Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)...กาฎมัณฑุ สาธุ นะโมตัสสะ

แผนการเที่ยวของเราวันนี้ จะเป็นการเที่ยวชมวัดต่างๆ เห็นบอกว่าเที่ยววัดอย่าเพิ่งเบื่อกัน วัดที่กาฎมัณฑุนั้นมีความแปลกแตกต่าง อีกทั้งยังแฝงความเป็นปรัชญาอยู่ทั่วหัวระแหง

การเที่ยวของพวกเรา มีไกด์ชาวเนปาลที่ทางโรงแรมได้ติดต่อไว้เป็นผู้นำทาง
ไกด์ที่มารับพวกเราเป็นชายวัยประมาณ 40 ผิวคล้ำ รูปร่างสันทัด ใบหน้าคมเหมือนแขกอินเดีย เขาต้อนรับพวกเราอย่างเป็นมิตร หลังจากทีแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไปยัง วัด Swyambhunath

ถนนหนทางของกาฎมัณฑุนั้นขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้นึกถึงหนังแอคชัั่นมันส์ๆหลายๆเรื่อง ผิดแต่ว่ารถที่เรานั่งไม่ใช่ โฟร์วีลไดรฟ์เหมือนในแผ่นฟิล์ม แต่เป็นรถเก๋งขับเคลื่อนได้ทุกล้อไม่ขาดไม่เกิน ถ้าถามว่ารถคันนี้รุ่นไหนยี่ห้ออะไร ดิชั้นตอบไม่ได้ เพราะครั้งสุดท้ายที่เห้นรถรุ่นแบบนี้น่าจะเป็นตอนดิชั้นนั่งรถคุณพ่อไปโรงเรียนอนุบาล
ขนาดเครือ่งยนต์ของรถคันนี้และอีก 80% ของท้องถนนมีขนาดประมาณ 800 ซีซี ซึ่งก็ไปกันได้ดีกับขนาดถนนที่แคบและแออัด



การจราจรใน Kathmandu



ถึงแม้ถนนที่นี่จะคับแคบ แต่ใจของคนใช้ถนนที่นี่กลับกว้างเป็นมหาสมุทร ไม่ว่า รถ คน หรือสัตว์ ทุกสิ่งทุกอย่างมีสิทธ์ิใช้ถนนร่วมกัน และ… พร้อมๆกัน

เพราะฉะนั้นภาพของถนนที่นี่จึงไม่ได้มีรถยนต์เป้นเจ้าของถนนแต่เพียงผู้เดียว การบีบแตรจึงเปรียบได้ประหนึ่งการแผ่เมตตาของเจ้าของรถ ที่ี่ให้จังหวะคนเดินบ้าง สัตว์เดินที รถพี่ไปก่อน โดยที่ไม่มีการโกรธเคืองกัน เค้าถือกันว่าการบีบแตรคือ “น้ำใจ” ที่มีให้กันบนท้องถนน

ที่รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับเรื่องแตรเนี่ย ดิชั้นไม่ได้มั่วขึ้นมาเองนะคะ สอบถามแล้วอย่างละเอียดจากไกด์ชาวเนปาลของเรา

ไกด์ของเราเคยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาก่อน การสื่อสารกับเราจึงไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าเราแอบเกิดความหวาดระแวงเวลาที่เขาสื่อสารกับคนขับรถเป็นภาษาเนปาลี ทำให้เรารู้สึกว่า การถูกเอาเปรียบ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ นี่คือข้อเสียอย่างหนึ่งของการใช้ไกด์ชาวพื้นเมือง แต่เพื่อความปลอดภัยเราได้ติดเอาอีเมลที่มีการแจงรายละเอียดต่างๆของทริปนี้ติดตัวไว้ตลอดเวลา



บริเวณในวัด Swyambhunath



เมื่อไปถึงวัดสิ่งที่เราได้ควักออกมาใช้ก่อนกล้องถ่ายรูปก็คืออีิเมลที่ปรินท์มา ไกด์ของเราขอให้เราจ่ายค่าเข้าชมวัดเนื่องจากเค้าขาดการประสานงานที่ดีกับทางบริษัททัวร์ เราได้โชว์รายละเอียดให้เค้าดูว่า ค่าใช้จ่ายที่เข้าชมวัดต่างๆได้ถูกรวมมาแล้ว อยากบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เราใช้อีเมลประกาศิตนี่ แต่เราได้นำมันมาใช้ตลอดการเที่ยวคร้งนี้



