ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
ตุลาคม 2563
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 ตุลาคม 2563
 
 

Last Promise บทที่ ๑๒ (YURI)

๑๒

 

เช้าอีกวันเป็นไปตามที่เมทินีคาด หล่อนไปหาเธอที่ห้องเบอร์ 4 เห็นพิจิตราออกจากห้องนอนพอดี อีกฝ่ายมีสีหน้าแย่มาก ใบหน้าคมแดงเรื่อจากพิษไข้ แถมไอจนตัวงอ

เธอเห็นไฟในห้องรับแขกเปิด เลิกคิ้วที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญ

“คะ คุณมาทำไม?”

พิจิตราไม่ค่อยชอบใจนัก ที่อีกฝ่ายเข้าห้องตนตามอำเภอใจ ไม่ต่างจากเป็นห้องตัวเอง เหมือนโดนบุกรุกความเป็นส่วนตัว

เกิดโผล่มาตอนฉันนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัว ก็แย่สิ...เฮ้ย! คิดบ้าอะไรเนี่ย

เธอหน้าแดงก่ำ เมื่อจินตนาการฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย

ทว่าเมทินีไม่สนใจคำถามนั้น

“พี่ว่าน้องจิตหยุดงานดีกว่านะคะ สภาพนี้ไม่น่าสอนไหว” หล่อนเอ่ยแนะนำเสียงเรียบ

“แต่ฉันมีสอน” อาจารย์สาวค้านเสียงแหบแห้ง ก่อนไอออกมาอีกชุดใหญ่

ไอขนาดนี้ เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย?

แม่ลูกสองยกมือแตะหน้าผากมนเพื่อวัดอุณหภูมิ แบบถือวิสาสะ

“ตัวรุมๆ อยู่เลย เมื่อคืนทานยาแก้ไข้รึเปล่าคะ?”

“ทานตอนเที่ยงคืนน่ะ”

เธอลุกมาทานยา หลังรู้สึกเป็นไข้ตอนกลางดึก แล้วก็หลับยาวไปจนนาฬิกาปลุก

สาวสวยคว้าแขนพิจิตรานั่งที่โซฟายาว แล้วนั่งข้างๆ

“ยืนยังจะไม่ค่อยตรง เสียงก็แหบ จะไปสอนได้อย่างไรคะ ไปก็แพร่เชื้อให้ลูกศิษย์มากกว่า พี่ว่านอนพักอยู่บ้านเถอะค่ะ”

“แต่-” อาจารย์สาวเป็นห่วงงาน เพราะเกรงจะสอนไม่ทันห้องอื่น

“ไม่มีแต่ค่ะ ล้างหน้าแปรงฟัน ทานโจ๊ก ทานยาเสร็จก็พักผ่อนนะคะ” คนอายุมากกว่ารวบรัด

ยุ่งอะไรด้วย

พิจิตรานั่งกอดอก เหมือนประท้วงเงียบ ไม่ชอบที่อีกฝ่ายทำกับตนเหมือนเป็นเด็กๆ

ดื้อเหมือนกันนะเนี่ย

หล่อนเดาความคิดอีกคน หลังเห็นภาษากายปฎิเสธชัดเจน จึงใช้วิธีใหม่

“พี่เป็นห่วงน้องจิตนะคะ แม้งานสอนจะสำคัญ แต่สุขภาพน้องจิตต้องมาก่อนค่ะ ถ้าน้องจิตอาการดีขึ้น พี่จะไม่ห้ามแน่นอน” เมทินีใช้เสียงอ่อนหวานนุ่มนวลชวนฟังกว่าเดิม เลื่อนมือมาแตะแขนของอีกฝ่ายเบาๆ “เชื่อพี่นะคะคนเก่ง”

อย่าใช้นะคะแบบนี้สิ...ง่า

อาจารย์สาวบ่นในใจ เริ่มใจอ่อนตั้งแต่คำว่า ‘เป็นห่วง’ ไม่เลยที่จะเชื่อหรือหวั่นไหวกับใครง่ายๆ แบบนี้ มีแค่คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท

...หล่อนเข้ามามีอิทธิพลกับหัวใจของตนมากกว่าที่คาด

“กะ ก็ได้” ร่างสูงยอมทำตามคำขอของอีกฝ่ายในที่สุด หลังสบสายตาคู่สวยที่ไม่มีอะไรแอบแฝง นอกจากเจตนาบริสุทธิ์ใจ ก้มต่ำลงมองมือเรียวที่แตะต้องแขนของตนอยู่

เป็นพวกแพ้คนอ่อนหวาน ต่อไปคงต้องใช้ไม้อ่อนเยอะๆ

สาวสวยคลี่ยิ้มหวานออกมาอย่างพึงพอใจ

“ดีค่ะ เดี๋ยวพี่ยกโจ๊กมาให้ทานนะคะ”

“อืม...” คนป่วยผงกหัวอย่างว่าง่าย

อาจารย์สาวมองตามแผ่นหลังคนสวย ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ไม่เคยที่จะมีใครใส่ใจตนตอนป่วยแบบนี้มาก่อน นอกจากแม่กับป้านิ่ม ก้อนเนื้อในอกซ้ายรู้สึกพองฟู มีรอยยิ้มประดับหน้าโดยไม่รู้ตัว

...เป็นความรู้สึกที่ไม่คุ้นชิน แต่ไม่ได้ไม่ชอบ

 

“น้าจิตไม่มาทานข้าวกับเราเหรอคะ?” มณีวรรณถามขึ้น หลังไม่เห็นพิจิตรามาร่วมโต๊ะเหมือนทุกวัน มีแค่ตนกับพี่สาวในชุดเครื่องแบบ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการมีอาจารย์เป็นสมาชิกอีกคนในบ้าน

“น้าจิตเป็นหวัดค่ะลูก คงต้องให้ทานข้าวคนเดียวสักสองสามวัน” คนเป็นแม่ตอบโดยใช้ภาษาง่ายๆ ที่ลูกสาวตัวน้อยเข้าใจได้ “เดี๋ยวแม่เอาโจ๊กไปให้น้าจิตก่อน วันทานข้าวไปก่อนนะคะ”

“อ๋อ ค่ะ” เด็กน้อยพยักหน้าอย่างว่าง่าย

“เก่งมากลูก” คนเป็นแม่ยกมือลูบหัวมณีวรรณอย่างเอ็นดู เด็กประถมยิ้มหวาน

“รินเติมข้าวอีกหน่อย แค่นั้นน้อยไปนะลูก” หล่อนหันไปเตือนลูกสาวคนโตที่เริ่มรักสวยรักงาม ลดความอ้วนทั้งที่ไม่ได้อ้วนสักนิด

วัยกำลังโตมาควบคุมอาหารทำไมเนี่ย

“แค่นี้พอแล้วค่ะ” มธุรินรีบค้าน กลัวน้ำหนักขึ้น

“ตามใจ อย่าปล่อยให้ท้องหิวล่ะ” แม่เตือนอย่างเป็นห่วง ไม่คิดจะเซ้าซี้ แต่ใช้ไม้อ่อนตะล่อมให้ทานอาหารและดื่มนมสดแทน

“รับทราบค่า...” ลูกสาวคนโตรับคำเสียงยานคาง

“ทานไปนะ เดี๋ยวแม่มา”

เมทินีรู้ดีว่า ภายนอกอีกฝ่ายดูเรียบร้อย แท้จริงมีนิสัยเป็นกบฏเล็กๆ ซ่อนในตัว

...ก็อปปี้หล่อนไปชัดๆ

จะเหมือนแม่เกินไปนะลูก

สาวสวยได้แต่ยิ้มอ่อน ยกถาดใส่โจ๊กกับแก้วน้ำส้มไปให้คนป่วยที่พักอยู่อีกห้อง แล้วนั่งชวนคุยไปเรื่อยๆ จนพิจิตราทานเสร็จ พร้อมให้ทานยา

