ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
พฤษภาคม 2561
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 พฤษภาคม 2561
 
 

Million Reasons บทที่ ๑๘ (Yuri)



๑๘

“เป็นอันว่าอาทิตย์หน้ามินขอนัดประชุมอีกครั้ง หลังเราได้แบบเสื้อชุดใหม่จากปิ่นแล้ว ขอบคุณทุกคนมากนะคะ”มินตราปิดการประชุม หลังได้ผลสรุปว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด ทุกคนดูผ่อนคลายกว่าตอนแรกอย่างน้อยก็เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

“ตุ้มจะไปเตรียมแผนการตลาดใหม่ตามที่คุณน้ำบอกขอตัวก่อนนะคะ” หัวหน้าแผนกการตลาดพูดขึ้นคนแรก ค้อมหัวน้อยๆ แล้วลุกออกจากห้องประชุมไป

“ตาลก็ขอตัวเหมือนกันค่ะ”ผู้ช่วยสาวเอ่ยขึ้นเป็นคนที่สอง แล้วออกตามไปอีกคน

“เด็กหนอเด็ก เล่นรอจนหลับไปเลย”น้อยพูดขึ้นอย่างเอ็นดู หลังเห็นชามานอนกอดตุ๊กตาเหยียดยาวที่โซฟาหลังห้อง

แย่จริง!

สาวเท่รู้สึกผิดจับใจที่ทำให้เด็กน้อยต้องมาพลอยลำบากไปด้วย จึงหันไปพูดกับแม่เด็กเสียงอ่อยๆ

“มินขอโทษที่รบกวนคุณน้ำและทำให้ชามาต้องลำบาก แทนที่จะได้นอนหลับสบายๆ อยู่ที่ร้าน”

คิดมากอีกแล้ว

หล่อนส่ายหน้าคลี่ยิ้มสวยออกมา

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่มินสำหรับชามาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เด็กคนนี้เลี้ยงง่าย อิ่มแล้วเล่น ง่วงก็หลับสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ตื่นค่ะ”

สาวเพรียวสบายใจขึ้นหลังได้ยินแบบนั้น

“งั้นเหรอคะ”

“มิน ฉันกลับก่อนนะจะรีบออกแบบชุดใหม่ตามที่น้ำบอกให้เร็วที่สุด” ปิ่นสุดาพูดแทรกขึ้นหลังเก็บสมุดบันทึกและเอกสารเสร็จ ตั้งใจจะลุยงานนี้ให้ออกมาอย่างสุดฝีมือ

“ฝากด้วยนะปิ่นขอบคุณล่วงหน้า”

“ฉันต่างหากที่ควรขอบคุณที่ให้โอกาสฉันกับบริษัท” เพื่อนสนิทพูดอย่างซาบซึ้ง หากเป็นคนอื่นคงมองหน้ากันไม่ติดนอกจากฉีกสัญญาจ้าง อาจมีคดีความตามมาอีก

“คิดมากไปหรือเปล่าแกกับฉันเป็นเพื่อนกันมาเกินสิบปี ฉันรู้จักนิสัยแกดีนะปิ่นว่าเป็นคนแบบไหน”

“ฉันรักแกจริงๆว่ะมิน” ปิ่นสุดาเอ่ยซึ้งๆ ออกมาแบบที่ไม่ได้ยินบ่อยนัก ก่อนก้าวไปสวมกอดเพื่อนรักเอาไว้

มินตรายกมือกอดตอบแล้วตบหลังเพื่อนเบาๆ

“ฉันก็รักแกเหมือนกัน”

ไม่กี่วินาทีทั้งสองผละออกห่างจากกัน

เป็นเพื่อนที่รักกันจริงๆ

ชาลิสาอดที่จะยิ้มกับภาพประทับใจตรงหน้าไม่ได้กับความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาของสองสาว ซึ่งหาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบัน

...สำหรับบางคนชั่วชีวิตอาจหาเพื่อนแท้ไม่ได้แม้แต่คนเดียว

“ขอบคุณนะน้ำ ที่ช่วยคิดแผนดีๆให้พี่กับเพื่อนคราวนี้ ถ้าไม่ได้น้ำ พวกเราคงนั่งมึนทำอะไรไม่ถูกแน่” ปิ่นสุดาหันมากล่าวกับสาวหวานอย่างสำนึกบุญคุณ

