Million Reasons บทที่ ๑๗ (Yuri)
๑๗ บ้าจริง! มินตราสบถในใจอย่างหงุดหงิดหลังเพื่อนมาหาที่ทำงาน พร้อมแจ้งข่าวร้ายว่า ห้าชุดใหม่ที่กำลังทำโปรโมทเพื่อวางจำหน่ายเร็วๆนี้ ถูกราตรีบูติกซึ่งคันธรสไปร่วมหุ้น ชิงเปิดตัวตัดหน้าไปก่อน ฉันขอโทษที่มีลูกน้องไม่ดีปิ่นสุดาก้มหัวรับผิด ไม่นึกว่าอดีตลูกน้องของตนเห็นแก่เงิน จนก็อปปี้งานออกไปขายให้บริษัทอื่นซึ่งเป็นเรื่องที่มืออาชีพไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เฮ้อ! สาวเท่ถอนหายใจยาวเหยียดส่ายหน้าไปมา ไม่ใช่ความผิดของแกนะปิ่นพูดเสียงเรียบ ไม่คิดตำหนิเพื่อนซี้ในเรื่องนี้ ด้วยจิตสำนึกดีชั่วไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจเท่ากัน แล้วจะทำยังไงต่อ? เจ้าของแบรนด์ MinTra ยักไหล่ แล้วพูดแบบไม่ยี่หระออกมา ก็ยกเลิกห้าชุดนั้นแล้วออกแบบใหม่ หา! ปิ่นสุดาทำตาโต แล้วมันจะทันเหรอ? มินตรายกมือตบไหล่คนตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง ไม่ทันก็เลื่อนออกไปแค่แกกับฉันช่วยกัน แป๊บเดียวก็เสร็จ โห! พูดง่ายจัง สาวร่างเล็กนึกประชดในใจไม่มั่นใจเลยว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่อีกคนบอก ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น เชิญค่ะมินตราเอ่ยอนุญาต เงยหน้ามองมาที่ประตู นึกอยากให้ผู้มาใหม่คือคนที่เธอรออยู่ น้อยเลขาฯ สาวเปิดประตูเข้ามาคนแรกพร้อมรายงาน คุณน้ำกับชามามาค่ะ แม่มินเสียงใสๆ ของเด็กน้อยที่วิ่งเข้ามาหาเจ้าของห้อง สาวร่างสูงยิ้มกว้างเต็มหน้าย่อตัวอุ้มชามาขึ้นกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างคิดถึง การเจอใบหน้ากลมๆ ที่ยิ้มร่ามาพลันทำให้ความเครียดขึ้งที่มีอยู่หายวับไปทันที ว่าไงคะเด็กน้อยคิดถึงแม่มินไหม? คิดถึงค่ะ แม่มินก็คิดถึงชามาม๊ากมาก เด็กหญิงหัวเราะคิกคักจั๊กจี้หลังโดนอีกคนพรมจูบ โห! ผ่านไปแค่ไม่กี่สัปดาห์ กลายเป็นแม่ลูกไปเสียแล้ว เลขาฯสาวทำหน้าฉงนฉงาย กับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เกินคาด เธอไม่เคยเห็นเจ้านายสนิทสนมกับใครแบบนี้นอกจากปิ่นสุดา สวัสดีค่ะพี่มินพี่ปิ่น ชาลิสาทักสองคนที่อาวุโสกว่า คุณน้ำมินตราหันมองคนสวย ทั้งที่อุ้มลูกสาวหล่อนเอาไว้ นั่งก่อนค่ะ รับอะไรดีคะ?