แผงขายของในบวัด Swyambhunath



วัด Swyambhunath ตั้งอยู่บนเขาในเมือง Katmandu ทางทิศตะวันตก ทำให้เราได้ชมวิวเมืองอย่างสุดลูกหูลูกตา ทางขึ้นก็ง่าย ไม่สูงชัน คนท้องเดินได้สบายๆ เพียงแต่ต้องระวังอย่าไปเหยียบเจ้าถิ่นเฝ้าวัด นั่นก็คือ ลิง ที่เดินกันให้พล่านระเกะระกะ จนทำให้ชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า Monkey Temple



เจ้าถิ่นวัดลิงขบ



วัดนี้เป็นวัดพุทธแบบธิเบต โดยสามารถบอกได้จากโครงสร้างของสถูปที่แบ่งเป็นชั้นๆ



เจดีย์



ชั้นแรกจะเป็นโดมครึ่งวงกลมสีขาวโดยเป็นสัญลักษณ์แทน ธาตุดิน ชั้นที่สองจะเป็นฐานสี่เหลี่ยม เป็นสัญลักษณ์แทน ธาตุลม ชั้นที่สามเป็นลักษณะสามเหลี่ยมแทนธาตุน้ำ และมี ยอดโดมเป็นลักษณะเหมือนร่ม แทนธาตุไฟ นอกจากนี้สัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จุกกันดีก็คือ สัญลักษณ์รูปตาตรงฐานสี่เหลี่ยม ที่หมายถึง ความรู้แจ้งเห็นจริง ส่วนสัญลักษณ์ที่เป็นรูปจมูกหรือเครื่องหมายคำถามก็คือหมายเลข 1 หมายถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียว





พระธิเบต



รอบๆวัดจะมีการประดับประดาไปด้วยธงหลากสีที่จะมีบทสวดแบบธิเบตเขียนอยู่ ซึ่งก็จะเป็นแบบเดียวกับกงล้อรอบสถูป ที่มีไว้ให้คนหมุนจากซ้ายไปขวา ก็ประมาณเหมือนการเดินเวียนเทียน หรือ เดินจงกลมนั่นแหละค่ะ



กงล้อคำสวด



สัญลักษณ์อีกอย่างนึงของวัดพุทธของเนปาลก็คือธงสีที่ร้อยเรียงกัน แขวนตามเจดีย์ และ บริเวณรอบๆ บนธงก็จะมีบทสวดเขียนไว้ทุกผืน





ธงธิเบต



ก่อนจะกลับพวกเราได้เดินไปด้านในของวัด ที่ได้แบ่งเป็นห้องๆ ดิชั้นประทับใจกับห้องๆหนึ่งที่มีเทียนตั้งอยู่บนโต๊ะ จุดบ้างไม่จุดบ้าง ทางธิเบตได้เปรียบเทียนเหมือนกับชีวิตคนเรา ที่มีทั้งมุมมืดและมุมสว่าง หากเรายังมีชีวิตอยู่ก็จงหมั่นจุดเทียนให้สว่างไสว





People have both dark and bright sides. So let's brighten it up.



อืมมม…หลังจากอิ่มบุญกันได้ที่ พวกเราก็เดินย่อยธรรมะกันรอบๆวัดก่อนจะมุ่งหน้าไปเติมบุญกันยังศาสนสถานที่ต่อไป



รอบๆวัด



พวกเรามุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก ระหว่างทางพวกเราได้สังเกตเห็นว่า ผู้คนชาวเนปาล มีรูปร่างหน้าตาแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ ถ้าจะบอกว่าหน้าตาดีกับไม่ดีก็ออกจะเคร่งศีลข้อห้ามโกหกเกินไปหน่อย เอาเป็นว่าแจงให้แคบอีกนิดก็คือ ชาวเนปาลจะมีหน้าออกแขกๆคล้ำๆ กับ แบบแนวคนภูเขาออกแนวจีนๆ ถ้านึกหน้าคนภูเขาไม่ออกก็จินตนาการถึงหน้าเจ้าชายจิกมีไว้แล้วกันค่ะ แต่ไม่ใช่เวอร์ชันราชวงศ์ ถ้าประมาณหนังจักรๆวงศ์ๆล่ะก็พอไหว

