ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
ตุลาคม 2563
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 ตุลาคม 2563
 
 

Last Promise บทที่ ๑๑ (YURI)

๑๑

 

เฮ้ย!

เธอเบิกตากว้างแตกตื่น ไม่คิดว่าหล่อนจะทำแบบนี้ หากไม่นับอุบัติเหตุวันแรกที่เจอกัน

...นี่เป็นครั้งแรกที่เราจูบกันจริงๆ

แม้อยากจะจุมพิตลึกซึ้งกว่านี้ แต่เมทินีก็อดใจไว้ ผละออกห่างอย่างช้าๆ เผลอเลียปากตัวเอง ติดใจรสชาติของอีกฝ่ายที่มีรสนมสดปนมาด้วย

หวานจริงๆ หวานกว่าครั้งก่อนซะอีก

หล่อนคิดเปรียบเทียบในใจ มือที่ประคองแก้มลูบไล้โครงหน้าคมเบาๆ อย่างหวงแหน

“คะ คุณ...” พิจิตราเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำแรก หลังสติกลับเข้าสู่ร่าง ขยับใบหน้าออกห่างจากมือเรียว สมองยังคงประมวลผลไม่ทัน ยกมือแตะปากตัวเอง จ้องหน้าสวยเขม็งเหมือนเป็นคนแปลกหน้า

จูบฉันทำไม?

เมทินีชะงักไปเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเธอ จึงลดมือลงข้างตัว

“ไม่ชอบเหรอคะ?”

“ทะ ทำแบบนี้ทำไม?” อาจารย์สาวที่ยังไม่หายตื่นตระหนกถามเสียงแผ่ว ขมวดคิ้วเรียวเป็นปม

...เพื่อนที่ไหนจูบกันบ้าง ยกเว้นเป็นเพื่อนนอน

“พี่อยากให้รู้ค่ะ ว่าพี่ชอบน้องจิต”

“ชอบ?” อาจารย์สาวมึนงงกับคำสารภาพของสาวสวย ทว่าหัวใจกับพองฟูเต้นกระหน่ำยิ่งกว่าตีกลองศึก

คุณชอบฉัน...เป็นไปได้เหรอ?

ความคลางแคลงใจทำให้เกิดคำถามตามมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหล่อนเคยแต่งงานถึงสองครั้ง และมีลูกสาวน่ารักถึงสองคน จู่ๆ มาบอกชอบตน ทั้งที่รู้จักกันไม่ถึงเดือน

...จะให้เชื่อได้อย่างไร

“พี่ชอบน้องจิต พี่พูดจริงๆ นะคะ” คนอายุมากกว่าเอ่ยย้ำหนักแน่น “น้องจิตรังเกียจพี่เหรอคะ?”

ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น

พิจิตราคิดในใจ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไร ใบหน้าคมแดงร้อน หลังโดนอีกฝ่ายรุกเร็ว จนตั้งตัวไม่ทัน

เกิดมาเพิ่งเคยมีผู้หญิงมาสารภาพรัก ทำเอาร่างสูงไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว

เธอขยับปาก แต่กลายเป็นแผ่นเสียงตกร่องแทน

“เอ่อ ฉัน ฉัน...คือว่า...”

ติดอ่างไปซะแล้ว

คนสวยถอนใจ ยกนิ้วชี้แตะที่เรียวปากของสาวหน้าคมเบาๆ กึ่งลูบไล้ ใจจริงนึกอยากจะจูบเรียกสติพิจิตราอีกสักหลายครั้ง แต่เกรงว่าอีกคนจะขวัญกระเจิงหนีไปเสียก่อน จึงยับยั้งใจไว้

“ไม่ต้องรีบให้คำตอบตอนนี้ก็ได้ค่ะ พี่แค่อยากให้น้องจิตรู้ว่า พี่คิดแบบไหน...เผื่อว่าจะคิดเหมือนกัน”

