|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์เต็มที่ ก่อนนาทีระทึก
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์ หลายชั่วโมงถัดมา
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์ in 24 hrs! (1)
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…กลุ่มอพยพที่บางปู สมุทรปราการ
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ดูมันให้ถึงที่...ภูเขาไฟพูจิ ที่ Fuji Five Lakes (ใช่ที่ๆที่ดีที่สุดแล้วเหรอ)
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…กลับมายืนที่เดิมกับตัวเลขบังคับที่ หาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…Future Town: Minato Mirai, Yokohama และ สะพานสายรุ้ง, Tokyo
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…First day in Tokyo & Panda On Tour
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…แผนเที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…เจ็บนี้อีกนาน ณ ถนนที่ชันที่สุดในโลก Dunedin, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ทัวร์พุงป่อง โรงงานชอคโกแลต และ โรงเบียร์ Speight’s, Dunedin, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ฟักใหญ่ น้ำเต้าโต และตลาดร้อยปี, บึงฉวาง สุพรรณบุรี
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...พาเหรดเพนกวิน Phillips Island, Australia
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…GPS สมองกลหรือสมองคนจะแน่กว่ากัน Melbourne, Australia
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…เที่ยวเมืองออสซี่ (แบบนี้) ขอไม่มีหนที่ 2!!!
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Butterfly Park, Coromandel New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ทะเล ทะเล ทะเลลลลลลลลล Coromandel, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…เรื่องระทึก ณ เมืองทะเล Coromandel, New Zealand และ Brokeback Mountain
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน....Auckland City กระเตงลูกชมเมืองวันเดียวก็เกินพอ!
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน… จอมปลวกพ่นน้ำ, บ่อน้ำขวดแชมเปญ, โคลนเลนเต้นระบำ … Rotorua, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…The Everest ฝันให้ไกล แล้วก็ไปให้ถึง
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…อุ้มท้องส่องพระอาทิตย์ที่ Sarankot, Nepal
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…เยี่ยมวังกุมารี เด็กหญิงที่ไม่ควรโต ที่ Dubar Square ,Nepal
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)...กาฎมัณฑุ สาธุ นะโมตัสสะ
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…..ไป เนปาล ไม่ผจญภัยไม่ได้หรอก
- 1000 places to see before you die --มีกี่ที่จาก Thailand?
- คิดว่าไม่น่าเบื่อแล้วนะ
- เมืองที่เคยน่าเบื่อ Wellington, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Franz Josef Glacier เฮ้อ จบซะที
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Queenstown ที่เดียวก็เกินคุ้ม
