี้ชั้นไม่สบายใจนะ ของดบริการแล้วกัน แบบนั้นน่ะครับ

เรื่องคนบอกว่าไม่ทราบว่าท้องนี่ก็เหมือนกันครับ ถ้าเป็นคนทั่วไป ถ้ามีคนทักว่าตัวเองท้อง ก็คงหาทางจะรู้ว่า มันจริงไหมทั้งนั่นล่ะครับ เดี๋ยวนี้การตรวจการตั้งครรภ์ก็ไม่ยากหรอกครับ ซื้อชุดตรวจได้เยอะแยะ เรื่องนี้ก็เรื่องนึงที่น่าสงสัย

จะว่าไป ก็เรื่องชาวบ้านทั้งน้านนนน 5 5 5 ผมเองก็คล้าย ๆ กับคุณรำเพยล่ะครับ คือคิดว่า แสดงไม่ดี แต่ว่า เค้าสวย ให้อภัยได้เสมอล่ะครับ เหอ เหอ เหอ

ที่มาตอบก็แค่แสดงความเห็นนะครับ เพราะว่า ผมก็ยินดีกับการที่เค้าจะมีลูกมีครอบครัวอย่างจริงใจจริง ๆ เค้าจะโกหกไม่โกหก ก็ไม่ได้สนใจล่ะครับ เป็นแฟนตัวปลอม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดของเขาขนาดนั้น

และเรื่องที่ว่าเป็นตัวอย่างแก่เด็ก ๆ นี่ มีส่วนบ้างครับ แต่ว่า อย่างที่รำเพยว่าแหละ ถ้าพ่อแม่ยังสอนไม่ได้ ลูกจะเอาอย่างดาราก็ต้องทำใจล่ะนะครับ

คนดังก็ลำบากเช่นนี้แล

เราชาวธรรมมะ อย่าไปว่าเขาเลย สงสารเขานะ
เขาคงมีปัญหาของเขา เอาใจช่วยให้เขาผ่านพ้นชีวิตช่วงนี้ดีกว่า

มาที่นี่แล้วสบายใจ ไม่มีใครด่าใคร

แหม่มเค้ารอฝ่ายชายเคลียร์เรื่องเมียคนปัจจุบันให้เรียบร้อยก่อน ค่อยแถลงข่าว น่ะ


ส่วนเรื่องไม่รู้ว่าท้องนั้นเป็นไปไม่ได้ครับ
เมนส์ไม่มา5 เดือนไม่ใช่ปัญหา มี ญ เป็นแบบนี้เยอะแยะ
แต่นี้เมนส์ไม่มา ท้องมันก็ป่องๆๆๆๆ เด็กก็ดิ้นๆๆ อาบน้ำทุกวันไม่รุ้ได้ไงจ๊ะ หนู

ปล. เข้าใจว่าไม่ใช่ 5 ด้วยแหละ ประมาณ6-7 นะก๊า

^
^
จริงหรอคะพี่หมาร่าฯ

โอ้

น้าหมา ปล่อยข่าวอะไรน้าหมา

แปดหมื่นแล้วพี่ พักเรื่องแหม่มไว้ก่อน
ขอดู bg ฉลองแปดหมื่นหน่อยจิคะ 55


ปล. ตกลงเรื่องนี้มีหลายเบื้องหลังจัง -__-"

ทำให้หน่อยดิ ขี้เกียจทำเหลือหลาย

^
^
ว่าแล้ว ต้องได้คำตอบเดิม 555
ไม่น่าถามเลย แหะๆ

เท่าที่ตามๆ ดู เค้าว่าคุณว่าที่มีภรรยามีลูกแล้วนะคะ

เรื่องคนบอกว่าไม่ทราบว่าท้องนี่ก็เหมือนกันครับ ถ้าเป็นคนทั่วไป ถ้ามีคนทักว่าตัวเองท้อง ก็คงหาทางจะรู้ว่า มันจริงไหมทั้งนั่นล่ะครับ เดี๋ยวนี้การตรวจการตั้งครรภ์ก็ไม่ยากหรอกครับ ซื้อชุดตรวจได้เยอะแยะ เรื่องนี้ก็เรื่องนึงที่น่าสงสัย

โดย: dont wanna no

เห็นด้วยกะคุณ dont ประเด็นนี้ง่ะ
ถ้ามีคนทักว่าท้องง่ะ
ก็น่าจะให้ใครก็ได้ไปซื้อชุดทดสอบ
มาลองดู..เพราะแหม่มเองก็รู้อยู่แก่ใจ
ว่าตัวเองไป xx มา ก็น่าจะกังวลใจอยู่บ้าง

