No Romance หยุดหัวใจที่เธอ - บทที่ 11 (YURI)
๑๑ หลังปรับความเข้าใจกันได้ ร่มฉัตรจึงเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาเป็นชุดเดิม แล้วจูงมือกันออกมาจากห้อง ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูสนิทสนมมากต่างจากตอนเข้าไปชนิดหน้ามือหลังมือ “นี่ฉัตร แกปรับความเข้าใจกันอีท่าไหน คอน้องจีนถึงมีรอยลิปสติกแกได้” ชนมนแกล้งกระเซ้า อะไรนะ! พอได้ยินแบบนั้น จีนสะดุ้งเหมือนคนมีชนักติดหลัง รีบถามคนพี่ที่อยู่ข้างๆ “เลอะตรงไหนคะพี่ฉัตร?” สาวหน้าคมกวาดตามองรอบคอของหล่อน แล้วไม่พบอะไรเลย จึงหัวเราะเบาๆ “ไม่มีอะไรค่ะ พี่มนล้อเล่นน่ะ” ร้ายมากนะไอ้คุณมน เธอปรายตาคมมองเพื่อนรัก แต่อีกฝ่ายไม่กลัว “คะ?” สาวสวยทำหน้างง “แสดงว่าเมื่อกี้ทำอะไรกันจริงๆ สินะ” ผู้จัดการสาวหลุดหัวเราะอย่างรู้ทัน แค่ชิมปากไปนิดนึง หวานมากๆ สาวร่างสูงอมยิ้มในหน้าแทนคำตอบ มองหล่อนที่มีพิรุธชัดเจน หน้าสวยหวานแดงเรื่อเป็นลูกตำลึง ก้มหน้าต่ำมองพื้น โกหกไม่เป็นเลยสินะเด็กน้อย “ไม่ปฎิเสธ แปลว่าคบกันแล้ว?” ชนมนแกล้งถามต่ออย่างอยากรู้เต็มแก่ “พูดมาก” เธอขยับปากแบบไร้เสียงต่อว่าเพื่อนสนิท ก่อนสอดประสานมือกับจีน “ไปค่ะน้องจีน กลับกันดีกว่า” “เจอกันพรุ่งนี้นะจีน ฉัตร” ผู้จัดการสาวล่ำลาสองสาว รู้ว่าเพื่อนอยากอยู่ตามลำพังกับหล่อน จึงไม่อยากขัดคอ “ค่ะคุณมน” จีนพูดไม่เต็มปาก รู้สึกอับอายมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร้ายทั้งคู่เลย ชอบแกล้งฉัน สองสาวเดินออกจากผับ ไปยังลานจอดรถด้านหลังขนาดใหญ่ มีรถยนต์หรูจอดเรียงเกือบเต็ม มีแสงไฟจากรถที่แล่นผ่านไปมาสาดมาเป็นระยะ นักท่องราตรีเข้ามาและออกไปเกือบตลอด จึงไม่แปลกที่สถานที่ประเภทนี้จะมีรายได้คืนละหลายล้านบาท “รู้งี้เอากุญแจรถมาด้วยก็ดี” ร่มฉัตรบ่น หลังยืนรอจงรักอยู่ข้างรถหลายนาที แต่อีกฝ่ายบอกขอไปหยิบของก่อน จึงยังไม่ออกมา “หิวเหรอคะ?” หล่อนถาม เธอส่ายหน้า “ไม่ค่ะ พี่กลัวน้องจีนหิวต่างหาก” จีนสบสายตาคู่คมที่มองมาอย่างลึกซึ้ง รับรู้ได้ถึงความห่วงใยของอีกฝ่าย “เอ่อ...” “พี่เป็นห่วงนะคะ” อย่ามองฉันแบบนี้สิคะ หล่อนร้อนวูบวาบกับแววตาระยิบระยับของเธอ ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น ขณะที่ทั้งคู่กำลังยืนคุยอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีชายชุดดำสามคนบุกเข้ามาทางด้านหลังของร่มฉัตร ในมือมีมีดสั้นมาด้วย