นอกจากหน้าตาแล้ว สิ่งที่พวกเราสังเกตได้ก็คือ เครื่องแบบ ชายในเครื่องแบบทหารเดินกันให้พล่่านเมือง บางคนก็แบกปืน บางคนก็นั่งบนรถบรรทุก มากันเป็นคันรถ จากการสอบถามไกด์ ได้ความว่า ก่อนที่พวกเราจะมาถึงเนปาลได้หนึ่งวัน พรรคคอมมิวนิสต์ของเนปาล ที่เค้าเรียกกันว่า พวกเหมา (Maoist) ได้มีการเคลื่อนตัว แทรกแซงก่อความไม่สงบขึ้นในประเทศ คาดว่าจะมีการทำรัฐประหารในเร็ววัน เนื่องจากบัลังก์ราชวงศ์ของเนปาลนั้นเสื่อมมานานแล้ว ถ้าจำกันได้ตอนงานพระราชพิธีของในหลวง เนปาลเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ส่งราชวงศ์มาร่วมเฉลิมฉลองเนื่องจากความไม่สงบในประเทศ



ทหารของคณะปฎิวัติ



จากความไม่สงบนี้เองทำให้ทางการต้องประกาศ curfew กันยามค่ำคืน บางครั้งก็มีการตัดไฟ นี่เองคือสาเหตุให้ดิชั้นสังเกตเห็นได้ในคืนแรกที่มาว่าทำไมบ้านช่องของคนที่นี่ถึงนิยมจุดเทียนกันตั้งแต่หัวค่ำ นี่ถ้าไกด์ไม่เล่าให้ฟังดิชั้นคงวิเคราะห์ว่าชาวเนปาลจุดเทียนกัน เนื่องด้วยต้องการ brighten up the dark side เหมือนอย่างที่วัดลิงขบ

นั่งเม้าท์กันได้สักพักพวกเราก็มาถึงสถานที่ที่สำคัญอีกที่ของเนปาลนั่นก็คือวัด Pashupatinath ที่ๆเป็นศูนย์รวมทางจิตใจที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวฮินดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่นับถือพระศิวะ ทุกๆปีชาวฮินดูไม่ว่าจะเป็นคนเนปาลหรืออินเดียก็จะมารวมตัวกันที่นี่



วัด Pashupatinath



ธรรมเนียมของคนที่นี่ก็ออกจะคล้ายๆอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนับถือแม่น้ำ ภายในวัดจะมีแม่น้ำ Bagmati ไหลผ่าน ชาวบ้านละแวกนั้นได้ตักไปใช้มั่ง อาบมั่ง ตามอัธยาศัย



สะพานข้ามแม่น้ำ Bagmati



ระหว่างที่พวกเราเดินข้ามแม่น้ำ Bagmati ดิช้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้แบบโหยหวนของผู้คน มาจากด้านหลัง เมื่อมองไปก็พบว่า มีควันขึ้นมาจากกองฟางตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ดิชั้นเดาได้ไม่ผิด พวกเค้ากำลังทำพิธีเผาศพกัน ซึ่งเมื่อเสร็จกิจแล้ว แน่นอนว่าเถ้าเหล่านี้ก็ต้องเอามาลอยน้ำให้คนได้อาบได้ใช้กันต่อไป



พิธีเผาศพ





ศิลปะแบบฮินดู





บาบา หรือ โยคี



ก่อนจะกลับพวกเราได้พบกับ บาบา หรือ ที่เรารู้จักกันในนามของโยคี ไม่น่าเชื่อ ว่ามีอยู่จริง ด้วยความตื่นเต้นดิชั้นจึงขอถ่ายรูปบาบาเอาไว้เป็นที่ระลึก พอถ่ายเสร็จ บาบาบอกว่า มันนี่ มันนี่ ด้วยความที่ทั้งไม่เชื่อและออกจะลบหลู่ ดิชั้นจึงบอกกลับไป ไม่มี ไม่มี ฟังออกรึเปล่าไม่สนใจ พวกเรารีบมุ่งหน้าต่อไปยังที่หมายหน้า ก่อนที่วันของเราจะหมดลง

ปล. ขอบคุณคุณฝน Malee30 ค่ะ ที่ช่วยจขบเห็นข้อผิดพลาดในการพิมพ์ จากคำว่าร้อง เป็น ร้องไห้ จขบ ได้เพิ่มคำขยายความเข้าไปด้วย เกรงว่าคนอ่านจะเข้่าใจผิดคิดว่าเค้้าย่างศพสดๆ


Create Date : 18 มกราคม 2550
Last Update : 19 มกราคม 2550 3:52:56 น. 16 comments
Counter : 1407 Pageviews.

 

Myspace Layouts

สวัสดีค่ะ เช้ามืด ค่ะ

มาเดินชมบ้านเพื่อน แล้วค่ะ

อิอิ

ไปทำงาน หรือ ไปโรงเรียน

อย่างมีความสุขนะค่ะ

(@^_^@)

จุ๊ฟๆๆ





โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:6:05:08 น.  