“คุณไม่ไปทำงานเหรอคะ?” เธอถาม หลังเห็นร่างบางยังแต่งตัวในชุดอยู่บ้าน มีเสื้อคลุมสีขาวสวมทับ

“แค่ไปส่งลูกค่ะ วันนี้พี่อยากลาหยุด พี่จะเฝ้าไข้คนสำคัญ” หล่อนตอบยิ้ม สายตาจับจ้องอาจารย์สาวหวานเชื่อม ชวนให้คนถูกมองใจสั่นไหว

พะ พูดเรื่องอะไร?

ใบหน้าของพิจิตราขึ้นสีแดงเรื่อ นั่งกอดอกเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย

“ยะ อย่ามาล้อเล่นแบบนี้น่ะ”

น่ารักจริงๆ

เมทินีหัวเราะคิกคักกับปฎิกิริยาของคนป่วย

“แปลกคน พี่พูดจริงก็หาว่าล้อเล่น พี่จริงจังนะคะ...เรื่องของเรา” แม่ลูกสองเน้นประโยคท้าย แล้วตัดสินใจเด็ดขาดที่จะไปต่อให้สุดซอย “พี่ชอบน้องจิตมากๆ ถ้าไม่รังเกียจ เรามาคบกันดีไหมคะ?” สาวสวยนอนคิดเรื่องนี้มาหลายคืนแล้ว

หา!

พิจิตรายังไม่เข้าใจ จึงพูดทวนคำ จ้องหน้าสวยเขม็งเหมือนจะเอาความจริงให้ได้

“คบ?”

“พี่หมายถึง เรามาเป็นคนรักกันน่ะค่ะ”

หล่อนรู้จักเธอมาระยะหนึ่ง จนรู้อุปนิสัยว่า หากไม่แสดงออกให้ชัดเจน พิจิตราอาจจะเข้าใจผิดไปว่า ตนไม่จริงใจหรือหลอกลวงได้ จึงเลือกใช้กลยุทธ์ตรงไปตรงมา และเปิดเผยที่สุด

ชวนกันดื้อๆ เนี่ยนะ

คนฟังอ้าปากค้างกับคำเชิญชวนนั้น หลายวินาทีสติกลับเข้าร่าง จึงมีคำพูดหลุดออกไป

“คุณแคยแต่งงาน มีลูก และทำไมถึงมาชอบฉันได้?”

พิจิตราคิดตามตรรกะที่ว่า ‘ถ้าแต่งงานคือชอบเพศตรงข้าม ไม่น่าที่จะมารักกับเพศเดียวกันได้’

...ซึ่งความจริงอาจไม่ใช่แบบนั้นทุกคน

ตอบยังไงดี?

“คือพี่ถูกชะตาน้องจิตตั้งแต่เจอครั้งแรก ยิ่งรู้จักก็ยิ่งชอบนิสัยค่ะ น้องจิตใจดีอ่อนโยน เข้มแข็ง พึ่งพาได้ และที่สำคัญคือเข้ากับลูกๆ ของพี่ได้เป็นอย่างดี” หล่อนเฉลย พร้อมขยับตัวไปใกล้สาวร่างสูง จนไหล่ของเราแตะกันเบาๆ “พี่ไม่แน่ใจความรู้สึกตัวเอง จนกระทั่งวันก่อน”

“วันก่อน?”

“พี่ไม่ชอบเวลาน้องจิตสนิทสนมกับคนอื่น...มากกว่าพี่” ประโยคหลังพูดเน้นกว่าปกติ

“หืม?” คนฟังทำหน้าสับสน ก้มลงมองมือเรียวที่สอดประสานกับมือของตนเองได้อย่างพอดิบพอดี รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ชักมือหนี

มือนุ่มจัง

“พี่อยากเป็นคนสำคัญ อยากเป็นคนพิเศษของน้องจิตค่ะ” สาวสวยกระซิบเสียงอ่อนหวานไม่ไกลจากใบหูเธอนัก “พี่ให้เวลาคิด แต่อย่านานนะคะ” พูดจบประโยค เมทินีหอมแก้มนุ่มหนึ่งฟอดเบาๆ อดใจไม่ไหวที่จะแต๊ะอั๋งเล็กๆ น้อยๆ

ง่า!