จีนเหลือบเห็นเข้าพอดี “พี่ฉัตร! อันตรายค่ะ” การร้องเตือนนั้นทำให้สาวร่างสูงหันขวับไปมองทันที พร้อมตวัดขาเตะเข่าคนร้ายหน้าทิ่มไปหนึ่งคน แล้วตามไปเตะซ้ำจนสลบ จากนั้นย่อตัวหลบมีดสั้นของคนที่สอง แล้วสวนหมัดฮุคเข้าที่แก้มแบบเต็มๆ จนเขาล้มกลิ้งไปกับพื้น เห็นดาวล่องลอยเต็มหน้า “กรี๊ด!” เสียงหวีดร้องของหล่อนดังออกมา “อย่าแตะต้องน้องจีน!” ร่มฉัตรตวาดลั่น กระชากคอเสื้อด้านหลังของคนร้ายที่เหลือเอาไว้ทัน “เกะกะ!” ชายชุดดำนึกฉุน จึงหมุนตัวกลับไปเล่นงานเธอ มีดสั้นคมกริบในมือเฉือนต้นแขนของร่างสูงไปหนึ่งแผล บ้าเอ๊ย! เธอก้าวถอยหลังหลบอาวุธคม ที่ตวัดฉวัดเฉวียนอยู่รอบตัว แต่ยังหาจังหวะตอบโต้กลับไม่ได้ ตรงนั้นเป็นแค่ช่องระหว่างรถที่ค่อนข้างแคบ จึงขยับไม่สะดวกนัก คนร้ายยังคงรุกหนัก ถือมืดไล่ฟันร่มฉัตรไม่หยุด จนได้เลือดครั้งที่สองเป็นทางยาวกว่าเมื่อกี้ “โอ๊ย!” ร่างสูงร้องเบาๆ “แกวอนหาเรื่องเองนะ” คนร้ายกล่าวอย่างย่ามใจ คิดว่าตนกำลังเป็นต่อ “พี่ฉัตร!” จีนร้องอย่างตกใจ ตื่นกลัวจนหัวใจหล่นไปยังตาตุ่ม ขณะที่หญิงสาวกำลังจะจนมุม จงรักถลามาเหวี่ยงแฟ้มในมือทุบหัวคนร้ายจากด้านหลังอย่างแรง ล้มฟุบไปกับพื้นหมดสติ “คุณฉัตร เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ผู้ช่วยสาวถามอย่างเป็นห่วง “ไม่เป็นไร” เธอตอบเสียงเหนื่อยๆ หลังผ่านนาทีชวนหวาดเสียวมาหยกๆ จีนถลาเข้าไปดูอาการสาวร่างสูง “พี่ฉัตร...เป็นอย่างไรบ้างคะ?” “เจ็บนิดหน่อยค่ะ” “เลือดออกไม่หยุดเลย” ลูกครึ่งสาวมองบาดแผลของผู้หญิงตรงหน้าที่ไหลรินออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงค้นเอาผ้าพันคอที่อยู่ในเป้มากดแผลไว้ “ถามสิว่าใครส่งมันมา” ร่มฉัตรสั่งเสียงเย็น ไม่สนใจอาการเจ็บของตนเอง สนใจแต่เบื้องหลังคนร้ายที่ต้องไม่ธรรมดา มั่นใจว่าไม่ใช่พวกโจรกระจอก หรือเรื่องบังเอิญแน่ พวกมันต้องการทำร้ายน้องจีน ลางสังหรณ์บอกเธอแบบนั้น “แต่-” จงรักค้าน “ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะค่ะ” หล่อนพูดแทรกขึ้น ไม่สนใจอะไรนอกจากบาดแผลของเธอ ความเป็นห่วงพุ่งพรวดจนล้นหัวใจ หากไม่ใช่เพื่อปกป้องตน ร่มฉัตรคงไม่ต้องบาดเจ็บ พอคิดถึงตรงนี้น้ำตาก็ซึมขอบตาแทบจะล้นออกมา เพราะฉัน พี่ฉัตรเลยต้องบาดเจ็บ... เอาไงดี? ลูกน้องสาวห่วงหน้าห่วงหลัง ทำอะไรไม่ถูก โชคดีที่มีตัวช่วยผ่านมาพอดี “เกิดอะไรขึ้นครับคุณรัก