 
หนุก หนุก ชอบ ชอบ มีตอน 3-4-5 อีกมั้ยคะ
คือยังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยตัวเองเลยมาแอบอ่านไว้เป็นข้อมูลอ่ะค่ะ


โดย: miss Florence in Venice วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:6:05:37 น.  

 
น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะ
ตอนแรกรี่นึกว่าวัดจะคล้ายๆบ้านเราซะอีก
โยคี แอบน่ากลัวอ่ะ รี่คงกรี๊ดถ้าเจอตัวจริงอย่างนั้น
ส่วนเรื่อง มันนี่ๆๆ โชคดีค่ะที่พรินท์เมลล์ติดตัวไว้
ไม่งั้น แย่แน่ๆเลย น้อ

ป.ล. รออ่านตอนต่อๆไปนะคะ


โดย: ShiEri วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:8:54:34 น.  

 

สวยจังเลย เค้าสวยแบบมีเอกลักษณ์ที่น่าชมอยู่ไม่น้อย
คุ้มจริงๆๆที่ได้ไปชมสักครั้งในชีวิตค่ะ


โดย: fluffyboy101 วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:9:00:38 น.  

 
น่าไปเที่ยวบ้างจัง
สวยทั้งนั้นเลยค่ะแต่กลัวทหารของคณะปฎิวัติไปช่วงที่เขากำลังปฎิวัติหรือค่ะ


โดย: namfonJC วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:11:32:18 น.  

 
งานพวกก่อสร้าง ศิลปะของเค้าน่าสนใจนะค่ะ ชอบมากโดยเฉพาะรูปตา
ที่ฐานสี่เหลี่ยม เห็นแล้วชวนสะพรึงเหมือนถูกจ้องมองแต่ก็เป็นของแปลก
ที่ชอบดูอ่ะค่ะ

เรื่องอีเมล์ประกาศิตนี่ก็อ่านแล้วก็ต้องเป็นเรื่องเตือนใจเราล่ะค่ะว่า
จะต้องรอบคอบเอาไว้ก่อนเลย เพราะมีสิทธิจะถูกโกงได้ทุกเมื่อจริงๆ
ถ้าหากว่าเราไม่ละเอียด แต่ว่าบางทีก็ยากนะค่ะ เรื่องการพูดภาษาที่สาม
ที่เราไม่รู้ งานนี้เที่ยวได้ประสบการณ์ แล้วก็อาจจะถูกโกงเป็นประสบการณ์
เหมือนกัน


โดย: JewNid วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:12:51:48 น.  

 
สวัสดีจ๊ะน่าไปนะคะ เห็นบ้านเมืองเค้าดูมีมนต์คลังจัง ขอบคุณมากนะคะที่พาไปเที่ยว


ลูกชายน่ารักจังไม่ทราบว่าอายุเท่าไรแล้วคะ ชื่ออะไรเหรอคะ อิอิ อยากรู้อะ NZ เป็นประเทศที่สวยงามมั่กๆเลย


โดย: bagarbu วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:15:22:41 น.  

 



สวัสดีค่ะ สบายดีไม๊คะ ขอบคุณนะคะ ที่แวะไปทักทายฝนกับน้องกรานต์ที่บล๊อก

ดีจังได้ไปเที่ยวสถานที่สวยๆ แถมได้ทำบุญอีกต่างหากค่ะ

ว่าแต่ที่บอกว่าเค้าเผาศพและมีเสียงร้องโหยหวนนี่ ศพยังไม่ตายดีเหรอคะ อ่านแล้วเศร้าใจค่ะ แถมยังเอาไปลอยน้ำ และยังเอาน้ำมาใช้ต่ออีก บรื๋อๆๆๆๆ


ฝากจุ๊บๆ หลานตัวน้อยด้วยนะคะ



โดย: Malee30 วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:16:14:22 น.  

 
ดีจ้า แหมไปไกลถึงเมืองกิ้งกาดุโน่น ฮ่าาา น่าไปมั่งจัง แต่ว่าบางอย่างซำหยองก็ไม่อยากดู อิอิ ตอนท้องนน ขึ้นกี่กิโลจ๊ะ อิอิ สงสัย


โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:0:45:37 น.  

 
น้องชื่อเคหลิบเหรอคะ น่ารักจัง เก้าเดือนเองน้องตัวใหญ่เนอะท่าทางกินเก่ง ลูกชายของอิฉันเหรอคะ ชื่อเฟดริกคะ อาทิตย์หน้าก้อสองขวบแล้ว ซนเป็นลิงเลย อยู่นิวซี่แลนด์อยู่ที่ไหนเหรอคะ แม่สามีอยู่ที่ Auckland คะเราไปเยี่ยมแม่สามีมาสามครั้งแล้วคะ คุณจขบสบายดีนะคะ เรียกเราว่าหน่อยก้อได้คะ


โดย: bagarbu วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:4:12:42 น.  

