Million Reasons บทนำ (Yuri)
บทนำ สี่ปีก่อน มินตราต้องบินไปร่วมงานแต่งงานที่จังหวัดทางภาคเหนือแทนบิดา ด้วยอีกฝ่ายเป็นคู่ค้าสำคัญทางธุรกิจเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของตลาดหลายแห่งเป็นมหาเศรษฐีพ่อม่ายลูกติดที่กำลังจะเข้าพิธีสมรสครั้งที่สี่ กับหญิงสาวอายุอายุอ่อนกว่าลูกชายหลังเลิกรากับภรรยาคนที่สามไปได้ไม่นาน แต่งงานกับสาวน้อยแบบนี้...ไม่รู้ผู้หญิงหวังใช้เต้าไต่หรือเปล่า? สาวเพรียวอดจะนึกแบบนั้นไม่ได้ หลังเห็นข่าวผ่านตาบ่อยครั้งว่าผู้หญิงหน้าตาสวยสมัยนี้ มักจะเลือกเศรษฐีแก่รุ่นพ่อมากกว่าคนรักที่มีแค่ตัวกับหัวใจรักแท้จึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ...ไม่มีใครอยากเหนื่อยเริ่มต้นชีวิตจากติดลบ ส่วนผู้ที่ไม่ได้สะสวยเพราะแม่ให้มาจะอดออมเก็บเงินเพื่อบินไปผ่าตัดเสริมโน่นนิดนี่หน่อย ทำหน้าทำตาทำอกเต่งตึง สวยสั่งได้เพราะมีดหมออยากสวยอย่างไรก็เลือกเอา ผ่าตัดจนแทบไม่เหลือเค้าหน้าเดิม หลังแปลงกายแล้วกลายเป็นคนดังในสังคมก็มีจำนวนไม่น้อย คาดว่าอีกไม่นานมนุษย์จะมีแฝดคนละฝา ที่เหมือนราวกับหลุดจากพิมพ์เดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายโลกนี้อาจไม่มีคนขี้เหร่หลงเหลืออีกก็เป็นได้ หน้าตามันสวยได้ตลอดกาลที่ไหน...ประสาท! มินตราสะบัดความคิดในหัวทิ้งขณะย่างเท้าเข้าไปยังโรงแรมหรูที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานโดยเลือกแต่งชุดราตรีเพื่อให้เกียรติเจ้าภาพ แต่เธอแต่งอย่างไรก็คงดูเหมือนหญิงเท่มากกว่าสาวอ่อนหวานพอก้าวผ่านประตูเข้าไป พลันได้ยินเสียงคุยกันของหญิงชายคู่หนึ่งที่เข้าข่ายมนุษย์จำพวกปากหอยปากปูอิจฉาตาร้อน นินทาทุกเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของตัวเองเป็นปกติ ยายคนนี้มีอะไรดีนอกจากหน้าตาทำไมพ่อเลี้ยงถึงได้เลือก ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ?พนักงานสาวของโรงแรมกระซิบกระซาบถามเพื่อน ซิงค์มั้งเห็นว่าเพิ่งเรียนจบนี่ อายุน่าจะแค่ยี่สิบต้นๆ พนักงานชายใจสาวจีบปากจีบคอตอบ ทะลึ่งแล้วแก ทะลึ่งตรงไหน ฉันว่าพ่อเลี้ยงตาถึงต่างหากอีกฝ่ายเล่าต่อเสียงสะบัดสะบิ้งดูตื่นเต้น ตอนแรกหล่อนก็ดูธรรมดามากแต่พอแต่งหน้านะแก สวยโคตรๆ เลย ถ้าฉันไม่เป็นแบบนี้ รับรองต้องจีบแน่ ขนาดนั้นเชียว?เธอย้อนถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เออสิ พนักงานหนุ่มใจหญิงยืนยันหนักแน่น งั้นฉันต้องแวบไปดูหน่อยแล้วนึกอยากเห็นเต็มแก่ ว่าเจ้าสาวจะสวยขนาดไหนกันเชียว อย่าอู้นานนะแกเดี๋ยวหัวหน้ามาจะซวยกันทั้งคู่ เออน่าแป๊บเดียว แล้วผู้หญิงคนนั้นก็รีบเผ่นไปขึ้นบันไดทันที อะไรกันนักหนา มินตรานึกบ่นในใจอย่างหงุดหงิดไม่ชอบการนินทากาเลที่ดูเป็นงานประจำของพวกอิจฉาตาร้อน ที่ชอบสอดแส่เรื่องชาวบ้านโดยไม่คิดจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เธอมองชื่อผู้โทรเข้าก่อนกดรับสาย ว่าไง? ถึงหรือยัง?