น้อยถามแขกสาว หลังอีกฝ่ายทรุดตัวนั่งที่โซฟาข้างปิ่นสุดา น้ำเปล่าดีกว่าค่ะขอบคุณค่ะ หล่อนบอก พี่น้อยคะ ขอคุกกี้ให้เจ้าหญิงน้อยด้วยนะคะเจ้าของห้องพูดกับเลขาฯ ของตน ได้ค่ะ เลขาฯสาวยิ้ม หลังน้อยออกไปปิ่นสุดาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ น้ำ คะ? พอจะรู้เรื่องการออกแบบเสื้อไหม? สาวสวยทำหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ออกแบบเสื้อ? พี่คิดว่าสามหัวน่าจะดีกว่าสองหัวน่ะ เรื่องนี้สำคัญมากนะ สาวร่างเล็กพูดจริงจัง มินตราหันมองเพื่อนรักที่พยักเพยิดหน้าเธอจึงวางชามาที่เก้าอี้ว่างข้างๆ ก่อนทรุดนั่งตรงข้ามหล่อน นึกรวบรวมคำพูด พลางประสานสองมือบนเข่า คือแบบนี้ค่ะคุณน้ำตอนนี้บริษัท MinTra กำลังเจอเรื่องยุ่งยากอยู่ค่ะ เรื่องแบบเสื้อ... เล่าถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับบริษัทออกมาแบบสั้นกระชับ โดยไม่เอ่ยชื่อบริษัทที่ซื้อตัวลูกน้องปิ่นสุดาไป ตรีบูติกชาลิสากล่าวชื่อแบรนด์คู่แข่งออกมา ด้วยเห็นข่าววันก่อนว่า คันธรสลูกสาวนักการเมืองใหญ่อดีตรัฐมนตรีร่วมทุนกับบริษัทนี้ ตรีบูติก เป็นบริษัทเสื้อผ้าสตรีของราตรี สาวนักธุรกิจวัยสามสิบปลายๆที่ก่อตั้งมาสิบกว่าปี แต่โดน MinTra แซงหน้าจนยอดขายร่วงไป หืม! เธอทำหน้าแปลกใจที่อีกคนทราบทั้งที่ไม่ได้เอ่ยชื่อสักคำ ไม่ต่างกับปิ่นสุดานัก คุณน้ำทราบ? พอทราบค่ะหล่อนพูดยิ้มๆ อย่าลืมสิคะว่าน้ำเคยทำงานที่ไหนมาก่อน ลืมไปค่ะมินตราทำหน้าเจื่อน ลืมไปสนิทว่า หล่อนเคยอยู่ฝ่ายการตลาดของศูนย์การค้ามาก่อน ต้องชอบติดตามข่าวสารเป็นปกติ น้อยก้าวเข้ามาเสิร์ฟน้ำและขนมทั้งสามจึงเงียบไปครู่หนึ่ง รอจนเลขาฯ สาวออกไปจึงคุยต่อ โดนก๊อปไปทั้งหมดเลยเหรอคะ?ชาลิสาซัก ดัดแปลงจากต้นฉบับนิดหน่อยแต่ดูยังไงก็รู้ว่าเหมือนกัน สาวรุ่นพี่ตอบแบบเนือยๆ ทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลก แย่จัง! สาวหวานบ่นในใจประเมินว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจจะถึงหลักสิบล้าน เพราะทำโปรโมทแล้ว รวมถึงตัดเย็บออกมาบ้างแล้ว แม้ว่ามินตราจะดูสบายๆเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ชาลิสาเดาว่า อีกฝ่ายคงหนักอกหนักใจและเจ็บใจไม่น้อย ในฐานะเพื่อนที่ดีน้องที่ดี หล่อนจึงพร้อมยื่นมือเข้าช่วย แล้วพี่ปิ่นอยากให้น้ำช่วยอะไรคะ? ปิ่นสุดาวางภาพถ่ายชุดทั้งห้าชุดที่นุ่นนางแบบของ VKModels ใส่ วันเดียวกับที่ชาลิสาแวะมาที่บริษัท ทว่าหล่อนเห็นไม่ครบทั้งหมด น้ำช่วยดูแบบเสื้อพวกนี้หน่อยสิพี่อยากฟังความเห็น ต้องการฟังคำวิจารณ์ในฐานะอดีตฝ่ายการตลาดที่น่าจะเข้าถึงหัวใจของผู้บริโภค