“คุณ! ทำไมชอบฉวยโอกาสตลอด” พิจิตราต่อว่า ใบหน้าแดงก่ำ ตัวร้อนขึ้นไม่รู้ว่า เพราะพิษไข้หรือเขินอาย?

น่ารักมากค่ะ รู้ตัวรึเปล่า

แม่ลูกสองเผยรอยยิ้มเอ็นดู ไม่ยี่หระกับคำต่อว่านั้น

“พักผ่อนนะคะคนดี พี่ไปส่งลูกก่อน แล้วจะรีบกลับมา”

“อืม” พิจิตราผงกหัว มองอีกคนออกจากห้องไป แล้วมองถ้วยข้าวต้มไม่นึกเลยว่า อีกฝ่ายจะมาคอยบริการตนอย่างดีขนาดนี้ เล่าไปก็คงไม่มีใครเชื่อ

เรื่องคุณเมขอคบกับฉัน ฉันควรจะตอบรับ หรือปฎิเสธดี? ...ยากชะมัด!

เธอคิดหนักขณะทานข้าวต้ม หลังทานเสร็จก็เอนหลังนอนยาวที่โซฟา กอดหมอนอิง ตามองเพดานสีขาวที่มีแชนเดอร์เลียห้อยอยู่ ก่อนผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้

 

เวลาหลับนี่น่าเอ็นดูเหมือนเด็กๆ ไม่มีมาดอาจารย์เหลือเลย

เมทินีส่ายหน้า หลังกลับมาจากส่งลูกสาว แวะซื้ออาหารกลางวันมาทานกับพิจิตรา โดยไม่ลืมเผื่อนิตากับแม่ด้วย แวะมาดูคนป่วยที่นอนหมดสภาพอยู่บนเก้าอี้นวมยาว ทั้งที่เมื่อสักพักยังทำปากแข็งจะไปสอนให้ได้

หล่อนค่อยๆ ขยับหัวอีกคนให้นอนหนุนตักตน แล้วเฝ้ามองสาวหน้าคมที่หลับสนิทไม่รู้เรื่อง ใช้นิ้วเกลี่ยผมที่บังหน้าผากออกทัดหูอย่างเบามือ ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้

สาวสวยรู้สึกว่า ตนคิดถูกอย่างมาก ที่ให้พิจิตราเช่าห้องนี้ ไม่ใช่เรื่องเงิน เพราะหล่อนมีเหลือเฟือ แต่การอยู่ใกล้กันช่วยย่นระยะห่างของเราลงได้มาก และเติมความสุขให้เกินคาด

...ได้เห็นหน้าคมเกือบทุกวัน

...ได้กินข้าวด้วยกันบ่อยๆ

...ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ฉวยโอกาสหอมแก้มบ้าง ทำเนียนจับมือบ้าง เมทินีรู้สึกเหมือนตนจะเป็น ‘เฒ่าหัวงู’ ล่อลวงสาวเข้าไปทุกขณะ แต่เพื่อพิชิตใจพิจิตรา มากกว่านี้หล่อนก็ทำได้

...และสุดท้ายคือ ได้มีโอกาสศึกษานิสัยใจคอของอีกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าสำคัญที่สุด หล่อนไม่อยากมองผิด หรือเลือกไว้ใจคนผิดอีกแล้ว อยากให้พิจิตราคือคนรักคนสุดท้าย

หวังว่าน้องจิตคงไม่ทำให้พี่ผิดหวังนะคะ

ภายนอกเมทินีดูเป็นผู้หญิงเหล็ก เป็นนักธุรกิจพันล้านที่ประสบความสำเร็จสูงมาก แต่หล่อนก็เป็นผู้หญิง และหัวใจก็เป็นแค่ก้อนเนื้อ