เสียงคนในสายกรอกถามมา ถึงแล้ว กำลังจะขึ้นไป ฉันรออยู่หน้าทางเข้านะ อือ สาวเท่ขานรับเบาๆกดวางสาย ก่อนก้าวขึ้นบันไดไป ป้ายงานสมรสติดโชว์หราอยู่ด้านหน้าใกล้ทางขึ้น แขกเหรื่อที่มาถึงไม่จำเป็นต้องสอบถามใครก็เข้าไปในงานถูก สาวเพรียวไปปรากฏตัวหน้างานในอีกไม่กี่อึดใจเห็นซุ้มดอกไม้ที่ประดับอย่างหรูหราอลังการ มีรูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวขนาดเกือบเท่าตัวจริงติดอยู่หลายรูปที่หน้าทางเข้าเชื่อว่าหลายคนคงแอบคิดว่า คลับคล้ายรูปถ่ายคู่ของบิดากับลูกสาวมากกว่าสามีภรรยา ...แต่คาดว่าไม่มีใครกล้าปริปากออกมา แขกกว่าสิบคนยืนรอลงชื่อในสมุดที่น่างานมินตราขี้เกียจไปยืนรอ จึงใช้เวลาช่วงนี้พินิจพิจารณารูปเจ้าสาวชัดๆ เป็นครั้งแรก ใบหน้ารูปไข่มีเครื่องเคราประดับอย่างพอเหมาะพอเจาะ ปากสวยได้รูป จมูกโด่งเชิดดูรั้นนิดๆนัยน์ตาคู่หวานดูเศร้าสร้อย ไม่เหมือนคนมีความสุขนัก สวยชะมัดไปประกวดนางงามนางแบบสบาย น่าเสียดายเหมือนเอาดอกไม้ปักบนกองขี้ควาย นึกประชดกับความไม่เหมาะสมที่ขัดใจอย่างที่สุดสาวร่างสูงจ้องรูปแทบไม่วางตา จนกระทั่งได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากข้างๆ จ้องนานไปหรือเปล่า?ปิ่นสุดาเปรยขึ้น มินตราเอียงคอยิ้มกว้างให้เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นปีหลังเรียนจบปิ่นสุดาย้ายกลับมาทำงานที่บ้านเกิดทางเหนือ จึงคุยกันแชทกันผ่านเครื่องมือสื่อสารเสียส่วนใหญ่ สาวเพรียวผวาเข้าไปกอดอีกฝ่ายแบบคุ้นเคย ปิ่นคิดถึง เจอปุ๊บกอดปั๊บจะคิดถึงอะไรขนาดนั้น สาวร่างเล็กหัวเราะร่วน ก่อนยกแขนกอดตอบ ช่วงนี้ฉันยุ่งไม่ค่อยได้กอดสาว เลยขาดความอบอุ่น มินตรากระซิบตอบกวนๆ เห็นฉันเป็นตัวสำรองเหรอเนี่ยรีบปล่อยเลย อีกคนรับมุกแสร้งทำงอน ดันไหล่เพื่อนให้ผละออกห่าง แหมๆ ไม่เจอนานหน่อยทำเป็นเล่นตัวนะ ฉันจะคิดค่าสึกหรอให้กระเป๋าแกแฟบเลย โหงกไปหรือเปล่า ทั้งคู่หยอกล้อกันเหมือนตอนสมัยเรียนก่อนหัวเราะออกมา พอเห็นสายตาหลายคู่มองมา เสียงหัวเราะจึงค่อยจางหายและเป็นปิ่นสุดาพูดชวนขึ้น ไปหาเจ้าภาพก่อน อือสาวเพรียวพยักหน้า ปิ่นสุดาเดินนำไปยังซุ้มดอกไม้หน้าทางเข้างานที่สุดหรูหราซึ่งมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวคอยต้อนรับแขกอย่างเป็นกันเองทั้งคู่รอจนแขกที่มาก่อนเข้าไปในงาน จึงก้าวไปทักเจ้าภาพ คุณอาคะแขกคนสำคัญค่ะ ปิ่นกล่าวกับเจ้าบ่าวอย่างคุ้นเคย ชายสูงวัยในชุดเจ้าบ่าวมองไปยังผู้หญิงที่ยืนข้างปิ่นสุดาแล้วยิ้มออกมา อ้าว หนูมิน มินตรายกมือไหว้เจ้าบ่าววัยเฉียดแซยิดที่สวมชุดสูทราคาแพงโดยไม่มีเวลามองเจ้าสาวเลยสักนิด สวัสดีค่ะคุณอายินดีด้วยนะคะ ณรงค์รับไหว้ก่อนถามไถ่ ขอบคุณที่มานะครับแล้วคุณพ่อล่ะ? คุณพ่อไม่ค่อยสบายค่ะมินเลยมาเป็นตัวแทน เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?เจ้าบ่าวถามอย่างเป็นห่วง ด้วยรู้จักกันมาหลายสิบปี ไม่เป็นอะไรมากคุณหมอให้พักระยะหนึ่งค่ะ ก็ดีครับ ฝากความระลึกถึงไปด้วยนะเขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ค่ะคุณอา ชุดสวยมากเลยนะครับ ขอบคุณค่ะ เธอยิ้มรับคำชม คุยเพลินลืมแนะนำภรรยา ณรงค์หัวเราะเบาๆ หันหน้าไปมองผู้หญิงสวยในชุดเจ้าสาวที่ยืนอยู่ข้างกายแล้วแนะนำชื่อ นี่ชาลิสา ส่วนนั่นคุณมินตรา สวัสดีค่ะ เสียงหวานไพเราะราวกระดิ่งกล่าวขึ้นหล่อนพนมมือขึ้นไหว้สาวเพรียวอย่างอ่อนน้อม ก่อนแย้มยิ้มออกมา ยินดีด้วยนะคะมินตราพูดตามมารยาท พร้อมรับไหว้ สวย...