|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เปิดบันทึกเจ้าตัวน้อย ตอนที่ 1
จู่ๆ ก็มารู้สึกว่า เรานี่ก็ใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว (34 weeks แล้วค่ะ) น่าจะมีการบันทึกอะไรเป็นความทรงจำสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งแรกบ้าง เผื่อว่าอีกสักสิบปีข้างหน้ากลับมาอ่าน จะได้รู้สึกเหมือนความประทับใจมันจะยังสดใหม่อยู่ในหัวใจเสมอ เลยได้ฤกษ์เปิดห้องใหม่สำหรับตัวเล็กในพุงโดยเฉพาะเอาคราวนี้ล่ะ
เอาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่รู้ว่าท้องเลยละกัน เริ่มต้นที่การมีอาการทุกอย่างเหมือนกับตอนใกล้มีประจำเดือน ทั้งอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่ค่อยจะอยากตื่นนอน กินก็จุและอยากขนมต่างๆ มากเป็นพิเศษ ท้องก็อืดป่องเชียว เจ็บหน้าอกด้วย ปวดท้องอีกต่างหาก (ซึ่งปกติมักจะปวดท้องนิดหน่อยตอนที่ประจำเดือนมาวันแรก ไม่เคยปวดเยอะๆ ก่อนประจำเดือนจะมา) ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ประจำเดือนก็ไม่มาสักที ท้องก็อืดทุกวันๆ อึดอัดไปหมด ท้องอืดมากๆ ชนิดที่ทั้งเดิน ทั้งซิตอัพก็ยังไม่หาย เคยทนไม่ไหวกระทั่งต้องไปนอนคว่ำเพื่อจะได้กดท้องเอาไว้ไม่ให้มันป่องออกมา (บ้าได้ขนาดนั้นเลย คิดดู) ผ่านไปสองสัปดาห์ประจำเดือนก็ยังไม่มาอีก แอบไปซื้อแถบตรวจตั้งครรภ์มากตรวจเองก็ไม่ทราบผล (แฮ่ๆ อันนี้เป็นความงี่เง่าส่วนตัว ไม่รู้ว่าทำขั้นตอนไหนผิด เทสออกมาไม่เห็นมันขึ้นอะไรเลยสักขีด) สุดท้ายก็ต้องบอกข้อสงสัยให้คนข้างๆ รับรู้ และพาเราไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลออกมาก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่แหละ ไม่งั้นจะท้องป่องจวนจะคลอดเอารอมร่ออย่างงี้เหรอ เนอะ 
เดือนที่ 1
เดือนนี้ยังสดใสลัลลามาก ยังไม่รู้สึกเหมือนคนท้องเลย บางครั้งยังแอบไม่มั่นใจว่าหมอตรวจถูกรึเปล่า เพราะไม่มีอาการแพ้ท้องอะไรเลย มีก็แต่อาการง่วงนอน ง่วงทั้งวัน นอนได้ทั้งวัน และก็หิวบ่อยกว่าปกติ กินก็จุ น้ำหนักขึ้นมา 1 กก. แต่ว่ายังไปฟิตเนสอยู่นะ เล่นก็ไม่ได้เบาลงเลย คงเป็นเพราะมันไม่มีอาการเหมือนคนท้องเลยมั้ง มาเจอน้ำหนักขึ้นเข้า เลยยิ่งโหมฟิตเข้าไปใหญ่ เออใช่ ช่วงนี้ออกจะอยากทานอาหารเปรี้ยวๆ หน่อยนะ พวกต้มยำ ต้มโคล้ง ต้มส้ม อะไรอย่างเงี้ยแหละ ทั้งๆ ที่ปกติก็เฉยๆ กับอาหารเหล่านี้นะ วันไหนที่กลับบ้านตัวเองนะ จะมีไอเดียอาหารอะไรมานำเสนอให้แม่ครัวที่บ้านทำให้อยู่เรื่อย จนน้องสาวออกปากชมเลยว่าพักนี้ครีเอทจริงๆ คนอื่นๆ เลยได้กินของอร่อยๆ ไปด้วยเลย
เดือนที่ 2