ได้ค่ะสาวหวานพยักหน้า มองภาพถ่ายเหล่านั้นอย่างละเอียดจนครบทุกภาพ ซึ่งมีทั้งมุมตรงด้านข้าง และด้านหลัง สาวร่างเล็กสบสายตากับเพื่อนสนิทเป็นเชิงบอกให้ รอฟัง คำวิจารณ์ของหล่อน สาวเพรียวพยักหน้ายกจานคุ้กกี้ยื่นตรงหน้าให้ชามา เด็กน้อยหยิบทานอย่างเอร็ดอร่อย บรรยากาศในห้องเงียบงันมีเพียงเสียงเคี้ยวขนมของชามาเท่านั้น ผ่านไปหลายนาที ก็สวยดีนะคะ ชาลิสาเอ่ยชมออกมาเป็นคำแรกแต่... แต่อะไรคะ? มินตราอดถามไม่ได้ เหมือนจะไม่ค่อยใช่แบรนด์MinTra นัก หล่อนตอบตามที่รู้สึก อีกสองคนทำหน้ายุ่ง ไม่ค่อยใช่...แปลว่าอะไร?ปิ่นสุดาถามออกมาเป็นคนแรก ที่น้ำเข้าใจ แบรนด์MinTra เน้นแนวสวยหรูดูดี เรียบง่ายใส่ได้บ่อย สีสันเน้นโทนขาวดำ หรือโทนสีสุภาพเป็นทางการใช่ไหมคะ? ใช่ค่ะเจ้าของแบรนด์พยักหน้า แบบเสื้อสามในห้าไม่เรียบง่าย ไม่หรูหรา หล่อนหยิบภาพถ่ายสามแบบมาประกอบคำอธิบายส่วนสีสันคงไม่ต้องพูดถึง ไม่ใช่แนวของ MinTra เลยสักนิด พูดพร้อมวางรูปถ่ายสองใบที่เสื้อผ้าเป็นสีโทนหวาน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณน้ำจะมองแบรนด์ฉันทะลุได้ถึงขนาดนี้ ร่างสูงอดทึ่งไม่ได้ราวกับกำลังนั่งฟังผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์สินค้าของตนเลยทีเดียว จริงด้วย! ร่างเล็กอุทานออกมา หลังเห็นประเด็นสำคัญที่หล่อนชี้อันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน เมืองไทยไม่ใช่เมืองหนาวไม่มีหิมะตก สีสันอันเป็นเทรนด์หลักของต่างประเทศจึงอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก หากเทียบกับเอกลักษณ์อันเป็นคุณค่าหลักของแบรนด์ MinTra ถ้ามองโลกในแง่ดีว่านี่เป็นโอกาสแก้ตัวครั้งที่สอง ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก มินตรากล่าวสรุปเสียงสดใสกว่าเดิมความกังวลหดหู่ที่มีก่อนหน้าหายไปเกือบหมด ...แค่เพียงเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เท่านั้นเอง ฉันคงขบปัญหานี้ไม่แตก...ถ้าไม่ได้คุณน้ำบอก อื้อปิ่นสุดาขานรับเสียงต่ำในลำคอ เดี๋ยวฉันจะออกแบบให้แกใหม่เองรับรองต้องดีกว่าห้าชุดนั้นแน่ ขอบใจนะเพื่อนสาวเท่ยิ้มกว้างออกมาได้ ก่อนหันไปขอบคุณสาวสวย ขอบคุณค่ะคุณน้ำที่ช่วยชี้ให้มินเห็นทางสว่าง พูดเกินไปแล้วค่ะพี่มินน้ำก็พูดไปเรื่อยเปื่อย ชาลิสายิ้มบางๆ ถ่อมตัวจริงๆ สาวผมสั้นนึกชื่นชมอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆก้มมองเวลาที่สมควรจะไปหาอะไรใส่กระเพาะได้แล้ว