หล่อนไม่คิดจะคาดคั้น หรือกดดันให้เธอตอบตอนนี้ แม้จะโดนปฏิเสธก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

‘โลกที่ไร้ความรักอาจไม่ตาย แค่หัวใจเหงาหงอยไปบ้าง’ คนสวยรู้เรื่องนี้ดี เพราะเคยได้รับบทเรียนมาแล้ว

...แต่หัวใจยังไม่เข็ดหลาบ

หลังทำความรู้จักกับพิจิตรา เมทินีรู้ว่า อีกฝ่ายเป็นพวกนักคิดที่ไตร่ตรองทุกความเป็นไปได้ บางครั้งกลายเป็นละเอียดรอบคอบเกิน ไม่ชอบความเสี่ยงสูง ค่อนไปทางอนุรักษ์นิยม สมกับเป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์

...ซึ่งมีอุปนิสัยแตกต่างกับหล่อน ที่กล้าได้กล้าเสีย ตามประสานักธุรกิจ

ฉันควรจะพูดตอบยังไงดี?

พิจิตราคิดลังเล ขยับตัวลุกพรวดพราด แต่ทรงตัวไม่ค่อยดีนัก ไม่ได้เมาเหล้า...แค่เมาจูบ

“ดะ ดึกแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”

เธออยากกลับห้องไปตั้งหลัก หลังคิดไม่ตกว่า ควรจะตอบอะไรหล่อนถึงจะเหมาะ

“ค่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สาวสวยจะลุกตาม

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ฝันดีค่ะ”

“งั้นก็ได้ ฝันดีค่ะน้องจิต”

เมทินีมองตามแผ่นหลังของอาจารย์สาว ที่เดินออกไปอย่างเร่งรีบ นึกหวั่นใจไม่น้อย กลัวเสียเธอไปจริงๆ

เชื่อมั่นในตัวเองหน่อย...เมทินี

หล่อนได้แต่นึกปลอบใจตัวเอง สมองครุ่นคิดหนัก 108 วิธีที่จะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ข้างกายตน

 

คุณชอบฉัน...จริงเหรอ?

พิจิตรานอนคิดวนไปวนมาอยู่บนโซฟา ในหัวตีกันไปมาระหว่างเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี? ซึ่งมีเหตุผลสนับสนุนทั้งสองฝ่าย ทำให้ยากจะสรุป

ฉันมีอะไรดี คุณเมถึงชอบกัน?

อาจารย์สาวคิดคลางแคลงใจเรื่องนี้ที่สุด มองตนไม่คู่ควรกับสาวสวยที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง หล่อนมีฐานะร่ำรวยมาก แม้อายุจะขึ้นหลัก 4 เป็นม่ายเรือพ่วงถึงสองลำ ก็ไม่ได้ทำให้หล่อนน่าสนใจน้อยลงเลยในสายตาของเธอ

ผู้หญิงอะไรสวยสง่า มีเซ็กซ์แอพพีลที่ดวงตา สบตาทีไรฉันลืมหายใจทุกที

พิจิตราแอบเพ้อถึงเมทินี แต่พอหล่อนบอกชอบตน กลับแตกตื่นลนลานจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่คิดกลุ้มใจจนต้องซุกหน้ากับหมอน แล้วต่อว่าตัวเอง

ให้ตายสิ! ไม่เอาไหนเลยพิจิตรา

เธอนอนถอนใจเฮือก กว่าจะลุกไปอาบน้ำสระผม แล้วเข้านอนก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนเศษ

 

ฮัดเช้ย!

