เลือกคู่ชีวิต...ยังไง (ฉบับ... คิดเอง เออเอง)

วันนี้ รู้สึก อยากจะเขียนเป็นข้อคิด สำหรับการเลือก คู่ชีวิต/คนรัก
เรื่องความรัก คัดกรองเอาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเราล้วนๆ เลย

ต้องบอกก่อนเลยว่า ตลอดช่วงเวลาชีวิตของเรา
ตั้งแต่เกิดจนขึ้น ป.ตรี ชั้นปีที่ 2 เราไม่เคยสนใจเรื่องความรัก
ถามว่า มีแอบชอบบ้างไหม คือ เราก็มีนะ ไม่ใช่ไม่มี
แต่มันไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญในชีวิตของเรา ในช่วงการเก็บเกี่ยวความรู้
ในช่วงเวลาของการเรียนรู้ ตั้งแต่ ป.1- ม.6 เราตั้งใจเรียนอย่างเดียว

จนเราขึ้น ปี 1 เริ่มมีคนแปลกหน้า โทรมาจีบ หรือแม้แต่
เพื่อนเก่า ที่รู้จักกัน ตอน ป.4 ก็ยังโทรมาจีบ แปลกไหม?
ไม่เคยให้เบอร์ แต่ไปสรรหามาจากไหน? จากในหนังสือรุ่น ม.ปลาย?

เรื่องที่เราขอให้คุณหนักแน่นให้มากๆ มีอยู่ 2 เรื่องค่ะ ดังนี้
1. ใจ
สำหรับเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความเข้มแข็งของใจ"
ก็เรียกง่ายๆ ว่าต้อง "ใจแข็ง" เข้าไว้ ต่อให้อ่อนไหวบ้าง
แต่ก็ห้ามใจง่ายไหลไปตาม ผู้ชาย คนไหนเป็นอันขาดค่ะ
คือ เราเป็นคนขี้สงสาร ตอนแฟนเก่าเราอกหักมา
โดนสาวปฏิเสธ อยู่ดีๆ ก็มาจีบเราแทน คือ เราสงสาร
เราเลยคบ แต่สิ่งที่ควรทำ คือ ไม่ต้องคบ ดีที่สุดค่ะ
คนที่รู้ทั้งรู้ว่า ยังไงก็เจ้าชู้ ไม่ควรเอาไปเป็นพ่อของลูกค่ะ