ไปทานราดหน้ากันก่อนแล้วค่อยมาทำงาน เดี๋ยวชามาจะหิว ไปสิ / ค่ะปิ่นสุดากับหล่อนตอบรับแทบจะพร้อมๆ กัน มินตราอุ้มชามาเดินไปพร้อมหล่อนกับพื่อนรักใช้รถคันงามของตนเป็นพาหนะ โดยไม่สนใจสายตาของลูกน้องที่จับตามองแบบแปลกๆ ฉันกำลังสงสัยว่าคุณมินกำลังมีความรัก เสียงคนแรกเอ่ยขึ้นแทบจะทันทีที่เจ้านายขับรถออกไป ฉันก็ว่างั้นเสียงคนที่สองเห็นด้วย ใคร?เสียงที่สามซึ่งตกข่าวถามอย่างสงสัย แม่ของเด็กที่คุณมินอุ้มอยู่นั่นไงเสียงคนแรกเฉลย แม่เจ้า! แต่หล่อนสวยมากเลยนะนั่น เป็นฉันก็โอว่ะ เสียงคนที่สองเอ่ยชื่นชมออกมา บ้าสิ! คุณมินต้องเป็นของฉันต่างหาก เสียงคนที่สามค้านอย่างไม่พอใจด้วยแอบเล็งเจ้านายมานาน ตื่นได้แล้วแกถ้าคุณมินเลือกแก คงเลือกไปนานแล้ว คนที่หนึ่งเอ่ยอย่างสมเพช นั่นสิอีกคนเห็นด้วย แม้จะสงสารเพื่อนแต่เข้าใจดีว่าความรักเป็นเรื่องที่บังคับฝืนใจกันไม่ได้ หลังทานมื้อกลางวันเสร็จมินตราชวนหล่อนให้เข้าประชุมในช่วงบ่าย เพื่อช่วยแสดงความเห็นเรื่องแบบเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วยซึ่งชาลิสาก็ไม่ปฏิเสธ ในที่ประชุมนอกจากมินตรา ชาลิสา ปิ่นสุดา ก็มีน้อยเลขาฯ ตาลผู้ช่วยตุ้มหัวหน้าแผนกการตลาด ส่วนตัวแถมแบบชามานั่งเล่นตุ๊กตาอยู่มุมห้องประชุมโดยมีขนมนมเนยและเครื่องดื่มตั้งอยู่ใกล้ๆ ลูกน้องทุกคนทำหน้าเครียดขรึมหลังทราบว่า สินค้าฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะออกจำหน่ายถูกคู่แข่งก็อปปี้ ทว่าสาวเพรียวอธิบายจนลูกน้องสบายใจขึ้น โดยมองว่าเรื่องนี้เป็นโอกาสทองของบริษัทมากกว่าวิกฤต ...แม้สบายใจขึ้นทว่าปัญหาก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว แล้วคราวนี้เราจะออกเสื้อผ้าแบบไหนคะ?ตุ้มถามโพล่งออกมา ด้วยวงจรชีวิตสินค้าแฟชั่นอายุค่อนข้างสั้น ถ้าไม่ออกสินค้าใหม่กำไรของบริษัทต้องลดฮวบแน่หรืออีกนัยหมายถึงโบนัสต้องลดลงด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลลบต่อขวัญกำลังใจของลูกน้องอย่างมาก เรื่องชุดใหม่ขอให้เป็นหน้าที่ของปิ่นปิ่นจะออกแบบชุดล็อตใหม่ให้เสร็จภายในห้าวัน นักออกแบบสาวพูดรับผิดชอบอย่างกล้าหาญเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่โดนลูกน้องทรยศ เอางานไปขายให้คู่แข่งอย่างไร้จรรยาบรรณ ซึ่งเธอจะไล่บี้เอาคืนทีหลังแน่ คุณมินสั่งยกเลิกไปทางโรงงานแล้วเหรอคะ?