Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2548
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 มิถุนายน 2548
 
All Blogs
 

เล่ม ๒ บทที่ ๘ โกลเดนบาวม์ดับ (๑)

หากทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวสูงสุดประจำใจแล้วไซร้ สำหรับเคียร์ชไอซ์ นั่นก็คงหมายถึง คำพูดที่เด็กสาวผมทองคนหนึ่งกล่าวกับเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เมื่อสิบเอ็ดปีก่อน ว่า


“ซี้ก ฝากดูแลน้องชายด้วยนะจ๊ะ”


เด็กชายผมแดงซึ่งได้รับคำพูดนี้จากอันเนโรเซที่ตอนนั้นอายุสิบห้าปี รู้สึกภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ คืนนั้น เด็กชายที่แข็งแรงและนอนหลับสนิททุกคืน ถึงกับนอนไม่หลับ ได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงจนกลางดึก ในใจก็สาบานกับตนเองว่า จะเป็นอัศวินที่ซื่อสัตย์ของสองพี่น้องนั้นตลอดไป


เด็กชายไรน์ฮาร์ดเจ้าของผมทองสลวย ปลายผมม้วนเล็กน้อย ผิวขาว ช่างมีรูปร่างหน้าตาราวกับเทพบุตรจุติมากระนั้น หากเขาทำตัวสงบเสงี่ยมก็คงจะเป็นขวัญใจของเพื่อน ๆ รุ่นราวคราวเดียวกันทั้งหญิงชายได้ไม่ยาก แต่ ตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง เขากลับแข็งกระด้างและชอบต่อสู้ เพียงเวลาสั้น ๆ ก็สร้างศัตรูที่เขม่นหน้ากันไว้มากมาย หากไม่มีเด็กที่เป็นที่ทั้งที่รักและที่เกรงขามในฝีไม้ลายมือในหมู่เด็กชาวบ้านอย่างเคียร์ชไอซ์อยู่เคียงข้างแล้ว แม้จะให้ไรน์ฮาร์ดเดินถนนคนเดียวอย่างปลอดภัยยังจะเดินได้หรือไม่ก็น่าสงสัยอยู่


แต่ยังมีเด็กชายอีกคนหนึ่งซึ่งอายุมากกว่าทั้งไรน์ฮาร์ดและเคียร์ชไอซ์หนึ่งปี เจ้าของรูปร่างบึกบึนและฝีมือในการต่อสู้ที่เหนือชั้น คนที่ปราบเด็กผู้นี้ได้ในการดวลกันหนึ่งต่อหนึ่งมีเพียงเด็กอัจฉริยะในการตีกันอย่างเคียร์ชไอซ์เท่านั้น เด็กคนดังกล่าวอาศัยจังหวะที่เคียร์ชไอซ์ไม่อยู่ด้วย หาเรื่องกำราบไรน์ฮาร์ด ซึ่งบางทีอาจจะหวังแค่ให้เด็กชายผมทองรูปงามนี้ยอมสยบเป็นลูกสมุนของตนเท่านั้นก็เป็นได้


ไรน์ฮาร์ดในตอนนั้น ใช้สายตาอันเย็นยะเยือกจ้องตอบอีกฝ่ายที่กำลังกล่าววาจาข่มขู่อย่างไม่เกรงกลัว แล้วจู่ ๆ เขาก็เตะโครมเข้าที่หว่างขาของฝ่ายตรงข้าม จากนั้นใช้หมัดที่กำก้อนหินไว้แน่นประเคนใส่ร่างอีกฝ่ายที่โก่งตัวจุกจากการโจมตีครั้งแรกอย่างไร้ปราณี แม้ฝ่ายนั้นจะไม่คิดสู้และส่งเสียงร้องครวญครางแล้วก็ยังไม่ยอมหยุดมือ จนกระทั่งเคียร์ชไอซ์ซึ่งได้รับแจ้งจากเด็กชายอีกคนหนึ่งได้รีบรุดมาที่เกิดเหตุจึงแยกทั้งสองออกจากกันได้