คือว่าไม่ได้มาชวนทะเลาะนะคะ

- ที่ว่าแหม่มไม่รู้ว่าตัวเองท้อง

อันนี้คือว่ามีคนที่เค้าทำงานอยู่ด้วยกันกะแหม่ม ฟันธงมาค่ะว่าแหม่มรู้ตัวมาตลอดว่าตัวเองท้อง แล้วก็มีอาการแพ้ท้องในกองถ่ายรายการจริงๆค่ะ

ส่วนเรื่องที่ออกมาบอกช้านี่คือว่าแหม่มเค้ารอฝ่ายชายอ่ะแหละ พูดง่ายๆคือ เหมือนๆฝ่ายชายจะไม่ยินดี(ยอมรับ)ซักเท่าไหร่ แล้วก็เคลียเรื่องเมืยเรื่องลูกเค้าด้วย (ข่าวเค้าว่ามาว่าหนังสือพิมพ์ยักใหญ่เหมือนๆมาขอให้ฝ่ายชายออกมายอมรับกับสือประมาณนี้อ่ะ ถ้าไม่มีหนังสือพิมพ์มาออกหน้าฝ่ายชายก็ยังคงไม่ออกมา)

แล้วเรื่องข้ออ้าง+ข้อแก้ตัวต่างๆ นี่จะมีที่ปรึกษามาบอกให้พูดแบบนี้แบบนี้ ง่ายๆคือบ.โพลีพลัส เค้าจะมีเหมือนๆทีมงานออกมาคอยคิดคำตอบข้อแก้ตัวให้ดูดีที่สุด (แต่ข้อแก้ตัวมันฟังไม่ขึ้นเลยแฮะ)

ส่วนเรื่องเบนโลส่วนตัวคิดว่าเค้าคงจะไม่ได้กินจริงๆ อาจเป็นข้ออ้างมากกว่า เพราะแหม่มรู้ตัวมาตลอดว่าท้อง หรือถ้ากินจริงก็อาจจะเป็นไปได้ว่าที่คิดจะ...

จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ความผิดของแหม่มคนเดียวหรอกค่ะ ก็น่าเห็นใจในแง่ที่ว่า ตอนท้องช่วงแรกๆก็ไม่สามารถออกมาบอกได้ด้วยหน้าที่การงาน แล้วก็ฝ่ายชายที่ยังเคลียกะเมียเก่าไม่ได้ ก็เลยต้องบอกนักข่าวไปว่าไม่ได้ท้อง(ในตอนนั้นทำได้ดีที่สุดแค่นี้) และถ้าเป็นคุณอยู่ในสถาณการณ์นั้นก็คงทำแบบเดียวกัน และเผื่อว่าถ้ามีการแต่งงานปุ๊ปปั๊ปในตอนนั้น ก็จะได้ไม่ต้องบอกนักข่าวว่าท้องก่อนแต่ง เพราะแต่งแล้ว(อาจจะคลอดก่อนกำหนด)เหมือนที่ดาราเค้าทำกันหลายๆคน แต่ว่าเวลามันก็ผ่านมาตั้ง5เดือน ท้องก็ป่องขึ้นทุกวันๆ ก็เลยต้องออกมาแถลงข่าว เพราะมันทำอะไรไม่ได้แล้ว จัดงานแต่งงานก็ไม่ทันซะแล้ว

ขี้เกียจพิมพ์ละเอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะจ้ะ คุงรำเพย อย่าว่ากันน๊าแล้วก็มะได้ชวนทะเลาะด้วยง่า

อ่านจากข้างบนแล้วยิ่งงง ไปยุ่งกะผู้ชายหน้าตาเหียกๆ แถมมีลูกมีเมียแล้วทำไมเนี่ย????

โอ้ววว อาไรวะเนี่ย

วันนี้ได้ฟัง(คนที่บอกว่า)วงในมา

กรุณาใช้วิจารณญานในการอ่านนะคะ


เจ้าตัวรู้ตัวว่าท้องตั้งแต่ตอนสามเดือนแรก ที่มีข่าวว่าไปหาหมอ
แต่ไม่รู้ว่าท้องกับใคร คนที่เข้าข่ายมีสองคน
คือคนที่เป็นข่าว กับลูกชายนักการเมือง
พี่ชายวิ่งไปหาทั้งสองฝ่าย แต่ไม่มีใครยอมรับ
ทางเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงไปถามเพื่อนกระเทย (คาดว่าเป็นคนให้ข่าว)
จนได้เบนโลมาทาน เพื่อจะขับออก
ปรากฎว่าแทนที่จะออกกลับยิ่งอ้วนขึ้น
แถมในขณะนั้น พี่ชายก็ยังไม่สามารถติดต่อทั้งสองฝ่ายให้ยอมรับได้
เจ้าตัวไม่รู้จะทำอย่างไรจึงคิดจะไปจัดการที่เมืองนอก
เพื่อนจึงแนะนำให้ไปหาหมอจีน เพื่อทานยาขับ
หมอให้ยามาเป็นชุด ต้องทานต่อเนื่อง
เป็นยาที่ทำให้ฝ่อ แล้วขับออกมา
ก่อนจะถึงชุดสุดท้าย พี่ชายวิ่งไปบอกบ้านที่เป็นข่าวว่า
นี่จะฆ่าเลือดเนื้อตัวเองหรือ ฝ่ายชายที่เป็นข่าวจึงยอมรับ

