คนเขียนหนังสือ ชีวิตเบิกบานในการงาน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
ความเกลียด

เอาภาพดอกไม้สวย ๆ มาให้ดูก่อนอ่านเรื่อง "ความเกลียด" ของถนอม ไชยวงษ์แก้ว (ยกบล็อกให้ชั่วคราวค่ะ)


ดอกเสี้ยวบนดอย ถ่ายภาพโดย สืบสวัสดิ์ สนิทวงศ์

บ่อยครั้งที่ชีวิตของผม
มักจะตกอยู่ในสถานะอยู่กึ่งกลางระหว่างคนสองคนที่สนิมสนมชอบพอกับผม แต่ทั้งคู่กลับเกลียดกันด้วยสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเป็นการส่วนตัว บางคู่เคยเกลียดกันมาก่อนที่ผมจะรู้จักและยังคงเกลียดกันอยู่ บางคู่เคยชอบพอกันมาก่อนในขณะที่ผมรู้จัก แต่ต้องมีเหตุมาเกลียดกันภายหลัง สถานะที่ต้องอยู่กึ่งกลางระหว่างคนสองคนที่เกลียดกัน แต่ต่างยังสนิทสนมชอบพอกับผม ทำให้ชีวิตของผมอึดอัดยุ่งยากในการมีความสัมพันธ์กับคนทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง...

พูดง่าย ๆ ว่า
ยิ่งเขาเกลียดกันมากเท่าไหร่...ผมก็ยิ่งอึดอัดยุ่งยากใจมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะคู่กรณีที่จงเกลียดจงชังถึงขั้นประกาศไม่เผาผีกันและกัน เวลาผมบังเอิญหรือมีความจำเป็นต้องพบปะพูดคุยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่มีคนอื่นเป็นคนที่สามอยู่ร่วมด้วย แต่ละฝ่ายมักจะอดไม่ได้ที่จะระบายความเกลียดคู่กรณีด้วยการทำร้ายกันทางวาจา ด้วยการนินทาว่าร้ายกันตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่โต หรือไม่ก็ขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ดีงาม - ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของกันและกันมาเล่าให้ผมฟังแถมยังพยายามโน้มน้าวผมให้เข้าไปเป็นแนวร่วมในการเกลียดคู่กรณี...



ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เพราะโดยส่วนตัวผมไม่ได้เกลียดใคร และไม่เคยคิดจะเกลียดใคร...ด้วยเหตุผลเพียงแค่มีคนชวนให้เกลียดตามเขา เมื่อตกอยู่ในภาวะที่อึดอัดยุ่งยากนี้ ผมจึงได้แต่ยิ้มแห้ง เออ ๆ ออ ๆ ครับ ๆ ผม ๆ คล้อยตามเขาไป ...เพื่อให้เขาสบายใจ โดยไม่แสดงความเห็นใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ และระมัดระวังที่จะไม่ทำตัวเป็นไอ้ด่างคาบคำร้าย ๆ ของแต่ละฝ่ายไปบอกกันและกันเพราะถึงแม้เขาจะเกลียดกันอย่างเข้ากระดูกดำ แต่เขาก็เป็นคนที่ผมชอบพอด้วยกันทั้งคู่ ผมจึงไม่อยากให้คนที่ผมชอบ...เกลียดกันมากกว่านี้

และที่ต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุดถึงขั้นต้องห้ามก็คือ ห้ามปริปากไปพูดให้เขาเลิกเกลียดกันอย่างเด็ดขาด เพราะผมเคยมีประสบการณ์ในการพูดไกล่เกลี่ยให้คนที่ชอบพอกับผมแต่เกลียดกัน...ให้เลิกเกลียดกัน ด้วยความปรารถนาดีมาหลายคู่ เพราะคิดแบบเชย ๆ เอาเองว่า อยากจะเห็นโลกนี้มีแต่คนรักกัน...พบปะกันก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน มิใช่เจอหน้ากันทีไรก็แยกเขี้ยวหากัน และกัดกันลับหลัง แต่ผลกลับปรากฏว่า ...ความปรารถนาดีของผมกลับกลายเป็นความปรารถนาร้าย ( ฮา ) เพราะทุกคู่กรณีที่เกลียดกันอยู่แล้ว - ต่างก็หันหน้ามาเกลียดขี้หน้าผมเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งในโลกของความเกลียด