ไรน์ฮาร์ดนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ยังคงมีทีท่าลำพองอยู่ จนกระทั่งเคียร์ชไอซ์ชี้ให้ดูรอยเลือดที่ติดบนเสื้อ จึงถึงกับหน้าถอดสี ห่อเหี่ยวลงทันใด เรื่องนี้หากให้พี่สาวรู้เข้าจะต้องแย่แน่ อันเนโรเซนั้นไม่เคยดุด่าหรือตำหนิติเตียนตนก็จริง แค่เธอมองด้วยสายตาอ่อนโยนที่แฝงประกายเศร้าสลด เพียงเท่านั้นไรน์ฮาร์ดก็เจ็บปวดจนทนไม่ได้แล้ว


หลังจากเด็กสองคนช่วยกันคิดหาทางออก ในที่สุดก็พากันกระโดดลงสระน้ำพุในสวนสาธารณะทั้งเสื้อผ้า ด้วยหวังว่าจะล้างเอาคราบเลือดที่ติดอยู่ที่เสื้อของไรน์ฮาร์ดออก คิดเอาเองว่า ให้พี่สาวเข้าใจว่าพวกตนซุ่มซ่ามพลัดตกลงในสระน้ำ ยังดีกว่าให้รู้ว่าไปทะเลาะกับใครมาเป็นไหน ๆ


หากคิดดูอีกที ตอนนั้นไม่จำเป็นให้เคียร์ชไอซ์กระโดดลงน้ำด้วยกันก็ได้ แต่ประสบการณ์ในครั้งนั้น ที่เคียร์ชไอซ์นั่งห่มตัวอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันกับไรน์ฮาร์ด ระหว่างรอให้เครื่องซักผ้ามือสองทำหน้าที่ของมันไป พลางก็จิบชอกโกแลตร้อนที่อันเนโรเซชงมาให้ ช่างเป็นความหลังล้ำค่าของเขายิ่งนัก


สิ่งที่กังวลอยู่ก็คือ เด็กคนที่ถูกอัดน่วมกลับไปจะไปฟ้องบิดามารดาแล้วพาผู้ใหญ่มาเอาเรื่องถึงที่บ้าน แต่ปรากฏว่าทางนั้นก็เงียบไปเช่นกัน เป็นไปได้ว่า เด็กชายคนนั้นซึ่งแสดงตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาตลอดเวลา คงไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีไปฟ้อง “พ่อแม่” กระมัง แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีการแก้แค้นตามมาอยู่ดี หลังจากนั้นเคียร์ชไอซ์จึงไม่เคยห่างจากไรน์ฮาร์ดแม้แต่ก้าวเดียว เพราะหากฝ่ายตรงข้ามยกมากันเป็นกลุ่ม ไรน์ฮาร์ดคนเดียวจะรับมือไม่ไหว แต่สุดท้ายก็เป็นการวิตกไปเองของเด็กผมแดง เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในย่านนั้นไม่มีเด็กคนไหนบ้าบิ่นพอที่จะตั้งตนเป็นศัตรูกับเคียร์ชไอซ์พร้อมกับไรน์ฮาร์ดด้วย


หลังจากนั้นไม่นาน อันเนโรเซก็ถูกพาไปเข้าวังหลังในจักรพรรดิฟรีดลิชที่สี่ทั้งที่ยังเป็นเด็กสาวอยู่ ไรน์ฮาร์ดไปเข้าโรงเรียนยุวชนทหาร แล้วย้อนกลับมาชวนเคียร์ชไอซ์ไปด้วย วันเวลาเก่า ๆ ของทั้งสามคนจบสิ้นเพียงเท่านั้น


หลังจากนั้นไรน์ฮาร์ดก็ก้าวขึ้นบันไดสู่อำนาจเป็นระยะทางเส้นตรงอย่างรวดเร็ว และเขาก็ต้องการให้สหายผมแดงตามหลังตนมาด้วย


เคียร์ชไอซ์เองก็ทำตามนั้น เขาอุทิศชีวิตของตนให้กับพี่น้องผมทองคู่นี้ไปแล้ว อีกทั้งรู้สึกพอใจเต็มเปี่ยมและมีความสุขในการกระทำของตน นอกจากเขาแล้ว ยังจะมีผู้ใดอื่นอีก ที่จะสามารถไล่ตามฝีเท้าของไรน์ฮาร์ดที่เร็วประดุจเหินบินได้เล่า



“เคียร์ชไอซ์ ลำบากนายแล้ว”


เมื่อกลับมาสมทบกันแล้ว ไรน์ฮาร์ดกล่าวต้อนรับสหายด้วยสีหน้าเบิกบานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม


เคียร์ชไอซ์ซึ่งนำทัพแยกไปตามจุดต่าง ๆ ในแดนจักรวรรดิ ได้ปฏิบัติภารกิจในฐานะตัวแทนของไรน์ฮาร์ดอย่างสมบูรณ์แบบ เขาพิชิตรองประมุขของพันธมิตรขุนนาง- มาร์ควิส ฟอน ลิตเตนไฮม์จนสิ้นซากไป รับทหารที่ยอมจำนนเข้ามาเป็นพวก และจัดการกองทัพเสียใหม่ รักษาความสงบเรียบร้อยของหมู่ดาวชนบท แล้วจึงได้กลับมาสมทบกับกำลังหลักของไรน์ฮาร์ดในครั้งนี้


“ผลงานของผู้การเคียร์ชไอซ์นั้น ยิ่งใหญ่เกินไป”


ในกองบัญชาการของไรน์ฮาร์ดเอง มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันในระยะนี้ ความหมายของมันนอกจากมีแววชื่นชมแล้ว ยังแฝงด้วยความอิจฉา และความหวาดระแวงด้วย


การที่ไรน์ฮาร์ดสามารถทุ่มเทกำลัง ความคิด เวลาให้กับการรบกับกองทัพหลักของพันธมิตรขุนนางที่นำโดยดยุค ฟอน เบราสไวก์ได้นั้น สาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็เพราะการที่เคียร์ชไอซ์ไปจัดการรักษาความสงบเรียบร้อยของหมู่ดาวชนบทให้นี้เอง เรื่องนี้ทุกคนล้วนรับทราบกันดี และไรน์ฮาร์ดเองก็กล่าวถึงอยู่บ่อย ๆ แต่เขาก็แน่ใจด้วยว่า ไม่ว่าวีรกรรมผลงานของเคียร์ชไอซ์จะยิ่งใหญ่เพียงใด ทั้งหมดก็ทำเพื่อไรน์ฮาร์ดเท่านั้น


“เหนื่อยมาสิท่า เอ้า นั่งก่อน จะรับอะไร ระหว่างไวน์กับกาแฟ ที่จริงถ้าได้น้ำพันช์แอปเปิลของท่านพี่ก็จะดีไม่น้อย แต่นี่มันแนวหน้าไม่มีของให้เลือกมากหรอก เก็บไว้ตอนกลับไปแล้วเถิดนะ”


“คุณไรน์ฮาร์ดขอรับ กระผมมีเรื่องจะพูดด้วย”


แม้เคียร์ชไอซ์จะรู้สึกขอบคุณในความหวังดีของอีกฝ่ายก็ตาม แต่เขาอดไม่ได้ที่จะต้องรีบสอบถามความจริงของเรื่องนั้นในทันใด ไม่อาจจะรอช้าไปได้อีก


“อะไรหรือ?”


“เรื่องที่ราษฎรสองล้านคนของเวสเตอร์ลันท์ถูกสังหารหมู่ขอรับ”


“ทำไมหรือ?”


ใบหน้าฉลาดเฉลียวของไรน์ฮาร์ดมีแววไม่พอใจฉายขึ้นแวบหนึ่ง เคียร์ชไอซ์สังเกตเห็นทันที ชายผมแดงรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่เย็นเฉียบที่หยดลงบนหัวใจของตน


“มีคนกล่าวหาว่า คุณไรน์ฮาร์ดทั้งที่ทราบถึงแผนปฏิบัติการดังกล่าวแล้ว แต่กลับนิ่งเฉยเพื่อผลทางการเมือง”


“...”


“เป็นความจริงหรือขอรับ?”


“...จริง”


ไรน์ฮาร์ดยอมรับอย่างไม่เต็มใจ เขารู้ตัวดีว่า ไม่สามารถโกหกต่ออันเนโรเซและเคียร์ชไอซ์สองคนนี้ได้ ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว


สีหน้าของเคียร์ชไอซ์จริงจังจนเคร่งเครียด เห็นได้ชัดเจนว่าเขาคงไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่ เขาถอนหายใจออกมาอย่างแรงดุจไล่อากาศออกหมดปอด


“กระผมเชื่อเสมอมาว่า การที่คุณไรน์ฮาร์ดต้องการก้าวไปสู่อำนาจสูงสุดนั้น ก็เพราะว่าราชวงศ์โกลเดนบาวม์แห่งจักรวรรดิ ณ ปัจจุบัน มันไม่เหลือความชอบธรรมอยู่แล้วโดยสิ้นเชิงนั่นเอง”


