Million Reasons บทที่ ๑๔ (Yuri)
๑๔ ไม่เจียม โอ้พระจันทร์เต็มดวงกระจ่างแจ้ง ลอยฉายแสงสวยเด่นไม่เป็นสอง พี่เป็นแค่กระต่ายแอบหมายปอง อยากครอบครองจันทรา...ช่างไม่เจียม. สวัสดีค่ะชามามินตราทักทายเด็กน้อย ที่ยกมือไหว้อย่างน่ารัก ก่อนเอื้อมมือลูบหัวเบาๆ ป้ามิน เสียงเล็กแหลมทักทายหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี สาวหน้าคมฝืนยิ้มให้คนตัวเล็กทั้งที่ในหัวใจรุ่มร้อนไปด้วยความหึงหวง แต่ไม่คิดจะแสดงออกให้ตนต้องอับอายอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเกรงจะเสียมารยาท ฉันมันแค่แอบรักข้างเดียวจะไปมีสิทธิ์ทำอะไรได้ เธอนึกประชดประชันตัวเองในใจ พี่ณัฐปิ่นสุดาเป็นฝ่ายทักหนุ่มหล่อขึ้นก่อน ตามประสาคนรู้จักมาเป็นสิบปี ณัฐนนท์ชักมือที่วางทาบกับมือของชาลิสากลับอย่างเร็วปั้นหน้าไม่ถูกหลังโดนคนรู้จักพบเห็นพฤติกรรมที่ดูไม่เหมาะสมนัก ปิ่นเป็นไงมาไงเนี่ย?ชายหนุ่มถามแก้เก้อออกไป มาทานข้าวกับเพื่อนค่ะสาวร่างเล็กตอบ เอียงคอมาแนะนำให้เพื่อนสนิทได้รู้จักกับหนุ่มหล่อ มินนี่พี่ณัฐลูกชายอาณรงค์ ที่แท้ก็แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง สาวเท่ขมวดคิ้วหลังรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และมีความสัมพันธ์อะไรกับแม่ของชามา ทว่าชายหญิงมาจับมือถือแขนกันดูอย่างไรก็แสลงตาไม่น้อย มินตราค่ะยินดีที่ได้รู้จัก เธอเอ่ยเสียงเรียบ ด้วยอ่อนวัยกว่า ณัฐครับยินดีเช่นกันครับ เขาพูดอย่างสุภาพ พี่มินเป็นเจ้านายของน้ำค่ะชาลิสาแนะนำเสริมขึ้น เหรอครับ ณัฐนนท์ทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อยไม่เข้าใจว่า ทำไมหล่อนถึงเลือกทำงานกับผู้หญิงคนนี้ แทนที่จะทำงานกับตน คุณคนนี้มีอะไรดี? พี่ปิ่นพี่มิน นั่งด้วยกันนะคะ? แม่ลูกหนึ่งเอ่ยชวน ด้วยโต๊ะที่นั่งเป็นโต๊ะสี่ที่แค่ขยับเก้าอี้สูงของชามา คนอื่นก็นั่งทานได้อย่างสบายๆ ไม่ดีกว่าค่ะมินตราตอบปฏิเสธเสียงเย็น ไม่อยากทานร่วมโต๊ะ เกรงภาพบาดตาบาดใจจะทำให้อารมณ์บูดเน่าไปมากกว่านี้ มะกี้พูดถึงสาวยิ้มหน้าบานพอเจอเข้าจริงๆ ดันทำหน้างอเสียได้ ...อะไรของแก? ปิ่นสุดานึกงงกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ของเพื่อนสนิท จึงเอื้อมมือไปแตะข้อศอก แล้วพูดขึ้น ทานโต๊ะนี้แหละจะได้นั่งคุยกันด้วย อีกคนถอนหายใจเบาๆฝืนใจกล่าวออกมา แล้วแต่แก รบกวนด้วยนะคะสาวร่างเล็กบอกกับคนชวน หลังสองคนทรุดนั่งลงโดยปิ่นสุดานั่งข้างหนุ่มหล่อ ส่วนมินตรานั่งติดกับชามาฝั่งเดียวกับหล่อน ชาลิสาโบกมือเรียกเด็กมารับออเดอร์หลังจากสั่งอาหารแล้วสามคนที่มาจากบ้านเดียวกันก็คุยกันอย่างถูกคอ ร่างสูงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ ไม่นานอาหารที่สั่งก็ถูกยกมาวางทั้งห้าจึงเริ่มรับประทานอาหาร ชาลิสาชำเลืองดูลูกสาวที่ตักอาหารทานเองบ้าง ฟังณัฐนนท์คุยบ้างก่อนหลุดหัวเราะออกมากับมุกตลกของเขา ฉันมันคุยไม่สนุกแบบหมอนี่...