"Bodyslam : คราม" ... วงร็อคสุดป๊อบ นำความอาร์ตมาย่อยให้ง่าย แต่ขายตลาดอย่างมีคุณภาพ
นอกจากติดตามตัวผมในบล็อกนี้แล้ว ก็ขอชวนไปสนุกกันในอีกช่องทางกับ "Facebook" และ "Twitter" ด้วยครับ Like Me @ //www.facebook.com/Onc3.UPoN.a.MaN และ Follow Me @ //twitter.com/once_upon_a_man เนื่องจากว่า ไม่ได้มาใส่ใจ ทิ้งร้างไว้เปล่าเปลี่ยวเอกากันเสียนาน กับการคุยเรื่องของเพลง ในส่วนคอลัมน์นี้ (ซึ่งคิดถึงอยู่บ้าง..แต่บิวต์ให้เขียนไม่ขึ้นสักที) ..และพอดีว่าตอนนี้ นอกจากการเขียนบล็อกในนี้เล่นๆแล้ว ผมยังได้รับอีกหนึ่งบทบาทที่เป็นทางการขึ้นมา สำหรับเป็นคอลัมนิสต์ให้กับส่วน Lifestyle ของ www.chicministry.com (ที่จัดเป็นหมวด "บันเทิง" ก็คือ ผมที่ดูแล) โดยมีงานสามส่วนด้วยกัน คือ การคุยข่าวที่น่าสนใจเรื่องของหนัง กับ การรีวิวหนังชนโรง(ที่สุดแสนจะเป็นงานถนัด) และอีกหนึ่งที่เคยทำ แต่นานๆทีจะทำสักหน ก็คือ การรีวิวอัลบั้มเพลงที่น่าฟัง ฉะนั้นแล้วนับแต่นี้ คอลัมน์ในบล็อกนี้ คงจะไม่เวิ้งว้างอย่างยาวนานอีกต่อไป.. เพราะทุกๆสองสัปดาห์ ผมจะนำอัลบั้มที่กำลังเป็นที่สนใจ และส่วนตัวฟังแล้วชอบ แล้วถูกใจ มานำเสนอให้คุณลองพิจารณา แต่ยังไงก็คงจะต้องอัพเดทใน blog ให้หลังจากที่ต้องลงใน ChicMinistry ไปแล้วเสียก่อนนะครับ รีวิวนี้ ถูกเผยแพร่ไปแล้วก่อนหน้า ทาง //www.chicministry.com ลิงค์ อยู่ในวงการเพลงบ้านเรามาก็นานพอดู นับเกิน 10 ปีก็คงได้ และทุกคนที่รู้จัก Bodyslam ก็คงจะนึกถึงภาพของพวกเขาเป็นวงร็อคที่ป๊อปปูล่า เพราะความป๊อบในเพลงที่ฟังง่าย ติดหู และดนตรีมีจุดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ชนิดที่หลับตาฟังอินโทร ก็พอนึกภาพออกว่าคงต้องเป็น งานของ บอดี้สแลม เนื่องด้วยอยู่บนเส้นทางถนนดนตรีแห่งนี้ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็เยอะ ขณะเดียวกัน ยังเพาะบ่มประสบการณ์มาก็มาก จนสามารถเปลี่ยนพวกเขาให้กลายมาเป็น วงร็อค ที่ได้ชื่อว่า เล่นคอนเสิร์ตได้มันส์ที่สุด อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ..แล้วยังจะมาเป็นรุ่นพี่ เป็นไอดอล ให้วงร็อครุ่นใหม่ๆ อยากดำเนินรอยตามเหมือนอย่างที่รุ่นก่อนหน้าพวกเขา อย่างเช่น ไมโคร ,Modern Dog หรือ Loso เคยทำเอาไว้ เราจึงสามารถพูดได้อย่างเต็มปาก เต็มคำว่า Bodyslam คือวงร็อค ที่ป๊อป (ปูล่า) ที่สุดของพ.ศ.