“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว นายไม่ต้องย้ำหรอก”


ไรน์ฮาร์ดตระหนักถึงสถานะเสียเปรียบของตนทันที เขาไม่น่าให้เคียร์ชไอซ์มาพบสองต่อสองเลย มันทำให้บรรยากาศกลับไปสู่วันเดิม ๆ สมัยเด็กอีก ที่จริงไรน์ฮาร์ดเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นและเชื่อว่ามันต้องเป็นด้วย แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาอยากให้อีกฝ่ายเป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ตนจะสามารถตัดบทและสั่งให้อีกฝ่ายถอยไปได้ง่าย ๆ เสียเหลือเกิน แน่นอนว่า ที่คิดอยากทำเช่นนั้นก็เพราะความรู้สึกของเขาเองที่มีต่อเหตุสังหารหมู่อันโหดเหี้ยมที่เวสเตอร์ลันท์ ความรู้สึกผิด เสียใจภายหลังที่ทำไปนั่นเอง


“การล่มสลายของพวกขุนนางชั้นสูงนั้น จะกล่าวไปก็เป็นเรื่องธรรมชาติในประวัติศาสตร์ แต่ในเมื่อนี่เป็นการสะสางบัญชีที่คั่งค้างกันมาถึงห้าร้อยปี การจะต้องหลั่งเลือดบ้างก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ แต่ อย่าให้ราษฎรผู้บริสุทธิ์ต้องมาเป็นเหยื่อสังเวยสิขอรับ การสถาปนาการปกครองใหม่นั้นต้องมีพื้นฐานบนราษฎรที่ได้รับการปลดแอกจากผู้ปกครองเดิม ดังนั้นการใช้ราษฎรเหล่านั้นเป็นเหยื่อ ก็เหมือนกำลังขุดหลุมตรงฐานดินที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ มิใช่หรือขอรับ?”


“รู้แล้วน่า”


ไรน์ฮาร์ดยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด แล้วจ้องหน้าสหายผมแดงของตนอย่างไม่พอใจ


“คุณไรน์ฮาร์ด”


น้ำเสียงของหนุ่มผมแดงมีทั้งนัยยะแห่งความโกรธเป็นส่วนน้อยและความสงสารเป็นส่วนใหญ่


“หากอีกฝ่ายหนึ่งเป็นพวกขุนนางชั้นสูงแล้วไซร้ ถือเป็นการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายใต้เงื่อนไขทัดเทียมกัน จะใช้แผนการใดก็ย่อมใช้ได้ หาต้องมีความละอายใจแต่ประการใดไม่ แต่หากใช้ราษฎรเป็นเหยื่อแล้ว ก็เท่ากับมือเปื้อนเลือด จะใช้คำพูดสวยหรูเพียงใดก็ไม่สามารถล้างคราบเลือดนั้นออกจากมือตนเองได้ นึกไม่ถึงเลยว่า คนระดับคุณไรน์ฮาร์ดเองแท้ ๆ ทำไมถึงต้องทำตัวเองให้สกปรกไปด้วย เพื่อผลประโยชน์เพียงชั่วขณะเล่าขอรับ?”


หนุ่มผมทองนั้นจนถึงบัดนี้มีใบหน้าที่ซีดเผือด เขาต้องยอมรับว่าตนเองไม่มีคำกล่าวโต้แย้งใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ตนเป็นฝ่ายผิดโดยสิ้นเชิง แต่ความรู้สึกยอมรับว่าตนผิดนี้เป็นความรู้สึกที่ตนเองก็รับไม่ได้ และพาลทำให้เกิดความรู้สึกอยากเอาชนะขึ้นมาแทน สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นสายตาของเด็กดื้อ และมันกำลังจับจ้องสหายผมแดงของตน


“เลิกบ่นเสียที!”


ไรน์ฮาร์ดตวาด พลางก็รู้สึกละอายใจในการกระทำของตนเหลือเกิน แต่เพื่อกลบเกลื่อนความละอายนั้น เขากลับพาลโกรธมากขึ้นไปอีก


“ก่อนอื่นเลยนะ เคียร์ชไอซ์ ฉันถามความเห็นของนายเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไร หา?”


“...”


“ฉันถามว่า ฉันขอความเห็นนายตั้งแต่เมื่อไหร่?”