แต่ที่บ้านฝ่ายชายไม่ยอมรับ
เพราะอีกอย่าง ฝ่ายชายมีภรรยา และลูกอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เป็นการยอมรับที่อยู่บนเงื่อนไขว่า
เมื่อคลอดแล้วให้เอาไปตรวจ DNA ว่าใช่หรือไม่
ถ้าใช่ ก็จะยอมรับ และแต่งงาน (ตรงนี้งงมาก ว่าแต่งได้อีกหรือ)
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็จะให้อยู่กันอย่างนี้ต่อไป

และในทั้งสองกรณี ห้ามเจ้าตัวยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของฝ่ายชายที่เป็นข่าว



นี่มันละครหลังข่าวนี่ -___-"

ฟังแล้วสงสารเด็กมาก ไม่รู้เป็นยังงัยแล้ว T-T

วุ้ย ยุ่งไปกันใหญ่

เรื่องของเรื่องที่อิชั้นเขียนบ๊อกนี้น่ะ จะบอกแค่ว่า

ไปยุ่งอะไรกับคนเค้าจะท้องจะไม่ท้องทำม้ายยย

ต่อให้ไปท้องกับแฟน/สามี คนอื่น แล้วไอ้ที่อยู่ในท้องเค้า มันก็ยังไงก็ลูกเค้าครึ่งนึงแหละ

คนจะดีจะชั่วมันก็ตัวเขา เราไม่ต้องไปตัดสินหรอก คุณนึกเหรอว่าเวลาคนเราทำอะไรผิด ทำอะไรไม่ดี ใจมันจะไม่ทุกข์ กรรมมันจะไม่มี

ชีวิตของเค้าเรื่องของเค้า

สงสารเด็กน่อ เด็กยังไม่ทันคลอดคนก็พูดกันไป เกลียดกันไป

เด็กผิดอะไรด้วย ห๊า

ชอบเรื่องนี้ของคุณรำเพยจัง
คิดเหมือนกันค่ะ แต่ถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้ไม่ดีเท่าคุณรำเพย
ในความรู้สึกของตัวเองคือ เราน่าจะยินดีกับเด็กที่กำลังเกิดมาบนโลกใบนี้ เด็กๆ ทำให้โลกสวยงามนะคะ จริงไหม

สนับสนุน คุณรำเพยทุกความคิดเห็นค่ะ เขียนได้เหมือนมานั่งอยู่ในใจเลย

เราว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวก็จริง แต่เขาเป็นคนของประชาชนนะ ไม่น่ามาบอกว่าอ้วนตั้งแต่แรก
ถ้ายอมรับความจิงไปก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ

ส่วนเรื่องออกมายอมรับแล้วก็ ดีใจด้วยที่เขาท้อง
แต่เห็นมีเอาผ้ารัดๆท้องด้วย ไม่รู้ว่ามีผลไรกับเด็กรึป่าว?

เด็กในท้องไม่ได้ผิดอะไร..
ปกปิดหรือเปล่าก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของผม..
จะคบกับคนไหนก็ไม่มีใครว่า..
เอาใจช่วย อยากให้ได้คนดีดี.. ชีวิตจะได้มีความสุข

แต่สิ่งที่ออกมาถึงกับอึ้ง..
ภาพพจน์ของเธอที่ทำได้ดีขนาดนี้
กลับมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้หญิง

ไม่หักห้ามใจ อยากจะมีอะไรก็มี

... ถ้าผู้หญิงคนนึงหน้าตาไม่สะสวยอย่างนี้
... ถ้าไม่มีชื่อเสียงโด่งดังแบบนี้
... ถ้าเป็นเด็กที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่
เผลอตัวเผลอใจไปมีอะไรกับแฟน แล้วเกิดท้องขึ้นมา
ผู้ชายไม่ยอมรับ ขับไล่ไสส่ง... จะเป็นยังไง???

จะเกิดแบบนี้ขึ้นอีกกี่ครั้งในเมืองไทย???