คุณฉัตร?” ยามที่เดินมาตรวจแถวนั้นเห็นเข้า จึงวิ่งกระหืดกระหอบมาถามรัวเร็ว “จับสามคนนั้นส่งตำรวจที มันทำร้ายคุณฉัตร” จงรักรีบสั่งเขาทันที โล่งใจที่มีคนมารับไม้ต่อ “อ๋อ! ได้ครับ” “เดี๋ยว! สอบปากคำก่อน ฉันอยากรู้ว่าใครส่งมันมา” คนเจ็บสั่ง ยังคงดื้อที่จะหาคำตอบให้ได้ “ถ้าไม่ได้คำตอบห้ามส่งให้ตำรวจ” “ได้ครับคุณฉัตร” ยามคนนั้นรับคำ แล้วใช้วิทยุเรียกเพื่อนให้มาช่วยเอาคนร้ายไปไว้ยังห้องด้านหลัง เพื่อเค้นคอ “พาพี่ฉัตรไปทำแผลเถอะค่ะ” จีนพูดย้ำอีกครั้ง “พี่ไม่เป็นอะไร ไปทำแผลที่บ้านก็ได้” “อย่าดื้อสิคะ” หล่อนพูดแบบมีน้ำโห “ไปโรงพยาบาลค่ะพี่รัก” “ค่ะ” จงรักพยักหน้า อาการของร่มฉัตรไม่สาหัสแต่ยาว สองแผลรวมกันเย็บเกือบยี่สิบเข็ม หลังทำแผลเสร็จ จงรักแอดมิทห้องพิเศษให้เจ้านาย โดยไม่ลืมโทรไปบอกชนมน แล้วกลับไปเอาเสื้อผ้ามาให้หล่อน “จีนขอโทษค่ะ” สาวลูกครึ่งเอ่ยขึ้นเสียงเศร้า รู้สึกผิดจับใจ “ขอโทษเรื่องอะไรคะ?” ร่มฉัตรถาม หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของโรงพยาบาลนั่งที่โซฟา ตึงแผลจึงไม่กล้าขยับตัวมาก ตบเบาะให้อีกคนนั่งข้างๆ แล้วคุยกัน สาวลูกครึ่งนั่งอย่างว่าง่าย ใช้เวลาคิดไปอึดใจ เพื่อเรียบเรียงถ้อยคำ “จีนเป็นตัวถ่วง ทำให้พี่ฉัตรเจ็บตัว...เพื่อช่วยจีน” “การปกป้องน้องจีน เป็นหน้าที่ของพี่นะคะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของน้องจีนสักหน่อย ไม่ต้องขอโทษค่ะ” “แต่-” “ไม่มีแต่ค่ะ” เธอยกแขนข้างที่ไม่เจ็บคว้ามือนุ่มมากุมไว้หลวมๆ “พี่ชอบน้องจีนจริงๆ นะคะ ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากดูแลน้องจีนตลอดไป” “ตลอดไป?” “ค่ะ พี่พูดจริงนะคะ จะให้พี่สาบานก็ได้” สาวลูกครึ่งส่ายหน้าไปมา น้ำใสร่ำๆ จะเอ่อล้นขอบตาอีกรอบ “ไม่ต้องค่ะ จีนเชื่อพี่ฉัตร” แม้จะอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เกิด แต่หล่อนเชื่อในเรื่องของศาสนาพุทธ รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่อยากให้เธอต้องกล่าวถ้อยคำใดๆ ในอันที่จะเป็นอันตรายกับตนเอง ผู้หญิงคนนี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน เธอไม่เพียงไม่ทอดทิ้งหล่อน แต่พยายามปกป้องอย่างไม่คิดชีวิต แค่การกระทำก็หนักแน่นเสียยิ่งกว่าคำสาบาน ...จะไม่เชื่อได้อย่างไร? “ดีใจจัง” ร่มฉัตรยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรก ลูบไล้มือของอีกคนเบาๆ อย่างทะนุถนอม “น้องจีนยังตกใจอยู่รึเปล่าคะ?” ทำไมถึงได้ดีกับฉันนัก...ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ? ร่างบางอดคลางแคลงใจไม่ได้ “ไม่ค่อยแล้วค่ะ” ความตื่นตระหนกหายไปกว่าครึ่ง หลังเห็นหญิงร่างสูงปลอดภัย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอประสบการณ์ร้ายๆ แบบนี้มาก่อน แล้วอดฉงนฉงายไม่ได้ “พี่ฉัตรเคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนหรือคะ?” ว่าแล้วเชียว เธอคิดไว้แล้วว่า หล่อนต้องมีคำถาม “ค่ะ” คนเจ็บไม่คิดปฎิเสธ หากคิดจะคบกันจริงๆ ก็ไม่ควรพูดโกหก เพราะความลับไม่มีในโลก ถอนใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “งานของพี่ค่อนข้างเสี่ยง มีคนอยากได้ชีวิตพี่หลายคน” “ขนาดจะเอาชีวิตเลยเหรอคะ!” จีนหน้าซีดกว่าไก่ต้ม “งานแบบไหนคะ?” “นอกจากทำผับ พี่ยังขายข่าวด้วยค่ะ” “ขายข่าว?” คนฟังทำหน้ายุ่งไม่เข้าใจ “คล้ายๆ พวกสายลับน่ะค่ะ” “แบบ 007?” “เอ่อ ประมาณนั้น” ไม่น่าเชื่อว่าจะใจกล้า...เท่ไปแล้ว “ทำงานอันตราย ไม่กลัวบ้างรึคะ?” หล่อนถามอย่างกังวล พอรู้จักเธอมากขึ้น ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนนี้ “ก็กลัวน่ะ แต่มันก็สนุก ท้าทายดี” “พี่ฉัตรทำไปเพื่ออะไรคะ...เงิน?” สายตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อย แล้วยอมรับแบบไม่อาย “จะพูดแบบนั้นก็ได้ค่ะ” เธอไม่ปฎิเสธว่า ทำงานเพื่อเงินเป็นอันดับหนึ่ง...ในตอนแรก การเป็นลูกเมียรองคือปมด้อยอย่างหนึ่งของร่างสูง ที่โดนดูถูกเป็นประจำ โดยเฉพาะจากกนธี พี่ชายคนรอง ที่อายุแก่กว่าไม่กี่เดือน เรียกว่าเป็นคู่กัดกันเลยก็ไม่ผิด พี่ชายมีอากิจจาคอยให้ท้าย ในขณะที่พี่สาวคนโตปูชิตา จะมีอุปนิสัยอ่อนโยนอ่อนหวานนุ่มนวล คล้ายกับแม่ใหญ่ที่เสียไปมากกว่า จนบางทีอดนึกสงสัยไม่ได้ว่า พี่สาวกับพี่ชายเป็นลูกพ่อแม่เดียวกันรึเปล่า? การถูกรังแกเป็นแรงผลักดันให้เธอขอแม่ ไปเรียนวิชาต่อสู้ จากที่เคยโดนรังแกก็ป้องกันตัวเองได้ ระยะหลังกนธีไม่กล้าตอแยอีกกลัวปากแตกหน้าแหก ...ใครจะไปคิดว่าที่โรงฝึกนั่น จะทำให้เธอได้พบกับเส้นทางอนาคตใหม่ ได้เจอกับบรรจง กับจงรักจงสุขคู่แฝด คบหาชอบพอจนนำไปสู่การทำงานด้วยกัน เหมือนเป็นอีกครอบครัวหนึ่งของตน ร่มฉัตรเปิดผับและขายข่าวมาหลายปี มีเงินสะสมไว้ไม่น้อย จึงไม่ได้มองว่าเงินเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดอีก แต่ทำเพื่อให้ลูกน้องได้ลืมตาอ้าปากมีชีวิตที่สบายขึ้น เจ้าของร่างสูงสง่าจ้องคนฟังที่มีสีหน้าคิดหนัก ซึ่งมองไปทางอื่น รู้แบบนี้แล้ว น้องจีนจะเกลียดพี่รึเปล่า? ร่มฉัตรแอบกลัวไม่น้อย ใช้ปลายนิ้วเชยคางมนของจีน ให้สบสายตากัน ก่อนถามตรงๆ “น้องจีนผิดหวังไหมคะ ที่พี่ไม่ได้เป็นคนดี พี่เป็นคนที่เห็นแก่เงินมากๆ?” ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะชอบคนเลว แต่มักอยากได้คนรักเป็นคนดี ถ้าฐานะร่ำรวยด้วยยิ่งนับเป็นโชค ...แต่เธอไม่แน่ใจว่า หล่อนจะชอบคนแบบไหน? เจ้าของแววตาหวานซึ้งจ้องตอบ แล้วถามเสียงขุ่น “ถามแบบนี้ทำไมคะ หรือพี่ฉัตรไม่เชื่อใจจีน?” คนพี่รีบรั้งมือเนียนนุ่มเอาไว้ “ไม่ใช่ค่ะ พี่แค่อยากรู้เฉยๆ” คนเจ็บรีบตอบอย่างเร็ว “พี่ไม่อยากให้น้องจีนผิดหวังที่เลือกพี่เป็นคนรัก” คนรัก! “เอ่อ...” หล่อนทำหน้าไปไม่เป็น คิดว่าเร็วเกินไปที่จะคบหากันในฐานะนั้น ยังเตรียมตัวเตรียมใจไม่ทัน เธอฉวยโอกาสจุ๊บมือนั้นเบาๆ หงายอุ้งมือขึ้นแนบแก้มตนอย่างหลงใหล “ว่าไงคะ ตอบคำถามพี่หน่อยสิคะ” น้ำเสียงออดอ้อนเต็มไปด้วยความหวัง ปกติภูมิต้านทานก็ไม่เยอะอยู่แล้ว จีนจึงหวั่นไหวกับเวอร์ชั่นอ่อนหวานของอีกคนหนักกว่าเก่า แต่ไม่คิดจะยินยอมง่ายๆ ...เกรงจะเป็นดอกไม้ริมทาง จะโดนทิ้งขว้างภายหลัง “ขอจีนคิดก่อนได้ไหมคะ?” นักร้องสาวอยากได้เวลาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน “เราเพิ่งรู้จักกันไม่นานเลยนะคะ” คนเจ็บทำหน้าเบ้ แล้วงอแงเป็นเด็กๆ “พี่ว่าเรารู้จักกันดีแล้วนะคะ” “แค่สองอาทิตย์นิดๆ เอง ไม่นานเลยค่ะ” “ไม่ใช่ค่ะ เรารู้จักกันตั้งสิบหกวันแล้วต่างหาก” คนอายุมากกว่าพูดแก้ “จำแม่นจริง” “พี่จำทุกเรื่องของน้องจีนได้ค่ะ ตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรก” ร่มฉัตรพูดยิ้ม “เห็นครั้งแรกพี่ก็ประทับใจน้องจีนมาก” ประทับใจในทางไม่ดีรึเปล่าคะ? จีนส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อย้อนคิดกลับไป “พี่ฉัตรให้คนยืมเงินบ่อยเหรอคะ?” “ไม่ค่ะ ทำไมคะ?” “ก็แบบว่าให้สาวยืมเงิน แล้วจีบมาเป็นแฟน อะไรแบบนั้น” สาวลูกครึ่งพูดแบบงอนๆ ขี้หึงตัวแม่เลยนะเนี่ย คนเจ็บหัวเราะเบาๆ หลังโดนแขวะ “ถ้าแบบนี้ พี่เพิ่งเคยทำกับน้องจีนคนแรกค่ะ” “ไม่เชื่อหรอกค่ะ พี่ฉัตรเจ้าชู้มากๆ โปรยเสน่ห์ไปทั่ว ในร้านพวกพี่ๆ พนักงานแอบหลงรักพี่ฉัตรตั้งหลายคน” รู้จักประโยคพวกนี้ด้วย? ร่มฉัตรทำหน้าประหลาดใจ ที่โดนสาวลูกครึ่งต่อว่าแบบนั้น