นั่นแหละ - ผมจึงได้รู้ว่าคนที่เขากำลังเกลียดกันและกำลังรักกันอยู่ ถึงแม้ค่าของความสัมพันธ์จะแตกต่างเหมือนขาวกับดำ แต่ก็แปลก...ที่ยังอุตส่าห์มีบางอย่างเหมือนกันอยู่นั่นคือ - ตราบใดที่เขายังเกลียดกันหรือยังรักกันอยู่ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ไม่มีใครมีสิทธ์ไปบอกให้เขาเลิกกันได้หรอกครับ ถ้าเขาอยากจะเลิกเขาก็เลิกกันกันเอง เพราะมาถึงขั้นนี้แล้วมันกลายเป็นเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวของใครของมัน ไม่ใช่เรื่องที่บุคคลที่สามควรจะส.ใส่เกือกเข้าไปวุ่นวาย อย่างที่ผมได้รับบทรับเรียนมาด้วยความงุนงง...

นอกจากเรื่องที่อึดอัดยุ่งยากเป็นบ้านี้แล้ว
ถ้าหากคู่กรณี - ต่างพยายามคาดคั้นเอาคำตอบจากผมให้ได้ ว่าแต่ละฝ่ายพูดถึงตัวเองอย่างไรบ้าง ผมก็จะให้คำตอบที่ผมคิดเอาเอง ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่เป็นความจริง แต่ก็สามารถทำให้คนทั้งคู่นึกแปลกใจเหมือนกันว่า เอ๊ะ! ไอ้หรืออี...นี่มันเสือกพูดถึงกูลับหลังในแง่ดีได้ยังไงว่ะ ( ฮา ) ครับ - ความพยายามของผมที่พยายามรักษาความสัมพันธ์ ระหว่างตัวผมกับคนทั้งสองที่ชอบพอกับผมแต่เกลียดขี้หน้ากัน ตามที่ผมเล่ามา ภาษิตทางล้านนาเขาเปรียบเปรยพฤติกรรมอันยากยิ่งแบบนี้เอาไว้ว่า

“ กบบ่หื้อเกี๊ยด เขียดบ่หื้อต๋าย ”
แปลเป็นภาษากลางตรงตัวได้ใจความว่า
“ กบไม่ให้โกรธ เขียดไม่ให้ตาย ”

ซึ่งตรงกับภาษิตภาคกลางที่ว่า “ บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ” ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากแสนยากที่จะทำได้ และถ้าไม่จำเป็นจริง ๆอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า เรื่องดี ๆ ที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์ในโลกนี้มีอยู่มากมาย ทำไม..เราต้องไปเสียเวลาอันมีค่าให้กับคนที่เกลียดกัน และคิดแต่ทำลายกัน ผมไม่เล่นด้วยหรอกครับ ผมเบื่อ...และรู้จักมันมาเพียงพอแล้วความเกลียดที่น่าเกลียด









ดอกหญ้าสวย ๆ จาก "สืบสวัสดิ์ สนิทวงศ์"


Create Date : 02 มกราคม 2551
Last Update : 11 มกราคม 2551 14:30:00 น. 23 comments
Counter : 1140 Pageviews.

 
อ่าว..อ้าย
แล้วเขามาว่าฮื้อขะเจ้าว่า..
หยั่งไดพ่องกา..
เฮาปี้น้องกั๋น..เล่าฮื้อฟังพ่องนา...

บ่าเล่า...โขด


โดย: malarn cha วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:12:08:27 น.  