ตอนที่เห็นกระทู้ทุกกระทู้ ก็อยากจะด่าคนตอบ (บางคนเหมือนกัน) ว่าไปเจือกเรื่องอะไรของเค้า คุณไม่ใช้เจ้าของชีวิตเค้า ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน ถ้าได้มาด่ามาประนามเค้าได้แบบนี้

ปล. ที่ว่าไปข้างบนไม่ได้ตอบอ่ะ แต่ด่าพวกที่ทำงาน ตอนออกข่าวเสียงดัง วิจารณ์กันอยู่นั่น เราก็ทำงาน ติดสายลูกค้า เสียสมาธิหมด (โตๆ แก่ๆ กันแล้วทั้งนั้น แต่เรื่องเจือกเรื่องชาวบ้านนี่ชอบกันนัก ยิ่งพวกผู้ชายบางคน ยังมีหน้ามาพูดว่าทำไมไม่เป็นตัวเอง พวกนี้นี่สมควรด่ามากๆ แล้วผู้หญิงบางคน (เพื่อนเราแท้) ก็ผสมโรงด่ากะเค้าไปด้วย ไร้สาระที่สุด เรียนก็ออกสูง สติปัญญาก็ดี EQ ต่ำ)
ปล 2. ขอโทษเป๋ยด้วยที่ด่าแรง แบบว่าน๊อตหลุด

แต่สิ่งที่ออกมาถึงกับอึ้ง..
ภาพพจน์ของเธอที่ทำได้ดีขนาดนี้
กลับมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้หญิง

ไม่หักห้ามใจ อยากจะมีอะไรก็มี
----------------------------------------

ตอบ--->
คุณดำคะ....ทำไมคิดว่าผู้หญิงต้องเอาดาราเป็นตัวอย่างละคะ
อิชั้นเป็นผู้หญิงคนนึงละ ที่ไ่ม่เคยคิดจะมองเอาดาราเป็นตัวอย่าง พ่อแม่เรามี เอาพ่อแม่ปู่้ย่าตายายเราเป็นตัวอย่างสิ เรื่องอะไรจะต้องไปสนใจกับดารา เค้ามาอบรมสั่งสอนอะไรเราเหรอ ??? เปล่าสักหน่อย พ่อแม่เรามี ทำไมจะต้องบ้าไปตามดาราด้วยละ พิลึก
---------------------------------------

... ถ้าผู้หญิงคนนึงหน้าตาไม่สะสวยอย่างนี้
... ถ้าไม่มีชื่อเสียงโด่งดังแบบนี้
... ถ้าเป็นเด็กที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่
เผลอตัวเผลอใจไปมีอะไรกับแฟน แล้วเกิดท้องขึ้นมา
ผู้ชายไม่ยอมรับ ขับไล่ไสส่ง... จะเป็นยังไง???
---------------------------------------

ตอบ--->
สวยแล้วยังไง? ไม่สวยแล้วยังไง? ผู้หญิงก็มีมดลูก ผู้ชายก็มีสเปิร์ม ถ้ามีอะไรกันแล้วโง่จัดปล่อยให้ท้องได้ ไม่รู้จักคุม จะโทษใคร ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ไม่สั่งสอนเอง

ไม่สั่งสอนให้ลูกรู้จักดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ไม่สอนให้ลูกรู้จักการคุมกำเนิด
พ่อแม่ไม่สอน หวังจะให้ครูสอนเหรอ? ป่านนั้นก็สายไปแล้วละคุณ สมัยนี้น่ะ นี่ยิ่งหวังจะให้ดาราทำเป็นตัวอย่าง ไม่ไหวมังคะ ของแบบนี้ไม่เริ่มที่บ้านก็ไม่รู้จะโทษใคร
----------------------------------------

จะเกิดแบบนี้ขึ้นอีกกี่ครั้งในเมืองไทย???
----------------------------------------

ตอบ---->
ใครจะไปรู้ ถ้าตราบใดที่เรายังไม่คิดจะสอนลูกหลานของเรากันเอง มันก็คงเป็นแบบนี้อยู่ร่ำไปแหละค่ะ

โทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง

พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ต้องเป็นตัวอย่างของลูกหลาน สอนลูกหลานของตนได้ ไม่ใช่ให้ไปเชื่อถืออะไรกับดาราไปหมด ไร้สาระโดยแท้

แอน ไม่ต้องขอโทษ อย่างแอนเขียนน่ะ ไม่แรง เราว่าเฉยๆ เอิ๊กๆๆ

อย่าด่าดารากันเลย ดาราก็แค่คนๆหนึ่งที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากได้การยอมรับ
..ซึ่งถ้าไม่ได้โกงกินชาติบ้านเมือง รักประเทศ รักราชวงศ์
..แล้วก็ไม่เคยเป็นคู่แค้นอะไรกับเราก็อย่าไปด่าว่าเค้าเลย...