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Christchurch มาถึงแล้วแดนกีวี่
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Wellington ฟ้าฝนลมพัดเป็นเรื่องปกติ
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...ธรรมชาติให้มาขี้โคลนที่ Rotorua
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...ซีนหวิวๆที่ Auckland City กับ ขี้โคลนแปลกๆที่ Rotorua
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (่1)....ย้ายสะโพกข้ามประเทศ BKK-AKL
|
|
|
|
|
ทัวร์แม่ลูกอ่อน… จอมปลวกพ่นน้ำ, บ่อน้ำขวดแชมเปญ, โคลนเลนเต้นระบำ … Rotorua, New Zealand
ครั้งสุดท้ายที่พวกเราไปเที่ยวกันไกลๆก็เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว มาคราวนี้ิคุณพ่อบ้านต้องไปเรียนพิเศษที่ Auckland 2 วัน เนื่องด้วยกลัวสามีหายดิชั้นจึงหาเรื่องติดสอยห้อยตามไปด้วย
เป้าหมายแรกของเราก็คือ Rotorua เมืองที่อยู่ห่างจาก Wellington ไปถึง 5 ชั่วโมง พวกเราเคย มาเยี่ยมเมืองนี้ กันแล้วครั้งนึงตอนที่ดิชั้นและลูกชายย้ายกลับมานิวซีแลนด์ใหม่ๆ แต่ด้วยการกะเวลาที่ผิดพลาด ทำให้พวกเราพลาดชมสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง คือ..ถ้าจะให้พูดจริงๆแล้ว พวกเราพลาดไอ้สิ่งที่ควรจะดูไปทั้งหมด เรียกได้ว่า ถ้าไปเชียงใหม่ ดิชั้นก็ไม่ได้ไปดอยสุเทพ. ไนท์บาซ่า. หรือ ไนท์ซาฟารี การมา Rotorua ครั้งนี้ดิชั้นจึงสวมวิญญาณแม่บ้านดีเด่น เป็นตายยังไงไปครั้งนี้อิชั้นต้องกวาดให้เรียบ
พวกเราไปถึงจุดหมายกันประมาณ 6 โมงเย็น เลยมีเวลาพอที่จะเดินทางไปลงแช่บ่อน้ำร้อนกันที่ Polynesian Spa บ่อน้ำร้อนที่มีชื่อด้านการบำบัดรักษากล้ามเนื้อ และ บำรุงผิวพรรณ
ด้วยความที่พวกเรามีเด็กอ่อนไปด้วย ทำให้เราต้องใช้่เวลาดูว่าเราต้องซื้อตั๋วเข้าใช้บริการแช่บ่อน้ำร้อนประเภทไหน เนื่องจากทาง Spa มีบ่อให้เราเลือกใช้บริการกันถึง 5 โซน
" RADIUM & PRIEST Hot Springs Zone"
"Family Pool Zone"
Lake Spa Retreat เป็นโซนที่เราเลือก โซนนี้มีการจัดแต่งสไตล์ธรรมชาติ บ่อสร้างด้วยหิน และสามารถมองวิวของทะเลสาบ Rotorua ได้ด้วย ความร้อนและความแรงของน้ำอยู่ในระดับกลางๆ และน้ำจะมีความเป็นด่างซึ่งทาง Spa บอกว่าปลอดภัยกับคนทุกเพศทุกวัยแน่นอน
เราเลือกลงบ่อที่มีความร้อน 38 องศา เคหลิบก็ดูไม่สะทกสะท้านอะไร ดิชั้นสงสัยว่าลูกกำลังนึกถึงความหลังครั้งอยู่ในท้องหรือเปล่า เพราะอุณหภูมิใกล้เคียงกันแถมได้ลอยไปลอยมาในน้ำเหมือนกันอีกต่างหาก
ส่วนตัวดิชั้นรู้สึกผ่อนคลาย สบายเหลือเกิน ไม่แน่ใจเพราะสรรพคุณของแร่ธาตุในน้ำช่วยคลายกล้ามเนื้อตามที่โฆษณา หรือเป็นเพราะว่าเวลาอุ้มลูกในน้ำมันก็ไม่ต้องใช้แรงมากเหมือนอยู่บนบก หรือจริงๆแล้วเป็นเพราะดิชั้นโบ้ยให้สามีอุ้มลูกไว้ซะเป็นส่วนใหญ่ อ้างว่าจะถ่ายรูปพวกเค้าไว้เป็นที่ระลึก อิอิ
พวกเราแช่น้ำร้อนกันประมาณครึ่งชั่วโมงก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว บริเวณลานอาบน้ำจะมีเก้าอี้เล็กๆไว้สองสามตัว ดิชั้นก็จัดแจงนั่งแล้วอุ้มลูกไว้ที่ตักโดยที่ให้ลูกหันตัวออกจากดิชั้น