 
จะว่าไปก็น่าอึดอัดใจนะคะ

ใครก็รู้ว่าการอยู่ในสังคมได้อย่างผาสุก
เราต้องพยายามที่จะเป็นมิตรกับทุกคน
แต่เรื่องบางเรื่องมันไม่สามารถที่จะออมชอมได้
เพราะทุกคนล้วนมีสิทธิส่วนบุคคล
ใครเป็นยังไง ก็เห็น ๆ กันอยู่

เป็นมัชฌิมา ตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ
ในที่สุดก็ต้องเลือกว่าจะเอนไปทางไหน


โดย: malarn cha วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:12:14:36 น.  

 
เกอเธ..ได้วิจารณ์ถึงการสนับสนุนพฤติกรรมแบบยอมจำนน, การทำอะไรตามๆกัน, และการสร้างความเห็นที่ลงรอยกันขึ้นมา
การแสดงความหื่นกระหายที่จะทำบางสิ่งบางอย่างเกือบทุกอย่าง เว้นแต่ไอเดียหรือความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ดังนี้:

มาพวกเรามาพิมพ์มันลงไปทั้งหมด
แม้มันจะมีความวุ่นวายในทุกๆที่;
แต่ไม่ควรมี"ใคร"รู้สึกโกลาหลและสับสน
"ใคร"ที่ไม่ได้คิดเหมือนกันกับเรา




โดย: นิทเช IP: 203.209.91.215 วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:22:00:38 น.  

 
Happy new year 2008
ปีใหม่แล้วเน้อ ใครจะโกรธ เกลียดกัน ช่างมันเถอะ เฮามาดูแลหัวใจกันดีกว่า ชีวิตเป็นของใครของมัน บางอย่างเราก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ สุข ทุกข์ อย่างอยู่ที่ตัวเราเอง มันเป็นเช่นนั้นเอง ขอธรรมะสักหน่อย สบายดี ไว้โอกาสดีๆ ค่อยพบปะสังสรรค ขอให้มีความสุขตลอดปีใหม่


โดย: Wimaya IP: 61.7.172.194 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:13:53:54 น.  

 
สวัสดีครับพี่หนอม สวัสดีจ้ะยายและสวัสดีความเห็นข้างบนด้วย



ความเกลียดก็ให้โทษกับผู้ที่รู้สึกไม่เบาทีเดียวเชียวแหละ

แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่รู้สึกมักมองไม่เห็น


แม้แต่เกลียดคนที่ไม่รู้จักกันก็เถอะ

ด้วยความคิดถึงครับ


"ไม่โกรธ ไม่แค้น ไม่เกลียดใคร ให้ใจหมองเศร้า ใครว่าอย่างไรช่างเขา ตัวของเรารู้ตัวเราดี"


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:9:02:02 น.  

 
ยกบล็อกให้ "ถนอม ไชยวงษ์แก้ว" ชั่วคราวค่ะ

อันเนื่องมาจากงานด่วนและขึ้นดอยเดินป่าต่ออีกสองวัน

พบกันวันอังคารค่ะ


โดย: แพรจารุ วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:14:28:04 น.  

 


อาหนอม พี่ยายคะ..

นกก็เคยมีความรู้สึกแบบอาหนอมค่ะ เพื่อนในก๊วนเค้ามีปัญหากัน ในฐานะเราคนกลางย่อมอึดอัด

นกก็ใช้วิธีเดียวกับอาหนอม เพื่อไม่ให้บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น


โดย: Nok_Noah วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:15:00:07 น.  

 
malarn cha
ใช่-ใช่ทางสายกลางนั้นดีนะแต่เราทำไม่ได้ตลอด เพราะคนบางคนเขาน่ารัก ถึงแม้เราจะรู้ว่าเขาเป็นฝ่ายผิดเต็มประตู แต่เราก็อดเข้าข้างเขาไม่ได้ เพราะเราเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่มีแต่อคติ