^
^
^
แม่นแล้วคะร้าบบบ เค้าก็แค่คนธรรมดาๆที่หน้าตาดีอะ

ไม่ได้ด่าใครอ่ะ แต่อยากให้คนที่มีโอกาสเสี่ยง
หันมาดูแลตัวเองซักหน่อย

สงสารพัฒนาการของเด็ก และสุขภาพของเด็กในอนาคต


พอดีมีลูกพี่ลูกน้อง ไม่รู้ตัวตอนเพิ่งท้องเหมือนกัน
เลยไม่ได้ดูแลช่วงแรกดีเท่าที่ควร
ตอนนี้ลูกเป็น Autistic สงสารพี่และครอบครัวมาก
เลยค่อยข้างไม่ชอบใจ และอยากให้คนระวังเรื่องนี้ด้วยน่ะค่ะ
ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคุณแหม่มหรอก
เป็นคนอื่น ถ้าได้อ่านเรื่องแบบนี้มันก็จี๊ดขึ้นมาเหมือนกัน

ส่วนเรื่องเป็นแบบอย่าง อะไรเนี่ย
ทำไมไม่เอาเรื่องดีๆ เป็นแบบอย่างกันละคะ
คนดีๆ รอบตัวมี แต่ไปตามแบบเรื่องที่ไม่งาม
อันนี้ก็โทษใครไม่ได้ นอกจากไม่ได้รับการปลูกฝังให้เลือกสิ่งที่ดีเข้ากับตัว

มองสูงก็ได้สูง
มองต่ำก็อยู่อย่างนั้นแหละค่ะ


ปล. เขียนแบบพี่แอนอ่ะจิ๊บๆ 555
เทียบเจ้าของ blog ไม่ได้หรอกเนอะคุณพี่สาวจ๋า ^_^

ขออีกทีเฮอะ

พวกที่มานั่งวิพากษ์วิจารณ์เค้าเป็นวรรคเป็นเวรเนี่ย ไม่รู้อะไรกันนักหนา บางคนบอกผิดหวังมาก เสียใจมาก เฮ้อออ ใครเค้าใช้ให้คุณไปตั้งความหวังกะคนอื่นละคู๊ณณณ เรื่องส่วนตัวเค้า เค้าจะเอากะใคร ท้องกะใคร โกหกใคร มันหนักกบาลใครนักหนา ไปอุ้มท้องเก้าเดือนกะเค้าด้วยเหรองัย

แล้วอีกอย่างนะ มีใครรู้ความจริงนอกจากคำว่า "ได้ยินมาว่า...." หรือ "เค้าบอกมาว่า...." หรือ "อ่านจากซ้อเจ็ด ได้ความว่า..."

เรื่องอัปปรีย์จัญไรของชาวบ้านเนี่ย ยิ่งใหญ่กว่าเรื่องตัวเสมอแหละ น้ำเน่าเจรงๆเฟร้ย

หลงมาอ่านค่ะ จริงๆ แล้วกวาดสายตาคร่าวนะคะ
เรื่องแหม่มไม่ขอออกความเห็น เพราะเอียนเหลือหลาย

เห็นด้วยอย่างเดียวตรงที่ว่าพ่อแม่มีหน้าที่เลี้ยงดูเด็ก ไม่ใช่หน้าที่ของดาราค่ะ เกิดเรื่องแบบนี้ดีจะตายไป เอากรณีของแหม่มเป็นตัวอย่าง ถือโอกาสสอนลูกไปเลย

เห็นด้วยกะเจ้าของบล็อก ยกสองมือเรย
แต่ ไม่คิดว่าเค้าจะไม่รุ้ว่าท้อง..
แต่เป็นสิทธิ์ของเค้าที่จะบอก หรือไม่บอกใครก็ได้
พวกที่มาพูดๆว่าเค้าทำให้ศีลธรรมเสียไปเนี่ย...เอาอะไรคิดหว่า...เรื่องท้องก่อนแต่งเป็นเรื่องธรรมชาติ

แถมมาโวยวายๆๆๆว่าเค้าหลอกลวงประชาชน เค้าหลอก..เค้าไม่บอก..ประชาชนเสียตังให้เค้ารึเป่าก็ไม่รู้ ไม่ มีเหตุผลกันเรย

เอ้อ ไอติมคิดเข้าท่า

ถ้าสังคมตอนนี้เข้มแข็งก็คงดี...

ผมก็แค่เป็นห่วงสังคมที่เราอยู่กันนี้...
ผมเจอนิสิตหลายคนที่มีปัญหาพวกนี้..
เพราะค่านิยมที่อิสระเกินไป..
เพราะครอบครัวไม่เข้มแข็ง..