ระหว่างที่ดิชั้นกำลังรดน้ำที่ตัวลูกนั้น ดิชั้นก็เอะใจขึ้นมาเพราะเห็นว่าลุกเงียบไป เลยชะโงกหน้าไปดู ภาพที่ดิชั้นเห็นทำให้ต้องนิ่งอึ้งไป ที่จมูกของลูกมีเลือดไหลออกมาแดงไปหมด ดิชั้นทำอะไรไม่ถูก ในหัวคิดแต่ว่าลูกต้องเกิดอาการความดันขึ้นเนื่องจากความร้อนของบ่อน้ำเป็นแน่ ดิชั้นเลยโยนฝักบัวท้ิงเพราะกลัวว่าความแตกต่างของอุณภูมิน้ำจะยิ่งทำให้ลูกมีความดันสูงขึ้นไปอีก
ดิชั้นตั้งสติใช้นิ้วปาดเลือดออกจากจมูกลูกแล้วก็พบว่า…ดิชั้นนี่มันช่างวิเคราะห์เกินความจำเป็น เลือดบนจมูกจริงๆแล้วคือเลือดจากการข่วนขีด ซึ่งดิชั้นนคาดว่าน่าจะมาเล็บคมๆของพ่อลูกชายนั่นเอง ดีนะ ที่ดิชั้นรู้สาเหตุที่แท้จริง ก่อนที่จะออกไปโวยวายกับทาง Spa ว่า ไหนบอกว่าปลอดภัย ไม่งั้นละก็ ดิชั้นคงต้องกลับมาซับเลือดให้หน้าตัวเองแน่ๆ
แต่อาการหนึ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าต้องมีสาเหตุจากการแช่บ่อน้ำร้อนก็คือ ความอ่อนเพลีย ง่วงซึม แม้แต่เจ้าตัวแสบที่ไม่ชอบหลับนอนยังสงบนิ่ง ความตั้งใจว่าอยากใช้บริการเสริมสวย อบซาวน่า หลังแช่น้ำร้อนที่ Spa แห่งนี้ของฉันจึกตกไป
วันรุ่งขึ้นพวกเราออกจากโรงแรมกันประมาณ 9.20 น. เพื่อบึ่งไปดู ไกเซอร์ (Lady Knox Geyser) น้ำพุร้อนธรรมชาติที่จะพุ่งขึ้นเองเป็นประจำทุกวันเวลา 10.15 น. Lady Knox Geyser นี้จะอยู่ที่บ่อโคลน Wai-O-Tapu ที่อยู่ออกไปจากตัวเมือง Rotorua ไปประมาณ 20 นาที นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเราพลาดชม้กันเมื่อตอนมาเที่ยวคราวที่แล้ว
ทางบ่อโคลนแนะนำไว้ว่า นักท่องเที่ยวควรไปซื้อตั๋วก่อนเวลา 9.45 น. เพราะบางครั้งอาจมีคิวยาวทำให้อาจพลาดชมได้ นอกจากนี้บริเวณที่ขายตั๋วนั้นอยู่แยกออกไปจาก Geyser ถ้าเดินไปก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาที พวกเราขนาดว่าไปถึงตรงเวลาเมื่อไปถึงลานชม แทบจะหาที่นั่งไม่ได้เนื่องจากวันนั้นมีทัวร์มาลงหลายเจ้า
จุดที่จะมีประทุของ Geyser นั้นมีลักษณะคล้ายจอมปลวกยักษ์สีขาวมีรูโบ๋ด้านบน ที่คอยปล่อยควันให้พุ่งขึ้นมา (ต่อจากนี้ขอเรียกเจ้านี่ว่าจอมปลวก) ดิชั้นก็ค่อนข้างจะตื่นๆ เพราะไม่แน่ใจว่า ทางบ่อโคลนจะมีการประกาศให้เรารู้ตัวก่อนที่จอมปลวกจะพ่นน้ำหรือเปล่า ดิชั้นไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะได้เห็นมันอีกครั้ง
เมื่อใกล้ถึงเวลาประทุ ความตื่นตระหนกของดิชั้นก็ได้ลดระดับลง เนื่องจากเจ้าหน้าที่หนุ่มของ Wai-O-Tapu ได้ออกมายืนเคียงข้างจอมปลวกและทักทายผู้ชม เป็นสัญญาณที่ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าว่าน้ำพุจะพุ่งตอนไหน
ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่หนุ่มก็ได้เล่าประวัติความเป็นมาของ Geyser ให้ฟังว่า เมื่อปี 1901 ทางการของ New Zealand ได้ก่อตั้งคุกแบบไร้ลูกกรงขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Wai-O-Tapu แห่งนี้ เพื่อให้นักโทษที่มีความประพฤติดีอาศัยอยู่และทำงานให้กับทางการ อยู่มาวันหนึ่ง ได้มีกลุ่มนักโทษออกมาซักเสื้อผ้าและทำสบู่ตกลงไปในหลุมจอมปลวก ค่าความเป็นด่างของสบู่ได้ทำปฎิกิริยากับน้ำพุร้อนที่มีแร่ธาตุผสมอยู่ ทำให้เกิดการประทุขึ้นอย่างรุนแรง