“หามิได้ขอรับ ไม่ได้ถามขอรับ”


“ใช่ไหมล่ะ นายน่ะแค่ออกความเห็นเวลาที่ฉันถามก็พอ เรื่องมันผ่านไปแล้ว เลิกพูดถึงจู้จี้เสียที”


“แต่ คุณไรน์ฮาร์ดขอรับ พวกขุนนางชั้นสูงได้กระทำสิ่งที่ไม่สมควรกระทำลงไป แต่คุณไรน์ฮาร์ดก็กลับไม่ยอมกระทำสิ่งที่ควรกระทำ อย่างนี้ฝ่ายใดผิดมากกว่ากันหรือขอรับ?”


“เคียร์ชไอซ์!”


“ขอรับ”


“ถามทีเถิด นายเป็นอะไรของฉัน?”


ใบหน้าที่ขาวซีด และสายตาที่แรงกล้า บ่งบอกถึงความโกรธของไรน์ฮาร์ดเป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็ย่อมเป็นประจักษ์หลักฐานว่า สิ่งที่สหายผมแดงของตนกล่าวมาทั้งหมดมันแทงใจดำเขาอย่างจัง แต่เพื่อจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนเองก็ถูกแทงใจดำ เขามีแต่ต้องโกรธให้มากขึ้นกว่าอีกฝ่าย


คำถามสุดท้ายของไรน์ฮาร์ดเป็นดั่งนั้น และนั่นก็ทำให้เคียร์ชไอซ์ต้องยอมถอยอย่างไร้หนทางอื่นอีก


“กระผม... ข้าพเจ้าเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของใต้เท้าขอรับ ท่านมาร์ควิส ฟอน โรเอนกรัม”


ทั้งสองคนต่างตระหนักดีว่า ด้วยคำถามข้างต้น และคำตอบที่ออกมา ทำให้อะไรบางอย่างที่มีค่ามหาศาลแตกสลายเป็นเศษละเอียดไปอย่างไร้สุ้มเสียง


“รู้ตัวอยู่ก็ดีแล้ว”


ไรน์ฮาร์ดตอบรับเสียงแผ่ว


“ฉันเตรียมห้องพักไว้ให้นายแล้ว นายไปพักได้ตามสบายจนกว่าฉันจะมีคำสั่งอื่นให้อีก”


เคียร์ชไอซ์ทำความเคารพเงียบ ๆ แล้วหันกายเดินออกจากห้องนั้นไป


ที่จริงแล้ว ไรน์ฮาร์ดทราบดีแก่ใจว่า ตนเองควรจะทำอย่างไร ก็เพียงแค่เป็นฝ่ายไปหาเคียร์ชไอซ์ถึงที่บ้าง แล้วยอมกล่าวขอโทษถึงสิ่งที่ตนทำผิดพลาดไป “เรื่องแบบนั้นแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ รับรองว่าจะไม่ทำอีกเป็นครั้งที่สอง” ก็พอแล้ว ไม่ต้องขอโทษต่อหน้าบุคคลที่สามด้วย ทำกันสองต่อสองกับเคียร์ชไอซ์ก็พอ แค่นั้นเองจริง ๆ ทุกอย่างก็จะคลี่คลายประดุจน้ำแข็งที่หลอมละลาย เพียงแค่นั้นจริง ๆ...


แต่ไรน์ฮาร์ดก็ไม่ยอมทำ


เขายังอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า เรื่องแค่นี้เคียร์ชไอซ์น่าจะเข้าใจตนเองบ้าง จะว่าไป ก็เป็นนิสัยเด็กเอาแต่ใจนั่นเอง


สมัยเด็ก ๆ หลายครั้ง- นับครั้งไม่ถ้วน ที่ทั้งสองทะเลาะกัน ต้นเหตุมาจากไรน์ฮาร์ดหาเรื่องก่อนทั้งสิ้น แต่สุดท้ายก็เป็นเคียร์ชไอซ์ทุกครั้งที่หัวเราะแล้วยอมให้อภัยคืนดีด้วย


แต่... ในคราวนี้ก็จะเป็นเช่นนั้นได้อีกหรือ ไรน์ฮาร์ดเองก็ไม่มั่นใจขึ้นมาตะหงิด ๆ เช่นกัน




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2548
0 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2548 8:11:31 น.
Counter : 440 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


star_seeker
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add star_seeker's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.