พัฒนาชีวิตด้วยปัญญา และความดี
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 

การลงทุนในหุ้นคืออะไร ทำไมจึงต้องลงทุนในตลาดหุ้น

ในชีวิตของคนทุกคนเริ่มตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องศึกษาหาความรู้ใส่ตนเอง เมื่อเรียนจบแล้วเป็นหนุ่มสาววัยทำงาน จนกระทั่งแก่เฒ่า และต้องเกษียณอายุในที่สุด เคยสังเกตกันบ้างมั้ยครับว่า “การดำเนินชีวิต” ของแต่ละคนเป็นอย่างไร พอเราทำงานมาจนถึงบั้นปลายชีวิต บางคนจบสวย คือ มีความมั่งคั่ง มีอิสรภาพทางการเงิน บางคนอาจจบไม่สวย คือ ไม่มีเงิน ยากจน เมื่อเลยวัยที่สามารถทำงานไปได้แล้ว... ผมลองยกตัวอย่างการดำเนินชีวิตของคน 3 คน ที่มี “วิธีคิด” ที่แตกต่างกัน ทำให้ชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไปด้วย มาดูไปด้วยกันเลยครับ

VI 01

คนที่หนึ่ง พนักงานประจำผู้มั่นคง

ชีวิตของคนๆ นี้มีความคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่าจะต้องหางานประจำที่มั่นคงทำ และทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเกษียณ โดยการทำงานประจำนั้นความเป็นจริงแล้วก็เป็นวิธีการที่ไม่เลว คือทำไปได้เรื่อยๆ มีเงินเดือนประจำทุกเดือน สิ้นปีก็มีโบนัส แถมเงินเดือนก็ขึ้นทุกปี ยิ่งฐานเงินเดือนมากก็ยิ่งได้เพิ่มเงินเดือนมากขึ้นทบต้นขั้นไปเรื่อยๆ ทุกปีๆ สิ่งที่ต้อง “แลก” กับความมั่งคงดังกล่าวก็คือ การทำงานอย่างหนัก และเวลาที่ต้องสูญเสียไปกับงาน สำหรับคนๆ นี้แล้ว “ความมั่งคงของชีวิต” ก็คืองานประจำนั่นเองครับ

คนที่สอง นักธุรกิจผู้มุ่งมั่น

สำหรับคนที่สองนี้แม้จะเคยทำงานประจำมาก่อนแต่ในใจกลับคิดฝันที่จะเป็นผู้ประกอบการ หรือทำธุรกิจส่วนตัวนั่นเอง เมื่อทำงานประจำไปได้ไม่กี่ปี เขาก็ได้ตัดสินใจลาออกจากงานมาก่อตั้งกิจการส่วนตัว โชคดีเป็นของเขาที่ประสบความสำเร็จ แต่ธุรกิจที่ทำนั้นเป็นธุรกิจขนาดย่อมที่เขาต้องทำเองแทบทุกอย่าง แม้จะได้เงินมาก แต่ก็ต้องเหนื่อยหนักกว่าตอนที่ทำงานประจำเสียอีก

คนสุดท้าย นักลงทุนแนวเน้นคุณค่า

สำหรับคนสุดท้ายนั้นเขาทำงานประจำและเก็บออมเงินเอาไว้สำหรับลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อเริ่มแรกการลงทุนนั้นยังไม่ออกดอกออกผล แต่เขาเชื่อในทฤษฏีการลงทุนแบบ “ทบต้น” และตั้งเป้าหมายของการลงทุนเอาไว้ว่าจะเป็นนักลงทุนระยะยาว กาลเวลาผ่านไปหลายปีการลงทุนของเขาก็เริ่มเห็นผล ทำให้ปัจจุบันนี้เขาลาออกจากงานประจำมาลงทุนเต็มตัว เฉพาะเงินปันผลต่อปีก็มากกว่าเงินที่ได้รับจากงานประจำหลายเท่า เขาสามารถใช้คำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ได้อย่างเต็มปากก็ว่าได้ครับ

จากตัวอย่างของบุคคลทั้งสามนั้น ผมอยากจะนำเสนอว่าการดำเนินชีวิต การทำงานหนักเพื่อสะสมความมั่นคงในชีวิต เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผลของการดำเนินชีวิตตามแบบฉบับของแต่ละคนก็จะส่งผลของมันออกมา มาดูเหตุผลกันว่า “ทำไมจึงต้องลงทุนในตลาดหุ้น”

เหตุผลข้อแรก “เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ”