นิชเช ขอบคุณ ที่นำวาทะอันแหลมของเกอเธ กวีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกมาประดับไว้ ณ ที่นี้

wimata ขอบคุณครับสำหรับพรปีใหม่ ขอให้มีสุขภาพทั้งกายและใจดีเช่นกันครับ

พ่อพเยีย
มีคนถามหลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ว่า หลวงปู่ยังมีความโกรธอยู่ไหม หลวงปู่ตอบทันทีว่า
"มี แต่ไม่เอา"
พี่ชอบเรื่องนี้มาก

nok noah
ขอบคุณน้องนกที่ทำให้ผมได้เพื่อน


โดย: ถนอม ไชยวงษ์แก้ว IP: 124.157.159.135 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:17:27:37 น.  

 
สวัสดีเจ้า อ้ายหนอม..ปี้ยาย

บะได้เกี่ยวกั๋นเน้อ.. จะไปโฆดสีน้ำฟ้านา..

วันนี้เอาใจวัยรุ่น..อัพบล็อกเพื่อปี้ยาย..หนีไปแอ่วดอยซะแหล่ว..


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:19:39:12 น.  

 
อิจฉาพี่ยายจังค่ะ...ได้ขึ้นดอยอีกแล้ว

ไม่มีความรู้สึกเกลียดมนุษย์นานแล้วค่ะ
เอ่อ...เพลงแค่คิดว่าชีวิตมนุษย์มันสั้นกว่าที่คิด อย่างที่อาจารย์ศิลป์บอก เพราะงั้น ทำไมจะต้องไปเกลียดกันด้วยก็ไม่รู้ ก็คนเหมือนกัน

อีกอย่าง...เพลงเห็นว่า...การเกลียดนั้นมันสร้างทุกข์ให้กับใจคนเกลียดมากกว่าผู้ถูกเกลียดชัง
แล้วเรื่องอะไรเราจะไปหาเรื่องทุกข์ให้หัวใจเล่าด้วยใช่มั้ยคะพี่ยาย-พี่หนอม

กับสิ่งที่พี่หนอมเล่า...เคยเจอ...คนรักเราเกลียดคนนี้ไม่ชอบหน้าคนนี้ แล้วให้เราไม่ชอบตาม เพลงจะเฉยๆ นะคะ ไม่ทำตาม แต่ก็ไม่ทำร้ายความรู้สึกคนรักเราเช่นกัน

หรือ...คนรักเรากับพี่บางคนที่เคยสนิทกัน เค้ามาแตกคอกันด้วยการไม่ชอบใจการกระทำบางอย่างของกัน
เค้าไม่ไปบอกกันตรงๆ หรอกค่ะ
ฝั่งเพื่อนหรือพี่มักจะมาบอกเพลง
เพลงก็จะบอกพี่เค้าไปว่า...ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบหรอกค่ะ
ครั้งหนึ่งพี่เคยรักเคยเอื้อเอ็นดูคนรักเพลงแบบไหน
เพลงอยากให้พี่มองเค้าด้วยสายตาเดิม
เพราะบางทีกับสิ่งที่พี่เห็น นั่นมันก็ความคิดของพี่ที่หลอมรวมกันเป็นภาพเค้า พอพี่เห็นต่างจากสิ่งที่พี่คิด มันเลยกลายเป็นว่ามันไม่ใช่ แล้วพี่รับไม่ได้


โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:11:46:41 น.  

 
เพลงฝนต้นหนาว
ขอบคุณน้องเพลงที่ช่วยเเตกประเด็นเรื่องนี้ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น


โดย: ถนอม ไชยวงษ์แก้ว IP: 124.157.201.227 วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:12:53:26 น.  

 
สีน้ำฟ้า
ทำใจให้สบายนะครับภ


โดย: ถนอม ไชยวงษ์แก้ว IP: 124.157.201.227 วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:13:09:02 น.  