สวยมาก เธอหัวใจกระตุกลืมหายใจไปหลายวินาที หลังเห็นวงหน้าสวยหวานชัดเต็มสองตา เดาว่าหล่อนน่าจะอายุน้อยกว่าตนเล็กน้อยแก้มเนียนแต่งแต้มสีชมพูอ่อน เรียวปากได้รูปทาลิปสติกสีหวาน นัยน์ตาสีเข้มเกือบดำสนิทดูน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ต่างจากลูกกวางน้อย จมูกโด่งเป็นสันแพผมยาวสีดำปล่อยสยายแผ่เต็มหลัง ประดับประดาเล็กน้อย ยิ่งเสริมให้หล่อนดูงดงามลงตัวประหนึ่งนางฟ้าตกสวรรค์ ...หากจะบอกว่าชาลิสาเป็นสเปคสาวในฝันของใครหลายคน ก็คงไม่ผิดนัก ผู้หญิงคนนี้สวยกว่าในรูปเป็นสิบเท่า ร่างสูงอดที่จะชื่นชมแบบนั้นไม่ได้ ใกล้เวลาแล้วนะครับพ่อเลี้ยงลูกน้องคนหนึ่งของณรงค์กระซิบเตือน เพื่อไม่ให้เสียฤกษ์ ณรงค์พยักหน้าก่อนหันมาเชื้อเชิญแขกสาว เข้าไปในงานกันเถอะครับ ค่ะคุณอามินตรารับคำเบาๆ หันไปพยักหน้ากับปิ่นสุดา เจ้าบ่าวขยับแขนจับจูงมือเจ้าสาวคนสวยเดินเคียงข้างเข้าไปในห้องจัดงานที่ทุ่มทุนเช่าทั้งฟลอร์ของโรงแรมมีโต๊ะกลมเรียงรายมากกว่าห้าร้อยโต๊ะ แขกเหรื่อมาร่วมนั่งแน่นขนัดมีทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตั้งแต่รัฐมนตรี จนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด มหาเศรษฐีและนักธุรกิจ ...นับเป็นงานใหญ่มากเลยทีเดียว ปิ่นสุดาชวนมินตราไปนั่งโต๊ะที่อยู่ท้ายๆห้อง ด้วยไม่อยากเป็นเป้าสายตาของคนอื่นเหลือบมองสายตาเพื่อนสนิทที่ยังคงมองตามหลังคู่บ่าวสาวที่ก้าวไปบนเวที คิดอะไรอยู่? สาวเพรียวหันมองคนถามฝืนยกยิ้มออกมา ฉันก็แค่สงสัย... ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเลือกได้เพื่อนสนิทตอบเสียงเรียบ พอเดาได้ว่า อีกฝ่ายสงสัยเรื่องอะไร ปิ่นสุดาสนิทสนมกับครอบครัวชาลิสาจึงพอรู้สาเหตุที่สาวสวยตกลงแต่งงานกับผู้ชายอายุคราวพ่อ สงสัยชาติก่อนหล่อนจะเคยถวายดอกไม้ที่บอบช้ำเหี่ยวแห้ง ถึงได้สามีแก่ชราคราวพ่อแบบนี้ มินตราพลันนึกถึงความเชื่อของคนโบราณที่ย้ำนักหนาให้เลือกดอกไม้ถวายพระอย่างพิถีพิถัน คัดดอกไม้ที่สวยสดงดงาม ไม่เช่นนั้นจะส่งผลต่อถึงลักษณะคู่ครองในอนาคต ...ซึ่งเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล สาวเพรียวนั่งอยู่เป็นสักขีพยานในงานที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ใจหดหู่ห่อเหี่ยวประหนึ่งอกหัก กับความหวังลมๆ แล้งๆแอบหลงรักคนมีเจ้าของทั้งที่เพิ่งเจอในวันที่หล่อนกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ...พบกันสายไปมันน่าเสียดาย ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง เนื้อเพลงดังในอดีตท่อนสุดท้ายล่องลอยผ่านมาในหัวเธอสะบัดหน้า นึกก่นด่าตัวเองในใจ บ้าไปแล้วใช่ไหมมินตรา ระทม นึกสงสัยฉันคงทำบุญน้อย รักหลุดลอยไม่สมดั่งใจหวัง เป็นรักซ้อนซ่อนเงื่อนใจภินท์พัง เจียนจะคลั่งนิจจาเอ๋ยสุดระทม.
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2561 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2561 13:10:37 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1059 Pageviews. |
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ตะลีกีปัส Home & Garden Blog ดู Blog
นิ้วนาง-เดียนา Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น