50-stock 109 size by นายแว่นธรรมดานักวิจัยทางด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน เคยวิจัยเอาไว้ว่า หากอัตราเงินเฟ้อในวันนี้อยู่ที่ 3% ถ้าเรามีเงิน 1 ล้านบาท ผ่านไป 20 ปี ค่าของเงินจะลดลงเหลือ 5 แสนบาท (โดยประมาณ) หรือลดลงกว่าครึ่งของมูลค่าเริ่มต้น วิธีการที่จะเอาชนะเงินเฟ้อก็คือการวางเงินไว้กับการลงทุนที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ครับ เช่น หุ้นที่มีการเติบโตสูงกว่าภาวะเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นโตไว ที่มีการเติบโตสูงกว่า 10-15% ต่อปี เนื่องจากทำธุรกิจอยู่ใน “เมกะเทรนด์” หรืออยู่ในกระแสความนิยม ในกระแสของการบริโภคยุคใหม่ครับ

หลายคนอาจจะบอกว่าทำไม ไม่นำเงินไปฝากธนาคาร... อย่างที่เรารู้กันดีว่าธนาคารจะไม่รับฝากเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยชนะเงินเฟ้อ เนื่องจากธนาคารเองก็ต้องมีผลประกอบการที่เอาชนะเงินเฟ้อเช่นกัน ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์มักจะแพ้อัตราเงินเฟ้ออย่างราบคาบ และดอกเบี้ยเงินฝากประจำก็จะไม่ต่างจากเงินเฟ้อมากนัก โดยดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ณ.ปัจจุบันอยู่ที่ 3% เท่ากับเราแค่ปกป้องมูลค่าของเงินให้คงที่เท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีการเติบโตขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว

เหตุผลที่ 2 “เพื่อสร้างตัวปลดล็อกชีวิต”

สำหรับคนแรกนั้น ชีวิตแทบไม่มี “ตัวปลดล็อก” สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวก็คืองานประจำที่มั่นคง แต่หากวันใดวันหนึ่งงานประจำมันไม่มั่นคงอีกต่อไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นครับ สำหรับคนที่สองนั้น การทำธุรกิจส่วนตัวเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่จากสถิติย้อนหลังคนที่จะประสบความสำเร็จในการประกอบกิจการส่วนตัวนั้นถือได้ว่าเป็นคนส่วนน้อย แถมในปัจจุบันนั้นต้นทุนในการทำธุรกิจต้องถือว่าสูงมากขึ้นกว่าในอดีต ทั้งค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และราคาวัตถุดิบที่เราจะนำมาผลิตเป็นสินค้าของเราก็ปรับตัวขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อ ทำให้การประกอบกิจการส่วนตัวนั้นต้องอาศัยแรงกาย แรงใจ เป็นอย่างมาก และเหตุการณ์ของคนสุดท้าย ผมถือว่านักลงทุนแนวเน้นคุณค่าคนนี้ได้สร้าง “ตัวปลดล็อก” ให้กับชีวิตตนเองเอาไว้ครับ เมื่อตัวปลดล็อกยังไม่ทำงาน เขาก็ยังคงทำงานประจำ เพื่อผลิตกระแสเงินสดเข้าสู่ชีวิตอย่างต่อเนื่อง และนำเงินไปลงทุนแบบ “ทบต้น” เมื่อถึงเวลาที่เกิดการ “ปลดล็อกชีวิต” มันก็สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงออกมา ชีวิตที่ถูกปลดล็อก และเป็นอิสระแล้ว เราจะเลือกทำงานประจำต่อ หรือไม่ทำย่อมขึ้นอยู่กับเราครับ

เหตุผลที่ 3 “เพื่ออิสรภาพทางการเงิน”

เหตุผลข้อนี้สำคัญมากครับ คำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” นั้นหมายความว่า เรามีเงินใช้จ่ายอย่างไม่เดือดร้อน อย่างน้อยที่สุดก็คือการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ เราควรมีความสามารถ “จ่าย” ได้โดยไม่ต้องรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ นอกจากนั้นรายจ่ายจากการท่องเที่ยว จากเรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสิ่งจำเป็นถ้าเราสามารถ “จ่าย” ได้สบายๆ ก็หมายถึงอิสรภาพทางการเงินที่มากขึ้นครับ การลงทุนในหุ้นเป็นหนทางสำคัญสู่อิสรภาพทางการเงิน เพราะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้สบายๆ (หากลงทุนถูกวิธี) สามารถปลดล็อกชีวิตเราได้ และสามารถทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้อีกด้วย

เหตุผลข้อสุดท้าย “เพื่อสร้างความมั่งคั่ง”