ลึกๆ แล้วสาวสวยอยากโชคดีเจอคู่แท้ ที่จะใช้ชีวิตไปด้วยกันจนวินาทีสุดท้าย หลังเจ็บใจและเงียบเหงามานานหลายปี

...ไม่คิดเลยว่า โชคชะตาจะเล่นตลก เหวี่ยงพิจิตรามาตรงหน้า

ตอนแรกหล่อนก็สับสน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า จะเป็นไปได้หรือ ที่ตนจะมีความรักอีกครั้ง แถมคนรักยังเป็นผู้หญิงด้วย แต่ไม่อยากพลาดโอกาสที่อยู่ตรงหน้า ประกอบกับได้แรงเชียร์จากนิตา จึงตัดสินใจไปต่อ อยากให้โอกาสตัวเองอีกสักครั้ง

‘อย่าโทษโชคชะตา หากเราไม่กล้าลงมือทำ’ นักเขียนนิรนามได้กล่าวไว้

เมทินีคิดฟุ้งซ่านไปไกล ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อย หลังพิจิตราขยับตัว ทำท่าเหมือนจะตื่น

“คะ คุณ...” อาจารย์สาวเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังลืมตาเห็นหล่อนก้มมองตนอยู่ ใบหน้าเราห่างกันแค่คืบ หน้าคมก็ร้อนผ่าวขึ้น

หล่อนโน้มหน้าไปจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ แล้วถามขึ้น

“จะเที่ยงแล้ว หิวหรือยังคะ?”

คะ คุณจูบฉันอีกแล้ว!

พิจิตราอึ้งกับภาษากายของอีกฝ่าย ที่สนิทชิดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ รับรู้ว่า หัวใจเต้นกระหน่ำกระแทกซี่โครง ไม่มีความรู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย แค่ไม่ชินกับความใกล้ชิดแบบนี้ ที่ผ่านมามีเพียงแม่ที่เอาใจใส่ตน

“อืม...” เธอขานรับเสียงต่ำในคอ ไม่กล้าสบตาคู่สวยหวานที่มองจ้องมา

หน้าแดงเชียว...ขี้อายแบบนี้ น่าแกล้งจริงๆ

สาวสวยคลี่ยิ้มสวย หลังไม่เห็นปฏิกิริยาเชิงลบของเธอ นึกอยากรุกต่ออีกนิด แต่อดใจไว้ กลัวอาจารย์สาวตื่นตระหนกเผ่นหนีไปก่อน

“พี่ซื้อบะหมี่เกี๊ยวเจ้าอร่อยมาฝากด้วย ทานเลยดีไหมคะ?” เสนอเสียงไพเราะชวนฟัง

“กะ ก็ได้ค่ะ”

ตลอดทั้งวัน เมทินีคอยดูแลพิจิตราอย่างใกล้ชิด หลังทานอาหารก็ให้ทานยา และนั่งดูโทรทัศน์ด้วยกัน เป็นหนังดังที่อาจารย์สาวอยากดู ที่เคเบิลเพิ่งเอามาฉาย

ผ่านไปไม่กี่นาที หล่อนเอียงหน้าไปมองคนไข้ ก็อมยิ้มเอ็นดู ที่อีกคนหลับผล็อยไปแล้ว เข้าใจว่าหลับไปเพราะฤทธิ์ยาแก้ไข้

ชวนดูหนัง แต่หนีพี่ไปเฉยเลย...น่ารักมาก

สาวสวยยิ้มกับตัวเอง เหม่อมองเธออยู่พักใหญ่ พอรู้สึกแสบตาจึงเอนหลัง ตั้งใจจะพักสายตาสักครู่ แล้วกลับไปนั่งทำงานที่ห้องต่อ แต่แล้วจากนอนเล่น กลายเป็นเข้าภวังค์นิทราไปอีกคน