เสียงจามดังขึ้นขณะนั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้า โชคดีที่พิจิตรายกมือป้องปากทัน แต่ทำให้สามแม่ลูกที่นั่งร่วมโต๊ะหันไปมองพร้อมๆ กัน

“คุณจิตเป็นหวัดเหรอคะ?” ป้าแมวถามอย่างเป็นห่วง

“คงงั้นค่ะ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย แถมสระผมด้วย” สาวหน้าคมตอบเสียงอ่อยๆ

“งั้นเดี๋ยวป้าต้มน้ำขิงให้ ดื่มแล้วจะได้โล่งคอโล่งจมูก”

เธอไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่าย

“ขอบคุณค่ะ”

“เป็นไข้หรือเปล่าคะ?” เมทินีถามขึ้นบ้าง หลังอีกคนหลบสายตาตลอดตั้งแต่เช้า ขยับลุกจากเก้าอี้มาหา ถือวิสาสะยกมือทาบหน้าผากของเธอ เพื่อวัดไข้แบบที่ทำกับลูกๆ “ตัวรุมๆ นะคะ”

“ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ” พิจิตรารีบบอก คว้ามืออีกฝ่ายให้พ้นจากใบหน้า หลังเห็นสายตาคนที่เหลือมองมาแบบแปลกๆ

หล่อนเลิกคิ้วอย่างสงสัย ก่อนชักมือกลับ

“แน่ใจนะคะ?”

“ค่ะ”

มธุรินหรี่ตามองการแสดงออกของผู้ใหญ่สองคน ที่สนิทสนมกันเกินอย่างกังขา

สนิทกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

มณีวรรณที่นั่งข้างพิจิตราเอียงหน้ามามอง แล้วพูดไม่ต่างจากที่เคยโดนแม่บอก

“น้าจิตทานยานะคะ จะได้หายเร็วๆ”

มาอีกคนแล้ว

พิจิตราฝืนยิ้ม ไม่ชอบทานยาเป็นที่สุด

“ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก ขอบใจนะวัน”

“ค่ะ” ลูกสาวคนเล็กยิ้มรับ

“ถ้าน้องจิตไม่สบาย พี่จะให้หมอมาฉีดยาดีไหมคะ?”

“ไม่เป็นไรคะ ขอบคุณนะคะ” อาจารย์สาวฝืนยิ้ม

ไม่ชอบหมอสินะ

หล่อนเดาความคิดของเธอได้ จึงไม่พูดต่อ

สาวหน้าคมคิดหาทางหลบเลี่ยง พอทานมื้อเช้าเสร็จก็รีบเผ่นไปทำงานทันที

ถ้าฉันไม่สบายจริง...รับรองฉันไม่บอกคุณแน่

หลังสอนเสร็จในช่วงเย็น ใบหน้าพิจิตราซีด เสียงแหบแห้งเจ็บคอ และตัวรุมๆ

สงสัยจะเป็นหวัดจริงๆ แล้วฉัน...พักสักชั่วโมงดีกว่า

เธอนอนเหยียดยาวบนโซฟา หลังกลับมาที่คอนโดเร็วกว่าทุกวัน รู้สึกอาการไม่ค่อยดี ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนเป็นไข้ ตอนแรกตั้งใจจะแค่พักสายตา แต่แล้วก็ผล็อยหลับสนิทไป

 

คลิก!

เมทินีใช้มาสเตอร์การ์ดเปิดประตูห้องเบอร์ 4 หลังเลยเวลามื้อค่ำไปสิบกว่านาที แล้วพิจิตรายังไม่ปรากฏตัว ซึ่งถือว่าผิดปกติ หล่อนเขียนข้อความไปหาเธอสี่ครั้ง แต่อีกคนยังไม่ได้อ่าน

เป็นอะไรรึเปล่า!

สาวสวยนึกเป็นห่วงอาจารย์สาว หลังเมื่อเช้าเธอดูเหมือนไม่ค่อยสบายนัก จึงบอกให้ลูกๆ ทานข้าวไปก่อน แล้วแวะมาดูที่ห้อง

แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านผ้าม่านหนา เผยให้เห็นร่างสูงนอนนิ่งอยู่บนโซฟา สองแขนกอดหมอนอิงเอาไว้ ทั้งที่อยู่ในชุดทำงาน

เมทินีถอนใจเบาๆ ก่อนทรุดตัวคุกเข่าข้างเจ้าหญิงนิทรา

หลับไม่รู้เรื่อง...ไม่สบายรึเปล่า?