น้อยอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้ ไม่อยากให้บริษัทสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เธอถือว่าการเป็นพนักงานที่ดีต้องรักษาผลประโยชน์ให้บริษัทเท่าที่จะทำได้ เรียบร้อยแล้วค่ะ มินตรารายงานปัญหานี้ให้พ่อรับทราบตั้งแต่รู้เรื่องนี้ มนต์ชัยไม่ว่าอะไร แต่โมกข์บ่นเป็นหมีกินผึ้ง เธอรับฟังแล้วปล่อยให้ผ่านไปไม่มีประโยชน์ที่จะกลุ้มใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สู้เอาสมองมาคิดอ่านหาทางแก้ ปัญหาจะดีกว่า เรื่องนี้ น่าจะเป็นฝีมือของยายคุณคันแน่เลยตาลพึมพำออกมา แต่ดังพอที่คนในห้องจะได้ยิน คุณคัน?คงหมายถึง คันธรส ชาลิสาที่นั่งฟังเงียบๆนึกเดาในใจ แต่ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่ตาลพูดออกมา ก่อนหน้าเคยเห็นข่าวว่าลูกสาวนักการเมืองใหญ่ตามตื้อมินตรามาระยะหนึ่ง แต่ไม่ทราบต้นสายปลายเหตุว่า ทำไมถึงแตกหักกันถ้าถึงขั้นคิดทำลายธุรกิจกันแบบนี้ เธอคนนั้นน่าจะแค้นเคืองอาฆาตสาวเท่ไม่น้อย ตกลงพี่มินไปทำอะไรมากันแน่? เท่าที่เห็นดูเหมือนว่ามินตราเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับคันธรสนัก ไม่เคยเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนั้นเลยสักคำ หากเคยเป็นคนรักกันอย่างน้อยก็ควรแสดงเยื่อใยอาลัยอาวรณ์ เซื่องซึม หรือโมโหออกมาบ้าง ทว่าหล่อนไม่เห็นเจ้าของบริษัทมีอะไรผิดปกตินอกจากท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย แสดงว่าพี่มินไม่ได้คบกับคันธรส ชาลิสายักริมฝีปากบางขึ้นบอกไม่ถูกว่า ทำไมตนถึงได้โล่งใจนักกับเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ใช่ธุระของตนสักหน่อย จะไปยุ่งอะไรกับเรื่องคนอื่นเขา...ชาลิสา หล่อนนึกเตือนตัวเองในใจ เราไม่มีหลักฐานนะตาลจะพูดอะไรต้องระวังด้วย สาวเพรียวดุลูกน้อง ไม่อยากให้ใครได้ยิน...เรื่องเล็กอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ คนมีเงินไม่พอใจอะไรก็หาเรื่องฟ้องดะไปหมด ทำประหนึ่งอยู่เหนือกฎหมายเลยด้วยซ้ำ
ดีแค่ไหนไม่ฟ้องหมาแมวด้วย ฐานที่มายืนเกะกะลูกตาเป็นคำพูดกระแหนะกระแหนที่ไม่ผิดไปจากความเป็นจริงในสังคมปัจจุบันนัก ขอโทษค่ะ ตาลก้มหน้าพูดออกมาเข้าใจเจตนาดีของเจ้านายที่ไม่อยากให้มีปัญหากับความปากไวของตนหลายครั้งที่เธอสื่อสารได้ไม่ดีพอ จนเป็นเหตุให้เข้าใจผิดกับเพื่อนร่วมงานในช่วงแรกจนมินตราต้องออกหน้าประสานรอยร้าวให้ แม้จะพยายามปรับปรุงนิสัยเถรตรงปากไวแต่ก็ไม่อาจละเลิกได้ทั้งหมด ถ้าเจ้านายไม่ใช่มินตรา เธอคงโดนไล่ออกไปนานแล้ว ขอสถิติที่ฝ่ายการตลาดสำรวจมาอีกทีสิคะ?