ระหว่างทางเห็นอะไรสวยๆ ก็เดินถ่ายรูปกันไปตลอดทาง ยิ่งเดินมาถึงอีกด้านโขดหินก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนเดินกันมาถึงบนยอดเขาแห่งนี้


วิวด้านบนมองลงมาก็จะเห็นหาดทรายแก้วทั้งหาดเลยล่ะ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราเดินอ้อมแนวโขดหินจากอีกฝั่งหนึ่งมาอีกฝั่งที่เป็นชายหาดทรายแก้วนั่นเอง

จะว่าไปแล้ววันนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน การที่ได้เดินลัดเลาะโขดหินก็สนุกไปอีกแบบ ถือว่าเป็นการเดินสำรวจรอบชายหาดแห่งนี้ พอข้ามมาฝั่งนี้ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้วล่ะ ไม่ได้การล่ะ ไปเล่นน้ำกันดีกว่า


สำหรับตอนนี้ก็จะพาเพื่อนๆ มาดื่มด่ำกับบรรยากาศยามราตรีนี้ที่เสม็ดกันต่อล่ะ หลังจากที่พวกเราก็ลงเล่นน้ำทะเลกันจนตัวเปื่อยได้ที่ล่ะ ก็ขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตะลุยราตรีบนเกาะเสม็ด โดยนัดหมายรวมพลเวลาหนึ่งทุ่ม และเมื่อสมาชิกพร้อมไกด์สาวสวยเพื่อนหนิงของเราก็พาเพื่อนๆ เดินดูบรรยากาศยามราตรีที่หน้าชายหาดทรายแก้วล่ะ



ยามค่ำคืนชายหาดแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาแตกต่างกับช่วงกลางวันอย่างคนละเรื่อง สาเหตุก็เพราะว่ายามค่ำคืนบริเวณชายหาดแห่งนี้ ร้านอาหารที่อยู่ริ่มชายหาดต่างก็ประดับประดาไฟด้วยสีสันต่างๆ สวยงามสร้างแรงดึงดูดต่อนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเป็นยิ่งนัก นี่ขนาดช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง long Weekend นะ คนยังเยอะขนาดนี้
พวกเราก็เดิน Window Shop ตามร้านอาหารต่างๆ ก่อน สำรวจร้านอาหารอร่อยๆ เพื่อฝากท้องสำหรับมื้อเย็นนี้เสียหน่อย ซึ่งก็เดินไปเดินมาสรุปสุดท้ายก็มาจบที่ร้านคุณกร เพราะดูจากปริมาณคนแล้วไม่เยอะมากนัก ทานข้าวกันเสียก่อนแล้วค่อยไปนั่งดริ้งค์ร้านที่มีวงดนตรีสดเล่นกันต่อ