“ยินดีค่ะพี่ปิ่น”หล่อนพูดยิ้มๆ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องหนักหนาอะไร

“เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ”นักออกแบบสาวเอ่ยลา แล้วออกไป

“แล้วแบบนี้ ต้องติดต่อนางแบบถ่ายโฆษณาใหม่ไหมคะ?”น้อย ถามมินตรา

“เอาไว้ก่อนค่ะ”อีกคนบอกปัด ยังไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้

“เอ่อ ค่ะ”

สาวเพรียวมองเวลาใกล้สี่โมงเย็น

“วันนี้มีอะไรอีกไหมคะ?”

“งานด่วนไม่มีค่ะมีแค่สรุปรายรับรายจ่ายวางอยู่บนโต๊ะ” เลขาฯ สาวรายงาน “แล้วก็คุณนุ่นโทรมาขอนัดทานข้าวค่ะขอให้โทรกลับด้วย”

อีกแล้วเหรอเฮ้อ!

ร่างสูงถอนใจยาวเมื่อได้ยินชื่อนางแบบสาวช่างตื้อคนนั้น แต่ไม่คิดจะใส่ใจ

“ถ้างั้นมินเอาแฟ้มไปอ่านที่บ้านแล้วกันเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” เธอพูดกับลูกน้องซึ่งพยักหน้า จึงหันมาชวนแม่ลูกหนึ่ง“ขอมินแวะเอาของก่อน แล้วกลับบ้านกันค่ะ”

“ค่ะ” ชาลิสารับคำก้าวไปหยิบของเล่นของลูกสาวเก็บใส่กระเป๋า แล้วอุ้มชามาที่หลับใหลขึ้นสู่วงแขน

น้อยมองตามแผ่นหลังของทั้งสองเดินออกไปอย่างสนิทสนม ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นมินตรายอมให้คนนอกเข้ามาแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมของบริษัทเลยสักครั้ง

...ทว่าชาลิสาได้อภิสิทธิ์นั้น

เลขาฯสาวจึงเดาว่า เจ้านายของตนยอมรับหล่อน มากกว่าหญิงสาวคนอื่นและไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนธรรมดาแน่ เธอสังเกตเห็นสายตาของมินตรายามมองชาลิสา...เป็นแววตาของคนมีความรักเต็มเปี่ยม

ท่าทางคุณมินจะชอบคุณน้ำไม่น้อยอยากรู้จริงว่า สองคนนี้จะลงเอยยังไง?

สองสาวที่มีคนหนึ่งอุ้มเด็กก้าวเคียงคู่กันออกจากบริษัท โดยมีสายตาหลายคู่มองตามด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งชอบใจและอิจฉาตาร้อน โดยไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนบันทึกภาพเอาไว้ด้วย

แชะ! แชะ! แชะ!

“พี่มินไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอคะ?”ชาลิสาโพล่งถามขึ้น ขณะนั่งคู่กับคนขับภายในรถคันงาม

สาวหวานอุ้มชามาที่หลับสนิทอยู่ในวงแขนหลังออกจากบริษัทมาได้สักสิบกว่านาที โดยแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักคำต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง

สาวสวยบอกไม่ถูกว่าตนเองอยู่ในอารมณ์ไหนตอนก้าวออกจากบริษัทของเธอ ชาลิสายิ้มไม่ออก ตั้งแต่ได้ยินชื่อนุ่นนางแบบสาวของ VK Models หลุดออกมาจากปากน้อย

...ทำไมต้องหงุดหงิด?

...แล้วหงุดหงิดเรื่องอะไร?

ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหล่อนก็ยังตอบคำถามนี้ไม่ได้ แต่ความรุ่มร้อนในใจก็ทุเลาลงไปมากแล้ว

มินตราหลุดจากห้วงความคิดเอี้ยวคอไปถามคนนั่งข้างๆ

“เมื่อกี้คุณน้ำว่าอะไรนะคะ?”