หลายคนเป็นมหาบัณฑิตแล้วยังไม่รู้จักคิดเลย
ผมกับภรรยาต้องยื่นมือเข้าไปช่วยหลายต่อหลายครั้ง
ส่วนใหญ่ก็เริ่มจาก.. เขาคิดว่าเขาทำได้.. เพราะคนนั้นยังทำได้.. คนนี้ยังทำได้..
โถ.. เจ้าหนูน้อย.. เจ้ายังอ่อนเยาว์ต่อมายาของโลกนี้นัก

หวังเอาไว้ว่าจะเกิดปัญหาท้องก่อนวัยอันควรจะน้อยลง
หวังเอาไว้ว่าจะไม่มีข่าวร้าย ๆ อย่างแอบคลอดแล้วทิ้งเด็กให้ตายอีก

ใครที่ได้ข่าวก็คงจะพูดเหมือน ๆ กัน
เด็กมันไม่รักดี...พ่อแม่มันไม่รู้จักสอนลูกให้ดี
แล้วก็จบกันไป.. แต่ไม่มีใครติดตามผลหลังจากนั้นว่าชีวิตพวกเขาเป็นอย่างไรต่อไป

บังเอิญว่าผมเคยช่วยแก้ปัญหาให้คนหลายคน..
เคยต้องช่วยคุยกับผู้ปกครองของพวกเขาทั้งสองฝ่าย
ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องอะไรของผมเลย...
เพียงแค่ผมคิดว่า เราไม่ควรที่จะละเลยเขาเมื่อชีวิตอันสวยงามของเขาเริ่มมีปัญหาก็เท่านั้นเอง

ผมเพียงแค่อยากให้ช่วยกันใช้กรณีนี้ในการ "สอน" กับเยาวชนในสังคมว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ "มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควร"... แค่นั้นจริง ๆ
เพราะผมเชื่อว่า.. ถ้าร่วมมือกัน.. สังคมนี้จะดีขึ้น
อาจจะไม่ใช่ในรุ่นผม.. ไม่ใช่ในรุ่นคุณ
แต่ถ้าเริ่มทำวันนี้ รุ่นลูกหลานของเราจะได้รับ
"โอกาสที่ดี สังคมที่ดีที่จะใช้ชีวิตอยู่"

"ขอโทษครับ"
ที่ข้อเขียนของผมทำให้เกิดความไม่พอใจ

แอนคิดว่า ข้อคิดของคุณ Darkside of the White เป็นข้อคิดที่ดีค่ะ สิ่งที่สังคมอยากได้คือแบบนี้ คนที่คิดถึงปัญหาแล้วแก้ไข ไม่ใช่คิดแต่จะวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำเติมคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น เชื่อว่าเจ้าของบล๊อคก็คงเห็นแบบนี้เหมือนกัน
ประเด็นคงไม่ใช่จะมาโต้เถียงกันว่าผิดหรือถูก แต่ที่เจ้าของเปิดประเด็นขึ้นมาน่าเพราะการประโคมข่าวและวิพากษ์วิจารณ์กันจนเลยเถิดมากกว่า

คุณสีดำ

รำเพยไม่ได้ไม่พอใจหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเวลาเขียนรำเพยเขียนตรงเป็นขวานผ่าซากมานานนักหนาแล้ว คนไม่ชินอาจจะนึกว่าไม่พอใจ ....ถ้าไม่พอใจจริงๆน่ะ ลบไปแล้ว ....เพราะว่านี่มัน blog ส่วนตัว จะลบก็ได้ ถ้าไม่พอใจก็ลบไปแล้วสิคะ จริงไหม?

รำเพยแค่สะดุดกับความคิดนี้ของคุณแค่นั้นแหละค่ะ
แต่สิ่งที่ออกมาถึงกับอึ้ง..
ภาพพจน์ของเธอที่ทำได้ดีขนาดนี้
กลับมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้หญิง

ถึงได้เขียนถามไปว่า ...ทำไมคิดว่าผู้หญิงต้องเอาตัวอย่างจากคนๆนี้?

รำเพยไม่โทษเด็ก แต่ว่าโทษตัวพ่อแม่นั่นแหละ ว่าสอนลูกกันยังไง เรื่องแบบนี้ต้องเริ่มที่บ้าน ค่านิยมของที่บ้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้แต่คนเป็นครูน่ะก็ทำอะไรไม่ได้มากนักหรอก ที่รู้ก็เพราะตัวเองเคยเป็นครูจึงเข้าใจ

การจะสอนหรือปลูกฝังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพศ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวจริงๆ โดยเด็กจะเรียนรู้จากการกระทำของพ่อแม่ และเรียนรู้จากการพูดหรือสั่งสอนของพ่อแม่ นี่พูดจริงๆเลยนะ ถ้าพ่อแม่ไม่สอนกันให้ดีน่ะ คนอื่นสอนก็ไม่ได้ผลหรอก

รำเพยทำได้ก็อย่างที่เขียนไว้ใน sexplain น่ะค่ะ (ดูจากเมนุเอาแล้วกัน) ทำได้แค่สอนให้คุมกำเนิดให้เป็น ให้รู้จักโรคภัยมากขึ้น สอนให้ระวังตัว ส่วนไอ้เรื่องสอนให้คุมกำหนัดน่ะ จนปัญญาข้าพเจ้าจริงๆ