 
เกลียด คือโง่ โมโห คือบ้า

ใจจริงแล้วอยากให้ว่ากันเป็นประเด็นวิเคราะห์กันทีละข้อถึงสาเหตุแห่งการไม่พอใจนั้น
จับทั้งคู่มานั่งคุยกันเลย อะไร อย่างไร แต่นั่นแหละไม่สามารถเกิดได้ ใครก็ว่าตัวเองถูก ซ้ำร้ายก็ใช้กำลัง เพื่อข่มอีกฝ่ายหนึ่ง
ทำใจล่ะพี่ ตราบที่ยังมีคนเห็นแก่ตัวในโลกนี้ ผมก็เบื่อเรื่องแบบนี้เช่นกัน


โดย: พ ร า น IP: 222.123.149.137 วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:19:07:09 น.  

 
สวัสดีคะน้ายาย

น้ายายได้เดินป่าอีกแล้ว
หมู่บ้านผืนผา ชื่อแปลกจริงๆค่ะ
ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ฟังชือแล้วดูเพราะดี
ดูมั่นคงและอบอุ่นดี

ที่แม่แจ่มหนูก็มีคนที่รู้จักเขาเป็นครูสอนพละอยู่ที่นั้น
เป็นพี่ชายของเพื่อนอีกที
ตอนที่หนูไปงานกีฬา 7 สถาบัญยังได้เจอพี่เขาที่ร้านชุมแพหมูกระทะอยู่เลย
พี่เขาเล่าให้ฟังถึงเรื่องในโรงเรียนเขา
ดูท่าพี่เขาจะตื่นเต้นกับภาษาชนเผ่า
อวดหนูใหญ่ว่าฟังพอรู้เรื่อง พูดๆได้บางคำ แล้วยังบอกว่ามีนักเรียนหลายเผ่าด้วย
แต่หนูจำไม่ได้แล้วว่าเป็นโรงเรียนอะไร พี่เขาบอกเหมือนกันค่ะ
ยังอวดว่านักเรียนที่โรงเรียนเก่ง
สอบติดโควต้ามหาลัยดีๆตั้งหลายคน

สนุกกับการเดินป่าค่ะ
หนูจะรอฟังเรื่องเล่าจากป่าแม่แจมค่ะ

สวัสดีค่ะอาหนอม

ขออนุญาติเรียกว่าอาหนอมนะค่ะ
หนูจะบอกว่าอาหนอมพูดเชียงใหม่เพราะมาก
ตอนแรกได้ยินเสียงอาพูด ยังเข้าใจว่าโทรผิด
เกือบจะบอกว่า ขอโทษเจ้า โทรผิดเจ้า
แต่ก็ทำใจกล้าถามไปว่าใช่บ้านน้ายายไหม

ดอกเสี้ยวสวยค่ะ
เรื่องนี้พูดยากค่ะ
ทำให้คนที่โกรธกันคืนดีกัน
ตราบใดที่เขาไม่คิดที่จะลดละ
คนที่อยู่ตรงกลางก็จะลำบากใจเปล่าๆ
แต่ที่อาหนอมทำหนูก็เห็นด้วยนะค่ะ
มันคงเป็นการวางตัวที่ดีที่สุดของคนที่อยู่ตรงกลางค่ะ



โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:10:02:29 น.  

 
เห็นใจคนที่อยู่ตรงกลางเลยค่ะ

เพราะ เคยเป็นคนที่โกรธแบบไม่คุยด้วย ไม่พูดถึง ไม่เอ่ยนามคนที่เราโกรธ (แต่เรื่องเผาผีหรือไม่เผาผีนี่ยังไม่ได้คิดตอนนั้น) แค่คิดว่า จะไม่ร่วมสังฆกรรมใดๆ และจะไม่ทำกรรมใดๆที่ต้องได้ให้มาพบปะกับคนๆนี้อีกในชาติต่อๆไป คิดไปถึงว่าสำหรับเราคนๆนี้เป็นแค่สัมพะวสีเท่านั้น