เริ่มแล้ว ไอ้อาการผะอืดผะอม แหวะๆๆๆ เริ่มมาแล้ว หิวทั้งวัน อยากทานโน่นทานนี่เต็มไปหมด แต่ทานไม่ลง โชคดีอยู่อย่างที่เราไม่อาเจียนเลย มีแค่ทานไม่ลง รู้สึกคล้ายๆ ว่าทานไปแล้วอาหารมันไม่ย่อย ของเก่ามันอาจจะตีตื้นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ แต่พอนั่งๆ ค่อยๆ เล็มข้าวในจานไปทีละคำ สุดท้ายก็กินหมดอยู่ดี แต่จะกินแค่ให้หายหิว เพราะถ้ากินจนอิ่มก็ท้องอืดหนักอีก ท้องอืดมากๆๆ ชนิดที่ทำยังไงก็ไม่หาย จะทานยาธาตุ หรือ Air-X ที่หมอให้มาก็กลับกลายเป็นว่าช่วยให้หิวบ่อยขึ้นเสียอีก แถมยังเรอออกมาแล้วมีกลิ่นยาติดคออยู่เป็นชั่วโมงๆ โฮ่ ไม่ไหวๆ แหวะจริงๆ และไม่รู้เป็นเพราะในมื้ออาหารทานน้อยหรืออย่าง ทำให้หิวของจุบจิบทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้ทานอะไรมากเอาแค่พอประทังไม่ให้น้ำย่อยมันตีตื้นขึ้นมาเท่านั้น แถมยังพอหิวปุ๊บ ต้องมีอาหารยัดปากปั๊บ ไม่งั้นจะรู้สึกเหมือนน้ำย่อยหรืออะไรสักอย่างมันชักจะตีตื้นขึ้นมา เกิดอาการแหวะๆ อยู่ในลำคอ ทำให้ไปไหนมาไหนก็จะต้องมีเสบียงติดอยู่ในกระเป๋าถือเสมอๆ เอามาทานแค่แก้ภาวะแหวะๆ เท่านั้น
ถ้าถามว่าเราแพ้ท้องแบบอยากทานเปรี้ยวหรือหวาน เราอาจจะตอบไม่ค่อยได้ เพราะ เดิมเป็นคนชอบทานหวาน หมายถึงชอบขนมหวานทั้งหลาย แต่อาหารคาวนี่ออกจะติดเค็มนิดๆ นะ ช่วงที่มีอาการแพ้นี่ก็อยากไปล้านแปดเลยนะ (เวลาที่ไม่ผะอืดผะอมน่ะ) ทั้งของคาวของหวาน แต่บางทีได้ของที่อยากมาอยู่ตรงหน้าแล้ว กินสองคำก็หายอยาก บางทีกินของหวานไปแล้วหวานติดคอเป็นชั่วโมงๆ เลยก็มี เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งอยากทานปลานึ่งมะนาวมากๆ แต่พอได้ทานแล้ว ไม่นานก็เรอออกมาเป็นกลิ่นเปรี้ยวๆ และเปรี้ยวติดคอนานเป็นชั่วโมงๆ จะบ้วนปากหรือกินน้ำยังไงก็ไม่หาย ตั้งแต่นั้นมา เลิกอยากของเปรี้ยวไปเลย จะออกแนว ขออาหารจืดๆ ไว้ก่อน ไม่ต้องเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขอแบบที่กินแล้วไม่ต้องมานั่งผะอืดผะอมหลังกินเป็นพอ
ส่วนเรื่องนอนนะ ช่วงนี้ก็ยังคงง่วงนอนสม่ำเสมอ ถึงขนาดไปถามหมอว่า นอนมากไปเป็นอะไรมั้ยคะ ฮา หมอก็บอกว่าไม่เป็นไร หมอจะเป็นห่วงแค่คุณแม่ที่นอนไม่พอเท่านั้น ยังไม่เคยเห็นใครเป็นอันตรายเพราะนอนมากไปสักที อิอิ
อีกอาการหนึ่งที่เกี่ยวกับท้องอืดโดยตรงเลย นั่นก็คือ ท้องผูก ยิ่งแต่เดิมเราเป็นคนท้องผูกอยู่แล้วด้วย คราวนี้เลยท้องผูกได้ใจเลย ยิ่งเพื่อนมาบอกว่า คนท้องเป็นริดสีดวงทวารกันอื้อเลยแก ไอ้เราก็ยิ่งใจเสีย บางช่วงต้องทานมะขามแขกช่วยถ่ายทุกวันเลย มาเจอหนังสือเล่มหนึ่งแนะให้ทานขมิ้นชัน บอกว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยลดอาการท้องอืด และเหมาะสำหรับคนที่ทานยาระบายเป็นประจำติดต่อกันเป็นเวลานาน เราเลยไปหาขมิ้นชันแคปซูลมาติดบ้านไว้ แล้วเริ่มทานเป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น เผื่อว่ามันจะช่วยได้บ้าง