หลังจากเล่าตำนานของ Geyser จบ เจ้าหน้าที่หนุ่มก็หยิบก้อนสบู่ออกมาสองก้อน ดิชั้นก็เริ่มพ่นก่อนน้ำร้อนว่า “อ้าวไหนบอกว่าน้ำจะพุ่งเองไง” จนท.หนุ่ม ประกาศสวนกลับมายังกับว่าฟังภาษาไทยออก “ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ค่อนข้างแล้ง ดังนั้นน้ำที่จะพุ่งขึ้นมาอาจจะไม่รุนแรงเท่าที่ควร ผมจึงจะหย่อนสบู่ลงไปเพื่อเร่งความแรงของน้ำนะครับท่านผู้ชม”
อีกไม่กี่วินาทีต่อมา น้ำเดือดๆก็ออกมาเอ่อและก่อตัวสูงขึ้นๆเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ดิชั้นไม่ได้สังเกตหรอกว่าผู้ชมนั้นมีเด็กมากน้อยแค่ไหน ในสายตามีแต่ลูกตัวเอง แต่หลังจากที่น้ำในจอมปลวกนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นมา ดิชั้นก็ได้รู้ว่าสถานที่นี้เป็นที่นิยมสำหรับเด็กแค่ไหน เมื่อเสียงกรี๊ดกร๊าด ตบมือ ของเด็กๆก็ดังไปทั่วอัฒจันทร์
เสียงของเด็กๆดังมากยิ่งขึ้นเมื่อน้ำพุ่งไปจนถึงจุดสูงสุดคือ 20 เมตร ช่วงนี้พวกเราผลัดกันถ่ายรูปคู่กับน้ำพุร้อนนี้กันจนครบทุกคน เพราะระยะเวลาการพุ่งนั้นนานถึง 1 ชั่วโมงแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศด้วย
เราใช้เวลาอยู่ตรง Geyser ไม่นานนัก เพราะว่าเรายังมีสิ่งที่พลาดชมไปเมื่อคราวที่แล้วอีกสองที่ พวกเราเดินออกมาทางบ่อโคลน เพื่อมุ่งหน้าไปชม Champagne Pool บ่อน้ำสีเขียวมรกต
ระหว่างเดินไป คุณพ่อบ้านนึกขึ้นมาได้ว่าลืมติดเอาผ้าอ้อมสำเร็จรูปและกระดาษเช็ดก้นเด็กมาด้วย แต่เราก็ปลอบใจตัวเองกันว่า ถึงลูกอึเราก็คงไม่รู้อยู่ดี เพราะกลิ่นภายในบริเวณบ่อโคลนมันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นตุๆแบบเดียวกัน
"Artist Palette หรือ จานสีของจิตรกร">
เมื่อเดินมาถึงบ่อ Champange Pool ดิชั้นถึงกับอึ้งไป ดิชั้นไม่อยากจะเชื่อว่ามันมาถึงง่ายขนาดนี้ เพียงแค่เราเดินข้ามสะพาน Silica Terrace ที่ทอดยาวบนบ่อ Artist Palatte แล้วเดินเลี้ยวมาทางขวา เราก็มาถึงบ่อน้ำที่มีขอบสีส้มสดตัดกับน้ำเขียวเข้ม
"Silica Terrace"
ดิชั้นเดาว่าดิชั้นคงพลาดไปเมื่อคราวที่แล้วเนื่องจากไอน้ำที่พุ่งขึ้นมาตลอดเวลาจากบ่อ ทำให้ภาพตรงหน้ามีแต่ควันสีขาวลอยฟุ้งไปหมดเหมือนอย่างวันนี้ ช่วงนี้คุณสามีได้พาลูกชายไปหลบยังศาลาก่อน ปล่อยให้ดิชั้นหามุมถ่ายรูปจนพอใจ
"Champage Pool"
จริงๆแล้วไอน้ำนี้ไม่ได้มีอันตรายอะไร แต่อากาศวันนั้นร้อนระอุ เรากลัวว่าถ้าลูกมาอบไอน้ำกับดิชั้นเดี๋ยวจะพาลไม่สบายไปเสียก่อน ส่วนตัวดิชั้นนั้นกว่าจะหามุมถ่ายรูปได้ ก็เล่นเอาผิวเนียนไปเหมือนกัน ไอน้ำในบ่อไม่ยอมกระจายออกเพื่อให้ดิชั้นได้เก็บภาพดีๆ แต่กลับพุ่งมาหาดิชั้นอย่างไม่หยุดหย่อน ดิชั้นสงสัยจังว่าคนที่ถ่ายภาพบ่อนี้ได้อย่างสวยงาม เขาโชดดีทีี่กระแสลมเป็นใจ หรือว่า เขาใช้เวลาเป็นวันเพื่อจับภาพบ่อๆนี้
จุดหมายสุดท้ายก่อนจาก Rotorua ก็คือ Bubbling Mud หรือ บ่อโคลนปุด ที่ระเบิดไปมายังกับมันกำลังเต้นระบำกันอยู่ โดยที่เราต้องขับรถออกมาจากบ่อโคลนหลักของ Wai-O-Tapu แล้วเลี้ยวตามป้ายที่เขียนว่า “Mud Pool” ง่ายๆแค่นี่ แต่คราวที่แล้วเราก็กลับพลาดไป