แต่ไม่ได้คิดขุ่นเคือง ยิ้มกริ่มอย่างมีความสุข หลังบทสนทนาของเราเริ่มพัฒนาไปในทางที่สนิทสนมกว่าเดิม หากเป็นก่อนหน้านี้ หล่อนไม่มีวันตัดพ้อต่อว่าตนแบบนี้แน่ “แล้วน้องจีนหลงรักพี่บ้างหรือเปล่าคะ?” คนพี่แกล้งย้อนถามแบบเนียนๆ ใครจะบอกกัน ชิส์ สาวลูกครึ่งค้อนน้อยๆ แต่ไม่ได้ชักมือที่ถูกลวนลามออก ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจแม้แต่น้อย รู้สึกแปลกๆ ป่วนปั่นในช่องท้อง ยามที่เธอพรมจูบสลับเลียเบาๆ ที่ปลายนิ้วของตน “พะ พอเถอะค่ะ” น้ำเสียงห้ามปรามสั่นไหว ยกอีกมือขึ้นป้องปากก่อนที่จะหลุดส่งเสียงน่าอายออกมา สายตาคู่คมที่ชวนเคลิบเคลิ้มจับจ้องเขม็งมา ขณะปากบางหยอกดูดนิ้วของนักร้องสาวไปด้วย ไม่ต่างจากสุมไฟให้รุ่มร้อนในเรือนกายมากมาย ...เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เคยได้ยินเพื่อนคุยกัน จึงพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่พร้อมที่จะปฎิบัติจริงในตอนนี้ จีนเชื่อมั่นในความรัก จึงปฎิเสธการแต่งงานที่พ่อเตรียมให้ และเลือกที่จะหารักแท้ ...เพียงแต่ไม่คิดว่าโชคชะตาจะเล่นตลก นำพาให้ตนบินข้ามครึ่งโลก ให้มาใจสั่นกับผู้หญิงแสนอ่อนโยนคนนี้ “หยุดก็ได้ค่ะ” สาวหน้าคมยอมหยุด ไม่อยากรังแกคนน้องไปมากนัก เพราะนั่นก็ไม่ต่างจากการทรมานตัวเองด้วย จูบเบาๆ ที่มือเรียวนั้นก่อนปล่อยเป็นอิสระอย่างอิดออด ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วถูกเปิดเข้ามาโดยจงรัก ที่นำกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของหล่อนมา พร้อมกับกระเป๋าสมบัติของตนเอง เพื่อนอนเฝ้าเธอที่โรงพยาบาลด้วย “คุณฉัตรคะ” “ทำไมทำหน้าแบบนั้น?” เจ้านายสาวถาม สังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าอีกฝ่าย “รู้แล้วค่ะว่าใครจ้างสามคนนั่น” จงรักรีบบอก “พวกนั้นไม่ได้คิดจะลงมือกับคุณ” หืม? ร่มฉัตรกลอกตาไปมา ชัดเจนว่าเป้าหมายของพวกนั้นคือสาวลูกครึ่ง ความเกรี้ยวกราดวิ่งพล่านในทุกอณูเซลล์ “ใคร?” น้ำเสียงของเธอเย็นเยียบ OOOO บทหวานมาแล้ว บทบู๊ก็มา พี่ฉัตรสามารถค่ะ อิอิ...ใครกันใจร้ายมาก สั่งคนมาลงมือกับน้องจีน? เรื่องนี้จะหลายอารมณ์มาก แกว่งขึ้นแกว่งลงพอสมควร มาเอาใจช่วยสองสาวกันต่อนะคะ นาง ^^ OOOO
Create Date : 31 พฤษภาคม 2564 |
|
0 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2564 18:18:42 น. |
Counter : 1005 Pageviews. |
|
|
|