เหม่อคิดถึงใครหรือเปล่า?

สาวหวานนึกข้องใจแต่ไม่กล้าถามออกมา ด้วยเป็นเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย

“น้ำถามว่าพี่มินไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอคะ?”

แฟน!

สาวเท่ทำหน้าสับสนลังเลแล้วยิ้มจืดๆ ออกมา

“อยากค่ะ แต่มินกลัว”

คนฟังทำหน้าประหลาดใจกับคำตอบที่ผิดคาดจึงอดที่จะถามต่อไม่ได้

“กลัวอะไรคะ?”

คนถูกถามเม้มริมฝีปากแทบเป็นเส้นตรงก่อนหันมองไปยังถนนข้างหน้า

“กลัวเจ็บกลัวอกหัก กลัวผิดหวัง อะไรประมาณนี้”

“ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำตอบของเพลย์เกิร์ลชื่อดัง”หล่อนเอ่ยล้อๆ

รู้ด้วยเหรอเนี่ย

สาวร่างสูงหัวเราะเบาๆกับสมญานามนั้น ที่ถูกตั้งขึ้นโดยความเข้าใจผิดล้วนๆ

“แล้วคุณน้ำเชื่อไหมคะว่ามินเป็นเพลย์เกิร์ล?”

“ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกัน”อีกคนตอบตามตรง

เธอขมวดคิ้ว อยากรู้เหลือเกินว่าหล่อนคิดอย่างไรกับตน?

“แล้วตอนนี้ล่ะคะ?”

“ไม่เหมือนค่ะ”ชาลิสาเฉลย

“ตรงไหนคะที่ไม่เหมือนเพลย์เกิร์ล?”มินตราซักต่อ หลังรถยนต์ติดไฟแดง จึงเอียงคอมามองหน้าสวยของอีกฝ่ายชัดๆ

หล่อนยกมือเคาะแก้มเนียนของตัวเองเหมือนใช้ความคิด

“น่าจะทุกตรงมั้งคะ”

คนฟังหลุดขำออกมา

“คงมีคุณน้ำเป็นคนแรกที่พูดแบบนี้”

พี่มินเป็นคนที่ยิ้มมีเสน่ห์มากนะเนี่ย

สาวสวยยิ้มสวยออกมาหลังเห็นอีกคนมีความสุข แต่ความสงสัยก็ก่อกวนความคิดจนเก็บเอาไว้ไม่ไหว จึงหลุดปากถามออกไป

“เหตุผลที่กลัวมีแฟนเพราะพี่มินเคยอกหักเหรอคะ?”

ฉึก!

เธอสะดุ้ง สลายรอยยิ้มลงกับคำถามแทงใจดำเอียงคอสบตากับคนนั่งข้างๆ

“จะพูดแบบนั้นก็ได้ค่ะ”

ใครกันทำแบบนั้นได้?

ชาลิสาคันหัวใจอยากรู้เหลือเกินแต่ไม่กล้าจะปริปากถามคำถามที่ล้ำเส้นออกไปตรงๆ ด้วยเกรงว่า จะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวอีกฝ่ายเพราะรู้จักกันไม่นานเท่าไหร่

...ทว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มีอุปนิสัยที่คล้ายกันคือความอยากรู้อยากเห็น เพียงแต่ว่า ใครจะแสดงได้แนบเนียนกว่ากันเท่านั้น

“ถ้าพี่มินไม่สะดวกจะเล่าก็ไม่ต้องเล่านะคะ”

เล่าดีไม่เล่าดี?

มินตรานึกลังเลด้วยไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครรู้ นอกจากปิ่นสุดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว

“เอ่อคือมินเคยชอบใครคนหนึ่ง จะเรียกว่าเป็นรักแรกพบเลยก็ได้” เธอพยายามเรียบเรียงคำพูดให้สละสลวย

“รักแรกพบ?”หล่อนทวนคำ

ใครกันที่โชคดีแบบนั้น?

“ใช่ค่ะ...แต่มินเจอเธอช้าเกินไป”ร่างสูงเล่าเสียงเศร้าๆ ทุกครั้งที่หวนคิดถึงเรื่องนั้น ยังเสียดายไม่หาย เจออีกฝ่ายครั้งแรกในวันแต่งงานไม่เรียกว่าช้าแล้วเรียกว่าอะไร?