“ถ้าน้องจิตอยากจูบพี่ บอกกันตรงๆ ก็ได้ค่ะ อยากได้สักกี่ทีคะ?” หล่อนแกล้งแหย่ หลังปรือตาขึ้นมา เห็นใบหน้าคมอยู่ไม่ไกลจากใบหน้าของตน แววตาคู่คมจับจ้องเรียวปากของตนเขม็ง

โธ่เอ๊ย! อยากจูบพี่ก็ไม่บอก

พิจิตราที่กำลังชื่นชมใบหน้าสวยหวานเพลินสะดุ้ง รีบหลบตา

“เอ่อ...ขอโทษค่ะ”

ลืมตาปุ๊บ ก็แกล้งฉันปั๊บ...ขี้แกล้งจริงๆ แม่คุณ

คิดบ่นในใจ เธอเพิ่งตื่นแล้วเห็นหล่อนหลับอยู่ จึงขยับมาชื่นชมอีกฝ่ายใกล้ๆ ทุกองค์ประกอบบนโครงหน้าจัดวางได้อย่างเหมาะเจาะ ทำให้เมทินีดูสวยหวาน สง่างาม มีเสน่ห์ชวนผู้คนหลงใหล แม้อายุอานามจะผ่านมา 40 ฝนแล้วก็ตาม

“ฉะ ฉันไม่ได้อยากทำแบบนั้นสักหน่อย คุณนี่ขี้แกล้งจริง” เธอบ่นกระปอดกระแปด พร้อมขยับตัวจะถอยห่าง รู้สึกไม่ปลอดภัยนักเวลาอยู่ใกล้กัน

ทว่าสาวสวยไม่ยอมพลาดโอกาส คว้าเอวของคนตรงหน้า แล้วดึงอีกคนมานั่งบนตักของตน สอดแขนรั้งลำคอเธอให้ก้มต่ำลง

“คุณ! จะทำอะไรน่ะ” พิจิตราโวยวายออกมา

หล่อนคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ประทับจูบที่หน้าผากมนเบาๆ แทนคำตอบ แล้วผละออกซบหน้าที่ซอกคอเธอแทน

“วันนี้แค่หอมมัดจำ ไว้น้องจิตหายหวัด พี่จะจูบค่ะ หลายๆ ทีก็ได้ พี่สัญญา”

เดี๋ยวหอมเดี๋ยวจูบ รู้สึกเปลืองตัวจริงๆ ...ให้ตายสิ!

“ไม่นึกว่าคุณ จะเป็นพวกชอบลวนลามคนอื่น” เธอต่อว่าแบบไม่จริงจัง ชอบกลิ่นน้ำหอมที่อีกคนใช้ ยิ่งทำให้เมทินีมีเสน่ห์ดึงดูดมากขึ้นไปอีก

ใจจริงพิจิตราเหมือนจะชมชอบไปเสียทุกอย่าง...ที่เป็นหล่อน

สาวหน้าคมรู้สึกแปลกๆ ในช่องท้อง ที่อยู่ใกล้ชิดกับเมทินีแบบนี้ เกิดมาก็ไม่ได้คิดอยากนั่งตักใครมาก่อน เพิ่งถึงบางอ้อว่าทำไมสาวๆ ถึงได้ชอบกันนักก็คราวนี้

พิจิตรารู้สึกเหมือนกำลังตกหลุมพรางของหล่อนลึกไปทุกที ยอมตกทั้งที่รู้ และไม่คิดจะปีนหนีจากหลุมด้วยซ้ำ

...ลึกๆ ในใจอยากรู้ว่า เมทินีจะหลอกล่อตนอย่างไรต่อ?

“พี่ไม่ได้ชอบลวนลามทุกคนนะคะ” คนงามถอยหน้าจากซอกคออุ่นๆ ของสาวหน้าคม เงยหน้าขึ้นสบตาคู่สนทนา “พี่แค่อยากได้คนนี้คนเดียวต่างหาก”

อย่าล้อเล่นน่ะ!

อาจารย์สาวหน้าร้อน ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะคิดกับตนแบบนั้นจริงๆ เผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก

“ยะ อยากได้ฉัน?”