เมื่อได้ที่นั่งพวกเราก็เริ่มสั่งอาหาร หนิงเริ่มสั่งเมนูแรกคือปลาหมึกผัดไข่เค็ม ปรากฏว่าไม่มี เป็นงงนะนี่ อ่ะไม่เป็นไรเอาที่มีในเมนูก็ได้ สั่งเสร็จก็ได้แต่นั่งรองเพลง "รอ" หนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววของอาหารที่สั่ง จนกระทั่งอีกยี่สิบนาทีผ่านไป อาหารเริ่มมาแล้ว ด้วยความหิวทุกคนก็ตักกันใหญ่ แล้วก็ต้องอึ้งมองหน้ากัน สงสัยทริปนี้เราจะโชคดีในเรื่องฟ้าฝน แต่กลับโชคร้ายในเรื่องอาหารการกิน (เรื่องใหญ่เสียด้วย) เพราะวันนี้ทั้งวันเจอร้านอาหารไม่ถูกปากเอาเสียเลย อาหารที่นี่ออกแนวจืดเสียเป็นส่วนใหญ่สงสัยเน้นทำขายฝรั่ง นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราก็ต้องเซ็งจิตไปตามๆ กันเพราะมันอร่อยเอาเสียเลย ติดแต่ว่าหิวนะนี่
ขณะที่พวกเรานั่งทานอาหารกันได้สักระยะหนึ่ง ก็มีสายโปรยปรายลงมา คนที่นั่งอยู่ที่ชายหาดก็ต้องอพยพเข้ามาในร้านกันเป็นแถว ดังนั้นทุกอย่างที่ตั้งใจว่าจะไปนั่งดริงค์กินลมชมทะเลต่อก็มีอันต้องล้มเลิก สุดท้ายแล้วก็ต้องพึ่งที่พี่งสุดท้าย 7 Eleven (อยู่คู่คนไทยจริงๆ เลยไม่ว่าเหนือใต้ออกตกที่ไหนเราก็ไม่ห่างไกลเซเว่น) ตอนขาไปก็ดูไม่ค่อยน่ากลัวเสียเท่าไหร่ แต่ขากลับนี่สิ ต้องเดินผ่านวัด นี่ก็น่าจะสี่ทุ่มกว่าแล้วล่ะ ต้องเดินผ่านวัดยามวิกาลนี่มันก็เสียวสันหลังอยู่มิใช่น้อยเลยนะนี่ มิน่าละในห้องเค้าถึงมีไฟฉายเตรียมไว้ให้ สุดท้ายพวกเราก็ต้องมานั่งกงกันต่อที่ห้อง แต่ด้วยความที่เหนื่อยเที่ยงคืนก็แยกย้ายห้องใครห้องมันแล้วล่ะ
เช้าวันที่สองบนเกาะเสม็ด
กำหนดการสำหรับเช้าวันนี้พวกเรานัดทานข้าวเช้ากันแปดโมงครึ่ง วันนี้เราก็ตื่นตั้งแต่หกโมงเลย กะว่าจะมาเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าเสียหน่อย มาทะเลทั้งทีต้องตื่นเช้าเสียหน่อย (ต่างกับไปทำงานเสียนี่กระไร แทบไม่อยากจะตื่น)



พอออกมาข้างนอกก็เดินถ่ายรูปอยู่สักพักหนึ่ง ก็เจอเพื่อน (รส) เดินตามมา ก็เลยเดินดูอะไรกันนิดหน่อย บรรยากาศตอนเช้านี่มันช่างสดใสเสียจริงๆ ช่างต่างกับอากาศเมืองกรุงยังกะฟ้ากับเหว ซึ่งนอกจากจะเจอมลภาวะแล้วสถานการณ์บ้านเมืองช่วงนี้ก็เครียดชะมัด

สำหรับเสม็ดช่วงเช้าๆ แบบนี้สิ่งที่คิดว่าควรทำมากที่สุดก็คือ เล่นน้ำทะเลยิ่งช่วงเช้าดูคลื่นลมที่นี่แรงซะเหลือเกิน น่าเล่นน้ำเป็นที่สุด แต่ยังลงตอนนี้ไม่ได้ต้องมีแนวร่วม คลื่นใหญ่ซะขนาดนี้ขืนเล่นคนเดียว เกิดจมน้ำขึ้นมาเพื่อนหาไม่เจอนะนี่ เดินกลับไปห้องพักดีกว่า มันต้องหาแนวร่วม

พอเดินกลับมาก็จะพบว่ารีสอร์ทที่อยู่ด้านหน้าชายหาด เริ่มทำการเกลี่ยทรายให้เรียบ เพื่อเตรียมกางเก้าอี้ชายหาดแล้วล่ะ ดูแล้วก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดีเหมือนกันนะ จากหน้าหาดเดินมาที่ห้องพักเพื่อนๆ ก็เริ่มตื่นกันแล้วล่ะ ซึ่งก็ได้เวลาทานอาหารเช้าตามที่นัดหมายไว้พอดี
อาหารเช้าของรีสอร์ทที่จัดเตรียมไว้ให้ ถือว่าใช้ได้เลยนะ เพราะมีให้เลือกหลายหลายชนิดมากๆ และที่สำคัญมีออมเล็ทของโปรดของเราด้วยล่ะ ชักช้าอยู่ใยล่ะ ลงมือกันเลยดีกว่า