พอคิดแบบนั้น จึงใช้มือปัดผมที่ปรกหน้า สัมผัสหน้าผากมนเพื่อวัดไข้ หล่อนสะดุ้งน้อยๆ ที่ตัวพิจิตราร้อนผ่าว ความห่วงใยพุ่งทะยานแทบทะลุเพดาน

น่าตีจริงเด็กคนนี้

สาวสวยถอนใจ เดินไปอีกห้อง กดโทรตามหมอประจำครอบครัว จากนั้นเดินกลับมาปลุกคนป่วย

“น้องจิตคะ น้องจิต”

“ขออีกห้านาที” พิจิตราพึมพำเสียงงัวเงีย ทั้งที่ยังคงหลับตา

กี่ขวบเนี่ย

เมทินีส่ายหัวกับการแสดงออกของเธอ ที่ดูไม่ต่างจากลูกสาวคนเล็กของตนนัก จึงโน้มหน้าไปกระซิบขู่ข้างใบหู

“ถ้าไม่ลืมตา พี่จูบจริงๆ นะคะ”

จูบ?

นึกทวนคำอย่างงงๆ หลายวินาทีจึงลืมตามองใบหน้าสวย ที่อยู่ห่างจากตนไม่มาก เธอผงะออกห่างทันทีที่เห็นเจ้าของเรียวปากสีสด ซึ่งตามหลอกหลอนมาตลอดทั้งวัน

...วันนี้เธอเผลอคิดถึงเรื่องจูบบ่อยมากๆ นับครั้งไม่ถ้วน

“คุณ” เสียงที่เปล่งออกมาแห้งพร่า สาวหน้าคมขยับตัวจะลุกนั่ง พลันรู้สึกว่าโลกหมุนติ้ว จนต้องทิ้งตัวลงนอนตามเดิม แล้วบ่นอุบอิบ “อา เวียนหัว...”

เชื่อเขาเลย!

แม่ลูกสองโคลงหัวน้อยๆ กึ่งหมั่นไส้ ขยับตัวลุกไปนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน

“ไม่สบายยังทำเก่งอีก บอกให้ทานยาเมื่อเช้าก็ไม่เชื่อ” สาวสวยเอ็ดแบบไม่จริงจัง

“ก็เมื่อเช้า ไม่เป็นอะไรมากนี่” อาจารย์สาวเถียงเสียงอู้อี้

“พี่โทรตามหมอมาแล้วนะคะ ให้หมอตรวจก่อน แล้วค่อยไปทานข้าวเย็น”

เอาจริง!

พิจิตราหน้าซีดหลังได้ยินคำว่า ‘หมอ’

“อย่าดื้อนะคะ ถ้าไม่ยอมฉีดยา พี่ว่าน้องจิตไปสอนไม่ไหวหรอก” หล่อนพูดดักคอกึ่งขู่ มองออกว่าอีกฝ่ายน่าจะกลัวเข็ม

...ไม่ต่างจากลูกสาวของตน

ง่า เผด็จการยิ่งกว่าแม่อีก

บ่นในใจ แต่คิดหาคำโต้เถียงไม่ได้

ไม่นานหมอชายอายุวัยเกือบเกษียณก็มาถึง พร้อมกับนิตา เขาตรวจอาการของพิจิตรา จากนั้นฉีดยาให้หนึ่งเข็ม

โอ๊ย! เจ็บชะมัด

อาจารย์สาวเม้มปากแน่น ไม่กล้ามองเข็มที่กำลังทิ่มในแขนของตน น่าแปลกตรงที่พอสบสายตาเป็นห่วงของหล่อน ความรู้สึกเจ็บก็ลดน้อยลงไป กลายเป็นความประหม่าเขินอายแทน

