สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 กรกฏาคม 2551
 

BKK - PATTAYA :: อุทยานสามก๊ก (The Three Kingdoms Theme Park)

จากตอนที่แล้วได้เล่าถึงงาน Brother VS Dcom Night Party Kick-off @Horseshoe Point Resort กับบรรยากาศยามค่ำคืน สำหรับตอนนี้เป็นเรื่องราวของเช้าวันใหม่ที่เริ่มต้นด้วยกิจกรรมสำหรับภาคเช้า โดยเริ่มกิจกรรมด้วยการนำเสนอการวิเคราะห์การขายสินค้า Brother โดยให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนองาน ซึ่งดูเหมือนคะแนนจะไปตกอยู่กับกลุ่มของ InkJet ซะละมั้งงานนี้ เพราะพี่เค้าพรีเซ็นต์ดีเชียวล่ะ





ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายกลุ่ม Inkjet นำมาเป็นที่หนึ่ง ตามด้วยกลุ่ม Printer MFC ที่สอง ก็รับรางวัลเล็กๆ น้อยๆ กันทั่วหน้าจาก Brother และก็รวมตัวกันถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก





เมื่อปิดงานสัมมานาเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปห้องพัก เพื่อพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวัน



หากใครไม่อยากไปเที่ยวกับโปรแกรมก็สามารถนอนพักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนใครที่จะไปเที่ยวต่อก็ให้เก็บข้าวของลงไปรวมไว้ที่ล็อปบี้และจัดการ check Out ให้เรียบร้อย










เมื่อสมาชิกพร้อมจุดต่อไปที่เราจะเดินทางไปนั่นก็คือ อุทยานสามก๊ก ซึ่งตอนแรกก็นึกว่าไกลจากที่พัก แต่ที่ไหนได้อยู่ในเขตของรีสอร์ทที่พักเลยล่ะ (จริงๆ แล้วเดินไปเอาก็ได้)





ก่อนอื่นเรามารู้จักที่มาของสถานที่แห่งนี้กันก่อน อุทยานสามก๊ก เป็นโครงการที่ลูกๆ ของคุณเกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้ง (หนึ่งในนักธุรกิจเชื้อสายจีนชั้นนำของประเทศไทย) ได้สร้างให้คุณพ่อด้วยความกตัญญูเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ท่านได้ให้ไว้ก่อนจากไป คือการสร้างสถานที่นี้ให้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าของพุทธศาสนาที่ท่านเคารพ ศิลปะและวัฒนธรรมของไทยที่เป็นแผ่นดินที่ท่านอาศัย และของจีนที่เป็นบ้านเกิด เป็นที่จุดประกายเชิงการศึกษาให้กับพงศาวดารจีนเรื่อง "สามก๊ก" ที่ท่านได้ใช้เป็นเสมือนคู่มือในการดำเนินชีวิต และที่สำคัญที่สุด สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่หารายได้เพื่อที่จะนำกลับไปตอบแทนแก่สังคมและแผ่นดินไทย



อุทยานสามก๊ก เป็นสถาปัตยกรรมประยุกต์ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไทย - จีนตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยจีน โดยที่นี่มีระเบียงจิตรกรรมฝาผนังถือว่าเป็นไฮไลท์เลยล่ะ เพราะเป็นระเบียงจิตรกรรมที่ยาวที่สุดในโลก บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพงศาวดารจีน "สามก๊ก" จำนวน 56 ตอน บนกระเบื้องกังไสจีนล่ะ





The Three Kingdoms Theme Park A one-of-a kind holistic destination full of history, culture, art and family values. Stroll through the immaculate grounds, peruse the "Romance of the Three Kingdoms" Saga on wall murals and paintings.

The Three Kingdoms Theme Park is a testament of filial piety that the six children have for their father, Mr. Kiarti Srifuengfung, a successful Chinese-Thai businessman. His last wish was for a memorial to be built that would allow others to understand and appreciate aspects of Buddhism, Thai and Chinese culture and philosophy, and his favorite Chinese epic, Romance of the Three Kingdoms, compiled by Luo Guan Zhong of the Ming Dynasty. It remains the greatest and best known Chinese classical novel. It also provided Kiarti Srifuengfung a taxtbook on human phychology. This inpressive project also strives to generate income for the society and kingdom of Thailand.




ตามเรามาดูด้านในของอาคารแรกกันดีกว่า เดินเข้ามาข้างในสิ่งแรกที่เจอก็คือรูปปั้นเทพเจ้าฮกลกชิวล่ะ ซึ่งตามตำนานว่ากันว่า
ฮก (เทพแห่งลาภ) เป็นสัญลักษณ์แทนโชคลาภตามตำนานเทพองค์นี้ คือท่านเถาจูกงในสมัยซุนซิว ซึ่งเป็นผู้ที่ร่ำรวยมหาศาลหนึ่งในแผ่นดิน (The fairy of forture. It is said to be represented by Tao Choo Kong, a very rich and wealthy businessman in Choon-Chiu peried.)
ลก (เทพแห่งยศ) เป็นสัญลักษณ์แทนความมั่งคงด้านทรัพย์สินและเงินทอง ตามตำนานเทพองค์นี้คือท่านกัวจื่ออี๋ ในสมัยราชวงค์ถังซึ่งมีตำแหน่งที่สูงส่ง และได้รับการปูมบำเหน็จมากมาย (The fairy of Property. It is said to be represented by H.E. Kur Tze Ee, a reputable high ranking official in Tang Dynasty.)
ซิ่ว (เทพแห่งอมตะ) เป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นอมตะมีอายุยืน ตามตำนานหมายถึง เทพแห่งขั้วโลกใต้ ซึ่งแม้จะมีชีวิตหลายพันปีและผมขาว แต่หน้าตายังดูเยาว์วัยอยู่เสมอ (The fairy of Health. It is said to be represented by the fairy of South Pole who always looks youngs despite his very old age and grey hair.)