2. เกณฑ์มาตรฐาน
ถ้าเราอยากจะมีผู้ชายแบบไหน เป็นคู่ชีวิต เราก็ตั้งเกณฑ์
เอาไว้เลยค่ะ คือ ถ้าไม่ได้ตามเกณฑ์นั้นๆ เราก็พร้อมขึ้นคาน 55
แต่ ห้ามเอา หน้าตาหล่อๆ มาเป็นเกณฑ์เป็นอันขาด มันไร้สาระ
เผลอๆ คุณจะได้ ผู้ชาย ที่มีแต่หน้าตาหล่อ แต่สันดาsเxี้ยๆ มาแทน
อย่างเรา เราตั้งเกณฑ์เอาไว้สูงมากเหมือนกันค่ะ หลายข้อมาก
แล้วเราก็ได้ดังใจสมปรารถนาค่ะ ตัวเป็นๆ ด้วยค่ะ 55
***เราเคยคบกับคนที่ต่ำกว่ามาตรฐานค่ะ คือ
ไม่ผ่านทุกข้อ สิ่งที่เราพบเจอคือ หายนะของชีวิต ค่ะ***
มีความเป็นสุภาพบุรุษ คือ เราโตมาในครอบครัวที่มีแต่พี่ชาย
เราห้าวมากๆ เราเลยยึดมั่นว่า ถ้าสุภาพบุรุษน้อยกว่าเรา เราถีบทิ้งค่ะ
เช่น เวลาทานข้าวด้วยกัน ร้านตามสั่ง ถ้าต้องตักน้ำเอง
ถ้าเราทานข้าวกับผู้หญิงด้วยกัน เราจะลุกไปเอาน้ำมาทุกครั้ง
คือ ถ้าผู้ชายคนไหน รากงอก นั่งติดเก้าอี้ เราก็เทค่ะ
สันดารเสีย ชอบให้ผู้หญิงเป็นทาสแบบนี้ ไปไกลๆ
ต้องไม่แตะเนื้อต้องตัวเราเลย เราเจอมาเยอะมาก
บอกว่า ตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แต่มือถึง เดี๋ยวก็อุ้ม เดี๋ยวก็กอด
เดี่ยวก็จับโน่น จับนี่ คือ น่าเกลียด พวกนี้ เรียกว่า หนวดปลาหมึก
ไม่ควรให้สืบเชื้อสายต่อไปค่ะ DNA รกโลกแบบนี้ ไม่ควรให้สืบต่อ
ที่เราเจอจากแฟนเก่า คือ เตะตัดขาแล้วอุ้มเราตลอด
แฟร์ คือ เวลาทานข้าวด้วยกัน สิ่งที่เราไม่ชอบคือ
การที่ผู้ชายต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรือให้เราจ่ายทั้งหมด
เราชอบคนแฟร์ๆ เหมือนกัน ถ้าทานตามสั่ง จ่ายใครจ่ายมัน
แต่ถ้าทานด้วยกัน แยกกับ แยกข้าว ก็หาร 2 เท่านั้น
ถ้าร้านไม่มีทอน มื้อไหนใครจ่ายก่อน มื้อหน้าอีกคนต้องจ่าย
ในราคาที่พอๆ กันค่ะ เรากับแฟนทานข้าวด้วยกันแบบนี้
มาตลอด 10 ปีค่ะ ทุกวันนี้ ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่
ที่เพิ่มเติมคือ ให้เงินเราไว้ทุกเดือน สำหรับค่าอาหารที่เราทำ
แฟนเราไม่อยากให้เราใช้เงินตัวเองออกไปกับซื้อของสดมาก
เขาถือว่า ของซื้อไปไว้บ้านเขา ต้องเงินเขาออกเท่านั้นค่ะ
ส่วนแฟนเก่า ข้าวปลาไม่รู้จักไปซื้อมากิน จนเราต้องออกไป
ซื้อข้าวกล่องให้ เขาไม่เคยจ่ายเงินคืนแม้แต่บาทเดียวค่ะ
ใส่ใจ คือ จดจำรายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับเราได้
ไม่ใช่รูปร่างหน้าตา แต่หมายถึงนิสัยใจคอ ความชอบของเรา
เราไม่ชอบอะไรก็จำได้ เราชอบอะไรก็รู้ เรามี taste แบบไหน
ก็รู้ แฟนเราคือ แค่มองตาก็เข้าใจค่ะ ส่วนแฟนเก่าเรา
จำความชอบของเราสลับกับกิ๊กเบอร์ 10+ ของเขาค่ะ
งานบ้านงานเรือนต้องเป็น คือ ผู้ชายทำงานบ้าน หายากค่ะ
เราสังเกตเอาจาก เวลาที่ไปที่บ้านแฟน สมัยเป็นเพื่อนกันอยู่
บ้านแฟนเราสะอาดเรียบร้อยมาก เสื้อผ้าซักรีดเองเป็น
ทำอาหารพอได้ ถึงจะปรุงไม่ค่อยได้เรื่องบ้าง แต่เราถือว่า
เค้าโอเคมาก ส่วนแฟนเก่า คือ ทำอาหารเป็น แต่ไม่เคยล้าง
ทำรกได้ แต่ไม่เก็บ ซักผ้าไม่เป็น รัดผ้าไม่เป็น ไม่เป็นซักอย่าง
ไม่ผ่านเลยค่ะ
ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ คือ ถ้าไม่รู้จักตัวตนของเลย