กรวดน้ำคว่ำขันก็ทำนะพี่ โกรธมาก

ใครมาชวนให้ดีกันนี่เป็นเรื่อง ไม่ด่านะแต่ว่าเลิกคบไปเลย

ตอนนี้มองอีกมุมแล้วล่ะพี่

มองว่าทำไมตัวเองไม่ชอบเดินเฉยๆ สบายๆ ทำไมจะต้องแบกภาระให้เมื่อยไปทั้งตัว บั่นทอนทั้งชิวิต เหนื่อยกะการแบก ต้องระวัง ต้องหน้าตั้งฟังว่าเขาจะว่าไรเรามา แล้วเราต้องกลับไปแก้อีก เหนื่อยพี่ เหนื่อยมาก ไม่แล้ว ไม่เสร็จ ไม่สิ้นเสียที

ตอนนั้นไม่ได้ปล่อยวางนะ
แต่หันกลับมามองตัวเองว่า ทำไมเราไม่มีความสุข คนที่อยู่ตรงกลางทำไมไม่มีความสุข ต่างคนต่างมีคอนดิชั่น เราก็เริ่มไม่มีความสุขเพิ่มขึ้น

พอเริ่มมองทุกอย่าง อย่างที่มันเป็น มองตัวเอง มองฐิถิ มองว่าเออ...นี่มันตัวกรูของกรูแบบที่ท่านพุทธทาสว่าไว้จริง ๆ

มันเปลี่ยนเองพี่ ค่อยๆเปลี่ยน ไม่รู้ตัว เริ่มยิ้มได้ เริ่มไม่ยินร้าย เขาว่า เราก็ยิ้มแบบ"เออ เพราะมันเป็นอย่างนี้แหละ" คนทุกคนมีด้วยกันทั้งนั้น ตัวกรูของกรูนี่

หลังจากนั้นเราเริ่มคุยถึงคนนี้ได้ เอ่ยชื่อได้ด้วยตนเอง จากที่ไม่มีทาง แล้วมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆทีละนิด จนกระทั่ง เขาเดินผ่านเรา เขาเชิด แต่เราก็ยิ้มและเห็นเป็นเรื่องขำ ใครทำอะไรไม่สนใจ ไม่มีผลกะเราแล้ว จนเขาร้อนเอง บางทีแอบสงสารเขาด้วยนะ เพราะเขาร้อน หนัก และไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองออกจากตรงนั้นยังไง

หนูว่านะพี่ ถ้าต่างคนต่างมองตัวเองเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ มันก็คงคุยได้ และค่อยๆเป็นค่อยๆไป จับเขามาคุยไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งหนัก เขาต้องรู้ตัวเองก่อนนะ

ถามว่าพอรู้อย่างนั้นแล้วเป็นไง ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร

หลุดผลึบ และมันโล่ง เบาหวิวเลย
และบอกตัวเองว่า "เอ้อ..ง่าวเมินแต้..แต่ดีใจที่หล๊วกทัน อิอิ"

สุดท้ายกลัยมาคุยกันได้ค่ะ เป็นเพื่อนสนิทกันยิ่งกว่าเดิม เพราะเราเห็นลูกเขาเดินเข้าซอยบ้านตอนมืด เราก็เลยรับไปส่งบ้าน อีกหลายวันต่อมาเขาทำกับข้าวมาให้ที่บ้าน


โดย: หมี่เกี้ยว IP: 192.43.227.18 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:14:38:37 น.  

 

Hi5 Love Winter Graphics Comments


มาเยี่ยมค่ะ ไม่ได้มาเสียนาน เอารูปน่ารักๆ มาฝากด้วยค่า


โดย: kakade IP: 61.91.92.212 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:22:24:08 น.  

