Bloggang.com : แมวเซาผู้น่าสงสาร :

หนีความวุ่นวายมาสัมผัสธรรมชาติ ณ ระนอง เมืองฝน 8 แดด 4

ระนองเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศไทย เพียง 1.9 แสนคน ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตก (ทะเลอันดามัน) ด้านตะวันออกติดชุมพร ทางใต้ติดสุราษฎร์ธานีกับพังงา ขณะที่ด้านตะวันตกติดประเทศเมียนมาร์ ชื่อจังหวัดเพี้ยนมาจากคำว่า แร่นอง เนื่องจากในอดีตมีแร่อยู่จำนวนมาก สมัยก่อนเป็นแค่เมืองผ่านที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักเดินทาง เมื่อสายการบิน low cost เปิดเส้นทางไปลง การท่องเที่ยวเลยคึกคักขึ้นมาจนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวรอง

ระนองมีที่เที่ยวทางทะเลที่สวยงามไม่แพ้จังหวัดท่องเที่ยวฝั่งอันดามันอื่น ๆ อาทิ เกาะพยาม หมู่เกาะกำ อุทยานแห่งชาติแหลมสน เกาะค้างคาว ฯลฯ อีกทั้งยังซื้อทัวร์ไปเที่ยวเกาะทางฝั่งพม่าที่ยังดิบและคงความเป็นธรรมชาติได้ (เกาะช้างเผือก เกาะนาวโอพี และหัวใจมรกต เปิดเฉพาะเดือนตุลาคม-พฤษภาคมของทุกปี)

ส่วนในตัวเมืองระนองไร้แสงสี ปราศจากความวุ่นวายอึกทึกสไตล์บาร์เบียร์อย่างภูเก็ต เกาะสมุย หรือพัทยา มีเพียงแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่น เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสความ chill แบบ slow life ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังรัตนรังสรรค์ น้ำตกหงาว วัดบ้านหงาว บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน บ่อน้ำร้อนพรรั้ง ภูเขาหญ้า ระนองแคนยอน อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น จุดชมวิวเขาฝาชี บ้านร้อยปีเทียนสือ ฯลฯ

ด้วยความที่ระนองมีป่าไม้หนาแน่นมาก อีกทั้งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ฝนจึงตกชุกที่สุดดังฉายาเมืองฝน 8 แดด 4 คือ ใน 1 ปีฝนตก 8 เดือน ฝนแล้ง 4 เดือน ภายในตัวเมืองเขียวขจีชุ่มชื้นคล้ายป่าในเมือง ใครชอบออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานหรือวิ่งน่าจะถูกใจ เนื่องจากการจราจรในเมืองไม่หนาแน่น เราสามารถ city run ได้ทั่วเมืองจนถึงช่วงสาย ๆ โดยที่อากาศไม่ร้อนมาก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางจักรยานบนถนนเพชรเกษมจากตัวเมืองจนถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (ศูนย์การศึกษาจังหวัดระนอง) ยาวกว่า 10 กิโลฯ ให้ซ้อมกำลังขา

อีกอย่างที่ผมชอบคือ อาหารการกินในตัวเมืองระนองไม่แพง ราคาทั่ว ๆ ไป ไม่ขูดรีดเหมือนจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคใต้ นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในประเทศไทยที่ผมประทับใจในการมาเยือนครั้งแรก (มิ.ย.2562)