การลงทุนในหุ้นนอกจากจะให้อิสรภาพทางการเงินกับเราแล้ว ยังสร้างความมั่งคั่งให้กับเราด้วยครับ ความมั่งคั่งในที่นี้หมายถึง ความร่ำรวย ที่เราสามารถมีได้ทุกคน หากเราเริ่มต้นเสียแต่วันนี้ โดยการเติบโตของการลงทุนในหุ้นนั้นถ้าเราลงทุนถูกวิธีจะเติบโตแบบ “ทบต้น” หรือภาษาวิชาการหน่อยก็คือการเติบโตแบบ Exponential ซึ่งการเติบโตแบบนี้เป็นการเติบโตตามธรรมชาติอยู่แล้วครับ เพียงแต่เราต้องลงทุนอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้การเติบโตทบต้น เราจะกล่าวในบทต่อๆ ไปครับ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างรูปแบบการใช้ชีวิตเท่านั้นครับ บางคนอาจประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเป็นลูกจ้างมืออาชีพ บางคนอาจทำธุรกิจจนร่ำรวย บางคนอาจพบอิสรภาพทางการเงินจากการลงทุนในหุ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกออกแบบชีวิตให้เป็นอย่างไร แต่ถ้าใครสนใจการลงทุนในหุ้นแล้ว ลองติดตามเนื้อหาต่อๆ ไปดูนะครับ ต่อจากนี้ไปผมจะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น ลงทุนอย่างไรให้รวย ลงทุนอย่างไรให้ถูกต้อง และจะเริ่มต้นการลงทุนแบบมือใหม่สุดๆ ได้อย่างไร โปรดติดตามกันนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

ใครเป็นใครใน "นายแว่นธรรมดา"

ทั้งหมด "บอกเล่า" เรื่องราวของทีมงานที่อยู่ข้างหลังเว็บครับ

“นายแว่นธรรมดา” (ผู้ก่อตั้ง)
นักลงทุนผู้มุ่งมั่น อยู่ในตลาดหุ้น ตลาดการลงทุนมานานหลายปี ขออาสาถ่ายทอดความรู้การลงทุนจากประสบการณ์จริงครับ

“ลุงยุทธ์” (กูรูประจำเว็บ)
นักลงทุนมากประสบการณ์ มีประสบการณ์การลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้นมายาวนาน เป็นที่ปรึกษา กูรูประจำเว็บนายแว่นธรรมดาครับ

“คุณแฟน” (ผู้ก่อตั้งร่วม)
แฟนของนายแว่นธรรมดา สาวผู้มุ่งมั่นในการทำธุรกิจส่วนตัว ด้วยการขายของออนไลน์ กระเป๋าผ้าสไตล์ญี่ปุ่น เจ้าของแบรนด์ OBS ผู้ดูแลเว็บ
นายแว่นธรรมดา SHOP หรือถ้าสนใจกระเป๋าผ้าสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไปเยี่ยมกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/openbagstory

“Mr Top of Living” (ผู้ดูแลเว็บ)
ผู้ดูแลเว็บ Topofliving.com หนุ่มไฟแรงผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ตามไปรีวิวบ้านโครงการเด่น ที่ไหนดี ทำเลเจ๋ง เขาจะตามไปรีวิวมาให้ผู้ที่มองหาบ้านหลังแรกได้ชมกันครับ ติดตามได้ที่นี่ //www.topofliving.com

“Mr หนุ่ม” (นักเขียนประจำเว็บ)
นักเขียนประจำเว็บนายแว่นธรรมดา เป็นหนุ่มวิศวกรรุ่นใหม่ไฟแรงจากรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในระยะยาว ฝากติดตาม Mr. หนุ่มและบทความจากหนุ่มไฟแรงคนนี้ด้วยนะครับ

(ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ)
www.naiwaen.com


“เปิดรับสมัครสมาชิก”

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดาครับ ใครยังไม่สมัครต้องรีบหน่อยนะครับ ของแถมล็อตนี้ใกล้หมดละครับ สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนอยากมีบ้านหลังแรก และต้องการมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

//www.topofliving.com/ (โดยนายแว่นธรรมดา เช่นเคยครับผม)

logo-topofliving2





 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2557
0 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 16:33:49 น.
Counter : 1600 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ตี๋2555
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




สวัสดีครับผม "นายแว่นธรรมดา" ผู้เขียนหนังสือขายดี "รวยหุ้นแบบ VI ไม่เสี่ยง" หนังสือ "หุ้น 5 พารวย" และเป็นผู้ก่อตั้ง http://www.naiwaen.com เว็บไซค์การลงทุนในหุ้น กองทุนรวม และ Money Market อีกมากมาย
และ http://www.topofliving.com เว็บไซค์เกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านหลังแรก การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยนิยามส่วนตัวก็คือ ทำให้ความมั่งคั่ง กลายเป็นเรื่อง "สนุก"
หากต้องการข้อมูลข่าวสารการลงทุนอย่างรวดเร็ว และเชื่อถือได้ แวะไปกด LIKE ที่นี่นะครับ https://www.facebook.com/NaiwaenTammada

ผมยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่าน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
Free counters!
New Comments
Friends' blogs
[Add ตี๋2555's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.