เดือนที่ 3
เดือนนี้การนอนขี้เซาลดลง หรือจะเป็นผลมาจากการพยายามฝืนไม่นอนกลางวันด้วยรึเปล่าก็ไม่ทราบ อาการผะอืดผะอมผสมคลื่นไส้ก็ยังมี คราวนี้หมอให้ยาแก้แพ้มาทานแล้วล่ะ วันไหนมีอาการมากหน่อยก็ทานยาได้ เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว 
แปลกนะ ในหนังสือบอกว่าอาการแพ้ท้องนี่มักจะเป็นกันช่วงเช้า เค้าถึงเรียกมันว่า Morning sickness แต่ของเรานี่ ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น มาเริ่มแหวะๆ ตอนหลังอาหารเช้า และเป็นมากจนหมดอารมณ์จะดูหนัง ฟังเพลง ก็ไอ้ตอนหลังอาหารเย็นถึงก่อนนอนนั่นเลย
ด้วยความที่เป็นคนมองการณ์ไกล เราเห็นว่าช่วงนี้เพิ่งจะแต่งงานมาได้ไม่นาน เคยไปเที่ยวด้วยกันแค่การฮันนีมูนเอง ตอนนี้ก็ท้องแล้ว (อะไรจะไวปานนี้) ช่วงเดือนนี้เราเองก็ยังไม่ได้เริ่มงานในบริษัทของเขาเต็มตัว และเขาเองก็พอจะลางานได้หลายวัน เนื่องจากเดือนพค. มีวันหยุดเยอะอยู่ เดี๋ยวถ้าท้องเริ่มโตไปไหนมาไหนจะไม่สะดวก และยิ่งหลังคลอดยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่างเที่ยวแน่ๆ คนมองการณ์ไกลอย่างเราจึงจัดการหาโปรแกรมเที่ยวทันทีที่ไปหาหมอแล้วหมออนุญาต ตัวเล็กของเราเลยได้ไปเที่ยวอเมริกาตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง (จริงๆ สามีจะไปเยี่ยมญาติ และน้องสาวเราก็กำลังจะรับปริญญา เลยได้รวบสองเมืองไว้ในทริปเดียวกันนี้ซะเลยน่ะค่ะ)
หลายคนเตือนแล้วเตือนอีกเรื่องเดินทางไกล แต่เรามีใจรักจะเที่ยวซะอย่าง สู้ไม่ถอยอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยง่ายกว่าปกติ มีการเดินจนเพลีย เดินจนปวดท้อง (อันนี้หมอเตือนมาแล้วแหละว่า ถ้าเดินจนเกินพิกัดเมื่อไหร่ มันจะปวดท้องเอง) หนาวจนหน้าซีดตัวสั่น เที่ยวเหนื่อยจนเดินเปลี้ยกลับโรงแรม ก็ยังนับว่าสนุกอยู่ ยาแก้แพ้ท้อง ยาลดไข้ แก้หวัดนี่ต้องติดตัวตลอดเชียว มีคลื่นไส้บ้าง เพลียจนต้องเที่ยวๆ พักๆ บ้าง แต่ก็นับว่าสนุ้กสนุก เป็นทริปที่ประทับใจ ...เห็นมั้ย... เรื่องเที่ยวนี่ เราสู้ขาดใจจริงๆ
เดือนที่ 4
เกือบจะฮาเฮ เข้าสู่ไตรมาศที่สองแล้ว ไหนใครว่าจะไม่แพ้แล้วไง แต่ทำไมตอนกลางคืนมันยังมีอาการแหวะๆ ผะอืดผะอมอยู่อีกล่ะ ฮือๆๆ ยังดีที่การกินขมิ้นชันเป็นประจำช่วยให้อาการท้องอืดและท้องผูกลดลง เลยไม่ต้องทรมานกับอาการสองอย่างนี้มาก