ช้า?

“เธอมีคนอื่นก่อนแล้ว?”ชาลิสาเดาออกมาถึงความเป็นไปได้

“ค่ะ” มินตรารับคำเบาๆ

“นานหรือยังคะ?”ร่างบางตะล่อมถามต่อ

“น่าจะสี่ปีได้แล้วล่ะ”

ฝังใจอะไรจะขนาดนั้น

สาวสวยถอนใจกับความรักของอีกคนที่ดูจริงจังเกินไปสักหน่อย อีกใจแอบรู้สึกผิดที่ไปขุดคุ้ยอดีตแสนเศร้าที่เจ้าตัวคงไม่อยากเอ่ยถึงนัก

“ขอโทษค่ะน้ำไม่น่าถามเลย”

“ตอนนี้มินไม่เป็นไรแล้วค่ะ”ร่างสูงตอบเสียงราบเรียบ ทั้งที่จริงยังคงมีความรู้สึกเสียใจอยู่บ้างแต่น้อยลงมากแล้ว เมื่อเทียบกับตอนแรก

จริงเหรอ?

อีกคนไม่ถึงกับเชื่อสนิทใจนัก

“จนถึงตอนนี้พี่มินก็ยังไม่คิดเริ่มต้นกับใครเหรอคะ?”

มินตราเหลือบมองชาลิสาสมองคิดหาคำตอบ พลางขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่อยากทำให้ชามาตกใจตื่น

“พูดจริงๆมินก็อยากเริ่มต้นใหม่นะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะอกหักอีกรอบหรือเปล่า” ตอบทีเล่นทีจริงออกไป

แปลว่าตอนนี้เจอคนถูกใจแล้วสินะ

ชาลิสานิ่งไปครู่หนึ่งมองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายเขม็ง ก่อนฝืนเอ่ยคำอวยพรออกมา

“น้ำเชื่อว่าคนดีๆ แบบพี่มิน ต้องเจอคนที่ใช่สักวันค่ะ” น้ำเสียงหวานสั่นพร่าเล็กน้อย

“ขอบคุณค่ะ” มินตรายิ้มร่าน้อมรับคำอวยพรนั้นอย่างเต็มใจ

สาวสวยลอบมองใบหน้าคมสวยของอีกฝ่ายที่ดูร่าเริงมีความสุขเหลือเกิน แต่ว่าหัวใจที่สงบของหล่อนกลับว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูกเต็มไปด้วยคำถามที่วนเวียนอยู่ในสมอง อันเกี่ยวข้องกับบุคคลที่นั่งข้างๆ

ใครกัน...ใครที่พี่มินคิดเริ่มต้นด้วย?

“พี่มินจะเข้ามาก่อนไหมคะแม่กับพ่อคงออกไปซื้อของ น่าจะยังไม่กลับ” ชาลิสาถามขึ้น หลังราชรถคันงามเลี้ยวเข้าหน้าหมู่บ้าน

“ไม่ดีกว่าค่ะวันนี้มินรบกวนคุณน้ำเยอะแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ”สาวเท่ตอบอย่างเกรงอกเกรงใจ ที่อีกฝ่ายช่วยให้คำแนะนำเรื่องสินค้าตัวใหม่ของ MinTra ก็ถือว่ามีบุญคุณมากแล้ว

“พี่มินพูดหนักไปแล้วค่ะน้ำแค่อยากช่วยเท่านั้นเอง ไหนๆ พี่มินก็เป็นเจ้านายของน้ำด้วยเหมือนกัน”

เธอทำหน้าสลดไปเล็กน้อย

“ตกลงมินเป็นแค่เจ้านายเองเหรอคะ?”

“อืม พี่มินเป็นเพื่อนที่ดีแล้วก็เป็นแม่ของชามาด้วยค่ะ” สาวสวยตอบออกไปแบบไม่คิดมาก

เพื่อน?