 
สวัสดีครับ ลุงหนอม (ขออนุญาติเรียกลุงน่ะครับ)

ชอบรอยที่ 15มากครับ
บางครั้งก็ทำใจลำบากเหมือนกัน ทำให้ผมนึกถึงเพื่อนแบบนี้ขึ้นมาเลยครับ
คง
ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเล่นดนตรีอยู่ไหมครับ

รักษาสุขภาพด้วยน่ะครับ







โดย: ดอกเสี้ยวขาว วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:22:09:13 น.  

 
สวัสดีตอนใกล้เที่ยงค่ะ

น้ายายกลับมาแล้วใช่ไหมค่ะ
ไปเดินป่าสนุกหรือเปล่าค่ะ


โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:11:43:10 น.  

 
หนูเบญ
ดอกเสี้ยวป่า
ตาพราน
หมี่เกี๊ยว
และkakade

ข้าเจ้ากลับมาแล้วจ๊ะ
เหนื่อยดี แต่ช่วยให้สดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ หมู่บ้านที่ไปชื่อว่าตีนผาค่ะ อยู่แม่แจ่ม ห่างจากตัวเมืองประมาณยี่สิบกิโล เป็นหย่อมบ้านเล็ก ๆ ค่ะ อยู่ตรงขะเข็บของอุทยานอินทนนท์ พื้นที่บ้านอยู่นอกเขตอุทยาน แต่พื้นที่ทำกินส่วนใหญ่อยู่ในเขตอุทยานค่ะ หมู่บ้านนี้ยังเขียวอยู่ค่ะ ชาวบ้านยังหาอยู่หากินตามวิถีธรรมชาติคือยังไม่ปลูกพืชเชิงเดี๋ยวเช่นข้าวโพค

ยังปลูกข้าวไร่ ปีหนึ่งส่วนใหญ่ปลูกข้าวพอกิน และก็ปลูกฟักทอง

มีปัญหาเรื่องนำสำหรับทำการเกษตร

แล้วจะมาเล่าให้ฟังในวันต่อไป ขอบคุณมากนะเจ้า

ปล. คราวนี้ไม่ได้เดินป่าแต่เดินอยู่ในหมู่บ้านเท่านั้นค่ะ





โดย: แพรจารุ IP: 124.157.157.85 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:15:28:26 น.  

 
เข้ามาแอ่วหาเน้อ...
สบายดีกั๋นก่อนิ...คนทุ่งเสี้ยว
บ่ฮู้ว่าเมื่อใดจะว่างได้ไปแอ่วซักทีเนาะ

อาทิตย์นี้อาจมีงานเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ "สร้อยแก้ว คำมาลา" ที่ร้านเล่าเน้อ

รอประสานงานอีกทีนะครับ...


โดย: pu_chiangdao วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:22:40:24 น.  

 
ภู เชียงดาว

ขอบคุณครับ
บอกมาอีกทีนะครับ วันไหน

ดอกเสี้ยวขาว
เลิกเล่นรับจ้างแล้วครับแต่ยังช่วยงานกิจกรรมอยู่ครับ



โดย: ถนอม ไชยวงษ์แก้ว IP: 222.123.133.77 วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:12:16:10 น.  

 
มาปูเสื่อรอพี่ยายเล่าให้ฟัง


โดย: เพลงฝน IP: 125.26.107.94 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:17:17:17 น.  

 
เราเอาขนมมาด้วย
กะว่ามาหาเสื่อแถวนี้
รอฟังพี่ยายอีกคน
เจอพอดี เพลงฝนน่ะเอง


โดย: หมี่เกี๊ยว IP: 198.142.231.8 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:18:55:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แพรจารุ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..
۞ บทกวีและเรื่องสั้น ถนอมไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท

..
۞ จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว โดยถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท 17 ต.ค.51
http://www.youtube.com/watch?v=L21lhWsu8QQ&feature=related object width="315" height="80">
หา โค้ดเพลงhi5 : hi5 song code search
Friends' blogs
[Add แพรจารุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.