ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
พฤษภาคม 2561
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 พฤษภาคม 2561
 
 
Million Reasons บทที่ ๑๔ (Yuri)



๑๔

ไม่เจียม

โอ้พระจันทร์เต็มดวงกระจ่างแจ้ง

ลอยฉายแสงสวยเด่นไม่เป็นสอง

พี่เป็นแค่กระต่ายแอบหมายปอง

อยากครอบครองจันทรา...ช่างไม่เจียม.

“สวัสดีค่ะชามา”มินตราทักทายเด็กน้อย ที่ยกมือไหว้อย่างน่ารัก ก่อนเอื้อมมือลูบหัวเบาๆ

“ป้ามิน” เสียงเล็กแหลมทักทายหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี

สาวหน้าคมฝืนยิ้มให้คนตัวเล็กทั้งที่ในหัวใจรุ่มร้อนไปด้วยความหึงหวง แต่ไม่คิดจะแสดงออกให้ตนต้องอับอายอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเกรงจะเสียมารยาท

ฉันมันแค่แอบรักข้างเดียวจะไปมีสิทธิ์ทำอะไรได้

เธอนึกประชดประชันตัวเองในใจ

“พี่ณัฐ”ปิ่นสุดาเป็นฝ่ายทักหนุ่มหล่อขึ้นก่อน ตามประสาคนรู้จักมาเป็นสิบปี

ณัฐนนท์ชักมือที่วางทาบกับมือของชาลิสากลับอย่างเร็วปั้นหน้าไม่ถูกหลังโดนคนรู้จักพบเห็นพฤติกรรมที่ดูไม่เหมาะสมนัก

“ปิ่นเป็นไงมาไงเนี่ย?”ชายหนุ่มถามแก้เก้อออกไป

“มาทานข้าวกับเพื่อนค่ะ”สาวร่างเล็กตอบ เอียงคอมาแนะนำให้เพื่อนสนิทได้รู้จักกับหนุ่มหล่อ “มินนี่พี่ณัฐลูกชายอาณรงค์”

ที่แท้ก็แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง

สาวเท่ขมวดคิ้วหลังรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และมีความสัมพันธ์อะไรกับแม่ของชามา ทว่าชายหญิงมาจับมือถือแขนกันดูอย่างไรก็แสลงตาไม่น้อย

“มินตราค่ะยินดีที่ได้รู้จัก” เธอเอ่ยเสียงเรียบ ด้วยอ่อนวัยกว่า

“ณัฐครับยินดีเช่นกันครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ

“พี่มินเป็นเจ้านายของน้ำค่ะ”ชาลิสาแนะนำเสริมขึ้น

“เหรอครับ”

ณัฐนนท์ทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อยไม่เข้าใจว่า ทำไมหล่อนถึงเลือกทำงานกับผู้หญิงคนนี้ แทนที่จะทำงานกับตน

คุณคนนี้มีอะไรดี?

“พี่ปิ่นพี่มิน นั่งด้วยกันนะคะ?” แม่ลูกหนึ่งเอ่ยชวน ด้วยโต๊ะที่นั่งเป็นโต๊ะสี่ที่แค่ขยับเก้าอี้สูงของชามา คนอื่นก็นั่งทานได้อย่างสบายๆ

“ไม่ดีกว่าค่ะ”มินตราตอบปฏิเสธเสียงเย็น ไม่อยากทานร่วมโต๊ะ เกรงภาพบาดตาบาดใจจะทำให้อารมณ์บูดเน่าไปมากกว่านี้

มะกี้พูดถึงสาวยิ้มหน้าบานพอเจอเข้าจริงๆ ดันทำหน้างอเสียได้ ...อะไรของแก?

