Million Reasons บทที่ ๑๘ (Yuri)
๑๘ เป็นอันว่าอาทิตย์หน้ามินขอนัดประชุมอีกครั้ง หลังเราได้แบบเสื้อชุดใหม่จากปิ่นแล้ว ขอบคุณทุกคนมากนะคะมินตราปิดการประชุม หลังได้ผลสรุปว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด ทุกคนดูผ่อนคลายกว่าตอนแรกอย่างน้อยก็เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ตุ้มจะไปเตรียมแผนการตลาดใหม่ตามที่คุณน้ำบอกขอตัวก่อนนะคะ หัวหน้าแผนกการตลาดพูดขึ้นคนแรก ค้อมหัวน้อยๆ แล้วลุกออกจากห้องประชุมไป ตาลก็ขอตัวเหมือนกันค่ะผู้ช่วยสาวเอ่ยขึ้นเป็นคนที่สอง แล้วออกตามไปอีกคน เด็กหนอเด็ก เล่นรอจนหลับไปเลยน้อยพูดขึ้นอย่างเอ็นดู หลังเห็นชามานอนกอดตุ๊กตาเหยียดยาวที่โซฟาหลังห้อง แย่จริง! สาวเท่รู้สึกผิดจับใจที่ทำให้เด็กน้อยต้องมาพลอยลำบากไปด้วย จึงหันไปพูดกับแม่เด็กเสียงอ่อยๆ มินขอโทษที่รบกวนคุณน้ำและทำให้ชามาต้องลำบาก แทนที่จะได้นอนหลับสบายๆ อยู่ที่ร้าน คิดมากอีกแล้ว หล่อนส่ายหน้าคลี่ยิ้มสวยออกมา ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่มินสำหรับชามาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เด็กคนนี้เลี้ยงง่าย อิ่มแล้วเล่น ง่วงก็หลับสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ตื่นค่ะ สาวเพรียวสบายใจขึ้นหลังได้ยินแบบนั้น งั้นเหรอคะ มิน ฉันกลับก่อนนะจะรีบออกแบบชุดใหม่ตามที่น้ำบอกให้เร็วที่สุด ปิ่นสุดาพูดแทรกขึ้นหลังเก็บสมุดบันทึกและเอกสารเสร็จ ตั้งใจจะลุยงานนี้ให้ออกมาอย่างสุดฝีมือ ฝากด้วยนะปิ่นขอบคุณล่วงหน้า ฉันต่างหากที่ควรขอบคุณที่ให้โอกาสฉันกับบริษัท เพื่อนสนิทพูดอย่างซาบซึ้ง หากเป็นคนอื่นคงมองหน้ากันไม่ติดนอกจากฉีกสัญญาจ้าง อาจมีคดีความตามมาอีก คิดมากไปหรือเปล่าแกกับฉันเป็นเพื่อนกันมาเกินสิบปี ฉันรู้จักนิสัยแกดีนะปิ่นว่าเป็นคนแบบไหน ฉันรักแกจริงๆว่ะมิน ปิ่นสุดาเอ่ยซึ้งๆ ออกมาแบบที่ไม่ได้ยินบ่อยนัก ก่อนก้าวไปสวมกอดเพื่อนรักเอาไว้ มินตรายกมือกอดตอบแล้วตบหลังเพื่อนเบาๆ ฉันก็รักแกเหมือนกัน ไม่กี่วินาทีทั้งสองผละออกห่างจากกัน เป็นเพื่อนที่รักกันจริงๆ ชาลิสาอดที่จะยิ้มกับภาพประทับใจตรงหน้าไม่ได้กับความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาของสองสาว ซึ่งหาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบัน ...สำหรับบางคนชั่วชีวิตอาจหาเพื่อนแท้ไม่ได้แม้แต่คนเดียว ขอบคุณนะน้ำ ที่ช่วยคิดแผนดีๆให้พี่กับเพื่อนคราวนี้ ถ้าไม่ได้น้ำ พวกเราคงนั่งมึนทำอะไรไม่ถูกแน่ ปิ่นสุดาหันมากล่าวกับสาวหวานอย่างสำนึกบุญคุณ ยินดีค่ะพี่ปิ่นหล่อนพูดยิ้มๆ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องหนักหนาอะไร เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะนักออกแบบสาวเอ่ยลา แล้วออกไป แล้วแบบนี้ ต้องติดต่อนางแบบถ่ายโฆษณาใหม่ไหมคะ?