ตอนนี้เริ่มมีคนนอกครอบครัวรู้ว่าเราท้องหลายคนแล้ว (พอดีมีคนเตือนมาว่า ช่วงสามเดือนแรกเป็นช่วงที่เด็กยังเกาะตัวไม่แน่น อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งบอกใคร ไว้รอหลังสามเดือนค่อยกระจายข่าวก็ยังไม่สาย เราเลยเพิ่มเริ่มบอกคนนอกครอบครัวเอาเดือนนี้) และกางเกงก็คับไปหลายตัวแล้ว ต้องไปซื้อกางเกงสำหรับคนท้องมาใส่ โอ้โฮ สบายขึ้นเยอะเลย มียางยืดๆๆๆ ได้ตามใจชอบ โฮะๆๆ และก็เริ่มช้อปชุดคลุมแบบกระโปรงเอาไว้ด้วย แบบว่าเห่อนิดหน่อยน่ะนะ จริงๆ ตอนแรกพยายามจะหาชุดแซคสวยๆ มาใส่มากกว่า ไม่อยากใส่ชุดคลุม แต่ไปเดินหาซื้อตั้งหลายที่ ไปลองมาตั้งหลายแบบ แล้วมันไม่เวิร์ค ใส่แล้วออกมาดูเป็นคนอ้วนลงพุงมากกว่าคนท้อง สุดท้ายเลยตัดสินใจซื้อชุดคลุมท้องแหละ
ขอบอกเป็นข้อมูลเล็กน้อยสำหรับคนจะซื้อนะคะ (ต้องระบุอีกนิดว่า สำหรับคนจะซื้อที่อยู่ทางฝั่งธนฯ นะคะ) เราน่ะไม่รู้แหล่ง ตอนแรกไปดูในห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ได้น่ารักๆ มาหลายชุด ราคาก็พอประมาณ (ของห้างก็ราคาเนี้ยล่ะค่ะ ยังดีที่เอา the one card ไปแลกบัตรลดเปอร์เซ็นต์ได้) ต่อมาไปที่เซ็นทรัล พระราม 2 ชั้น 2 หรือ 3 นี่แหละ มีอยู่ร้านนึง ชื่อร้าน 9 Months อยู่โซนพลาซ่าน่ะค่ะ เห็นโชว์ชุดน่ารักๆ เยอะเชียว แต่เราผ่านไปทีไรร้านปิดทุกที ชวดกันตลอด ตอนหลัง (ตอนนั้นหกเดือนแล้วมั้ง) บังเอิญจริงที่เจอร้านเปิด เลยได้มาชุดนึง ชุดนั้นกลับไปชุดที่เราชอบที่สุดจนถึงตอนนี้เลยนะ เสียดายที่พอหาซื้อไม่ได้ก็ไปให้ช่างตัดเสื้อคุณแม่ตัดให้แล้วสามสี่ชุด เลยไม่อยากซื้อเยอะให้ล้นตู้ ขอบอก... ชุดที่ตัดใส่สู้ชุดที่ซื้อไม่ได้หรอกค่ะ เป็นเพราะผ้าอย่างดีเกินเลยทำให้ร้อนหรือเป็นเพราะเราไม่เห็นของสำเร็จรูปก่อนก็ไม่ทราบ อีกร้านที่หลงไปซื้อมานะคะ ร้าน belly belly ที่สยามสแควร์ ร้านนี้เสื้อผ้าสวยค่ะ แต่ราคาชวนสลบมากๆ ซื้อกางเกงไปสองตัว กระโปรงชุดตัวนึง ยังมึนราคามาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ แหะๆๆ 
และขอบอกคุณแม่มือใหม่ที่ไร้ประสบการณ์อย่างเรานะคะ พอดีเราเป็นคนชอบใส่กางเกง นุ่งกางเกงเป็นประจำ เลยขนซื้อกางเกงมาเพียบ แม้คนขายจะบอกว่ายืดเอวออกได้เรื่อยๆ ใส่ได้จนถึงคลอด แต่กางเกงตัวนั้นจะใส่ได้อยู่แค่ราวๆ 6-7 เดือนเท่านั้นล่ะค่ะ เพราะถึงแม้เอวมันจะยืดได้จริง แต่ต้นขาเรามันเริ่มคับแล้ว ไม่อย่างนั้น พอถึงไตรมาสสุดท้ายท้องเริ่มใหญ่ เราจะก้มใส่กางเกงไม่ถนัดแล้ว ใส่ชุดกระโปรงสบายกว่าเยอะเลย เราเองยังเสียดายที่มาอยากได้กระโปรงเพิ่มเอาตอนเกือบๆ 8 เดือน รู้อย่างนี้ซื้อกางเกงน้อยหน่อยก็ดี เฮ้อ... 
