สถานที่แรกที่ จขบ. จะพาไปนั่นก็คือ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินที่อยู่ริมเขาหมาจอ ต.แสมสารกันค่ะ หากเพื่อนๆ เคยเดินทางไปเกาะขามแล้วก็ ต้องผ่านที่นี่แน่นอน เพราะอยู่ติดกับท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะขามเลยค่ะ โดยด้านบนของเขาหมาจอก็เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยอยู่ด้านบนของเขาหมาจอค่ะ

โดยศาลพระเจ้าตากสินแห่งนี้ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการได้รับการอนุมัติจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขึ้นบริเวณ เขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ โดยได้มีพิธีเทหล่อพระบรมรูป เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2545 โดยพระองค์เจ้าโสมสวลีเสด็จเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ที่วัดสัตหีบ จากนั้นได้ทำพิธีแห่งพระบรมรูปเพื่อนำไปประดิษฐานที่ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินแห่งนี้ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2547  ที่นี่จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ชาวบ้านแสมสารและนักท่องเที่ยวต่างมาสักการะขอพรสมเด็จพระเจ้าตากสินกันค่ะ

สถานที่ต่อมานั่นคือวิหารหลวงพ่อดำ ตั้งอยู่ตำบลแสมสารเช่นกัน หากมองจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินก็จะเห็นวิหารหลวงพ่อดำอยู่บนเขาเหนือชุมชนหมู่บ้านแสมสารค่ะ (สังเกตุกันเอาเองนะ เพราะไกลมาก)  ตอนนี้กใกล้พระอาทิตย์ตกดินแระ เราไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ณ วิหารหลวงพ่อดำกันต่อเลยค่ะ

จากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินขับรถมาไม่ไกลมานักผ่านชุมชนบ้านแสมสาร จนมาถึงวิหารหลวงพอดำอยู่บนเนินเขาค่ะ บริเวณวิวด้านบนของวิหารหลวงพ่อดำแห่งนี้เป็นวิว 360 องศาเลยทีเดียว มองไปเห็นเกาะแสมสารและเกาะขามด้วยล่ะ จขบ.มาถึงพระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปพอดีเลยค่ะ

เหมาะแก่การถ่ายรูปสวยๆ เป็นอย่างยิ่ง เอาล่ะ ชมวิวกันเพลินๆ ไปล่ะ เข้าไปดูด้านในของวิหารหลวงพ่อดำกันดีกว่าค่ะ ขอบอกว่าที่นี่เป็นโบสถ์ที่จัดว่าสวยประทับใจ จขบ. มากๆ เพราะด้านนอกว่าอลังการแล้วด้านในก็งดงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว ตามประวัติเดิมเล่าว่า หลวงพ่อดำรงแห่งวัดเขาขึ้น อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ได้ฝันว่า "เทพยดาองค์หนึ่งบอกให้ไปสร้างพระพุทธรูปไว้ใกล้ๆ พระเจดีย์เก่าองค์หนึ่งบนเขาชายฝั่งตะวันออก และบอกว่าในภายภาคหน้า พระประทานองค์นี้จะกลายเป็นพระศักดิ์สิทธิ์และมีประชาชนมากราบไหว้จำนวนมาก เนื่องจากบริเวณแห่งนี้มีความเหมาะสมที่จะบูรณะให้กลายเป็นแหล่งรักษาศีลและความสงบให้กับชาวพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก"

ท่านจึงเดินทางจากวัดเขาขึ้นมาจนถึงบ้านช่องแสมสาร สถานที่ปักกลดอยู่นั้นตรงกับที่ได้ฝันไว้ หลวงพ่อจึงได้ชักชวนญาติโยมบริจาควัสดุในการสร้างพระพุทธปฏิมากร ใช้เวลาสร้างถึงสองปีจึงแล้วเสร็จและทารักสีดำเด่นเป็นสง่าอยู่กลางแจ้ง โดยไม่มีหลังคาคลุม หลวงพ่อดำตากแดดอยู่แบบนั้นเกือบสิบปีเศษ มีชาวประมงจากสมุทรปราการแล่นเรือผ่านมา จึงได้ขอพรว่า "ถ้าเที่ยวนี้ออกเรือได้ 200,000 บาท จะมาทำหลังคาให้" ปรากฏว่าได้ตามคำขอจึงมาสร้างหลังคาให้