ปิ่นสุดานึกงงกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ของเพื่อนสนิท จึงเอื้อมมือไปแตะข้อศอก แล้วพูดขึ้น

“ทานโต๊ะนี้แหละจะได้นั่งคุยกันด้วย”

อีกคนถอนหายใจเบาๆฝืนใจกล่าวออกมา

“แล้วแต่แก”

“รบกวนด้วยนะคะ”สาวร่างเล็กบอกกับคนชวน

หลังสองคนทรุดนั่งลงโดยปิ่นสุดานั่งข้างหนุ่มหล่อ ส่วนมินตรานั่งติดกับชามาฝั่งเดียวกับหล่อน

ชาลิสาโบกมือเรียกเด็กมารับออเดอร์หลังจากสั่งอาหารแล้วสามคนที่มาจากบ้านเดียวกันก็คุยกันอย่างถูกคอ ร่างสูงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ

ไม่นานอาหารที่สั่งก็ถูกยกมาวางทั้งห้าจึงเริ่มรับประทานอาหาร ชาลิสาชำเลืองดูลูกสาวที่ตักอาหารทานเองบ้าง ฟังณัฐนนท์คุยบ้างก่อนหลุดหัวเราะออกมากับมุกตลกของเขา

ฉันมันคุยไม่สนุกแบบหมอนี่...รีบทานดีกว่าจะได้รีบกลับ

สาวหน้าคมตั้งใจแบบนั้นมุ่งสนใจไปที่ความอร่อยตรงหน้า ตักทานอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้รีบไปจากความอึดอัดคับข้องใจให้เร็วที่สุด

ที่ทำเป็นไม่สนใจน้ำแบบนี้...คงหึงสินะ

ปิ่นสุดานึกเดาความคิดอ่านของเพื่อนสนิทที่ไม่เคยแสดงอาการเย็นชากับชาลิสาขนาดนี้มาก่อน เธอชายตามองไปยังหล่อนที่วางตัวเป็นปกติแถมคุยกับลูกเลี้ยงอย่างสนุก มีเสียงหัวเราะหลุดออกมาหลายครั้ง

แสดงว่าน้ำไม่รู้ว่ามินคิดอะไรด้วยเวรกรรม!

นึกอ่อนใจกับโชคชะตาของเพื่อนรักซึ่งดูมีความหวังริบหรี่ คาดว่าคงไม่แคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกร้อยแก้วเป็นแน่

มินตราทำหน้าไม่รับแขกเคี้ยวตุ้ยๆตั้งใจรับประทานประหนึ่งว่ากำลังแข่งทานเร็ว ยิ่งหล่อนหัวเราะมากเท่าไหร่หญิงสาวก็ยิ่งปวดแปลบหัวใจมากเท่านั้น เข้าใจไปว่าสาวสวยถูกใจหนุ่มหล่อเป็นพิเศษ ด้วยไม่เคยเห็นหล่อนมีความสุขแบบนี้มาก่อน

คุณน้ำคงชอบผู้ชายคนนี้...ฉันจะไปสู้อะไรได้

แม้ณัฐนนท์จะมีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของชาลิสาแต่หากสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ แถมฐานะร่ำรวยทั้งสองฝ่าย จึงไม่จำเป็นต้องแคร์เสียงนกเสียงกาเลยก็ยังได้

ข้อดีอีกอย่างคือชามาจะได้มีพ่อ ไม่ต้องเป็นกำพร้าอีกต่อไป ซึ่งเธอมองออกว่าเขาเอ็นดูเด็กหญิงไม่น้อย

ก็แค่อกหักสองครั้งจากผู้หญิงคนเดียวกัน แค่นี้ไม่ตายหรอก

นึกปลอบใจตัวเองหันไปมองหนูน้อยที่โชว์ตักทานข้าว แล้วหันมาส่งยิ้มให้ โดยมีเศษข้าวติดแก้มกลมๆเป็นของแถม หญิงสาวจึงผุดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู แล้วหยิบเม็ดข้าวนั้นออกจากแก้ม

“เก่งมากค่ะชามา”

“วันนี้ป้ามินว่างไหมคะ?”เสียงเล็กใสๆ เอ่ยถาม

สาวเพรียวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนย้อนถาม

“ชามามีอะไรคะ?”

