|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
คำถามของผู้ชายที่หลงรักแม่ชี
เพื่อนรุ่นน้องของผมคนหนึ่ง
เป็นคนสนใจธรรมะ เขาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อ 3-4 ปีก่อน เขามีโอกาสได้รู้จักกับแม่ชีสาวสวยคนหนึ่ง ที่สำนักปฏิบัติธรรมในละแวกบ้านของเขา เขารู้สึกทึ่งในตัวเธอมาก เพราะนอกจากความสวยสดงดงามแล้ว ทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อย
แต่เธอกลับมีความรู้แตกฉานในเรื่องธรรมะตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงธรรมะขั้นสูง เธอจึงเป็นแรงดึงดูดทำให้เขาหมั่นไปเยี่ยมเยียนเธอ เพื่อสนทนาธรรมกับเธออยู่เป็นเนืองนิตย์
ในระยะแรก ๆ
เขาพยายามหลอกตัวเองว่าที่เขาเข้าๆ ออก ๆ สำนักไปหาเธอเพราะเรื่องธรรมะเพียงอย่างเดียว แต่พอนานวันเข้า เขาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป ว่าแท้จริงแล้วการที่เขาเข้าไปหาเธอนั้น นอกจากเรื่องธรรมะแล้ว เขายังอยากไปพบปะพูดคุยกับเธอ เพราะมีความรู้สึกนึกคิดในเชิงชู้สาวแอบแฝงลึก ๆ อยู่ในใจ พูดง่าย ๆ ว่า เขาเกิดไปหลงรักแม่ชีแบบหนุ่มสาวเขารักกันนั่นแหละ
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ
เพราะตัวตนของแม่ชีที่เขาเล่าให้ผมฟังอย่างละเอียด เธอเป็นคนที่มีรูปร่างงดงาม ผิวขาวผุดผ่อง ใบหน้าเปล่งปลั่ง ตางามเฉิดฉาย แต่กลับมีบุคลิกที่สงบนิ่ง และวางตัวน่านับถือ จะลุกจะนั่งจะเดินจะเหินจะพูดจะจา กริยาสำรวมตนของเธอ แลดูแช่มช้อยชวนมองไปทุกอิริยาบท และสัดส่วนทั้งหมดนี้ที่ประกอบกันเข้าเป็นตัวตนของเธอ-ที่อยู่ในสถานะนุ่งขาวห่มขาวมิดชิด มันผสมผสานกลมกลืน กลายเป็นเอกภาพของความงามของผู้หญิงคนหนึ่งที่งามอย่างยิ่ง
งามอย่างยิ่งอย่างที่เรียกกันว่า สวยแบบคลาสสิก..
คลาสสิกขนาดไหน ก็คลาสสิกถึงขั้นทำให้เขาหันกลับไปมอง
ผู้หญิงสวยทันสมัยแบบสายเดี่ยวเอวลอย ที่ชอบโอ้อวดทรวดทรงองค์เอวกลายเป็นผู้หญิงโลคลาสไปหมด ทำอย่างไร ๆ เขาก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเอง
ที่คิดกับแม่ชีแบบชู้สาวไม่ได้ และยิ่งนับวันความรู้สึกนึกคิดที่ซุกซ่อนอยู่ในใจนี้ ก็ยิ่งเติบโตและทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน-จนเขาตกใจ
รู้สึกผิด
นึกละอายและหวาดกลัวต่อบาป
วันหนึ่ง
เขาทนความรู้สึกนึกคิดนี้ไม่ไหว เขาจึงตัดสินใจหักดิบหัวใจที่ควบคุมไม่ได้ของตัวเอง ด้วยการเนรเทศตัวเองออกจากบ้านมาเช่าหอพักอยู่ที่ทำงานในเมือง ด้วยความอาลัยอาวรณ์ในตัวเธออย่างสุดซึ้ง เพราะเขาแน่ใจว่า ถ้าหากเขายังขืนปล่อยตัวปล่อยใจอยู่ใกล้ชิดสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้อีกต่อไป ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่ง เขาจะต้องเดินเข้าไปสารภาพรักกับแม่ชีอย่างแน่นอน หลังจากเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังจบ เขาก็ถามผมอย่างจริงจังว่า
พี่ครับ พี่คิดว่าผมผิดและเป็นบาป
อย่างที่ผมรู้สึกกับตัวเองหรือเปล่า ที่ไปคิดกับแม่ชีแบบนี้
ไม่ผิดและไม่เป็นบาป ผมยิ้ม ๆ ตอบโดยไม่ต้องคิด
ฮ้า เขาร้องลั่น ไม่ผิดและไม่เป็นบาปยังไง ผมไม่เข้าใจ
เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ
ผมก็ยังไม่เข้าใจ เขาส่ายหน้า
ฟังนะ ผมพยายามอธิบาย อะไร ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้เมื่อถึงเวลาที่มันจะเกิด
แล้วไม่มีใครไปหักห้ามมันได้ เขาเรียกกันว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติของดินฟ้าอากาศหรือธรรมชาติของคน ถ้ามันจะเกิดมันต้องเกิด เช่น ฝนจะตกแดดจะออกฟ้าจะร้อง ไม่มีใครไปหักห้ามมันได้หรอก
ครับ ครับ
