Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
8 ธันวาคม 2558

ภาพสลัก รามเกียรติ : วัดพระเชตุพน (จบ)



ขณะยกทัพออกจากเมืองเกิดลางร้าย
ฟ้าผ่าถูกรถทรงทศกัณฐ์ มูลพลัมจึงให้ทศกัณฐ์กลับเข้าเมืองก่อน
ส่วนตนและพี่ชายจะไปรบกับพระรามแทน
สหัสเดชะทรงรถเข้าสู่สนามรบ



ทัพของเมืองปางตาล



มูลพลัมถือหอกสัตตโลหะนำหน้ากระบวนทัพ



ทัพยักษ์แห่งเมืองปางตาล



พิเภกทูลพระรามว่ามูลพลัมและสหัสเดชะมีฤทธิ์มาก
หนุมานคงสู้ไม่ได้ ให้พระรามออกไปรบเอง



เมื่อพระรามและพระลักษมณ์คุมทัพออกไปรบ
สหัสเดชะได้รับพรพระพรหมว่า หากเข้าต่อสู้กับศัตรูใด
ศัตรูนั้นก็จะต้องเกรงกลัว ทำให้ไพร่พลลิงทั้งหมดหลบหนีไป

พระรามจึงให้พระลักษมณ์ สุครีพหนุมาน และสิบแปดมงกุฎ
กลับไปตามไพร่พลลิงมา ส่วนสหัสเดชะเห็นแต่พระรามและพิเภก
จึงคิดว่าศัตรูมีกำลังเท่านี้ ทำไมทศกัณฐ์มาลวงว่าเป็นศึกใหญ่
จึงกลับไปกรุงลงกา



มูลพลัมพุ่งหอกสัตตโลหะใส่พระลักษณ์



พระลักษณ์ถูกหอกล้มลง หนุมานเข้ามาช่วยดึงหอก พระลักษณ์จึงฟื้น



มูลพลัมต้องศรพลายวาตของพระลักษณ์ตาย



พิเภกทูลพระรามว่า หากสหัสเดชะรู้ว่ามูลพลัมตาย คงยกทัพมาแก้แค้น
และสหัสเดชะนั้นมีฤทธิ์ด้วยกระบองวิเศษ เอาโคนชี้ถูกใครจะตาย
เอาปลายชี้จะกลับฟื้นขึ้น ควรให้หนุมานไปเอากระบองวิเศษมา



หนุมานแปลงเป็นลิงเผือกตัวเล็ก ไปคอยทัพสหัสเดชะ เมื่อเห็นทัพสหัสเดชะ
แล้วทำเป็นวิ่งผ่าน สหัสเดชะโกรธ แต่หนุมานบอกว่า ตนเป็นข้ารับใช้
พระยาพาลีที่เมืองขีดขิน ซึ่งถูกพระรามฆ่าตาย แล้วเอาตนมาใช้สอยจึงหนีมา
กลัวถูกตามฆ่า จึงวิ่งผ่านหน้ามา สหัสเดชะเชื่อ จึงให้มานั่งหน้ารถด้วย

หนุมานขอไปนั่งหลังรถ แล้วร้องให้บอกสหัสเดชะว่า ตนคิดถึงญาติพี่น้องที่จะต้องมาตาย
สหัสเดชะจึงบอกไม่ให้ไพร่พลฆ่าญาติของหนุมานตามที่กล่าวมา
จากนั้นหนุมานจึงขออาวุธไว้ต่อสู้ สหัสเดชะจึงมอบกระบองไห้ไว้



เมื่อได้อาวุธแล้วหนุมานได้กลายร่างเดิม สหัสเดชะรู้ว่าหลงกลก็โกรธ
เข้าต่อสู้กับหนุมานถูกเอาหางมัดตัวไว้ หนุมานใช้ตรีเพชรตัดหัวขาดตาย

153-154
ความจริงแผ่นภาพทั้ง 152 แผ่นนั้น ล้วนมีโคลงจำหลักไว้
มีเพียง 2 แผ่นสุดท้ายที่มีเพียงโคลง แต่ไม่มีรูปประกอบ

ใครที่ไม่ได้อ่านตอนแรกขอกล่าวอีกครั้งว่า
โคลงที่สลักนั้นหายไปหมดแล้ว เพราะเป็นการจารตื้นๆ ไม่ใช่การแกะสลัก
แต่โชคดีที่ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการจดบันทึกไว้ในหนังสือจารึกวัดโฑธิ์

ขอนำโคลงสองบทสุดท้ายมาให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อจินตนาการ
ถึงความสวยงามแห่งวาทศิลป์ของเหล่ากวีศิลปินในสมัยรัชกาลที่ 3

แถลงความรามราชไท้ เทพี
ยืนรถริมวารี ฝั่งน้ำ
มงกุฎสิบแปดกระบี่ นบบาท พระนา
พระปฤกษาทัพซ้ำ เร่งให้เตรียมพล

สิบแปดมงกุฎเฝ้า จักรี ภพเฮย
ริมฟากฝั่งนที หยุดยั้ง
พระตรัสปฤกษามี มาโนช สั่งฤา
หาที่ไชยภูมิตั้ง ทัพสู้ดาษกร


เมื่อทำบลอกภาพสลักทั้งหมดมาจนถึงบรรทัดนี้
ส่วนตัวนั้นเมื่อได้อ่านโคลงประกอบแล้วให้ความรู้สึกมากมาย
จนจินตนาการตามได้ถึงบรรยากาศในยามนั้น

ที่พระรามทรงหยุดยั้งทัพเพื่อรอทำสงคราม ครั้งสุดท้าย



Create Date : 08 ธันวาคม 2558
Last Update : 9 ธันวาคม 2558 10:49:33 น. 4 comments
Counter : 949 Pageviews.  

 
ในที่สุดก็จบแว้ววว

โหวตความรู้ให้ค่ะ


ใช่ค่ะ รายได้เค้าสูง ค่าครองชีพก็สูงลิ่วเลยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 ธันวาคม 2558 เวลา:14:48:22 น.  

 
สนุกมาก ขอบคุณค่ะ
+


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 ธันวาคม 2558 เวลา:21:15:33 น.  

 
คิดว่าวันสองวันสามวันจะไปยืนจ้องที่วัดค่ะ
อิอิอิ


โดย: อุ้มสี วันที่: 9 ธันวาคม 2558 เวลา:11:17:53 น.  

 
152 แผ่น -- จบบริบูรณ์

ขอบคุณมากค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 ธันวาคม 2558 เวลา:18:33:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]