สำหรับอาการของช่วงเดือนที่ 4 ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แรกๆ ก็จะยังผะอืดผะอมอยู่เหมือนเดิม พออาการผะอืดผะอมเริ่มหายไป ทีนี้ก็เข้าสู่ภาวะกินจะล่ะ เชื่อมั้ยว่าแรกๆ เราตกใจมาก เคยกินเท่านี้อิ่ม ปรากฎว่ามันไม่อิ่ม ต้องเติมข้าวอีก แถมผ่านไปได้อีกไม่กี่ชั่วโมงก็หิวอีกรอบ ไปหาขนมมากินเพิ่มได้อีก โอ้... กินได้สมใจอยากเลยทีนี้ อยากกินเท่าไหร่ จุได้เท่านั้น สมดังใจดีแท้ เย้ น้ำหนักที่ลดลงนิดหน่อยช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เลยได้มาชดเชยกับเดือนนี้แหละ อิอิ 
บล็อกยาวพอสมควรแล้ว ไว้คราวหน้ามาต่อเดือนที่ 5 กันนะคะ เป็นเดือนที่จะอัลตร้าซาวด์ดูเพศแล้วน้า สำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักเรามาก่อน ลองทายดูเล่นๆ มั้ยคะว่า อาการแพ้ท้องทั้งหมดดังที่ได้กล่าวมานี้ พอจะเดาได้มั้ยเอ่ยว่าเราจะมีตัวเล็กเพศอะไร อิอิ 
Create Date : 24 กันยายน 2551 |
Last Update : 24 กันยายน 2551 12:11:09 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1572 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: tiara IP: 125.27.164.136 วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:13:12:38 น. |
|
|
|
โดย: โปแป้ง (popang ) วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:13:17:06 น. |
|
|
|
โดย: err_or วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:14:11:52 น. |
|
|
|
โดย: คีตาญชลี IP: 58.8.47.79 วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:22:12:38 น. |
|
|
|
โดย: Pupae63 IP: 125.24.146.200 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:0:52:29 น. |
|
|
|
โดย: รุ่ง IP: 125.24.63.14 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:15:16:30 น. |
|
|
|
โดย: lily IP: 124.120.140.59 วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:9:23:40 น. |
|
|
|
โดย: หญิง (Yingang ) วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:15:49:55 น. |
|
|
|
โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 203.146.8.124 วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:11:54:52 น. |
|
|
|
โดย: นู๋แป๋ว (nupaew ) วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:9:42:28 น. |
|
|
|
โดย: Pupae63 IP: 125.24.96.141 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:15:56:11 น. |
|
|
|
โดย: somiasomia IP: 203.131.209.141 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:17:55:45 น. |
|
|
|
โดย: เรือไฟ วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:20:59:12 น. |
|
|
|
โดย: ColdOut วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:21:56:41 น. |
|
|
|
โดย: มิ้นท์ IP: 58.9.203.75 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:14:01:25 น. |
|
|
|
โดย: ellie@aggie วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:16:56:44 น. |
|
|
|
โดย: bookmark IP: 118.174.175.113 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:23:40:54 น. |
|
|
|
|
|
|
Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
|
|
|
|
|
|
|