สำหรับอาคารนี้ไม่เปิดให้ขึ้นไปด้านบน เพราะตรงบันไดทางขึ้นนั้นจะมี 18 อรหันต์ ตั้งอยู่เต็มบันไดเลยล่ะ โดยมีตำนานเล่าว่า เดิมทีแล้วทั้ง 18 องค์ เคยเป็นโจรสลัดปล้าฆ่าอยู่กลางทะเล วันหนึ่งทั้งหมดสำนึกได้ว่า การปล้นฆ่าเป็นการสร้างบาปและทุกข์ให้แก่คนทั่วไป ดังนั้นจึงตัดสินใจโยนอาวุธทั้งหมดทิ้งลงทะเล แต่คิดได้ว่าหากมีใครเก็บอาวุธในใต้ทะเลได้ อาจจะเอาไปทำร้ายผู้อื่นต่อ ทั้งหมดจึงโดดลงไปในทะเลอีกครั้ง เพื่องมอาวุธขึ้นมาจากทะเล พอขึ้นมาจากทะเลได้ทุกคนก็กลายเป็นพระอรหันต์ พร้อมทั้งอาวุธก็กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ 18 อย่าง ประจำแต่ละองค์ จึงมีชื่อเรียกว่า18 อรหันต์ มาจนถึงทุกวันนี้




หลังจากที่ถ่ายรูปตรงตึกที่หนึ่งกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราเดินตามทางเดินเพื่อไปต่อยังอาคารที่สอง ตรงนี้ขอบอกว่าวิวสวยมาก ยังกับไปเที่ยวเมืองจีนเลยล่ะ






ตามเข้ามาดูด้านในบ้างดีกว่า ด้านในสิ่งแรกที่สะดุดตาก็คงจะเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ของคุณเกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้ง ผู้ริเริ่มโครงการอุทยานสามก๊ก ด้านหลังมีจารึกถึงจดหมายเปิดผนึกเขียนถึงลูก หลาน เหลน ข้อความตอนหนึ่งว่า "จงทำงานกับสิ่งที่ลูกมีอยู่ และเมื่อลูกทำได้เพียงพอแล้ว จงตอบแทนให้สังคมและประเทศชาติ ซึ่งให้ทุกสิ่งกับลูก"

"Work with what you have, and when you have made enough, work to give it back to the society and country that gave it to you."





สำหรับอาคารนี้เปิดให้ขึ้นชมด้านบน คิดว่าน่าจะสูงราวๆ 7 ชั้นได้มั้ง (ไม่แน่ใจนะ) โดยแต่ละชั้นก็บรรจุเรื่องราวต่างๆ ไว้ทุกชั้น เช่น ภาพเขียนสีน้ำมัน ที่บันทึกเรื่องราวชีวิตของขงเบ้งทั้งหมด 16 ตอน เป็นต้น โดยชั้นบนสุดมีพระโพธิสัตว์พระแม่กวนอิม ซึ่งเป็นองค์หินอ่อนขาว ปางประทับนั่ง และพระบรมสารีริกธาตุ ที่พบที่ถ้ำแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน ซึ่ง ดร.วรภัทร ภู่เจริญ เป็นผู้มอบให้อุทยานฯ เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชา




มองดูวิวจากด้านบนจะเห็นว่ารีสอร์ทแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางมาก มีพื้นที่สีเขียวเต็มไปหมดเลยล่ะ เรียกว่าอลังการงานสร้างเลยก็ว่าได้ ที่นี่จึงมีกิจกรรมมากมายหลายชนิดไว้คอยบริการแขกที่มาพัก และตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางกลับของพวกเราแล้ว เพราะมีโปรแกรมชมคอกม้ารออยู่





ซึ่งก็พาไปดูคอกม้าจริงๆ ที่นี่เค้ามีโรงแรมสำหรับม้าด้วยล่ะ ตัวที่เห็นอยู่นี่ราคาประมาณ 10,000 บาทล่ะ นี่ขนาดหนึ่งหมื่นนะยังงามขนาดนี้ ตัวละ 36 ล้านที่ชนะการประกวดจะขนาดไหนนะ ตอนแรกคิดว่าจะได้ดูซะอีก เจ้าหน้าที่บอกว่า พามาดูคอกม้า ไม่ได้พามาดูม้า อ้าว ซะงั้น





จากนั้นรถก็วนกลับมายังล็อปบี้ เตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ แต่ก่อนกลับพวกเราก็ได้ทักทายกับคุณลุงคนนี้ล่ะ จริงๆ แล้วลุงเค้าแปลกตรงที่เจ้านกตัวนี้เกาะบนบ่าตลอดเลยล่ะ ก็เลยขอเค้าถ่ายรูป เค้าก็ใจดีให้ถ่ายแฮะ มารู้ที่หลังว่านี่แหละเป็นเจ้าของ ซะงั้น .. ก็เป็นอันว่าจบทริปกันไปอย่างสนุกสนาน แต่โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ความสนุกยังสู้งานปีที่แล้วไม่ได้ หุหุ ..




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2551
2 comments
Last Update : 17 สิงหาคม 2556 18:38:19 น.
Counter : 2993 Pageviews.

 
 
 
 
อยู่แถวไหนของพัทยาเหรอครับ

ไม่เคยได้ยินเลย

น่าไปถ่ายรูปจัง
 
 

โดย: traveller 360 (chalawanman ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:17:05 น.  

 
 
 
 
 

โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:21:12 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com