สาวหน้าคมหันไปขอข้อมูลกับตุ้ม นี่ค่ะ หัวหน้าแผนกการตลาดยื่นเอกสารที่เตรียมมาให้เจ้านายทันที พลางส่งเอกสารที่เหลือไปให้ชาลิสา ปิ่นสุดา และคนอื่นๆที่นั่งอยู่จนครบ ทุกคนพลิกดูเอกสารทันทีโดยไม่จำเป็นต้องมีใครสั่งข้อมูลสรุปในรูปตาราง ความต้องการของผู้หญิงพันคนเศษซึ่งอายุในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงสี่สิบ ส่วนใหญ่ต้องการชุดทำงานรองลงมาก็คือชุดไปรเวทหรือชุดลำลอง โดยมีการสำรวจงบประมาณด้วยว่า ลูกค้าใช้จ่ายกับเสื้อผ้าเดือนละประมาณเท่าไหร่ ปกติ MinTra ออกไตรมาสละกี่ชุดคะ? หล่อนถาม หลังพลิกอ่านข้อมูลในกระดาษจนครบทั้งหมด ห้าถึงสิบค่ะปีที่แล้วเฉลี่ยเจ็ดค่ะตาลตอบอย่างคล่องแคล่ว เราจะเน้นออกชุดทำงาน ชุดเดรสกับชุดแซกอย่างละหนึ่งถึงสองชุดส่วนชุดไปรเวทก็แล้วแต่ค่ะ...มีแต่คราวนี้ที่ชุดลำลองเยอะกว่าแบบอื่น ใช่ ปิ่นสุดาพูดกับผู้ช่วยสาวคือคราวนี้มินให้เน้นที่ชุดไปรเวท ก็เลยออกแบบมากกว่าทุกครั้ง อ๋อ... ชาลิสาพยักหน้า ถ้าจะสู้กันจริงๆก็ยังพอมีทางอยู่เหมือนกัน สาวสวยคิดในใจ กลอกตาคู่สวยไปมาหลังคิดถึงจุดอ่อนจุดแข็งของคู่แข่งกับ MinTra อย่างละเอียด ถ้างั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ...เสียงหวานแจกแจงความคิด ซึ่งผุดออกมาเป็นฉากๆ ทุกคนในห้องประชุมตั้งใจฟังส่วนคนที่ถนัดจดก็ขยับมือบันทึก มินตราจ้องหน้าสวยของผู้พูดเกือบตลอดซึ่งดูเอาจริงเอาจังต่างจากเวอร์ชั่นปกติที่เคยเจอ แล้วยิ้มออกมา หลังได้ยินแผนการไม่ธรรมดาจากริมฝีปากบางคู่นั้นแจกแจงทุกรายละเอียดอย่างคล่องแคล่ว รวมถึงไขทุกคำถามของผู้ร่วมฟังได้อย่างไม่ติดขัด ...รอบรู้เรื่องแฟชั่นเสียยิ่งกว่าพนักงานของMinTra เองเสียอีก สาวเท่พลันนึกไปถึงณรงค์สามีผู้ล่วงลับของชาลิสา นอกจากความสวยแล้วคุณยังฉลาดเป็นกรด มิน่าคุณอาณรงค์ถึงเลือกคุณ พอคิดแบบนั้นเธอก็อดอิจฉาคนตายไม่ได้ อาภัพ เธอทอดถอนหายใจอีกคำรบ ไม่อาจจบเรื่องว้าวุ่นในสมอง คิดถึงหล่อนค่ำเช้าเฝ้าใฝ่ปอง ไม่อาจครองเคียงคู่...อาภัพนัก. OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตาม
ถ้าชอบก็อุดหนุนหนังสือ หรือ E-book กันด้วยนะคะ นาง ^^ OoXoO
Create Date : 24 พฤษภาคม 2561 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2561 19:53:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 619 Pageviews. |
|
|