ส่วนไอ้เรื่องสอนให้คุมกำหนัดน่ะ จนปัญญาข้าพเจ้าจริงๆ

5555

เรียนคุณรำเพย

ขอบคุณมากเลยครับที่มาอธิบายเพิ่มเติม

และเห็นด้วยกับบทความที่คุณรำเพยเขียนวันนี้
เรื่องของนิสิตที่ไม่เคารพเครื่องแบบ
น่าจะมาจาก "จิตสำนึก".. ที่มันมีน้อยไปหน่อย

มนุษย์เรา.. มีแนวโน้มที่จะทำตามใจตัวเองมากขึ้น
หย่อนกฏระเบียบลง และคล้อยตามสังคม
พอเห็นใครซักคนทำได้ ก็คิดจะทำบ้าง

พอคนกลุ่มหนึ่งเริ่มละเลยเรื่องจิตสำนึก
ขณะที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวไม่ได้สนใจ
ผู้ใหญ่ในสังคมก็เฉยชาไม่ทำอะไร
เด็กที่ยังไม่เต็มเหตุเต็มผลก็จะรู้สึกว่า... ทำได้นี่
แล้วก็ทำตามกันบ้าง (เมื่อมีโอกาส)

เมื่อยี่สิบปีก่อนคงไม่มีทางได้เห็นนิสิตปีหนึ่งเดินกอดกันอย่างโจ่งแจ้ง.. อย่างมากก็แอบจับมือกันตอนไปออกค่าย...นานทีปีหน
สิบปีที่แล้วก็พอมีจูงมือถือแขนให้เห็นบ้าง..
ปีนี้เดินกอดกันเห็นตำตาอยู่บ่อย ๆแม้แต่บนตึกจุลฯ

จิตสำนึกของสังคมเป็นไปในทางที่จะค่อย ๆ หละหลวมไปเรื่อย ๆ
เมื่อเวลาผ่านไป..ความผุกร่อนของจิตสำนึกในสังคมจะรุนแรงขึ้นจนเห็นได้ชัดเจน

ไม่ใช่เป็นแต่คนไทย.. แต่บางประเทศที่ให้ความสำคัญกับ จิตสำนึกพื้นฐานไม่มากพอก็จะพบเรื่องเหล่านี้ได้ มีนักคิดชาวอเมริกันDr.Stephen R. Covey ก็ชี้ให้เห็นประเด็นนี้ค่อนข้างชัดเจน และน่าเป็นห่วง

ละเลย และหละหลวมในจิตสำนึกที่ถูกต้อง
น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องช่วยกันดูแลครับ

เห็นด้วยกับคุณรำเพยค่ะ บล็อคนี้ตรงใจ....

จะบอกว่าสงสารแหม่ม ก็ดูจะเข้าข้างเกินไปมั้ย แต่คนล้มไปแล้วนะคะ เราอย่าข้ามกันเลย เค้าต้องการกำลังใจมากกว่าการซ้ำเติมนะคะ

สุขภาพจิตตอนแม่ท้องก็สำคัญมาก ถ้าคนที่เคยท้อง เคยมีลูกจริง ๆ จะรู้และเข้าใจจิตใจแหม่มตอนนี้มาก ๆ ว่า กดดันเหลือเกิน ....

เราก็ได้แต่สงสารเค้า และหงุดหงิดกับความเห็นบางความเห็นในพันทิพนะคะ ว่ารู้ดีจริงจริ๊ง ให้ม่อง...

แต่ทำไงได้ มนุษย์ก็คือปุถุชนคนหนึ่ง มีรัก โลภ โกรธ และหลง ..

แต่ก็อย่าให้ผิดประเด็นกันเลย ไม่สงสารพ่อแม่เด็กมัน ก็สงสารเด็กในท้องมันบ้าง เวลาแม่เครียดเนี่ย เด็กในท้องมันดิ้นมากเลยนะ เด็กเค้าจะไม่ได้พักผ่อนเอาน่ะ.....

ปล. ตอนที่มองหน้าแหม่มวันสัมภาษณ์ออกทีวี ก็รู้เลยว่า หน้าชื่นอกตรม เท่านี้ก็สงสารจับจิตแล้วล่ะ เห็นใจด้วย เค้าจะผิดอะไรยังไง เราก็ให้อภัยเค้าซะ เค้ายังมีโอกาสกลับตัวกลับใจ สำหรับตัวเค้าเองน่ะนะ...
เราเองก็คนนอก อย่าไปวิจารณ์ ใส่สีตีไข่ให้เค้าเสียหายมากขึ้นเลยเนอะ ๆ คุณรำเพยเนอะ

เห็นด้วยกับคุณรำเพยทุกประการจ้า...