ต่อมาชาวประมงอีกรายผ่านมาก็บนขอให้จับปลาได้เยอะๆ จะมากั้นฝาให้ ก็สมดังหวัง ต่อมาก็มีชาวบ้านและชาวเรือต่างมานมัสการหลวงพ่อดำเป็นจำนวนมาก เพราะขออะไรมักจะได้ดังขอ หลังจากนั้นอีกสิบปีสภาพวิหารก็ชำรุดจนใช้งานไม่ได้ นายเสน่ห์ พิทักษ์กรได้ร่วมกับพระครูวิสารทสุตากร เจ้าอาวาสพร้อมชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างเป็นวิหารจตุรมุข ภายในมีจิตกรรมฝาผนังและด้านนอกเป็นภาพปูนปั้นเรื่องราวพุทธประวัติ โดยได้เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2532

หลายๆ คนที่มาที่นี่สงสัยใช่ไหมว่าทำไมจึงเรียกว่าหลวงพ่อดำ ในเมื่อเข้ามาในโบสถ์หลวงพ่อดำเหลืองอร่ามเชียว สาเหตุก็เกิดจากความเลื่อมใส่ของชาวบ้านนี่ล่ะ ที่มาปิดทององค์หลวงพ่อจากองค์ที่ทารักสีดำกลายเป็นองค์เหลืองอร่ามไปทั้งองค์ดังที่เห็น ก็เพราะแรงศรัทธาของประชาชนนั่นเอง เมื่อกี้จขบ. เกริ่นนำมาแล้วว่าด้านนอกของโบสถ์แห่งนี้งดงาม ตามออกไปดูด้านนอกกันเลยค่ะ 

พี่สาวของ จขบ. ที่เป็นคนพื้นที่ที่นี่วันนี้ทำหน้าที่เป็นไกด์ให้เรา พาเราไปรู้จักกับป้าผา ชาวบ้านแสมสารที่ทำธุรกิจขายปลาหมึกสดและปลาหมึกแห้ง ทำกันใหม่ๆ เลยล่ะค่ะ ราคากิโลละ 200 บาทเอง เค้ามีปลาหมึกสดขายด้วย ที่นี่เค้านิยมทานปลาหมึกไซส์เล็ก จขบ. ก็เพิ่งเคยทานเหมือนกัน โอ้ว.. อร่อยกว่าตัวใหญ่ๆ เสียอีกล้างน้ำแล้วย่างทานได้เลยยิ่งเป็นหมึกสดๆ เพิ่งขึ้นมาจากทะเลแล้วล่ะก็อร่อยมากๆ ค่ะ ป้าผาแกขายกิโลละ 60 บาทเอง

อันนี้เป็นรูป Before and After ของปลาหมึกคะ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกว่าปลาหมึกแบบนี้เค็มจังอ่ะ แต่ขอบอกว่าปลาหมึกแสมสารไม่เค็มค๊า .. อร่อยกำลังดีไว้นานก็ไม่เค็มด้วยล่ะ เหมือนได้ทานปลาหมึกสดตลอดเวลาเลยอ่ะ ไม่รู้ป้าแกมีเคล็ดลับในการทำปลาหมึกอย่างไรแฮะ เห็นแบบนี้ขายอยู่ด้านนอกเส้นของฝากกิโลละสี่ร้อยกว่าเหอะ  เอาล่ะซื้อหมึกกันเรียบร้อย พวกเราก็ไปต่อยังวัดช่องแสมสาร

วัดนี้เป็นวัดดังของสัตหีบเลยล่ะ เพราะมีสิ่งที่เรียกว่าใหญ่ที่สุดในประเทศประดิษฐานอยู่นั่นคือ องค์ท้าวสหบดีพรหมสี่ทิศ องค์ใหญ่มากอ่ะ จขบ. มาตอนกลางคืนสีเหลืองทองอร่ามเลยค่ะ เสียดายมากันดึกไปหน่อยเลยไม่ได้ลอดโบสถ์ ไฮไลท์ของวัดนี้เค้าเลยล่ะ ปากทางเข้าก็มีพระราหูองค์ใหญ่ด้วยอ่ะ เข้าใจทำดีอ่ะ ไว้คราวหน้าจะไม่พลาดเลยค่ะ วันนี้ก็อิ่มบุญมาเต็มที่ล่ะ พรุ่งนี้จะไปเที่ยวต่อที่เกาะแสมสารค๊า

Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com
Facebook : Patthanid FC

Create Date : 05 กรกฎาคม 2555
Last Update : 8 ธันวาคม 2556 22:28:19 น.		10 comments
Counter : 8430 Pageviews.
Share Tweet