แล้วมาขอคบ ขอโทรคุย หรืออะไรต่อมิอะไร เราเทค่ะ
ปฏิเสธทุกกรณี เพราะฉะนั้น คนแปลกหน้าต่อกัน เราไม่คบ
สิ่งที่เราเจอคือ เพื่อนคนนึงในรุ่น สมัย ป.ตรี โทรมาหาเรา
ชวนเราไปดูหนัง คือ mึงคะ? ไม่รู้จักค่ะ หนังหน้าเป็นแบบไหน
ก็ไม่เคยเห็น ใครก็ไม่รู้ ชวนไปดูหนัง 2/2 น่าเกลียด ไม่ชอบ
เรียกง่ายๆ ว่า ถ้าเข้าถึงเราได้ ก็สามารถไปต่อได้
ถามว่า ถ้าเป็นคนแปลกหน้า ต้องทำยังไง สำหรับเรา
คนแปลกหน้า คือ ไม่มีโอกาสเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่ เพื่อนที่ทำงาน
หรือเพื่อนจากที่เรียนมาด้วยกัน ก็คือ หมดโอกาสเลยค่ะ
คนที่มีโอกาสคือ สนิทกับเรามาไม่ต่ำกว่า 5-10 ปี ค่ะ
สนิทนี่คือ พูดคุยแบบเพื่อนได้ ไปทานข้าวด้วยกันเป็นกลุ่ม
ถ้าเขาอยู่ในสภาพเพื่อนได้มาไม่ต่ำกว่า 7-10 ปี แล้วขอเป็นแฟน
ขนาดเป็นเพื่อน ยังเป็นมาได้เลย
ไม่เจ้าชู้ คือ ครอบครัวเรา พ่อเราไม่เจ้าชู้ ไม่มีพฤติกรรมนี้ค่ะ
เคยมีผู้หญิงมาอ่อยถึงบ้าน แม่เราโกรธค่ะ พ่อเราไล่ผู้หญิงคนนั้นไป
รักพ่อเราตรงนี้แหละค่ะ 555 มันเลยกลายเป็นเกณฑ์หลักในการเลือก
คบแฟน/ว่าที่สามี ผู้ชายไทยสอบตกเรื่องนี้กันมาก สำหรับเรา
ส่วนแฟนเรา ไม่มีพฤติกรรมนี้ค่ะ เพราะตั้งแต่รู้จักกัน จนสนิทกัน
เขาไม่รับโทรศัพท์จากผู้หญิงมั่วซั่วค่ะ ที่ผ่านมาคนที่โทรหาเขา
แล้วเขารับสาย มีแค่เรา เพ่ื่อนผู้หญิงคนอื่นโทร เขาตัดสายทิ้งหมดเลยค่ะ
เราเคยบ่นเขา เพราะบางทีมีงาน ก็ตามตัวยากมาก บางทีแบตเราหมด
เขาก็ไม่รับโทรศัพท์เบอร์ผู้หญิงคนอื่นทุกคน เราเลยต้องโทรเข้าบ้านเขาแทน
ส่วนแฟนเก่าเรา โทรมากี่คน รับทุกคน แถมชวนเขาไปเดทด้วยนะ 55+
มีแฟนก็เดทกับสาวๆ ได้ เริ่ดไปเลยค่ะ ไปเลยยยยยยย ไปไกลๆ ชิ้วๆ
ไม่เที่ยวกลางคืน คือ ตัวเรา เราไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เที่ยวผับ
เราอึดอัดมาก เวลาที่เพื่อนบังคับไป เราไม่ชอบมากๆ ที่อโคจรไม่ควรไป
เราก็ไม่ไปเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนแฟน แน่นอน ต้องเสมอกัน คือ ไม่เที่ยว
แฟนเรา ก็ไม่เที่ยวเหมือนกันกับเราค่ะ เพราะฉะนั้น ผ่านค่ะ 5555
แฟนเก่า คะยั้นคะยอให้เราไปผับกับเขาค่ะ เราเกลียดสุดๆ
รู้ลิมิตเวลาดื่ม คือ เราไม่ดื่มค่ะ แต่แฟนเรา เรารับได้
ว่าเขาสามารถดื่มได้ แต่ต้องมีสติ รู้ลิมิตตัวเอง ดื่มได้แค่ไหน
มีสติอยู่ ก็ดื่มเท่านั้น ไม่มีเกิน ก็พอค่ะ แฟนเราไม่ดื่มเลย
เราเลย โอเคคคคคคคคคคคคคม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ส่วนแฟนเก่า ไม่ต้องพูดถึง เมาอย่างหมา 55555555555
NO SEX คือ หลังแต่งงานเท่านั้น รอได้ก็ผ่าน รอไม่ได้
ก็โดนถีบส่งค่ะ แฟนเรา เขาตอบตกลงตั้งแต่ก่อนคบ
เราเลยโอเคมาก ส่วนแฟนเก่า พยายามทุกทางเพื่อจะมีกับเราให้ได้
เราทนไหวเหมือนกันค่ะ ตบหน้าไปหลายฉะเหมือนกัน
เกรงใจ ถึงตบค่ะ ไม่เกรงใจนี่ต่อยตาแตกแล้ว
มีสมอง ฉลาด คือ เราชอบผู้ชายที่ฉลาด รู้เท่าทันเรา
ฉลาดเหมือนพ่อเรา ฉลาดไม่ได้หมายถึงเรียนเก่งนะคะ
หมายถึง ฉลาดใช้ชีวิต ใช้เวลาได้คุ้มค่า ตัดสินใจได้ดี