“หนูอยากเล่นกับป้ามินค่ะได้ไหมคะ?” เด็กน้อยเอ่ยขอเสียงแผ่ว

อยากเล่นกับฉัน...

คนฟังอึ้งไปกับคำขอร้องที่ชวนใจอ่อนเสียเหลือเกิน

“ชามาคะป้ามินมีงานเยอะนะคะ ไว้วันหลังนะคะลูก วันนี้เล่นกับแม่ก่อน” ชาลิสารีบอธิบายกับชามาด้วยความเกรงใจว่า ลูกสาวจะไปรบกวนเวลาส่วนตัวของอีกคนที่ต้องไปทำงานสำคัญอย่างอื่น

คราวก่อน มินตราใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งหลังขดหลังแข็งต่อบ้านLEGO ให้จนเสร็จ ก็นับว่ารบกวนมากเกินไปแล้ว

ที่สำคัญคือหล่อนไม่อยากให้ลูกสาวติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง จึงต้องปรามไว้ไม่ให้เหลิงตั้งแต่เด็ก

“ค่ะ” หนูน้อยทำหน้าเศร้าลงเมื่อได้ยินมารดาพูดแบบนั้น

มินตรารู้สึกสงสารเด็กหญิงจับใจกลอกตาไปมาคิดตารางงานในสมองอย่างฉับไว ว่าพอจะปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง

น่าจะพอได้

“พรุ่งนี้เย็นป้ามินไปหานะคะ”

“จริงนะ?”เสียงชามาร่าเริงขึ้นทันที

“ค่ะ” อีกคนย้ำอย่างอ่อนโยน

“ขอบคุณค่ะ” เด็กน้อยโน้มมาหอมแก้มมินตราหนึ่งฟอด

ร่างสูงเลยหอมอีกฝ่ายกลับแล้วยิ้มกว้างที่เห็นชามาหัวร่อคิกคัก

พี่มินตามใจชามาเกิน

ชาลิสายิ้มมุมปากกับสาวสองวัยที่ดูจะเป็นเพื่อนสนิทไปเสียแล้ว

“ท่าทางเข้ากันดีมากเลยนะนั่น”ปิ่นสุดายิ้มน้อยๆ

“พอดีเลย พรุ่งนี้วันเกิดของชามาด้วยนี่ครับ”ณัฐนนท์เปรยขึ้น บ่งบอกว่าจดจำเรื่องราวของสองแม่ลูกได้ไม่น้อย

หืม!

มินตราปรายตาคู่คมมองไปที่คุณแม่ยังสาวเหมือนจะถามว่า ไม่คิดจะชวนกันหรือไง?

สาวสวยเหมือนจะอ่านใจอีกคนได้จึงเอ่ยขึ้นว่า

“ถ้าพรุ่งนี้พี่มินกับพี่ปิ่นว่างก็ไปทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกันนะคะ เป็นแค่งานเลี้ยงเล็กๆ ในครอบครัวค่ะ” หญิงสาวเอียงคอมองหนุ่มหล่อที่นั่งตรงข้าม“แล้วก็มีคุณณัฐอีกคน”

“ครับ” ณัฐนนท์รับคำ

“งั้นพี่ไปด้วยน้ำพรุ่งนี้เย็นพี่ว่างพอดี” ปิ่นสุดาตกปากรับคำ ไม่พลาดเรื่องสนุกๆ อยู่แล้วโดยเฉพาะกับชาลิสาที่นับว่ารู้จักกันมานาน

แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือเธออยากช่วยลุ้นเพื่อนรักให้สมหวังและต้องการทดสอบสมมติฐานบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในสมอง

การทานอาหารมื้อนี้ทำให้สาวร่างเล็กมองออกว่า ณัฐนนท์มีใจให้ชาลิสาไม่น้อย แต่ติดตรงที่ไม่รู้ว่า...เจ้าหล่อนคิดอย่างไร?เป็นเรื่องที่ปิ่นสุดาอยากรู้ เพื่อให้มินตรามีเวลาทำใจได้ทัน

ลึกๆ เธอเดาว่าหล่อนไม่มีทางคิดกับเขาเกินเพื่อนหรือญาติ

หากเลือกพี่ณัฐน้ำคงไม่ลงมากรุงเทพฯ หลังอาณรงค์เสีย

“ขอบคุณค่ะพี่ปิ่น”แม่ลูกหนึ่งยิ้มกว้างให้พี่สาวที่สนิทกัน แล้วหันสบตากับมินตรา เอ่ยชวนเสียงอ่อนหวานเป็นพิเศษแต่เป็นคำชวนกึ่งบังคับกลายๆ “พรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่มิน”

“เอ่อ ค่ะ” มินตรารับปากไม่เต็มเสียงนัก

“เย้ๆ” เสียงใสๆเปล่งร้องออกมาอย่างยินดี ใบหน้ากลมแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับเป็นคนโชคดีที่สุดในโลกก็ไม่ปานหนูน้อยพลอยทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่ยิ้ม มีความสุขตามไปด้วย

“ชามาดูจะติดคุณมินน่าดูเลยนะครับ”ณัฐนนท์ออกปาก ด้วยไม่ค่อยเห็นน้องสาวคนเล็กติดใคร นอกจากสมาชิกในครอบครัวของชาลิสาแม้แต่ตัวเขาเองน้อยครั้งที่อีกคนจะเล่นด้วย วันไหนอารมณ์ดี ถึงจะยอมให้อุ้มบ้างเท่านั้นจึงอดสงสัยมากว่า ทำไมแม่ลูกคู่นี้ถึงได้ติดอกติดใจร่างสูงนัก...นึกคุ้นชื่ออีกฝ่ายแต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร

แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตงิดๆใจที่สุดคือ สุ้มเสียงชาลิสาอ่อนหวานกว่าปกติยามสนทนากับสาวเพรียว รีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป

ฉันคงคิดมากไปเอง

“ติดแจตั้งแต่วันแรกที่เจอเลยค่ะ”ปิ่นสุดาเล่าขึ้น

“เหรอครับ”

“สงสัยเคมีจะตรงกัน”สาวร่างเล็กพูดติดตลก

ชายหนุ่มซ่อนความสนเท่ห์ในใจยิ้มบางๆ ออกมา

“ก็เป็นไปได้ครับ”

“น่าจะเพราะพี่มินใจดีมั้งคะเด็กๆ จะไวกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ” ชาลิสาที่ฟังอยู่เอ่ยเสริมขึ้น สายตาจับจ้องมินตราใช้ทิชชู่เช็ดปากกับแก้มที่เลอะของชามาอย่างเอาใจใส่การแสดงออกของผู้หญิงคนนี้ เต็มไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยน...แม้แต่หล่อนก็สัมผัสได้

แค่ใจดีเหรอ?

ณัฐนนท์นึกสงสัยมากขึ้นไปอีกแต่ไม่ปริปากถามออกไป

“เดี๋ยวมินต้องกลับไปทำงานต่อขออนุญาตเป็นเจ้ามือนะคะ”สาวผมสั้นกล่าวขึ้น หลังมองเวลาเกือบบ่ายโมง พลางโบกมือเรียกบริกรหนุ่มมาเช็คค่าเสียหาย

“ขอผมดีกว่านะครับ”ชายหนุ่มเสนอตัวบ้าง ด้วยเป็นสุภาพบุรุษคนเดียวในโต๊ะ

ทว่ามินตราไม่ยอมแพ้วางแบงค์พันบาทใส่ถาดให้พนักงานหนุ่ม ที่โค้งคำนับ แล้วเดินกลับไปก่อนหันไปบอกกับลูกเลี้ยงของหล่อน