รีบทานดีกว่าจะได้รีบกลับ สาวหน้าคมตั้งใจแบบนั้นมุ่งสนใจไปที่ความอร่อยตรงหน้า ตักทานอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้รีบไปจากความอึดอัดคับข้องใจให้เร็วที่สุด ที่ทำเป็นไม่สนใจน้ำแบบนี้...คงหึงสินะ ปิ่นสุดานึกเดาความคิดอ่านของเพื่อนสนิทที่ไม่เคยแสดงอาการเย็นชากับชาลิสาขนาดนี้มาก่อน เธอชายตามองไปยังหล่อนที่วางตัวเป็นปกติแถมคุยกับลูกเลี้ยงอย่างสนุก มีเสียงหัวเราะหลุดออกมาหลายครั้ง แสดงว่าน้ำไม่รู้ว่ามินคิดอะไรด้วยเวรกรรม! นึกอ่อนใจกับโชคชะตาของเพื่อนรักซึ่งดูมีความหวังริบหรี่ คาดว่าคงไม่แคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกร้อยแก้วเป็นแน่ มินตราทำหน้าไม่รับแขกเคี้ยวตุ้ยๆตั้งใจรับประทานประหนึ่งว่ากำลังแข่งทานเร็ว ยิ่งหล่อนหัวเราะมากเท่าไหร่หญิงสาวก็ยิ่งปวดแปลบหัวใจมากเท่านั้น เข้าใจไปว่าสาวสวยถูกใจหนุ่มหล่อเป็นพิเศษ ด้วยไม่เคยเห็นหล่อนมีความสุขแบบนี้มาก่อน คุณน้ำคงชอบผู้ชายคนนี้...ฉันจะไปสู้อะไรได้ แม้ณัฐนนท์จะมีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของชาลิสาแต่หากสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ แถมฐานะร่ำรวยทั้งสองฝ่าย จึงไม่จำเป็นต้องแคร์เสียงนกเสียงกาเลยก็ยังได้ ข้อดีอีกอย่างคือชามาจะได้มีพ่อ ไม่ต้องเป็นกำพร้าอีกต่อไป ซึ่งเธอมองออกว่าเขาเอ็นดูเด็กหญิงไม่น้อย ก็แค่อกหักสองครั้งจากผู้หญิงคนเดียวกัน แค่นี้ไม่ตายหรอก นึกปลอบใจตัวเองหันไปมองหนูน้อยที่โชว์ตักทานข้าว แล้วหันมาส่งยิ้มให้ โดยมีเศษข้าวติดแก้มกลมๆเป็นของแถม หญิงสาวจึงผุดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู แล้วหยิบเม็ดข้าวนั้นออกจากแก้ม เก่งมากค่ะชามา วันนี้ป้ามินว่างไหมคะ?เสียงเล็กใสๆ เอ่ยถาม สาวเพรียวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนย้อนถาม ชามามีอะไรคะ? หนูอยากเล่นกับป้ามินค่ะได้ไหมคะ? เด็กน้อยเอ่ยขอเสียงแผ่ว อยากเล่นกับฉัน... คนฟังอึ้งไปกับคำขอร้องที่ชวนใจอ่อนเสียเหลือเกิน ชามาคะป้ามินมีงานเยอะนะคะ ไว้วันหลังนะคะลูก วันนี้เล่นกับแม่ก่อน ชาลิสารีบอธิบายกับชามาด้วยความเกรงใจว่า ลูกสาวจะไปรบกวนเวลาส่วนตัวของอีกคนที่ต้องไปทำงานสำคัญอย่างอื่น คราวก่อน มินตราใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งหลังขดหลังแข็งต่อบ้านLEGO ให้จนเสร็จ ก็นับว่ารบกวนมากเกินไปแล้ว ที่สำคัญคือหล่อนไม่อยากให้ลูกสาวติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง จึงต้องปรามไว้ไม่ให้เหลิงตั้งแต่เด็ก ค่ะ หนูน้อยทำหน้าเศร้าลงเมื่อได้ยินมารดาพูดแบบนั้น มินตรารู้สึกสงสารเด็กหญิงจับใจกลอกตาไปมาคิดตารางงานในสมองอย่างฉับไว ว่าพอจะปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง น่าจะพอได้ พรุ่งนี้เย็นป้ามินไปหานะคะ จริงนะ?