รู้คุณค่าของการกระทำของตัวเอง มีเป้าหมายในชีวิต
ความรู้พื้นฐานที่ต้องรู้ ก็ต้องรู้ค่ะ แฟนเรารู้เยอะกว่าเรามาก
เรายอมรับเขาเลย ส่วนแฟนเก่า... ไม่รู้อะไรซักอย่างค่ะ
ความรู้ก็ไม่มี ความดีก็เช่นกัน
ไว้ใจและเชื่อใจ คือ เราไว้ใจคนยากมากค่ะ
จะให้เชื่อใจใครง่ายๆ นี่ก็คงยาก เพราะเราจะหลอกคุย
หลอกล่อจนเขาตายใจแล้วคลายสิ่งที่ต้องการจากตัวเรามา
ผู้ชายบางคนเข้ามาพูดคุย แล้วขอคบทั้งที่ยังรู้จักกันไม่นาน
เราก็บอกให้คุยไปเรื่อยๆ พอผ่านไปไม่ถึง 5 เดือน
พอหลอกถามถึงว่า ถ้าเป็นแฟน จะมี หรือไม่มี
เขาตอบว่า ขอมีแต่ไม่แต่งงานได้ไหม? ตลกไหมคะ?
เราเลยบอกเขา ว่า เราเทนะ ไม่คุยต่อละนะ จบนะ
เข้าใจกันนะ โทรมาก็บล็อค ถ้าไม่เลิกยุ่ง แจ้งความค่ะ
ส่วนแฟนเรา เราไว้ใจเขามาก กล้าไปไหนมาไหนด้วย
2/2 ตลอด เพราะเขาอยู่ในกรอบตลอดเวลา ทุกครั้ง
ไม่เคยผิดพลาด เราเลยเชื่อใจเขาทุกอย่าง ตั้งแต่ก่อนที่เขา
จะขอเราเป็นแฟน ส่วนแฟนเก่าเรา กิ๊กส่ง mail มาด่าเรา
โพสด่าเราออนไลน์ เอาเพื่อนมารุมตบเรา แฟนเก่าบอกว่า
เรามโนไปเอง ดีงามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
1xี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มีวิสัยทัศน์ ทัศนคติในทางเดียวกัน คือ ความคิดเห็นหลายๆ อย่าง
สอดคล้องกัน คือ ยิ่งพูดคุยก็ยิ่งเข้าอกเข้าใจกันค่ะ มันส่งผลถึง
การใช้ชีวิต และความสนใจที่มันสอดคล้องกัน ถึงจะไม่เหมือนกัน
แต่ก็ไปด้วยกันได้ เพราะเข้าใจกันดีค่ะ เรากับแฟนคุยกัน
สมัยเป็นเพื่อนสนิท คุยไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง เรานัดเขาทานข้าว
คือ นัดไปบ่นค่ะ เขาฟังเราบ่น 1 ชม.ค่ะ อีก 4 ชม. เขาบ่น 55+
ส่วนแฟนเก่าเรา คือ ยิ่งคุย ยิ่งเหมือนอยู่คนละโลกค่ะ
สมัยเป็นเพื่อนกัน เราโทรหาแฟนคนปัจจุบันบ่อยกว่าแฟนเก่าอีก
เพราะเราไม่ได้ไปขอใครคบ แฟนเก่าทำทุกทางเพื่อให้ได้คบกับเรา
บีบบังคับเราด้วยสังคมรอบข้าง จนกลายเป็นแฟนไปแบบที่เรา
ไม่ได้ตอบตกลงค่ะ
มีธรรมในใจ คือ เรียกว่า มีเสมอกัน เราเท่าไหร่ เขาก็ต้องเท่านั้น
เราระดับไหน เขาก็ต้องระดับนั้นค่ะ ศีล สมาธิ ปัญญา เท่าไหร่ เท่ากัน
จากเท่าที่พูดคุย แฟนเรากับเราพอๆ กัน เรายอมรับเขามากค่ะ
เขาปฏิบัติมาตั้งแต่เด็ก ส่วนเราก็มาปฏิบัติตอนตัดเรื่องแฟนเก่าทิ้งค่ะ
แฟนเก่าเรา ไม่เชื่อเรื่องบาปกรรม ถือคติ เกิดชาติเดียว เอาให้คุ้ม

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องหนักแน่น และเกณฑ์ยึดถือไว้ในใจค่ะ
ห้ามใจอ่อน เจอเจ้าชู้ต้องถีบทิ้งทันที ต่ำกว่าเกณฑ์ ตัดทิ้งทันที

อย่าให้ผู้ชายต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง เข้ามาเดินร่วมทางค่ะ
นี่เป็นแค่มาตรฐานของเราเท่านั้นนะคะ ส่วนใครจะตั้งยังไง
ก็แล้วแต่ความสะดวกใจของคุณค่ะ ตัวเรา ตัดสินใจเอง ตั้งเอง
เลือกเอง ดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้วค่ะ

โชคดีนะคะ สมหวังในความรักนะคะ ^^

Create Date : 28 เมษายน 2560 Last Update : 28 เมษายน 2560 19:53:55 น. Counter : 1541 Pageviews.		0 comments
Share Tweet