“ขออนุญาตค่ะ”

ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย

ชาลิสาแอบขำในใจสัมผัสได้ว่าหนึ่งหญิงหนึ่งชายเหมือนศรศิลป์ไม่กินกันแต่ด้วยสาเหตุใดนั้น...หล่อนยังไม่แน่ใจ

“พี่ณัฐพักที่ไหนคะ?”ปิ่นสุดาถามผู้ชายหนึ่งเดียวของโต๊ะ

“โรงแรมแถวนี้แหละพี่มาติดต่อเรื่องงานพรุ่งนี้เช้า วันนี้ว่างเลยโทรชวนคุณน้ำกับชามามาทานข้าว”

“อ๋อ ค่ะ”

บริกรคนเดิมยกถาดเงินทอนมาส่งให้ลูกค้ามินตราหยิบเงินทอน โดยวางทิปให้จำนวนหนึ่ง

“ขอบคุณครับ”

เธอกวาดตามองเพื่อนร่วมโต๊ะก่อนเอ่ยขอตัว

“ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะคะ”

“ปิ่นต้องกลับไปทำงานต่อเหมือนกัน”ปิ่นสุดาบอก

“งั้นก็สลายตัวค่ะ”หล่อนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี

ทั้งหมดลุกออกจากโต๊ะพร้อมกันมาแยกกันที่หน้าร้านอาหาร

“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะพี่มิน”ชาลิสาเอ่ยเสียงหวาน สาวร่างสูงยิ้มน้อยๆ ให้ หล่อนหันบอกกับลูกสาว “ขอบคุณป้ามินด้วยค่ะชามา”

“ขอบคุณค่ะป้ามิน”เสียงใสๆ บอกตามที่มารดาสั่ง

“พรุ่งนี้เจอกันค่ะหนูน้อย”มินตราบอกอย่างอ่อนโยน พลางโบกมือให้ด้วย

เด็กหญิงโบกมือพลางส่งจูบอย่างน่ารัก

“บ๊าย บาย”

สาวเท่สบสายตากับหนุ่มหล่ออย่างแฝงความนัยพร้อมยกยิ้มมุมปาก เธอหันไปสบตาและส่งยิ้มให้กับสาวหวาน ซึ่งหล่อนยิ้มตอบ

ปิ่นสุดาโบกมือร่ำลาคนคุ้นเคย

หลังสองสาวจากไปชาลิสาอุ้มชามาขึ้นบ่า แล้วเอ่ยกับลูกเลี้ยง

“พรุ่งนี้เจอกันนะคะคุณณัฐ”

“ครับ”

“บายพี่ณัฐสิคะชามา”

“บายค่ะ” เด็กน้อยยกมือขึ้นโบกไหวๆ

ณัฐนนท์ยืนมองสาวสวยกับลูกจนกระทั่งหายลับสายตาไป จึงหมุนตัวไปยังอีกทาง ก้าวย่างอย่างเชื่องช้า ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายมีหลายอย่างอยากจะบอกกับชาลิสา...แต่ไม่กล้าพอสักที

ยาก

ขุนเขาสูงร้อยโยชน์ เสียดฟ้า

มิยากเกินปีนฝ่า ยอดได้

จักพิชิตขวัญตา ยากยิ่ง กว่านา

เททุ่มใจไปให้ ห่อนได้กลับคืนฯ.

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

หนังสือยังเหลืออีกนิดหน่อย สั่งซื้อได้นะคะ ที่ลิงค์ 'สินค้า'

ส่วน E-book โหลดซื้อได้ที่ MEB ค่ะ

นาง ^^

OoXoO




Create Date : 03 พฤษภาคม 2561
Last Update : 3 พฤษภาคม 2561 19:23:35 น. 0 comments
Counter : 563 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com