เสียงชามาร่าเริงขึ้นทันที ค่ะ อีกคนย้ำอย่างอ่อนโยน ขอบคุณค่ะ เด็กน้อยโน้มมาหอมแก้มมินตราหนึ่งฟอด ร่างสูงเลยหอมอีกฝ่ายกลับแล้วยิ้มกว้างที่เห็นชามาหัวร่อคิกคัก พี่มินตามใจชามาเกิน ชาลิสายิ้มมุมปากกับสาวสองวัยที่ดูจะเป็นเพื่อนสนิทไปเสียแล้ว ท่าทางเข้ากันดีมากเลยนะนั่นปิ่นสุดายิ้มน้อยๆ พอดีเลย พรุ่งนี้วันเกิดของชามาด้วยนี่ครับณัฐนนท์เปรยขึ้น บ่งบอกว่าจดจำเรื่องราวของสองแม่ลูกได้ไม่น้อย หืม! มินตราปรายตาคู่คมมองไปที่คุณแม่ยังสาวเหมือนจะถามว่า ไม่คิดจะชวนกันหรือไง? สาวสวยเหมือนจะอ่านใจอีกคนได้จึงเอ่ยขึ้นว่า ถ้าพรุ่งนี้พี่มินกับพี่ปิ่นว่างก็ไปทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกันนะคะ เป็นแค่งานเลี้ยงเล็กๆ ในครอบครัวค่ะ หญิงสาวเอียงคอมองหนุ่มหล่อที่นั่งตรงข้ามแล้วก็มีคุณณัฐอีกคน ครับ ณัฐนนท์รับคำ งั้นพี่ไปด้วยน้ำพรุ่งนี้เย็นพี่ว่างพอดี ปิ่นสุดาตกปากรับคำ ไม่พลาดเรื่องสนุกๆ อยู่แล้วโดยเฉพาะกับชาลิสาที่นับว่ารู้จักกันมานาน แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือเธออยากช่วยลุ้นเพื่อนรักให้สมหวังและต้องการทดสอบสมมติฐานบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในสมอง การทานอาหารมื้อนี้ทำให้สาวร่างเล็กมองออกว่า ณัฐนนท์มีใจให้ชาลิสาไม่น้อย แต่ติดตรงที่ไม่รู้ว่า...เจ้าหล่อนคิดอย่างไร?เป็นเรื่องที่ปิ่นสุดาอยากรู้ เพื่อให้มินตรามีเวลาทำใจได้ทัน ลึกๆ เธอเดาว่าหล่อนไม่มีทางคิดกับเขาเกินเพื่อนหรือญาติ หากเลือกพี่ณัฐน้ำคงไม่ลงมากรุงเทพฯ หลังอาณรงค์เสีย ขอบคุณค่ะพี่ปิ่นแม่ลูกหนึ่งยิ้มกว้างให้พี่สาวที่สนิทกัน แล้วหันสบตากับมินตรา เอ่ยชวนเสียงอ่อนหวานเป็นพิเศษแต่เป็นคำชวนกึ่งบังคับกลายๆ พรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่มิน เอ่อ ค่ะ มินตรารับปากไม่เต็มเสียงนัก เย้ๆ เสียงใสๆเปล่งร้องออกมาอย่างยินดี ใบหน้ากลมแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับเป็นคนโชคดีที่สุดในโลกก็ไม่ปานหนูน้อยพลอยทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่ยิ้ม มีความสุขตามไปด้วย ชามาดูจะติดคุณมินน่าดูเลยนะครับณัฐนนท์ออกปาก ด้วยไม่ค่อยเห็นน้องสาวคนเล็กติดใคร นอกจากสมาชิกในครอบครัวของชาลิสาแม้แต่ตัวเขาเองน้อยครั้งที่อีกคนจะเล่นด้วย วันไหนอารมณ์ดี ถึงจะยอมให้อุ้มบ้างเท่านั้นจึงอดสงสัยมากว่า ทำไมแม่ลูกคู่นี้ถึงได้ติดอกติดใจร่างสูงนัก...นึกคุ้นชื่ออีกฝ่ายแต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตงิดๆใจที่สุดคือ สุ้มเสียงชาลิสาอ่อนหวานกว่าปกติยามสนทนากับสาวเพรียว รีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป ฉันคงคิดมากไปเอง ติดแจตั้งแต่วันแรกที่เจอเลยค่ะปิ่นสุดาเล่าขึ้น เหรอครับ สงสัยเคมีจะตรงกันสาวร่างเล็กพูดติดตลก ชายหนุ่มซ่อนความสนเท่ห์ในใจยิ้มบางๆ ออกมา ก็เป็นไปได้ครับ น่าจะเพราะพี่มินใจดีมั้งคะเด็กๆ จะไวกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ชาลิสาที่ฟังอยู่เอ่ยเสริมขึ้น สายตาจับจ้องมินตราใช้ทิชชู่เช็ดปากกับแก้มที่เลอะของชามาอย่างเอาใจใส่การแสดงออกของผู้หญิงคนนี้ เต็มไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยน...แม้แต่หล่อนก็สัมผัสได้ แค่ใจดีเหรอ? ณัฐนนท์นึกสงสัยมากขึ้นไปอีกแต่ไม่ปริปากถามออกไป เดี๋ยวมินต้องกลับไปทำงานต่อขออนุญาตเป็นเจ้ามือนะคะสาวผมสั้นกล่าวขึ้น หลังมองเวลาเกือบบ่ายโมง พลางโบกมือเรียกบริกรหนุ่มมาเช็คค่าเสียหาย ขอผมดีกว่านะครับชายหนุ่มเสนอตัวบ้าง ด้วยเป็นสุภาพบุรุษคนเดียวในโต๊ะ ทว่ามินตราไม่ยอมแพ้วางแบงค์พันบาทใส่ถาดให้พนักงานหนุ่ม ที่โค้งคำนับ แล้วเดินกลับไปก่อนหันไปบอกกับลูกเลี้ยงของหล่อน ขออนุญาตค่ะ ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย ชาลิสาแอบขำในใจสัมผัสได้ว่าหนึ่งหญิงหนึ่งชายเหมือนศรศิลป์ไม่กินกันแต่ด้วยสาเหตุใดนั้น...หล่อนยังไม่แน่ใจ พี่ณัฐพักที่ไหนคะ?ปิ่นสุดาถามผู้ชายหนึ่งเดียวของโต๊ะ โรงแรมแถวนี้แหละพี่มาติดต่อเรื่องงานพรุ่งนี้เช้า วันนี้ว่างเลยโทรชวนคุณน้ำกับชามามาทานข้าว อ๋อ ค่ะ บริกรคนเดิมยกถาดเงินทอนมาส่งให้ลูกค้ามินตราหยิบเงินทอน โดยวางทิปให้จำนวนหนึ่ง ขอบคุณครับ เธอกวาดตามองเพื่อนร่วมโต๊ะก่อนเอ่ยขอตัว ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะคะ ปิ่นต้องกลับไปทำงานต่อเหมือนกันปิ่นสุดาบอก งั้นก็สลายตัวค่ะหล่อนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ทั้งหมดลุกออกจากโต๊ะพร้อมกันมาแยกกันที่หน้าร้านอาหาร ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะพี่มินชาลิสาเอ่ยเสียงหวาน สาวร่างสูงยิ้มน้อยๆ ให้ หล่อนหันบอกกับลูกสาว ขอบคุณป้ามินด้วยค่ะชามา ขอบคุณค่ะป้ามินเสียงใสๆ บอกตามที่มารดาสั่ง พรุ่งนี้เจอกันค่ะหนูน้อยมินตราบอกอย่างอ่อนโยน พลางโบกมือให้ด้วย เด็กหญิงโบกมือพลางส่งจูบอย่างน่ารัก บ๊าย บาย สาวเท่สบสายตากับหนุ่มหล่ออย่างแฝงความนัยพร้อมยกยิ้มมุมปาก เธอหันไปสบตาและส่งยิ้มให้กับสาวหวาน ซึ่งหล่อนยิ้มตอบ ปิ่นสุดาโบกมือร่ำลาคนคุ้นเคย หลังสองสาวจากไปชาลิสาอุ้มชามาขึ้นบ่า แล้วเอ่ยกับลูกเลี้ยง พรุ่งนี้เจอกันนะคะคุณณัฐ ครับ บายพี่ณัฐสิคะชามา บายค่ะ เด็กน้อยยกมือขึ้นโบกไหวๆ ณัฐนนท์ยืนมองสาวสวยกับลูกจนกระทั่งหายลับสายตาไป จึงหมุนตัวไปยังอีกทาง ก้าวย่างอย่างเชื่องช้า ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายมีหลายอย่างอยากจะบอกกับชาลิสา...แต่ไม่กล้าพอสักที ยาก ขุนเขาสูงร้อยโยชน์ เสียดฟ้า มิยากเกินปีนฝ่า ยอดได้ จักพิชิตขวัญตา ยากยิ่ง กว่านา เททุ่มใจไปให้ ห่อนได้กลับคืนฯ. OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ
หนังสือยังเหลืออีกนิดหน่อย สั่งซื้อได้นะคะ ที่ลิงค์ 'สินค้า'
ส่วน E-book โหลดซื้อได้ที่ MEB ค่ะ นาง ^^ OoXoO
Create Date : 03 พฤษภาคม 2561 |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2561 19:23:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 563 Pageviews. |
|
|