น้อย ถามมินตรา เอาไว้ก่อนค่ะอีกคนบอกปัด ยังไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้ เอ่อ ค่ะ สาวเพรียวมองเวลาใกล้สี่โมงเย็น วันนี้มีอะไรอีกไหมคะ? งานด่วนไม่มีค่ะมีแค่สรุปรายรับรายจ่ายวางอยู่บนโต๊ะ เลขาฯ สาวรายงาน แล้วก็คุณนุ่นโทรมาขอนัดทานข้าวค่ะขอให้โทรกลับด้วย อีกแล้วเหรอเฮ้อ! ร่างสูงถอนใจยาวเมื่อได้ยินชื่อนางแบบสาวช่างตื้อคนนั้น แต่ไม่คิดจะใส่ใจ ถ้างั้นมินเอาแฟ้มไปอ่านที่บ้านแล้วกันเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ เธอพูดกับลูกน้องซึ่งพยักหน้า จึงหันมาชวนแม่ลูกหนึ่งขอมินแวะเอาของก่อน แล้วกลับบ้านกันค่ะ ค่ะ ชาลิสารับคำก้าวไปหยิบของเล่นของลูกสาวเก็บใส่กระเป๋า แล้วอุ้มชามาที่หลับใหลขึ้นสู่วงแขน น้อยมองตามแผ่นหลังของทั้งสองเดินออกไปอย่างสนิทสนม ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นมินตรายอมให้คนนอกเข้ามาแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมของบริษัทเลยสักครั้ง ...ทว่าชาลิสาได้อภิสิทธิ์นั้น เลขาฯสาวจึงเดาว่า เจ้านายของตนยอมรับหล่อน มากกว่าหญิงสาวคนอื่นและไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนธรรมดาแน่ เธอสังเกตเห็นสายตาของมินตรายามมองชาลิสา...เป็นแววตาของคนมีความรักเต็มเปี่ยม ท่าทางคุณมินจะชอบคุณน้ำไม่น้อยอยากรู้จริงว่า สองคนนี้จะลงเอยยังไง? สองสาวที่มีคนหนึ่งอุ้มเด็กก้าวเคียงคู่กันออกจากบริษัท โดยมีสายตาหลายคู่มองตามด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งชอบใจและอิจฉาตาร้อน โดยไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนบันทึกภาพเอาไว้ด้วย แชะ! แชะ! แชะ! พี่มินไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอคะ?ชาลิสาโพล่งถามขึ้น ขณะนั่งคู่กับคนขับภายในรถคันงาม สาวหวานอุ้มชามาที่หลับสนิทอยู่ในวงแขนหลังออกจากบริษัทมาได้สักสิบกว่านาที โดยแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักคำต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง สาวสวยบอกไม่ถูกว่าตนเองอยู่ในอารมณ์ไหนตอนก้าวออกจากบริษัทของเธอ ชาลิสายิ้มไม่ออก ตั้งแต่ได้ยินชื่อนุ่นนางแบบสาวของ VK Models หลุดออกมาจากปากน้อย ...ทำไมต้องหงุดหงิด? ...แล้วหงุดหงิดเรื่องอะไร? ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหล่อนก็ยังตอบคำถามนี้ไม่ได้ แต่ความรุ่มร้อนในใจก็ทุเลาลงไปมากแล้ว มินตราหลุดจากห้วงความคิดเอี้ยวคอไปถามคนนั่งข้างๆ เมื่อกี้คุณน้ำว่าอะไรนะคะ? เหม่อคิดถึงใครหรือเปล่า? สาวหวานนึกข้องใจแต่ไม่กล้าถามออกมา ด้วยเป็นเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย น้ำถามว่าพี่มินไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอคะ? แฟน! สาวเท่ทำหน้าสับสนลังเลแล้วยิ้มจืดๆ ออกมา อยากค่ะ แต่มินกลัว คนฟังทำหน้าประหลาดใจกับคำตอบที่ผิดคาดจึงอดที่จะถามต่อไม่ได้ กลัวอะไรคะ? คนถูกถามเม้มริมฝีปากแทบเป็นเส้นตรงก่อนหันมองไปยังถนนข้างหน้า กลัวเจ็บกลัวอกหัก กลัวผิดหวัง อะไรประมาณนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำตอบของเพลย์เกิร์ลชื่อดังหล่อนเอ่ยล้อๆ รู้ด้วยเหรอเนี่ย สาวร่างสูงหัวเราะเบาๆกับสมญานามนั้น ที่ถูกตั้งขึ้นโดยความเข้าใจผิดล้วนๆ แล้วคุณน้ำเชื่อไหมคะว่ามินเป็นเพลย์เกิร์ล? ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันอีกคนตอบตามตรง เธอขมวดคิ้ว อยากรู้เหลือเกินว่าหล่อนคิดอย่างไรกับตน? แล้วตอนนี้ล่ะคะ? ไม่เหมือนค่ะชาลิสาเฉลย ตรงไหนคะที่ไม่เหมือนเพลย์เกิร์ล?มินตราซักต่อ หลังรถยนต์ติดไฟแดง จึงเอียงคอมามองหน้าสวยของอีกฝ่ายชัดๆ หล่อนยกมือเคาะแก้มเนียนของตัวเองเหมือนใช้ความคิด น่าจะทุกตรงมั้งคะ คนฟังหลุดขำออกมา คงมีคุณน้ำเป็นคนแรกที่พูดแบบนี้ พี่มินเป็นคนที่ยิ้มมีเสน่ห์มากนะเนี่ย สาวสวยยิ้มสวยออกมาหลังเห็นอีกคนมีความสุข แต่ความสงสัยก็ก่อกวนความคิดจนเก็บเอาไว้ไม่ไหว จึงหลุดปากถามออกไป เหตุผลที่กลัวมีแฟนเพราะพี่มินเคยอกหักเหรอคะ? ฉึก! เธอสะดุ้ง สลายรอยยิ้มลงกับคำถามแทงใจดำเอียงคอสบตากับคนนั่งข้างๆ จะพูดแบบนั้นก็ได้ค่ะ ใครกันทำแบบนั้นได้? ชาลิสาคันหัวใจอยากรู้เหลือเกินแต่ไม่กล้าจะปริปากถามคำถามที่ล้ำเส้นออกไปตรงๆ ด้วยเกรงว่า จะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวอีกฝ่ายเพราะรู้จักกันไม่นานเท่าไหร่ ...ทว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มีอุปนิสัยที่คล้ายกันคือความอยากรู้อยากเห็น เพียงแต่ว่า ใครจะแสดงได้แนบเนียนกว่ากันเท่านั้น ถ้าพี่มินไม่สะดวกจะเล่าก็ไม่ต้องเล่านะคะ เล่าดีไม่เล่าดี? มินตรานึกลังเลด้วยไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครรู้ นอกจากปิ่นสุดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว เอ่อคือมินเคยชอบใครคนหนึ่ง จะเรียกว่าเป็นรักแรกพบเลยก็ได้ เธอพยายามเรียบเรียงคำพูดให้สละสลวย รักแรกพบ?หล่อนทวนคำ ใครกันที่โชคดีแบบนั้น? ใช่ค่ะ...