นี้ ..และเพราะเหตุนี้นี่เอง ในทุกครั้งที่ผลงานของพวกเขาถูกรังสรรค์แล้วทำออกมาเพื่อนำเสนอนักฟังเพลงแต่ละชิ้น จึงมักได้รับความคาดหมายว่าจะต้องคลอดออกมา เพื่อจะทำให้วงการเพลงไทยสั่นสะเทือนทุกครั้งอยู่ร่ำไป โดยเฉพาะกับอัลบั้มใหม่ล่าสุดที่ให้ชื่อว่า คราม ที่ถูกทำคลอดออกมาหลังจาก ผู้เป็นนักร้องนำ และนักแต่งเพลงของวง อย่าง ตูน - อาทิวราห์ คงมาลัย เพิ่งผ่านพ้นจากการเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ เพื่อไปเรียนรู้จักโลกอีกใบที่เรียกว่า ธรรมะ ได้ไม่นาน ..ก็พานทำให้หลงคิดไปล่วงหน้าว่า เราอาจจะได้ฟังเพลงที่มีแง่มุม แสนลึกซึ้ง และลึกล้ำ (เรียกง่ายๆว่า อาร์ต ) ขึ้นกว่าที่เคยฟังก็เป็นได้ แล้วก็ไม่ผิดจากที่ตีความไปล่วงหน้าเสียจริงๆ ..เพราะเมื่อซิงเกิลแรกที่ชื่อเดียวกับอัลบั้ม เพลง คราม ถูกปล่อยออกมา มันก็ได้กลายเป็นที่โจษจันของผู้คนนักฟังเพลงกันไปทั่ว ...ว่าที่สุดแล้ว เพลงของ พี่ตูน ในวาระนี้ เขาต้องการจะบอกอะไรกับเรากันแน่? ..มันอาจเป็นแค่เรื่องของความรักเหมือนเคยๆ หรือที่แท้ อยากพรรณนาถึงจิตใจของมนุษย์ ที่สุดแสนจะยากต่อการตีความ แต่เอาเถอะ ท้ายที่สุด ใครจะฟังแล้วงง หรือใครจะฟังแล้วซึ้ง มันก็ว่ากันไปตามแต่จิตใจมนุษย์ผู้นั้นจะ วิเคราะห์ ..เพราะสิ่งที่ นักฟังเพลงต้องการจริงๆ จากวงร็อคแถวหน้าวงนี้ ก็คือ ความเป็นตัวของตัวเอง ที่ไม่ซ้ำแบบใคร ..และความมีสไตล์โดยเฉพาะ ที่ไม่ว่าใครจะฟังแล้ว ชอบหรือไม่ชอบอย่างไร ก็ยังคงนึกออกเสมอ ว่านี่แหละคือเพลงของ Bodyslam อย่างเช่น เพลง คราม ที่อาจจะมาพร้อมกับล้ำลึกบางอย่างที่ใจเราไม่อาจจะเข้าไปสู่ก้นบึ้งของมันได้ถึง ..แต่เมื่อฟังด้วยหู ก็ยังรู้สึกติดตรึง กับการโชว์พลังของดนตรีที่จัดจ้าน เข้มข้น ผสมอารมณ์หม่นๆของเสียงนักร้อง ที่ช่วยสร้างจินตนาการให้นึกถึงภาพของผืนทะเลสีคราม ซึ่งเมื่อเรามองลงไปด้วยตาเปล่า จะเพ่งจะเล็งยังไงก็ไม่มีทางเห็นก้นทะเลแน่นอน ความรัก ก็มาพร้อมมุมการมองเรื่องของความรัก ที่เติบโตขึ้นของคนที่ผ่านโลกแห่งการปลดปลง และปล่อยวาง ..พี่ตูน เล่าความรู้สึก (ที่เพิ่งผ่านการเลิกคบกับใครบาง คนมาไม่นาน) กลั่นออกมาเป็นเนื้อเพลงที่เจ็บ แต่ทำให้จำ และพร้อมจะลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง เพื่อมีชีวิตอย่างเป็นปกติ หากก็ยังมองว่า ความรัก คือสิ่งที่สวยงาม เช่นวันก่อนๆ ..