ตาหวานเกิน มองแบบนี้ ฉันก็เขินเป็นนะคะ

“เป็นหวัดน่ะครับ นี่ยาแก้ไข้ ถ้าสองวันอาการไม่ดีขึ้น ผมแนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล” เขาบอกกับเมทินีในฐานะเจ้าของไข้ “พักผ่อนให้มากหน่อย ดื่มน้ำเยอะๆ น่าจะช่วยให้หายเร็วขึ้นครับ”

“ค่ะ” สาวสวยยกมือไหว้อีกฝ่าย “ขอบคุณค่ะอาหมอ”

“ยินดีครับ” หมอรุ่นใหญ่ยิ้มกว้างอย่างใจดี เขาเป็นหมอที่ดูแลคนของครอบครัวนี้มาหลายสิบปี ด้วยเป็นเพื่อนกับพ่อหล่อน “ผมไปก่อนนะครับ”

“ค่ะ” หล่อนคลี่ยิ้ม แล้วหันไปบอกเลขาสาว “ฝากส่งอาหมอด้วยนะนิตา”

“เชิญค่ะคุณหมอ”

นิตาทำหน้าที่เดินไปส่งหมอถึงรถ ปล่อยให้เจ้านายสาวดูแลคนเจ็บต่อไป

 

เมทินีทานข้าวเย็นพร้อมกับพิจิตรา โดยขอให้ป้าแมวทำกับข้าวอ่อนๆ เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือ ไข่ตุ๋น

ไม่กี่นาทีอาหารหอมๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ

“ทานข้าวก่อนค่ะ จะได้ทานยา” ป้าแมวบอกกับคนไข้

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ร่างสูงยิ้มกับแม่บ้านอาวุโส กลั้นใจตักอาหารเข้าปากไปครึ่งจาน จึงรวบช้อนส้อม “พอแล้วล่ะ”

“ค่ะ” สาวสวยเข้าใจดีว่า คนป่วยมักจะเบื่ออาหารจึงไม่บังคับ แต่ยื่นถุงยาให้อีกฝ่าย “ทานยานะคะ”

แม้จะไม่ชอบ แต่พิจิตราก็ไม่ปฏิเสธ หยิบยามาทานพร้อมดื่มน้ำตามเร็วๆ

“ขอตัวกลับห้องก่อนนะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า อยากพักผ่อนเต็มแก่

“ค่ะ หายเร็วๆ นะคะน้องจิต” หล่อนอวยพร

“จะพยายามค่ะ” พิจิตราฝืนยิ้ม หันไปคุยกับแม่บ้าน “ขอบคุณนะคะป้าแมว”

“พรุ่งนี้เช้าป้าจะทำโจ๊กให้นะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

สภาพแบบนี้จะไปทำงานไหวเหรอ?

เมทินีมองตามหลังอาจารย์สาวที่ลุกเดินโซเซออกไป แล้วอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ แต่เชื่อในความดื้อรั้นของเธอ ที่คงไม่ยอมฟังคำพูดของตนแน่

...คิดหาวิธีรับมือกับเด็กดื้อตัวโต

ท่าทางเป็นห่วงกว่าที่คิดนะเนี่ย

นิตาซ่อนยิ้มในหน้า หลังสังเกตเห็นอาการของเจ้านาย หันไปสบตากับมารดา ที่ดูจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทำเป็นรูปหัวใจ

หัวใจ?

ป้าแมวกระพริบตาถี่คิด จากนั้นอ้าปากค้าง รีบยกมือป้องปากตัวเอง ไม่ให้หลุดอุทานออกมา

คุณพระ!