แต่มินเจอเธอช้าเกินไปร่างสูงเล่าเสียงเศร้าๆ ทุกครั้งที่หวนคิดถึงเรื่องนั้น ยังเสียดายไม่หาย เจออีกฝ่ายครั้งแรกในวันแต่งงานไม่เรียกว่าช้าแล้วเรียกว่าอะไร? ช้า? เธอมีคนอื่นก่อนแล้ว?ชาลิสาเดาออกมาถึงความเป็นไปได้ ค่ะ มินตรารับคำเบาๆ นานหรือยังคะ?ร่างบางตะล่อมถามต่อ น่าจะสี่ปีได้แล้วล่ะ ฝังใจอะไรจะขนาดนั้น สาวสวยถอนใจกับความรักของอีกคนที่ดูจริงจังเกินไปสักหน่อย อีกใจแอบรู้สึกผิดที่ไปขุดคุ้ยอดีตแสนเศร้าที่เจ้าตัวคงไม่อยากเอ่ยถึงนัก ขอโทษค่ะน้ำไม่น่าถามเลย ตอนนี้มินไม่เป็นไรแล้วค่ะร่างสูงตอบเสียงราบเรียบ ทั้งที่จริงยังคงมีความรู้สึกเสียใจอยู่บ้างแต่น้อยลงมากแล้ว เมื่อเทียบกับตอนแรก จริงเหรอ? อีกคนไม่ถึงกับเชื่อสนิทใจนัก จนถึงตอนนี้พี่มินก็ยังไม่คิดเริ่มต้นกับใครเหรอคะ? มินตราเหลือบมองชาลิสาสมองคิดหาคำตอบ พลางขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่อยากทำให้ชามาตกใจตื่น พูดจริงๆมินก็อยากเริ่มต้นใหม่นะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะอกหักอีกรอบหรือเปล่า ตอบทีเล่นทีจริงออกไป แปลว่าตอนนี้เจอคนถูกใจแล้วสินะ ชาลิสานิ่งไปครู่หนึ่งมองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายเขม็ง ก่อนฝืนเอ่ยคำอวยพรออกมา น้ำเชื่อว่าคนดีๆ แบบพี่มิน ต้องเจอคนที่ใช่สักวันค่ะ น้ำเสียงหวานสั่นพร่าเล็กน้อย ขอบคุณค่ะ มินตรายิ้มร่าน้อมรับคำอวยพรนั้นอย่างเต็มใจ สาวสวยลอบมองใบหน้าคมสวยของอีกฝ่ายที่ดูร่าเริงมีความสุขเหลือเกิน แต่ว่าหัวใจที่สงบของหล่อนกลับว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูกเต็มไปด้วยคำถามที่วนเวียนอยู่ในสมอง อันเกี่ยวข้องกับบุคคลที่นั่งข้างๆ ใครกัน...ใครที่พี่มินคิดเริ่มต้นด้วย? พี่มินจะเข้ามาก่อนไหมคะแม่กับพ่อคงออกไปซื้อของ น่าจะยังไม่กลับ ชาลิสาถามขึ้น หลังราชรถคันงามเลี้ยวเข้าหน้าหมู่บ้าน ไม่ดีกว่าค่ะวันนี้มินรบกวนคุณน้ำเยอะแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะสาวเท่ตอบอย่างเกรงอกเกรงใจ ที่อีกฝ่ายช่วยให้คำแนะนำเรื่องสินค้าตัวใหม่ของ MinTra ก็ถือว่ามีบุญคุณมากแล้ว พี่มินพูดหนักไปแล้วค่ะน้ำแค่อยากช่วยเท่านั้นเอง ไหนๆ พี่มินก็เป็นเจ้านายของน้ำด้วยเหมือนกัน เธอทำหน้าสลดไปเล็กน้อย ตกลงมินเป็นแค่เจ้านายเองเหรอคะ? อืม พี่มินเป็นเพื่อนที่ดีแล้วก็เป็นแม่ของชามาด้วยค่ะ สาวสวยตอบออกไปแบบไม่คิดมาก เพื่อน? สาวผมสั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นก่อนยิ้มเฝื่อนๆ มินคงเป็นได้แค่นั้นเธอพึมพำเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเองอย่างปลงๆ กับความฝันลมๆ แล้งๆ เป็นได้แค่นั้น...