ฟันผุ 2 ซี่ กะ สมัยนี้เลี้ยงลูกกันยัง
วันอาทิตย์ครับ ไปนั่งกินขนมทับทิมสยาม(ทับทิมกรอบ) พอกินไปคำแรก แป๊ปปปปปปปป!! โอ้วววว อย่างเสียวว ฟันเจ้ากรรมเป็นไรไปเนี่ย ทำไมเสียวแป๊ปปวดขึ้นมาอย่างนี้
ไม่ได้การละ เดี๋ยววันต้องไปหาหมอซะหน่อย มะวานก็เลยไปมา ให้หมอตรวจ หมอบอกฟันผุนะจ๊ะ ท่าทางจะลึกถึงเกือบถึงรากฟันด้วย เริ่มคิดในใจ(ตูจะโดนถอนไหมเนี่ย )หมอบอกอุดได้ แต่ถ้ายังเสียวอยู่คงต้องรักษารากฟันล่ะ เฮ้อออ โล่งอกไป ก็ขูดหินปูนกะอุดฟันกันไป ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่มีอะไรครับ
ใช่มันก็ไม่มีจริงๆนั่นล่ะ แต่ไอ้ตอนก่อนที่ผมจะเข้าไปหาหมอนี่ดิต้องนั่งคอยคิวนาน จึงได้พบเห็นอะไรที่มันทำให้ หงุดหงิดขึ้นมา ตอนผมเข้าไปร้านหมอฟันน่ะ ก็มี ครอบครัวหนึ่ง มากันยังกะจะมากินข้าวร้านหมอฟัน เล่นขน ปู่ ย่า แม่ ลูก กันมาเลย ตัวแม่เองมีลูก 2 คน คนเล็กยังต้องอุ้มอยู่ ส่วนอีกคนเป็นเด็กผู้ชาย ประมาณ 7-8 ขวบ กะลังวิ่งเล่นเลย ไอ้เด็กคนนี้ล่ะ มันวิ่งเล่นซนในร้านหมอฟันซึ่งเป็นร้านเล็กๆ โดดขึ้นโดดลงเบาะที่นั่งคอย แม่กะปู่ ก็ไม่ว่า แล้วมันดันเบาะมาโดนขาผม ไปเล่นข้างหลังหัวผู้ใหญ่อีกคนที่นั่งคอยอยู่ แม่เค้าก็ไม่เห็นว่า ลูกก็ยังกระโดดขึ้นลง เอาเท้าเคาะกำแพงร้านซึ่งเป็นไม้เสียงดัง แม่แม่งงงก็ไม่เห็นว่า ไอ้เด็กนรกนี่ มันยังมาเล่นแถวผมอีก มาก้มมองเป้า มันจะมองทำไมว้าตูใส่ กางเกง ผมก็นั่งคิดในใจ ทำไม แม่เด็ก หรือ ทั้ง ปู่ ทั้งย่า ไม่คิดจะห้ามปราบพูดตักเตือนเด็กให้อยู่ในความสงบเลย ก็เห็นมีพูดมั่งแค่เรียกชื่อคำเดียว เด็กมันก็ยังวิ่งซนต่อ
สักพักไอ้เด็กคนนั้นมันไปเล่นที่ประตูครับ แล้วมีลูกค้าร้านหมอฟันเค้าจะเข้ามา เค้าก็เปิดประตูปกติ ช้าๆ เผอิญ ประตูไปโดนไอ้เด็กเวรนั่น มันก็เลยร้องครับ แหกปากลั่นเลยแล้วเดินไปหาแม่มัน ตอนแม่มันโอ๋นี่ล่ะ ผมรู้สึกหงุดหงิดมากเลย เพราะแทนที่จะโอ๋ไปหรือว่า บอกว่าลูกให้เห็นผลนี่ไงไปเล่นตรงประตู ถึงได้เป็นแบบนี้ วันหลังอย่าไปเล่นอีกนะ ปล่าวเลย แม่แม่มโอ๋ไปแล้วบ่นไปว่า เปิดประตูยังไงไม่ดูเด็ก อ้าว...... ผมก็นั่งดูอยู่ตั้งแต่ลูกค้าคนนั้นยังไม่เข้าร้านก็เห็นเด็กมันไปเล่นเกะกะตรงประตูเอง พอเค้าจะเข้าร้านแทนที่จะเรียกลูก กับไม่เรียก ก็ทั้งแม่ ทั้ง ย่าซึ่งยังไม่แก่ ก็นั่งมองอยู่ แต่ไม่เรียกลูก พอลูกโดนประตูชน กลับไปว่าคนที่เค้าเปิดประตูอีก แล้วยังพูดแบบเสียงดังด้วยกะให้คนนั้นได้ยิน เวรจริงๆ เลี้ยงลูกฟายๆแบบนี้ล่ะน๊า แถมไอ้เด็กเวรคนนี้ ยังวิ่งไปตีน้องเล็กๆประมาณ 6 เดือน แม่มันก็ไม่ว่า เดินไปตีย่า แม่มันก็ไม่ว่า รู้สึกเลี้ยงลูกกันตามใจเหลือเกิน เห็นแล้วมันหงุดหงิดใจจริงๆ
สมัยนี้เลี้ยงลูกกันตามใจแบบนี้ค่อนข้างเยอะ ทำให้เด็กโตขึ้นมาเป็นภาระ หรือ สร้างความวุ่นวายอยู่ในสังคม อยู่ไม่น้อย แย่ชะมัด
Create Date : 07 ธันวาคม 2548 |
|
45 comments |
Last Update : 7 ธันวาคม 2548 8:30:22 น. |
Counter : 743 Pageviews. |
 |
|
ตอนนี้ก็เลยไม่มีฟันผุเลย
=)