แม่บ้านอาวุโสไม่คาดว่า เจ้านายคนสวยจะมีความรักครั้งใหม่ได้ หลังผิดหวังและเสียใจมากมายกับสามีคนที่สอง ซึ่งทำเป็นดีต่อหน้า ช่างเอาอกเอาใจสุดๆ ทว่าลับหลังเขาแอบมีสาวๆ หลายคน

อันที่จริง เมทินีรู้ระแคะระคายเรื่องสามีมีชู้มาพักหนึ่งแล้ว แต่กว่าจะทำใจยอมรับได้ใช้เวลาร่วมเดือน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสงสารลูกคนเล็ก...มณีวรรณที่อายุไม่กี่ขวบ กำลังน่ารักน่าชังทีเดียว

“ถ้ามีผัวไม่ดี สู้ไม่มีซะยังจะดีกว่า หน้าตามันกินไม่ได้หรอกนะ เม อยู่แบบไม่มีความสุข ก็หย่าๆ ไปเถอะ...หลานสองคน พ่อกับแม่ช่วยเลี้ยงได้นะ” พ่อบอกกับหล่อนแบบนั้น ในยามที่เห็นเมทินีลังเลใจว่า จะหย่าหรือไม่หย่าดี

พ่อแม่ไม่อยากเห็นลูกสาวต้องทุกข์ทรมานใจ หากฆ่าคนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เขาคงลากปืนไปส่องหัววรยุทธ์ไปแล้ว นึกแค้นแทนลูกสาวสุดๆ

หลังได้ยินบิดามารดาเห็นพ้องด้วย หล่อนจึงฟ้องหย่ากับสามีคนที่สอง ผลลัพธ์คือ วรยุทธ์แทบสิ้นเนื้อประดาตัวเลยทีเดียว

ตั้งแต่นั้นมา ป้าแมวก็ไม่เคยเห็นหล่อนสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อีกเลย ทั้งที่มีหนุ่มน้อยใหญ่มาจีบไม่ขาดสาย สาวสวยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับบริษัทใหม่ ‘ควีนจิวเวอรี่’ และลูกๆ

ตอนแรกที่แม่นิตารู้ว่า หล่อนแบ่งห้องเบอร์ 4 ให้พิจิตราเช่า ก็เข้าใจไปว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน ใครจะไปคิดว่าเมทินีจะมีใจชอบพออีกฝ่ายในเชิงชู้สาว

พระอาทิตย์จะขึ้นทิศตะวันตกรึเปล่าเนี่ย...

แม่บ้านอาวุโสยกมือเกาศีรษะ ไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ที่หญิงรักหญิงสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้จิตใจคับแคบ หรือคิดรังเกียจอะไร

หวังว่าคุณจิตจะเป็นคนดี และรักคุณเมกับลูกๆ ฉันไม่อยากเห็นคุณเมต้องผิดหวังอีก

นิตามองมารดาที่ทำหน้าหลากหลายอารมณ์ ก็นึกขำ แต่เชื่อว่าสุดท้ายแม่ต้องเข้าข้างเมทินีอยู่ดี ไม่มีเรื่องไหนที่ป้าแมวจะขัดใจหล่อน ตามใจเอาใจยิ่งกว่าลูกในไส้แบบตนเสียอีก

แต่เธอไม่อิจฉาเจ้านายสาวแม้สักนิด เพราะหล่อนเป็นคนดีมาก จึงทำใจไม่ชอบอีกฝ่ายไม่ได้ ทั้งรักและเคารพหมดหัวใจ

คุณเมจะจีบอาจารย์จิตอย่างไรต่อนะ...น่าลุ้นชะมัด

OoXoO

พี่เมสารภาพแล้ว แต่น้องจิตยังมึนๆ ค่ะ คู่นี้ไม่รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม แต่รับรองความร้อนแรงนะคะ อิอิ

ไรท์ยังเขียนไม่จบ ใจเย็นๆ นิดนึง ช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะ ตาลายมาก แหะแหะ...แต่กำหนดเสร็จภายในปีนี้ค่ะ รอกันอีกนิดนะคะ ^^

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ ทุกหัวใจ และทุกการทวงถามค่ะ

พบกันตอนหน้านะคะ

นาง ^^

OoXoO




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2563
0 comments
Last Update : 16 ตุลาคม 2563 17:06:55 น.
Counter : 1273 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com