 
อิอิ อีกรอบนึงยังไม่เข้านอน เดี๋ยวจะไปนอนแล้วแหละ ว้าย!!ลูกชายเหรอคะ ดีนะที่ไม่เขียนว่าลูกสาวอะ สามีอิฉันเป็นคนกีวี่คะ ไปนอนนะจ๊ะแล้วเม้าท์กันใหม่พรุ่งนี้เด้อกู๊ดไนท์จ๊ะ


โดย: bagarbu วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:5:26:38 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อค่ะ ตื่นตาตื่นใจมาก ๆ แม่ปุ๊อยากไปหมุนกงล้อวัดทิเบตจังค่ะ โยคีน่ากลัวมาก ๆ ค่ะ แต่พอได้ยิน "มันนี่ มันนี่" หายขลังไปโดยบัดดล

ตอบค่ะ: น้องเคนเนธครบ 15 เดือนวันนี้พอดีค่ะ


โดย: Lauderdale By The Sea วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:6:18:36 น.  

 
จ๊าก 18 กิโล หมอว่าประมาณ 10 กิโลนิด ๆ เนี่ยกำลังดี จึ๋ย แต่ก็เชื่อค่ะ ว่าเดี๋ยวเลี้ยงลูกไปน้ำหนักจะลดลงเอง แหะ แหะ ตอนนี้ไม่ค่อยแพ้แล้ว กินแหลกเลยค่ะ สิ้นเดือนนี้ก็ครบ 3 เดือนแล้วด้วย หวังว่าจะหายพะอืดพะอมซักที แหะ Due Date ประมาณเดือนสค จ้า ได้คุยกะคนมีลูกแล้วมั่งค่อยยังชั่ว อิอิ แลกเปลี่ยนปสก สนุกดี แล้วจะแวะมาคุยใหม่นะจ้า


โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:15:14:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ .. ทิวลิปรูปสุดท้ายสงสัยเพราะเลือกเอามาปิดท้ายเพราะฟ้ามันใส คงจะเป็นเพราะว่าภาพอื่นๆ มันเป็นช็อตๆ แนวเจาะต่ำด้วยมั้งค่ะ แต่พอแหงนมองฟ้าใสๆ ก็เลยเหมือนว่า อารมณ์กระเจิง เหมือนได้เปิดโลกทัศน์อีกด้านหนึ่งอ่ะมั้งค่ะ ....

ฮ่า ฮ่า คิดไปโน่นแน่ะค่ะ แบบว่าไงดี รูปมันบอกได้หลายอารมณ์อ่ะค่ะ แต่ก็แล้วแต่ว่าใครจะคิดอะไรได้ตอนนั้นอ่ะนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:18:25:17 น.  

 
เป็นประเทศที่น่าทึ่งมากๆค่ะ นัทอยากมีโอกาสไปเยือนสักครั้ง แต่ยังคงต้องฝันต่อไป


โดย: Picike วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:2:31:22 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ทำไมประเทศนี้มันดูน่ากลัวจังเลยเนี่ย


โดย: mintini วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:23:35:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nzmum
Location :
กรุงเทพ New Zealand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บันทึก...แม่บ้า(น)ตัวอย่าง
ชีิวิตเก่าๆของแม่ลูกสอง ทั้งในและนอกประเทศไทย
หวังว่าวันนึงคงได้กลับมาอยู่บ้านเราอย่างถาวร



+KL and that second (3)+
+KL hours later(2)+
+KL in 24 HRS (1)+
+HBD CALEB 3 YRS OLD+
+ไม่ใช่ตุ๊กตา+
+ของขวัญจากโรงเรียน+
+วีคแรกที่ Kindy+
+Bye Bye Nappy+
+โรงเรียนของเคหลิบ+
+เกมแก้เซ็ง+
+ด้วยเกียรติของแม่บ้า(น)+
+ถึงคราวมีเจ๊ดัน+
+Headline Blog+
+Smile Upon The Sky+
+Caleb’s Language Milestone+
+Snap Shots ริมเจ้าพระยา+
+กลับ!+
+AF5: Me, My Dream & My Producer+
+วีรกรรมทำแสบ+
+Fuji Five Lakes+



+My Book+





Friends' blogs
[Add nzmum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.