“พี่อยากได้น้องจิตทั้งตัว...และหัวใจ” เมทินีบอกความปรารถนาออกไปตรงๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พี่อยากให้เราได้เรียนรู้กันให้มากกว่านี้ พี่จะไม่เร่งรัดอะไร ไม่ทำอะไรเกินเลย จนกว่าน้องจิตจะพร้อมยอมรับพี่ค่ะ”

มะ หมายถึงเรื่องนั้นสินะ...

เธอเดาได้ว่าหล่อนหมายถึงอะไร หน้าคมแดงก่ำหลังคิดฟุ้งซ่านไปถึงภาพโป๊เปลือยที่เคยอ่านจากนิยาย จึงยกมือปิดใบหน้า

“ทะ ทะลึ่ง!”

สาวสวยหัวเราะร่วน หลังเห็นปฏิกิริยาของพิจิตรา เดาได้ว่าเธอไม่ได้รังเกียจตนแบบที่แอบกังวล ไม่ใช่ผู้หญิงรักผู้หญิงทุกคน จะเปิดใจยอมรับเรื่องที่อีกฝ่ายเคยแต่งงานแล้ว

...ยิ่งมีเรือพ่วงถึงสองลำด้วย ยิ่งไม่ง่ายเลย

“ถ้าน้องจิตอยากเรียนเรื่องแบบนั้น พี่สอนให้ได้ค่ะ รับรองว่าน้องจิตจะติดใจ” หล่อนหลิ่วตาให้

อ๊าย! ยังจะพูดอีก

“มะ ไม่ต้องเลย” พิจิตราพยายามปั้นหน้าขึงขัง ทั้งที่ใบหน้าแดงเข้ม แกะมือปลาหมึกออกจากเอว เขยิบนั่งห่างออกไป

“ช่วยไม่ได้ค่ะ น้องจิตน่าแกล้งมากๆ นี่คะ” เมทินีหัวเราะลั่นจนน้ำตาเล็ด รู้สึกคุ้มค่ามากที่ได้เห็นเธอแบบนี้

น่ารักน่าหยอกมากๆ ค่ะ

“น้องจิตอยากให้พี่เช็ดตัวให้ไหมคะ รับรองว่า พี่จะเช็ดให้สะอาดหมดจดทุกซอกทุกจุด” หล่อนพูดยั่ว พร้อมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“มะ ไม่ต้องเลย! คิดเป็นแต่เรื่องลามกหรือไง” พิจิตราต่อว่า หน้าร้อนอีกรอบ ส่งค้อนวงโต “ขี้แกล้งจริงๆ คุณเนี่ย”

เมทินีทำตาหวานเชื่อม ที่ทำหลายคนใจสั่นมาแล้ว

“มีอีกหลายเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ น้องจิตอยากรู้ไหมคะ?”

“ชิส์”

ใครจะเชื่อฉันว่า คุณทะลึ่งลามกมากขนาดนี้...ให้ตายเถอะ!

ตลอดทั้งวัน สาวสวยอยู่กระเซ้าเย้าแหย่ และดูแลคนป่วยอย่างใกล้ชิด ทำให้ความสัมพันธ์ของเราพัฒนาแบบก้าวกระโดด

OoXoO

ตกลงใครอ้อนใครคะ? ใครทายถูกบ้าง อิอิ ความสัมพันธ์สองสาวเริ่มดีขึ้นมากแล้ว ต้องมาดูต่อว่า ตอนต่อไปอะไรจะทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจ

...แต่จะไปต่อหรือถอยหลัง? ขออุ๊บไว้ก่อนนะคะ รอลุ้นตอนหน้าค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกหัวใจ ทุกคอมเม้นท์ ทุกการทวงถาม และขอบคุณที่ติดตาม กำลังใจมาเพียบค่ะ

นาง ^^

OoXoO




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2563
0 comments
Last Update : 24 ตุลาคม 2563 1:17:48 น.
Counter : 621 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com