หมายความว่าอะไร? หล่อนได้ยินถนัดชัดเจนขมวดคิ้วเรียว รู้สึกเหมือนตนพูดอะไรผิดหูอีกฝ่ายสักอย่างหลังสังเกตเห็นใบหน้าคมไร้ซึ่งรอยยิ้มเช่นปกติ ไม่ทันพูดอะไรต่อรถก็หยุดกึกที่หน้าประตูรั้วของชาลิสา ขอบคุณนะคะพี่มินที่พาไปทานร้านอร่อยๆแล้วยังมาส่งถึงบ้านอีก หล่อนพูดล่ำลาโดยไม่ปลุกชามาที่ยังคงนอนหลับอย่างมีความสุข ขอบคุณเช่นกันค่ะเจ้าของรถพูดอย่างสุภาพ ไว้ค่อยคุยกันนะคะอีกฝ่ายบอกทิ้งท้าย สาวเท่มองแม่ลูกหนึ่งลงจากรถรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเข้าบ้าน จึงเคลื่อนรถออกไปด้วยความรู้สึกโหวงเหวงในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก แม้รู้ดีว่าความรักบังคับฝืนใจกันไม่ได้ ทว่ามินตราก็ยังแอบเศร้าใจนิดๆ หลังรับทราบความในใจที่อีกฝ่ายมีต่อตน สำหรับคุณน้ำฉันคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นสินะ พูดตัดพ้อกับตัวเอง ขณะขับรถตรงกลับบ้านหัวใจหดหู่เกินบรรยายเหมือนถูกอีกฝ่ายปฏิเสธรักทั้งที่ไม่ทันอ้าปากสารภาพเลยด้วยซ้ำ ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ไร้อนาคตเหลือเกิน มินตราหลงรักหล่อนตั้งแต่แรกเห็นและอกหักในวันเดียวกัน ผ่านมาหลายปีจนเข้าใจว่าต้นรักนั้นเฉาตายไปแล้ว สุดท้ายเมื่ออีกคนมาปรากฏตัวต่อหน้า มาสนิทสนมคุ้นเคยด้วย ต้นรักที่เก็บซ่อนไว้ก็เบ่งบานเจริญงอกงามขึ้นโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเธอย่อมทราบดีว่า การงมงายในรักข้างเดียว รังแต่จะเจ็บปวดทรมานหัวใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ ...ทางรักษาที่ดีที่สุดคือควรตัดรากถอนโคนเสียแต่เนิ่นๆ แต่ว่าหากตัดใจตอนนี้สาวร่างสูงไม่แน่ใจเลยว่า หัวใจดวงน้อยที่แสนเปราะบาง จะทนรับความเจ็บปวดอีกครั้งไหวหรือเปล่า? ...เป็นเรื่องโหดมหาหินยิ่งกว่าบริหารธุรกิจร้อยล้านเป็นไหนๆ ตั้งคำถามที่ยังคงไร้คำตอบเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ ฉันควรไปต่อหรือหยุดแค่ตรงนี้ดี? รักหมดใจ กี่ปีผ่านใจพี่ยังซื่อสัตย์ ไม่แกว่งกวัดหันเหไปทิศไหน ทั้งรักหลงงมงายเจ้าทรามวัย เก็บเอาไว้ไม่อาจหยุด...รักหมดใจ. OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ตอนหน้าจะลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ E-book โหลดซื้อได้ที่ MEB
ส่วนหนังสือสั่งซื้อได้จนกว่าจะหมดค่ะ นาง ^^
OoXoO
Create Date : 31 พฤษภาคม 2561 |
|
2 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2561 16:14:23 น. |
Counter : 672 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาให้กำลังใจในการเขียนบล๊อก