เซ็งที่ออฟฟิสมากเลยค่ะ ทุกวันนี้มีแต่เรื่องแหม่ม

ก็แปลกดี ที่ analytical skills ของเรา ถูกนำมาใช้ กับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง (และมักเป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์) ซะมาก

ก็แปลกดี

ที่เค้าตำหนิแหม่มกัน ส่วนนึงก็ไม่ใช่เรื่องท้องก่อนแต่งหรือโกหกประชาชนหรอกค่ะ
แต่เพราะแหม่มเอง ดูไม่ค่อยรักฝ่ายชายซักเท่าไร ไม่เคยจะยอมรับเลยด้วยซ้ำไปมั้งว่านี่แฟนฉัน
แล้ว พอมีท้อง กินเบนโลมั่ง วิ่งมั่ง ใส่สเตย์รัดหน้าท้องมั่ง ทำงานลุยๆลำบากลำบนสารพัด
แล้วก็ปล่อยให้คนใกล้ชิดทะเลาะกับสื่อจนเสียหาย โดนด่ากันทั้งเมืองตั้งแต่คุณแหม่มอ้วนยันฝ่ายเสื้อผ้า
ละครเค้าจะเปิดกล้อง ก็ยังปิดบัง รับงานไว้ ไม่ได้คิดเลยว่าถ้าท้องจริง กำหนดการของทั้งกองถ่ายจะเป็นอย่างไร

ก็เลยออกจะไม่ชอบที่เธอนอนกับคนที่ไม่ได้รัก
ผิดพลาดขึ้นมาก็ยังไม่ใส่ใจดูแลตัวเองและลูก
มีพฤติกรรมคล้ายจะไม่เก็บเด็กไว้ทั้งๆที่มีความสามารถจะเลี้ยงดูได้โดยไม่ขัดสน
และ ไม่มีความรับผิดชอบต่องานด้วยค่ะ

ปลงๆซะบ้างเหอะโยม

มาแจมช้า เพราะไม่ค่อยได้เข้า bloggang แต่อ่านแล้วตรงใจค่ะ เพราะคิดเหมือนกัน รำคาญด้วย เห็นด้วยกะคุณรำเพยค่ะ ในเมื่อจริงๆ เค้าก็ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย ไม่ได้ไปฆ่าคนตาย (หรือหลายคนอาจจะเหมาว่าเค้าพยายามทำแท้ง) คนที่เสียก็มีแต่เจ้าตัวเอง แล้วจะไปเดือดร้อนกับเขาทำไม

แล้วจริงๆ แล้ว ก็ไม่มีใครรู้ความจริงหรอกว่าเป็นอย่างไร เรื่องเค้าท้อง เพราะ พลาด เผลอ หรือ ฝ่ายชายตั้งใจจับ โดยการเจาะถุงยาง อย่างที่เป็นข่าวลือ ก็ได้ ตอนนอน อาจจะรักกัน แต่หลังจากนั้นอีก 3 วัน จะเกลียดกันก็มีถมนี่คะ เหตุผลที่เขาไม่อยากเปิดเผยก็อาจจะมีตั้งมากมาย ลองคิดเหตุผลสักข้อ ว่าถ้าคุณเป็นแหม่ม หรือ เอาง่ายๆ กว่านั้น ถ้าเป็นตัวคุณเอง ที่ทำให้ไม่อยากบอกคนอื่นดูสิคะ อาจจะเข้าใจเค้าได้ดีขึ้นนะ

ขอออกความเห็นบ้างนะคะ คืออึดอัดใจเหมือนกัน ส่วนตัวก็ไม่ได้ชื่นชอบแหม่มเป็นพิเศษอะไรมากมาย พอรู้ว่าเค้าท้องก็รู้สึกอึ้งๆเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ได้โกรธหรือไปด่าเค้าเหมือนคนอื่นๆ ไม่ชอบเลยค่ะ มีกระทู้มากมาย โดยเฉพาะในเว็บผู้จัดการ ด่าว่าจนเกินความพอดี ได้อ่านบล๊อกของคุณรำเพยแล้วรู้สึกเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เคยคิดอยากจะบอกกับพวกกลุ่มที่ด่าเหมือนกัน แต่คิดว่าเค้าก็คงไม่เข้าใจ ต่อต่านซะปล่าวๆ อยากให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ทุกคนย่อมจะมีเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนและทำในสิ่งที่ตนคิดว่าดีที่สุดอยู่แล้ว

คุณเป็นตรง ๆ จริง ๆ เลย เจ๋งอ่ะ ไม่เคยเข้ามาอ่านเลยนะ เพิ่งจะเข้ามาเป็นวันแรกอ่ะนะแต่ว่าชอบการเขียนของคุณนะ ตรงดี ตรงกับตัวจริง ๆ แน่เลย แล้วจะอ่านต่อไปนะ