ถึงอารมณ์และเรื่องราว อาจจะออกมาคล้าย อกหัก แต่ ความรัก ก็รู้สึกได้ถึง ความนิ่งเฉย ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา อีกหนึ่งซิงเกิลที่ตามหลังมา แล้วกลายมาเป็นเพลงที่สร้างวลีจำให้ฮิตติดปากไปทั่วบ้านทั่วเมือง ว่า อ่ะ อ่ะ อ่ะ อ่ะ อย่าง คิดฮอด ..ต้องนับเป็น หนึ่งในงานแห่งการฟีเจอริ่งที่โดดเด่นมากๆ ของปีนี้ก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะมองในเรื่องของการผสมผสานทางดนตรีพื้นบ้านภาคอีสาน อันม่วนอกม่วนใจ เข้ามาสู่อารมณ์เพลงร็อค จังหวะสากลอันหนักแน่น หรือจะเน้นเปิดโสตรับฟัง การประสานเสียงที่แตกต่าง ของหนึ่งหมอลำตัวแม่ กับหนึ่งร็อคเกอร์ตัวแรง ..ทั้งสองทาง ก็ล้วนแต่นำพาความแปลกใหม่ มาเจอกันได้อย่างลงตัวเป็นที่สุด ...ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ศิริพร อำไพพงษ์ จะมีส่วนทำให้ บอดี้สแลม ได้มีเพลงมันส์ๆ เพิ่มเข้ามาเก็บไว้ในแคตตาล็อกต้องเล่น กับทุกๆ คอนเสิร์ตที่พวกเขาขึ้นแสดง เลยทีเดียว หมอลำ กับ ร็อค มาเจอกัน ยังไงก็ดูแปลก ..แต่หากเอา ร็อค มาเจอ ร็อค ดูล่ะ จะทำยังไงให้มันแปลก และแตกต่าง ...นี่ถือเป็นโจทย์ที่น่าท้าทาย และได้นำมาซึ่งการเชิญชวน อีกหนึ่งศิลปินตัวพ่อมาร่วมแจมในอัลบั้มนี้ จนเกิดเป็นเพลง ปล่อย ..ซึ่งแทนที่จะให้ ป็อด-ธนชัย อุชชิน ได้กลั่นความรู้สึกของตัวเองในแบบร็อคเกอร์ ดังเช่นเป็นคนร้องนำให้กับวงหมาทันสมัย พี่ตูนกลับขอให้พี่ป็อด ร้องออกมาด้วยอารมณ์เบาๆ นิ่งๆ เหมือนตอนออกอัลบั้มกับ บอยด์ โกสิยพงศ์ ในนาม BoydPod ซะอย่างงั้น ...ฟังแรกๆ ก็ว่า อาจจะขัดๆ ชอบกล แต่หากรู้เป้าประสงค์ที่ทำให้มาร่วมงานกันจริงๆ พี่ตูนก็ได้บอกให้รู้ว่า เพลงๆนี้มีแรงบันดาลใจมาจาก ห่างไกลเหลือเกิน ที่ได้ฟังตอนอกหักครั้งรุนแรงที่สุด ..อืม! มันก็เป็นอะไรที่สมควร จะเป็นอย่างนั้นเลยล่ะ นอกเหนือจากจะได้พบความเข้มข้นในด้านที่เข้มแข็งแล้ว ..บอดี้สแลม กลับมาในครั้งนี้ ยังแอบใส่ความกุ๊กกิ๊กคิกขุลงไปอย่างน่าประหลาดใจ กับเพลงที่ให้ชื่อว่า สติกเกอร์ ...เพลงๆ ที่ใครได้ฟังครั้งแรกก็แอบ อึ้งนิดๆ แต่เมื่อฟังครั้งต่อๆ ไป จะพบว่านี่คือเพลงมีเดียม ดนตรีเบาๆ ที่เข้าท่า เข้าทาง กับการนำโลกความเป็นจริงของเรามาเปรียบเปรย เชิงเสียดสี กับเทรนด์สุดฮิตที่ไม่รู้ใครคิดค้นขึ้นในบ้านเรา อย่างการติดสติกเกอร์ท้ายรถ บอกว่าเป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สิรถจริงๆ ..