สาวผมสั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นก่อนยิ้มเฝื่อนๆ

“มินคงเป็นได้แค่นั้น”เธอพึมพำเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเองอย่างปลงๆ กับความฝันลมๆ แล้งๆ

เป็นได้แค่นั้น...หมายความว่าอะไร?

หล่อนได้ยินถนัดชัดเจนขมวดคิ้วเรียว รู้สึกเหมือนตนพูดอะไรผิดหูอีกฝ่ายสักอย่างหลังสังเกตเห็นใบหน้าคมไร้ซึ่งรอยยิ้มเช่นปกติ

ไม่ทันพูดอะไรต่อรถก็หยุดกึกที่หน้าประตูรั้วของชาลิสา

“ขอบคุณนะคะพี่มินที่พาไปทานร้านอร่อยๆแล้วยังมาส่งถึงบ้านอีก” หล่อนพูดล่ำลาโดยไม่ปลุกชามาที่ยังคงนอนหลับอย่างมีความสุข

“ขอบคุณเช่นกันค่ะ”เจ้าของรถพูดอย่างสุภาพ

“ไว้ค่อยคุยกันนะคะ”อีกฝ่ายบอกทิ้งท้าย

สาวเท่มองแม่ลูกหนึ่งลงจากรถรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเข้าบ้าน จึงเคลื่อนรถออกไปด้วยความรู้สึกโหวงเหวงในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก แม้รู้ดีว่าความรักบังคับฝืนใจกันไม่ได้ ทว่ามินตราก็ยังแอบเศร้าใจนิดๆ หลังรับทราบความในใจที่อีกฝ่ายมีต่อตน

“สำหรับคุณน้ำฉันคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นสินะ” พูดตัดพ้อกับตัวเอง ขณะขับรถตรงกลับบ้านหัวใจหดหู่เกินบรรยายเหมือนถูกอีกฝ่ายปฏิเสธรักทั้งที่ไม่ทันอ้าปากสารภาพเลยด้วยซ้ำ ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ไร้อนาคตเหลือเกิน

มินตราหลงรักหล่อนตั้งแต่แรกเห็นและอกหักในวันเดียวกัน

ผ่านมาหลายปีจนเข้าใจว่าต้นรักนั้นเฉาตายไปแล้ว สุดท้ายเมื่ออีกคนมาปรากฏตัวต่อหน้า มาสนิทสนมคุ้นเคยด้วย ต้นรักที่เก็บซ่อนไว้ก็เบ่งบานเจริญงอกงามขึ้นโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเธอย่อมทราบดีว่า การงมงายในรักข้างเดียว รังแต่จะเจ็บปวดทรมานหัวใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ

...ทางรักษาที่ดีที่สุดคือควรตัดรากถอนโคนเสียแต่เนิ่นๆ

แต่ว่าหากตัดใจตอนนี้สาวร่างสูงไม่แน่ใจเลยว่า หัวใจดวงน้อยที่แสนเปราะบาง จะทนรับความเจ็บปวดอีกครั้งไหวหรือเปล่า?

...เป็นเรื่องโหดมหาหินยิ่งกว่าบริหารธุรกิจร้อยล้านเป็นไหนๆ

ตั้งคำถามที่ยังคงไร้คำตอบเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ

ฉันควรไปต่อหรือหยุดแค่ตรงนี้ดี?

รักหมดใจ

กี่ปีผ่านใจพี่ยังซื่อสัตย์

ไม่แกว่งกวัดหันเหไปทิศไหน

ทั้งรักหลงงมงายเจ้าทรามวัย

เก็บเอาไว้ไม่อาจหยุด...รักหมดใจ.

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ตอนหน้าจะลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ

E-book โหลดซื้อได้ที่ MEB

ส่วนหนังสือสั่งซื้อได้จนกว่าจะหมดค่ะ

นาง ^^

OoXoO




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2561
2 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2561 16:14:23 น.
Counter : 672 Pageviews.

 


แวะมาให้กำลังใจในการเขียนบล๊อก



 

โดย: ชมพร 31 พฤษภาคม 2561 16:41:35 น.  

 

ขอบคุณค่ะ ^^

 

โดย: นิ้วนาง-เดียนา 7 มิถุนายน 2561 14:51:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com