ดิชั้นสงสัยว่า Rotorua คงไม่อยากให้ดิชั้นจากกันง่ายๆ เพราะการชมบ่อโคลนปุดครั้งนี้ก็ยังไม่เต็มร้อยในความประทับใจ ดิชั้นมารู้ทีหลังว่าการถ่ายภาพบ่อโคลนปุดนี้ จะได้ภาพที่สวยงามมากกว่าในช่วงหน้าที่มีฝนตกชุก เพราะการก่อตัวของโคลนจะเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าครั้งที่เรามาเห็นกันครั้งนี้มากนัก ยังไงวันนึง ดิชั้นคงต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อเก็บภาพและเสียงของการระเบิดของโคลนในบ่อนี้อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อถึงตอนนั้นพ่อลูกชายของดิชั้นคงจะโตพอที่จะตื่นเต้นเฮฮาไปกับภาพและเสียงเหล่านี้ด้วย
"มุมนึงของบ่อโคลน Wai-O-Tapu"
ระยะทางจาก Rotorua ไป Auckland นั้นใช้เวลาเพียง 3 ชํ่วโมง แต่กว่าเราจะได้เช็คอินเข้าโรงแรมที่อยู่กลางใจเมืองนั้นกลับยืดออกไปอีก 2 ชั่วโมง เนื่องจากการจราจรขาเข้าที่ Auckland ่ติดขัดไม่แพ้กรุงเทพบ้านเรา
อย่าว่าแต่ดิชั้น คุณพ่อบ้าน หรือ คุณทวดหงุดหงิดเลย คนที่ไม่สบอารมณ์ที่สุดเห็นจะเป็นเคหลิบ ดิชั้นต้องยอมปล่อยให้ท่านออกมาจากคาร์ซีทยืดแข้งยืดขาในช่วงรถติดนี้ ปีนขึ้นปีนลงเบาะที่นั่ง ถ้าปีนเองได้ก็ว่าไปแต่นี่…ดิชั้นจะต้องเป็นคนช่วยอุ้ม กว่าจะถึงโรงแรมดิชั้นรู้สึกแบบปลอบใจตัวเองว่าต้นแขนดิชั้นได้ยุบลงไปพอสมควรเลยทีเดียว
แหม..โชคดีที่ไม่ได้ไปเสียสตางค์เข้าไปใช้บริการสปาเสริมสวยที่ Rotorua กว่าจะถึง Auckland ไหนจะซาวน่า ไหนจะหมักโคลน ไหนจะยกเวท ใช้บริการเรื่อยมาตามทางจนจะหมดแรงแล้ว วันรุ่งขึ้นดิชั้นจะจะออกลุยเที่ยว Auckland ด่้วยตัวเอง ไหวไม่ไหวต้องมาลองดูกัน
หมายเหตุ : เพื่อกันความเข้าใจผิดขอย้ำอีกทีว่าจอมปลวกที่พูดถึงไม่ใช่จอมปลวกจริงๆนะคะ
Create Date : 19 มีนาคม 2550 |
|
23 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2550 3:53:23 น. |
Counter : 1595 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: JewNid 19 มีนาคม 2550 4:00:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 19 มีนาคม 2550 4:22:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: bagarbu 19 มีนาคม 2550 4:31:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: namfonJC 19 มีนาคม 2550 10:50:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 19 มีนาคม 2550 12:12:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาว..กลางวัน (ดาว..กลางวัน ) 19 มีนาคม 2550 12:57:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Raynu 19 มีนาคม 2550 17:01:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: Katja 19 มีนาคม 2550 21:43:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: pim(พิม) 20 มีนาคม 2550 22:04:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: Katja 20 มีนาคม 2550 23:43:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 21 มีนาคม 2550 21:53:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: newtampo IP: 202.183.146.5 22 มีนาคม 2550 16:32:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เห็นน้ำพุร้อยพวยพุ่งแล้วนึกถึงน้ำพุพุ่งสูงของเจนีวาเหมือนกันนะคะ พุ่งแบบสวยงามเหมือนกันเลย ... เห็นแล้วก็อยากไปเยือนอีกจังเลย งามแต้งามว่าค่ะ