อะไร ๆ ที่เป็นธรรมชาติในตัวคนเราก็เหมือนกัน ถ้ามันจะเกิดอะไรสักอย่างขึ้นมามันก็ต้องเกิด มันไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไรหรอก ที่นายเกิดความรู้สึกนึกคิดแบบนี้กับแม่ชี เพราะความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ มันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของคนเรา ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือว่าลบ ถ้ามีเหตุเพียงพอที่จะทำให้มันเกิด
มันจะต้องเกิด ไม่มีใครไปหักห้ามมันได้หรอก แม้แต่ตัวของเราเอง เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรผิด บาป
แฮ่ งั้นผมจะกลับไปหาแม่ชีใหม่
ยัง ยัง ยังโว้ย นายฟังเราพูดยังไม่จบ ที่เราพูดนี่เราหมายความเพียงแค่
การที่นายเกิดความรู้สึกนึกคิดแบบนี้กับแม่ชี มันไม่ใช่ความผิดบาปแน่ ๆ เพราะมันเป็นธรรมชาติทางจิตใจของคนที่ห้ามกันไม่ได้
ก็แหม
แม่ชีแกดูเนี้ยบถึงปานนั้น
พี่เข้าใจ พี่เข้าใจ ประเด็นนี้เราไม่ว่ากัน แต่การแสดงออกทางพฤติกรรมในเรื่องนี้ต่างหาก
ที่อาจเป็นความผิดบาป
ผิดบาปยังไงพี่
เอ้า พี่ถามหน่อยทุกวันนี้นายตื่นขึ้นมากินดื่ม นายยังปวดท้องขี้ท้องเยี่ยวอยู่หรือเปล่าว่ะ
ถามบ้า ๆ กินดื่มทุกวัน ก็ต้องปวดทุกวันแหละพี่
แล้วนายคิดว่าการที่นายปวดท้องขี้ท้องเยี่ยวนี่ มันเป็นความผิดของท้องไส้ของนายหรือเปล่า
เขานิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่จึงตอบว่า
ไม่ผิดครับพี่
ใช่ นี่ก็คือธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งของคนที่ห้ามกันไม่ได้
ครับ ครับ ผมพอจะเข้าใจอะไรแล้วล่ะ
แล้วเวลานายปวดท้องขี้ท้องเยี่ยว จำเป็นจะต้องขับถ่าย นายจัดการกับตัวเองยังไง
ถามบ้า ๆ ผมก็ต้องไปเข้าห้องน้ำ หรือถ้าไม่มีห้องน้ำ ก็ต้องไปหาที่ลับหูลับตาคนปลดปล่อยมันซิพี่
แล้วทำไมนายต้องเสียเวลายุ่งยากไปเข้าห้องน้ำ หรือไปหาที่ลับหูลับตาคน ทำไมนายไม่ถอดกางเกง ปล่อยมันออกตรงนั้นต่อหน้าคนให้สิ้นเรื่อง
บ้า ให้ผมตายเสียดีกว่าที่จะให้ทำอะไรที่น่าเกลียดอย่างนั้น พี่พูดอะไรไม่รู้ ผมชักงงแฮะ
นายยังไม่เข้าใจหรือ เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องเดียวกันกับที่นายไปหลงรักแม่ชีนั่นแหละ มันไม่มีอะไรผิดบาปหรอก นายจะคิดนายจะรู้สึกกับแม่ชียังไงก็ได้ ตราบใดที่นายยังสำนึกรู้
ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ เหมือนเวลานายปวดท้องขี้ท้องเยี่ยว แล้วรู้ว่าควรจะไปปลดปล่อยที่ไหน จึงจะแลดูไม่น่าเกลียด ไม่ทำให้ทั้งตัวเองและคนอื่นเขาเดือดร้อน
โอ ผมเข้าใจแล้ว ผมเข้าใจแล้ว แต่แหม
ทำไมพี่รู้เรื่องชั่ว ๆ แบบนี้ดีจังเลย
เฮ้ย ไม่มีอะไรหรอก สมัยพี่เป็นหนุ่มพี่ก็เข้า ๆ ออก ๆ สำนักปฏิบัติธรรมข้างบ้านเป็นว่าเล่น พูดแล้วจะหาว่าคุย กรณีของพี่คลาสสิกกว่าของนายหลายเท่าก็แล้วกัน
เหรอ แล้วตอนนั้นพี่รู้สึกผิดบาปอย่างผมหรือเปล่า
ไม่ ไม่ ไม่เลย เพราะพี่รู้ว่าพี่ควรรักเธออย่างไร
Create Date : 23 กรกฎาคม 2550 |
|
8 comments |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2550 21:18:53 น. |
Counter : 1490 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ถนอม ไชยวงษ์แก้ว (แพรจารุ ) 25 กรกฎาคม 2550 22:02:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซะวา IP: 81.96.68.161 27 กรกฎาคม 2550 23:24:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพรจารุ 9 สิงหาคม 2550 18:46:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กข้างวัด IP: 203.113.55.200 29 พฤศจิกายน 2550 15:07:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: เรวัค มณี IP: 58.9.136.179 20 มีนาคม 2552 9:13:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Rayban IP: 58.9.143.79 21 มีนาคม 2552 10:22:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|