มันต้องเริ่มจากออมเล็ทก่อนตามด้วยนมสดสักแก้ว เอ๊ะเดี๋ยวก่อนรสชาติทะแม่งทะแม่งแฮะ เพื่อนๆ ลองชิมหน่อยสิมันบูดเปล่าเนี่ย ทุกเสียงก็ยืนยันว่า "ชัวร์" ซวยอีกแล้วฉัน บูดช่วงไหนไม่บูดดันมาบูดช่วงฉันเทพอดี กรรมจริงๆ เพื่อนก็เลยเรียกพนักงานมาลองชิมดู เออดีแฮะ พนักงานที่นี่ไม่มีขอโทษเลยแฮะ เฉยๆ ซะงั้น อ่ะไม่เป็นไร มันอาจจะผิดพลาดกันได้
พอทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อยก็จัดการหาแนวร่วม "ไปเล่นน้ำทะเลกันเถอะ" กิจกรรมช่วงเช้านี้ก็เลยแบ่งเป็นสองแบบคือ ใครอยากเล่นน้ำก็เล่นกันไป


ขอบอกว่าสนุกมากเลยล่ะ เพราะคลื่นตอนเช้าแรงกว่าเมื่อวานตอนเย็นเสียอีก กระโดดทีแทบจะไม่พ้นคลื่น เพราะด้วยความที่คลื่นมีลักษณะใหญ่แล้วกว้าง ทำให้เวลากระโดดถ้าไม่กะระยะให้ดีๆ อาจะมีเซลงใต้น้ำกันบ้างล่ะ ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มที่ไม่ลงเล่นน้ำทะเลก็นั่งพักผ่อนนอนบนเก้าอี้ชายหาดและเพ้นท์เฮนน่ากันสนุกสนาน

พวกที่ลงเล่นน้ำก็เล่นกันประมาณเกือบชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้ ก็ต้องขึ้นจากน้ำเพราะว่าเรามีหมายกำหนดการกลับเรือเที่ยวเที่ยงครึ่งล่ะ ก็รีบมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน

งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา ช่วงเวลาความสุขก็ต้องผ่านไป เสียดายที่มาแค่คืนเดียว ถ้าอยู่สักสองคืนนะแจ่มเลยล่ะ เพราะคิดว่าคงได้เดินรอบเกาะแน่ๆ สำหรับทริปนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปประทับใจสำหรับเราผู้ที่เพิ่งมาเยือนเสม็ดเป็นครั้งแรก ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมมาเสม็ดต้องเสร็จทุกราย? ก็เพราะว่าคนที่มาต่างก็ติดอกติดใจในธรรมชาติ น้ำทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ หากใครที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้แล้ว รับรองว่าต้องเสร็จเสม็ดทุกรายแน่ๆ



แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ก่อนกลับสำหรับเพื่อนๆ ที่มาเยือนโปรดอย่าฝากอะไรไว้นอกจากรอยเท้า ช่วยกันคนละไม้คนละมือทิ้งขยะให้เป็นที่ เพียงแค่นี้เสม็ดในความทรงจำที่แสนงดงามก็จะคงความงามไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม เฉกเช่นเราผู้มาเยือนแล้วกลับไปด้วยความประทับใจเช่นกัน

ขอบคุณธรรมชาติที่สร้างสรรค์เกาะสวยงามแห่งนี้ให้เราได้มาเยี่ยมเยือน ขอบคุณผู้ที่มาเยือนก่อนหน้านี้ที่ช่วยกันรักษาความสะอาดให้ธรรมชาติยังคงเป็นธรรมชาติตลอดมา แล้วพบกันใหม่นะ "เสม็ด"