ถึงจะฟังไปก็ว่าน่ารัก แต่ถ้าให้คิดจริงจัง นี่ก็คือเพลงที่หลักแหลมไม่ใช่เล่นๆ ทางกลับบ้าน มาด้วยอารมณ์แบบเหงาๆ ของคนคิดถึงบ้าน และแอบคิดถึงคนเป็นพ่อเป็นแม่ในขณะเดียวกัน ..เป็นเพลงช้าๆ ที่ชวนซึ้ง และคงเข้าถึงหัวจิตหัวใจคนตจว. ที่เข้ามาสู่ กทม. ได้อย่างง่ายดาย... แสงสุดท้าย ภาคต่อของ แสงแรก จากอัลบั้มที่แล้ว คือ การกลับมาเติมเต็มความรู้สึกของคนๆ เดิม ที่ถึงจะยังคงไม่มีใคร แต่หัวใจก็พร้อมสแตนด์บายที่จะเดินไปพบแสงสว่าง เพียงแค่สักครั้ง ต่อให้ครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ตามที... เปราะบาง ขอเหงาอีกสักหนึ่ง แต่เป็นเหงาถึงที่สุด ในประเภทที่อ่อนไหวกับทุกๆ สิ่งรอบกาย ..เป็นเพลงที่อาจทำให้ใครบางคนฟังแล้วน้ำตาตกได้ ถ้าใจไม่แข็งหรือด้านพอ โทน คือตัวแทนของคนไทยหนึ่งคน ที่มีชีวิตธรรมดา แต่กลายเป็นคนพิเศษ เมื่อเขาจับปืน ยืนหยัดสู้เพื่อชาติ และยอมตายแทนได้ ..หนึ่งในเพลงความหมายดีๆ (เช่นเดียวกับ ราตรีสวัสดิ์ ของ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ) ที่ทำให้เราต้องมองย้อนกลับมาดูตัวเอง ว่าเราได้ทำสิ่งดี ทดแทนคืนให้แผ่นดินที่เรายืนอยู่บ้างหรือยัง?...สุดท้าย ท้ายสุด กับ เงา ที่พูดถึงคนหนึ่งคนที่เคยยืนอยู่เคียงข้างกายเราเป็นดัง เงา แต่สุดท้าย ในสักวันก็ต้องมีวันจากลา เงาคู่นั้นก็ต้องหายไป ส่วนเราก็ต้องเดินต่อ ..เป็นเพลงที่ใกล้เคียงส่วนเนื้อหากับ ความรัก แต่ความหมาย รู้สึกถึงความคมคายยิ่งกว่า สรุปสั้นๆ.. Bodyslam : คราม คือหนึ่งในอัลบั้มดีและเด่นของปีนี้ ที่คอร็อคตัวจริงห้ามพลาดที่จะเก็บไว้! ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ
Create Date : 03 สิงหาคม 2553
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 0:55:20 น.
4 comments
Counter : 8247 Pageviews.
โดย: สาธิดา IP: 183.89.174.140 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:20:46:54 น.
โดย: ตูน IP: 223.204.26.151 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:11:49:59 น.
โดย: wat IP: 110.164.100.163 วันที่: 3 สิงหาคม 2554 เวลา:13:56:13 น.
โดย: สาวก bodyslam IP: 124.121.89.85 วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:22:29:28 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31